NimitGuitar webboard

Full Version: ......ดนตรี.....ในทัศนะของข้าพเจ้า.......
You're currently viewing a stripped down version of our content. View the full version with proper formatting.
Pages: 1 2 3
SARUN Wrote:
hattaya111 Wrote:555555 คริๆๆๆ

ดีมาตลอด
แต่ ...คริๆๆๆ อีกแล้ว
[Image: 912143237oo8.gif][Image: 912143237oo8.gif][Image: 912143237oo8.gif][Image: 912143237oo8.gif][Image: 912143237oo8.gif]


ป่ะ.. เอาด้วย..

หน่วยปราบปราม คริๆๆๆ
[Image: 912143237oo8.gif][Image: 912143237oo8.gif][Image: 912143237oo8.gif][Image: 912143237oo8.gif][Image: 912143237oo8.gif]
LittleNomad Wrote:นับเป็นกระทู้ให้มุมความคิดที่น่าสนใจยิ่ง...
ซึ่งเมื่ออ่า่นทบทวนหลายรอบแล้ว ดูเหมือนผมจะพบเห็นปมประเด็นว่า...
ศาสตร์ศิลป์แห่งการเล่นการแสดงดนตรีร่วมเวทีเดียวกันนั้น ยังซ่อนศาสตร์ศิลป์แห่งมิติสัมพันธภาพของมนุษย์ไว้ด้วย
อย่างน้อยที่สุด -ก็ระหว่างนักดนตรีกับนักดนตรีบนเวทีนั้น
อย่างมากที่สุด -ก็ระหว่างนักดนตรีกับผู้ฟังดนตรี

ครับ... ดนตรีในเชิงสรรค์สร้างงานศิลป์
แน่นอนว่าถ้าสามารถสะท้อนก้องถึงการประสานสำเนียงผนึกเสียงจิตวิญญาณ
เช่นนี้แล้ว...แม้จะบรรเลงอยู่กลางความเวิ้งว้างร้างไร้ผู้ฟัง ก็ย่อมนับเนื่องเป็นลำเนาเสนาะกล่อมเอกภพ.

วาทะกวีนักเขียนตัวจริง ....... ล้ำลึก น่าขนลุกทีเดียว

อากาศดี เเต่ปั่นต้นฉบับถึงไหนละครับ fuzz เสียงเป็นไงบ้าง ...เย็นๆไปซนไหนกันไหมครับพี่ อิอิ

Grid.. Wrote:
SARUN Wrote:
hattaya111 Wrote:555555 คริๆๆๆ

ดีมาตลอด
แต่ ...คริๆๆๆ อีกแล้ว
http://img225.imageshack.us/img225/5160/...237oo8.gif[/IMG][/URL]


ป่ะ.. เอาด้วย..

หน่วยปราบปราม คริๆๆๆ
[Image: 912143237oo8.gif][Image: 912143237oo8.gif][Image: 912143237oo8.gif][Image: 912143237oo8.gif][Image: 912143237oo8.gif]

โห.Sad.........มีกองกำลังปราบปรามเรยยยย .... ของจริง เจ้าสำนักเค้าหายไปไหนเนี่ยย ไปดักยิงสาวๆที่ไหนน้อ Big Grin


งั้น อิอิ Rolleyesเเทนก้อล่าย ยิงจนตัวพรุนหมดเเระ....
hattaya111 Wrote:วาทะกวีนักเขียนตัวจริง ....... ล้ำลึก น่าขนลุกทีเดียว

อากาศดี เเต่ปั่นต้นฉบับถึงไหนละครับ fuzz เสียงเป็นไงบ้าง ...เย็นๆไปซนไหนกันไหมครับพี่ อิอิ

