NimitGuitar webboard

Full Version: ต้องยอมรับ....
You're currently viewing a stripped down version of our content. View the full version with proper formatting.
Pages: 1 2 3 4 5 6 7 8
...."ต้องยอมรับว่า..โลกนี้ไม่ยุติธรรม.....SadSad
...ไม่ต้องถามว่า ทำไมWink........ยอมรับไปเลยShy
...เพื่อที่จะไม่เสียเวลาตีโพยตีพาย...เอาเวลาไปใช้ต่อสู้ดีกว่า....Big Grin"

....ยอมรับมันเถอะครับ..ไม่ว่าจะดีหรือร้าย.....แต่เราอย่ายอมแพ้เด็ดขาด...Tongue

...อ่านเจอจากหนังสือเล็กๆเล่มนึงครับ........เอามาฝาก
..เป็นกำลังใจให้น้าๆทุกคนนะครับ...ขอให้มีความสุขและประสบความสำเร็จในการดำเนินชีวิตครับBig GrinBig Grin
ผมว่าโลกมันยุติธรรมนะ อย่างตอน tsunami มามันกวาดเกลี้ยงไม่ว่าคนรวยคนจน
คนต่างหากที่ไม่ยุติธรรม คนรวยน่ะจะฝ่าฝืนกฏข้อใหนที่คนเป็นผู้กำหนดก็เอาตัวรอดใด้
แต่ถ้าพยายามฝ่าฝืนกฏของแรงโน้มถ่วงผมไม่เคยเห็นรอดซักคน

ถ้าคุณไม่พอใจกับสิ่งที่คุณมีอยู่ตอนนี้ ต่อให้คุณมีมากเท่าไหร่ในอนาคตคุณก็ไม่มีวันพอใจ
หรอกครับ คุณเอาอะไรมาวัดความสำเร็จในการดำเนินชีวิต ผมรู้จักคนที่มีเงินเป็นแสนล้าน
แต่ไม่มีเวลาเป็นของตัวเองตั้งแต่เจ็ดโมงเช้ายันเที่ยงคืน ผมมีเพื่อนที่ไม่ค่อยมีสตางค์แต่ตี
กอล์ฟอาทิตย์ละสามสี่วัน ผมว่าผมอิจฉาคนหลังมากกว่านะ

สำหรับตัวผมแล้วถ้าผมสามารถทำให้โลกนี้มันน่าอยู่ขึ้นใด้สำหรับคนอื่นผมก็ถือว่าผมประสบความ
สำเร็จแล้ว
อย่างที่น้ากฤษณ์บอกไว้ครับ มนุษย์ชอบบอกว่าโลกเรามันอย่างนู้น อย่างนี้ โลกหมุนเร็วขึ้น โลกแคบขึ้น โลกร้อน ฯลฯ....

โลกมันอยู่ของมันเฉยๆ อุตส่าห์ให้มนุษย์อยู่กินกันมาตั้งแต่ยุคหิน แต่มนุษย์กลับค่อยๆทำลายล้างโลก แต่กลับบอกว่าเป็นการพัฒนา

มนุษย์บอกตัวเองว่าเป็นสัตว์ประเสริฐ แต่ถ้าเดินเข้าป่าสัตว์เดรัจฉานวิ่งหนีหน้าตาตื่น เป็นที่น่ารังเกียจสำหรับพวกมันด้วยซ้ำไป

สิ่งที่มนุษย์น่าจะทำคือ รักโลกให้มากขึ้น รักเพื่อนมนุษย์ เพื่อนร่วมโลกให้มากขึ้น แบ่งปันให้มากขึ้น เหมือนกับที่มนุษย์ตั้งชื่อไว้ว่า ยูโทเปีย (utopia) สังคมหรือดินแดนที่มีสภาพทางการเมืองและระบบสังคมที่สมบูรณ์แบบ แต่มันคงเป็นไปไม่ได้หรอก...

มนุษย์ก็เลยต้องปลูกฝังพวกเดียวกันให้มองโลกด้านบวก positive thinking โลกจะได้น่าอยู่ไงครับ Smile
...........เรื่องมีอยู่ว่า ' ชายหนุ่มคนหนึ่งเริ่มศึกษาในวิทยาลัยมีชื่อเสียงและใช้ไม้เท้าไปไหนมาไหนทั่วบริเวณสถาบัน เขาเป็นคนมองโลกในแง่ดี ชอบคบหาและเป็นมิตรกับทุกคน และในไม่ช้าเค้าก็เป็นที่นับถือและเป็นเพื่อนกับคนอื่น ๆ ในชั้นเรียนมากมาย

..........วันหนึ่งเพื่อนนักศึกษาคนหนึ่งถามว่า อะไรทำให้เขาต้องใช้ไม้เท้าเช่นนี้ "เป็นอัมพาตตอนเด็ก" เขาตอบ คำตอบห้วนสั้นของเขาสื่อให้รู้ว่า เขาไม่ต้องการลงลึกในรายละเอียดของสิ่งที่เกิดขึ้น

