สมัยเด็ก ๆ ผมเห็นพี่ชายเล่นกีตาร์ รู้สึกว่าคนเล่นกีตาร์เนี่ยะ มันเท่จริง ๆ เลยขอให้พี่ชายสอน อยากเท่มั่ง
พี่ชายผมโยนกรรไกรตัดเล็บ กับ หนังสือ The Guitar มาให้ บอกให้หัดจากหนังสือ แล้วผมก็เล่นเป็นจากหนังสือจริง ๆ ไม่เคยมีครูสอนซักที
ผมเชื่อว่าก็คงเหมือนกับคนเล่นกีตาร์อีกเป็นหมื่นเป็นแสนคนในเมืองไทย
IS Song Hits กับ The Guitar เนี่ยะเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ เหมือนน้า ๆ หลาย ๆคน
ที่ขาดไม่ได้ เพราะถ้าไม่มีก็เล่นไม่ได้ ไม่รู้คอร์ด ไม่รู้เนื้อ พอเทปออกใหม่ อยากเล่นเพลงไหน ต้องรอซื้อหนังสือ
แล้วสิ่งที่ดีมาก ๆ ก็คือ หนังสือเค๊าจะมีรูปคอร์ดมาให้ โดยเฉพาะคอร์ดยาก ๆ
เพราะฉะนั้นก็เหมือนกับเป็นครูสอนไปในตัว ผมถือว่าหนังสือ 2 เล่มนี้เป็นครูจริง ๆ
แล้วก็มีหนังสือเพลงใกล้ชิดอีกเล่มนึง น่าจะเป็นหนังสือเพลงที่แถมมากับ "ยาสีฟันใกล้ชิด " ส่วนใหญ่จะเป็นเพลงลูกกรุง กับ ลูกทุ่ง เอาไว้ออนทัวร์ไปป่าเขาทะเล
หนังสือ Picking เนี่ยะ มาได้เรียนรู้ตอนหลัง น่าจะเรียนปีหนึ่งแล้ว เริ่มหัด Picking และหัดอ่าน Tab ครั้งแรก เป็นหนังสือที่ดีจริง ๆ
ทุกวันนีี้ยังเก็บเอาไว้เป็นอย่างดี
ส่วนกีตาร์ Ovation เนี่ยะ ผมว่าก็อีกนั่นแหละ อยากได้เหมือน ๆกันทั่วประเทศ
ผมเห็นกีตาร์ของพี่ภูสมิง กับ พี่กุ้ง กิตติคุณ ที่ปกหนังสือ The Guitar สมัยนั้นเรียกแต่ว่ากีตาร์หลังเต่าลายใบไม้ เป็นกีตาร์ในฝันจริง ๆ
จนกระทั่งได้จับของจริงครั้งแรกเมื่อพี่ชายผมซื้อ Ovation รุ่น Elite สีดำ มาจากอเมริกา (รุ่นเดียวกับพี่โต๊ะ วสันต์ โชติกุล)
มีอยู่ครั้งนึงผมได้มีโอกาสเข้าไปอัดเพลงพิเศษ " ฉันเองก็เสียใจ " กับ พี่โต๊ะ วสันต์ โชติกุล ในห้องอัดที่ Grammy
ไปกับเพื่อน ๆ ที่ชนะการประกวดโครงการ " ฉันเองก็พอเป็น " ด้วยกันอีก 4-5 คน
(เพิ่งมารู้ทีหลังเหมือนกันว่าคนที่ชนะเลิศครั้งนั้นคือ คุณสุเมธ (สุเมธ แอนด์เดอะปั๋ง)
ตอนนั้นพี่โต๊ะ พูดกับผมแบบทีเล่นทีจริงว่า "เฮ๊ยน้อง แลกกีตาร์กันไม๊ ของเรารุ่นเดียวกัน" ของพี่เค๊าสีน้ำตาล ของผมสีดำ
ตอนนั้นผมตอบทันทีแบบไม่คิดว่า " ไม่แลกดีกว่าครับพี่ ผมชอบสีดำ "
ให้มารู้สึกเสียดายทีหลังแฮะ ทำไมไม่แลกวะ.. โง่จริง ๆ เรา