...กำลังปั่นติ้วอยู่ครับน้าฯ
สำหรับ fuzz ยังไม่ได้ลองเลย...
ส่วนเรื่องซนตอนเย็น ๆ น่าสน... แต่ต้องขอดูว่างานจะเสร็จหรือเปล่า?!?
กระทู้นี้อ่านแล้ว....คม แจ่ม ลึก ....อย่างผมความรู้เรื่องดนตรีก็แค่เปลือกนอกของศิลปะที่ออกมาทางเสียงของเครื่องดนตรี อยากเข้าลึกในศาสตร์แห่งดนตรี ก็ค่อยๆซึมซับไปจากบทในความคิดเห็นต่างๆที่ดีๆ แม้จะช้าไปกว่ามากๆกว่าทุกๆท่าน แต่โลกแห่งดนตรีในที่นี้แห่งนี้ทำให้ผมรอบรู้ขึ้นเยอะเลย เคยอยู่ในที่แคบๆที่ถูกครอบไว้ มาเห็นบึงกว้างๆก็ต้องค่อยเรียนรู้ไปครับสำหรับผม Smile
มีคนมาทักไว้ว่า เล่นกับคนอื่น ก็เล่นได้รู้คิว มาไปไม่ขัดกันดี เล่นนำก็เล่นอีกเเบบ งงบ้างไหม?

คุณเป็น back up หรือ hero ?

[Image: hattaya%20design%200001.JPG]


555555....เหมือนเคยมาเขียนอะไรเเบบนี้ไว้ มีคนสนใจพอควร เเล้วเงียบหายไปนาน ต้องขออภัยด้วยนะครับ จะกลับมาเขียนต่อละนะ

คงเป็นเเบบเดิมที่จะนำเรื่องจากประสพการณ์ มาบอกเล่าในเชิงก่อความเข้าใจนะครับ

ผมไม่เก่งทฤษฏีอะไรนัก ตอนเรียนมีปัญหา ขัดเเย้งกับครูอาจารย์พวกนักทฤษฎีมาตลอด เป็นเด็กเกเรที่ไม่ควรเอาเยี่ยงอย่างเป็นอย่างยิ่ง


เข้าเรื่องต่อนะครับ

ไม่ทราบว่าเป็นความโชคดี หรือ โชคร้าย ในหนึ่งอาทิตย์ ผมต้องร่วมบรรเลง กับผู้อื่น ตั้งเเต่ 2 คน จนถึง 4-5คนเลยทีเดียว

ทุกวงมีเอกลักษณ์เฉพาะพอสมควร ทำยังไงจึงจะอยู่กับพวกเขา เเล้วทำให้เขามีความสุข ดนตรีสมบูรณ์ขึ้น บางวงมีทั้งเปียโน เเละ กีตาร์อยู่เเล้ว เราจะเล่นไลน์ไหน ความถี่เสียงช่วงไหน? โน๊ตอะไร? กรู๊ฟอะไร?

ทุกสิ่งคือ สิ่งที่ต้อง วางเเผนไป ปฎิบัติไป คือเราใช้หลัก คีตปฏิภาณ (Improvisation) การด้น การปฎิบัติฉับพลันในการสร้างเสียงดนตรี

การImprovisation ไม่ได้ใช่การโซโล่อะไรหวือหวา วิ่งไล่ไปมาเพียงอย่างเดียว

การเล่นเเม้เเต่โน๊ตหยุด 20 บาร์ ก็คือการคิด ที่จะสร้างองค์ประกอบในชิ้นงานเเสดงเเบบสดเช่นกัน คือคิดที่จะไม่เล่นตอนที่ไม่จำเป็น

การสร้างเสียงที่ผิดพลาดโดยไม่ตั้งใจ เล่นโดยไม่ทันคิด คิดไม่ทัน จนอาจก่อการรบกวน สร้างเสียงไม่พึงควรขึ้น

.....เเม้เเต่ครั้งเดียว

บางทีอาจทำลายคุณค่าของ สิ่งที่ตั้งใจทำมาทั้งหมดในเพลงนั้น...