...........แต่เพื่อนร่วมชั้นเรียนต้องการรู้มากกว่านั้น ดังนั้นจึงถามต่อว่า "โชคร้ายแบบนี้แล้ว เธอสู้โลกอย่างร่าเริงแบบนี้ได้อย่างไร"

............"อ้อ" เขาตอบด้วยรอยยิ้ม "โรคนั่นไม่ได้ลามถึงหัวใจนี่"

จากหนังสือ : ด้วยรักและช็อคโกแลต

อิอิ....แค่อยากจะสนับสนุน ความคิดที่ว่าโลกจะยุติธรรมกับเราหรือไม่ ขึ้นอยู่กับว่าเรามองมันอย่างไรครับ....
เช่นการที่ โลกบันดาลให้ผมเกิดมาเป็นคนหน้าตาดีนี่ ก็แสดงว่า ผมทำไรไม่ได้จริง ๆ โลกบันดาลจริง ๆ ครับ จะทำให้หน้าตาไม่ดี....เคยลองแล้วหลายครั้ง ไม่เค๊ย ไม่เคยประสบความสำเร็จสักครั้งครับ
คุณต้องการอะไรกันแน่ที่ร้องหาความยุติธรรม!!
คุณรู้สึกไม่เท่าเทียม?
คุณรู้สึกถูกเอาเปรียบ?
คุณรู้สึกไม่สาสม?
คุณรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ?
หรือคุณรู้สึกแค้น?

"สิ่งต่างๆอุบัติขึ้นจากการเปรียบเทียบ

เมื่อคนในโลกรู้จักความสวยว่าสวย
ความน่าเกลียดก็อุบัติขึ้น
เมื่อคนในโลกรู้จักความดีว่าดี
ความชั่วก็อุบัติขึ้น

มีกับไม่มีเกิดขึ้นด้วยความรับรู้
ยากกับง่ายเกิดจากความรู้สึก
ยาวกับสั้นเกิดจากการเปรียบเทียบ
สูงกับต่ำเกิดจากการเทียบเคียง
เสียงดนตรีกับเสียงสามัญเกิดจากการรับฟัง
หน้ากับหลังเกิดจากการนึกคิด

ดังนั้นปราชญ์ย่อม
กระทำด้วยการไม่กระทำ
เทศนาด้วยการไม่เอ่ยวาจา
การงานทั้งหลายก็สำเร็จลุล่วงลง

ท่านให้ชีวิตแก่สรรพสิ่ง
แต่มิได้ถือตัวเป็นเจ้าของ
ประกอบกิจยิ่งใหญ่
แต่มิประกาศให้โลกรู้
เหตุที่ท่านไม่ปรารถนาในเกรียติคุณ
เกรียติคุณของท่านจึงดำรงอยู่ไม่สูญสลาย."

(วิถีแห่งเต๋า...พจนา จันทรสันติ แปลและเรียบเรียง)
ชอบที่หมอเอ็ดถาม.. และผมก็ชอบทุกๆคำตอบครับ..
....สาธุ....สาธุ....หาก น้าๆ เริ่มปลงกับชีวิตแล้ว....จะสละกีต้าร์แล้วเดินทางไปหาสัจธรรมของชีวิตแล้ว....อุทิศกีต้าร์โปร่งให้ผมซักตัวเถอะครับ....ผมยังไม่มีเลยซักกะตัว....ได้มาทีไรขายแลกน้ำทองแดงหมดครับ.....
สู้ต่อไปนะ
จากข้อความที่น้ากฤษณ์ และน้าปุ๊เขียนผมคิดว่าถ้าแต่ละคนพยายามทำอะไรที่คิดถึงธรรมชาติซึ่งเป็นรากเหง้าของชีวิต ถ้ากายดี จิตดี อะไรก็เป็นสิ่งวิเศษไปหมด แต่ทุกวันนี้ที่ไขว่ขว้าหากันคือ อำนาจ เงินตรา และสิ่งอำนวยความสะดวกในชีวิต พอได้มาครบแล้วก็บอกว่าตัวเองสำเร็จแล้วในชีวิต แต่ลืมไปว่า..............ที่ผ่านมาตนเองได้เบียดเบียนใครมาบ้าง.............

ถ้าเพียงโลกนี้คนมีความรักให้กัน ชีวิตแต่ละคนก็มีความสุข ผมว่าสุขใดก็ไม่เท่าสุขกาย และสุขใจ ....
มีเงินล้นฟ้า แต่ต้องรับโทรศัพท์ทั้งวัน คิดแต่งาน งาน งานทั้งวัน แล้วมันจะมีประโยชน์อันใดเล่าเพียงแค่มีเงินและตัวเลขอยู่ในธนาคาร สู้พวกเราก็ไม่ได้ มีทั้งเงิน มีทั้งกีต้าร์....สบายใจกว่าเป็นไหนๆ แต่อย่าบอกนะว่าเวลาเล่นกีต้าร์แล้วเครียดยิ่งขึ้นไปอีก....
นั่นสินะน้าหม่าว แต่ผมยังไม่มีกีต้าร์ในห้องทำงานซักตัว สู้น้าหม่าวไม่ใด้
Pages: 1 2 3 4 5 6 7 8