นี่ คือสิ่งที่ผมพยายามคิด..... ให้เป็นเหมือนเกมส์ที่เราเล่น เเล้วเราก็ฝึกควบคุมมันตามกติกา โดยการต้องซื่อสัตย์ไม่หลอกตัวเอง ทำใจเป็นคนฟังที่เป็นกลาง...ขณะที่ต้องเป็นผู้ผลิตเสียง หรือ เป็นผู้เล่นเองด้วย


ตัวอย่าง....ที่อยากเสนอให้ลองฟังกัน เกี่ยวกับการเล่นร่วมกับผู้อื่น การจัดวาง สั้น ยาว หนัก เบา

คลิ๊กเข้าไปโหลดได้เลยครับ

candle light blues ...... เเสงเทียน
http://www.nimitguitar.com/mybb/showthread.php?tid=3504

บทเพลงพระราชนิพนธ์...ไกลกังวล (When ) by hattaya and friend
http://www.nimitguitar.com/mybb/showthread.php?tid=3658

ซนกับเพื่อนเก่า Ant Emotion town & me ..... ที่ยกมานี้จะเห็นได้ชัด ถึงน้ำหนักการเล่น ที่มีการเปลี่ยนเเปลงตลอด

http://www.nimitguitar.com/mybb/showthread.php?tid=3714

อ่ะ...เพิ่มงานอัลบั้มของผมไปหนึ่งเพลง

http://www.nimitguitar.com/mybb/showthread.php?tid=3537



การเล่นสนับสนุน สิ่งที่ต้องระวังเสมอก็คือ ต้องเเทรกอยู่ในองค์ประกอบ อย่างเเนบเนียน การรักษาค่าของตัวโน๊ต ไม่ให้โดดเกินสมดุลย์กับเมโลดีหลัก เป็นสิ่งจำเป็นมาก


ป.ล...ขอบคุณสปอนเซอร์ของงานเหล่านี้ด้วยนะครับ

ที่ได้ยินเสียงมาทั้งหมดนั้น ในการบันทึกเสียงจากที่ต่างๆมาฝาก เกิดจากเครื่องบันทึกเสียงเคลื่อนที่ ของน้า pood พี่ชายที่เเสนดีของพวกเรา

กราบขอบพระคุณอีกครั้งครับพี่Big Grin เเละ กีตาร์ครึ่งวิญญาณที่เเสนวิเศษนี้ด้วยครับTongue

เเละ ในคลิ๊บเสียงที่ได้ยินเสียงเหมือน เชลโล่ ไวโอลิน ที่ค่อยๆเล่นเสียงโน๊ต จากเบาให้ดังขึ้น

จริงๆเเล้ว เป็นเสียงเครื่องเเปลงเสียงกีตาร์ชนิดหนึ่ง ชื่อ lazy spoken ทำหน้าที่คล้ายการค่อยๆสไลด์วอลลุ่มขึ้นลง

ขอบคุณ เครื่องเเปลงเสียงกีตาร์ที่วิเศษมากๆ จากน้าอ้วน little nomad

ขอบพระคุณพี่ชายมากๆครับ ทั้งข้อคิด ข้อเขียน การเเนะนำ เเลกเปลี่ยน บอกเล่าประสพการณ์

ระลึกถึงเสมอครับพี่ชายRolleyes

ตอนนี้เป็นนักวิจัย เอฟเฟคไปเเล้ว งานอดิเรกที่ทำ ออกมาดีกว่าคนที่ทำเป็นอาชีพเสียอีกBig Grin


ผม hattaya111 ในร่างของ parradee ขอขอบคุณทุกท่านด้วยนะครับ ที่ติดตามสนใจหาความรู้ อะไรผิดพลาดไปต้องขออภัยด้วยนะครับ

ตอนนี้ก็คงเป็นการกลับมา ยกตัวอย่างของ การร่วมบรรเลงกับผู้อื่นนะครับ
ผมก็ว่า สำนวนมันคุ้นๆ อ่านมาถึงตอนท้าย น้าหนึ่งนี่เอง โห ...........
และ ผมจะพยายาม เล่นเพลงของพระองค์ท่าน ทุกเพลงครับ ขอบคุณครับ สำหรับแรงบันดาลใจ
อ่านแล้วก็กลับมาคิดถึง "ศิลปะเพื่อศิลปะ VS. พาณิชย์ศิลป์"
ในมุมมองของน้าปูห์กับน้าหนึ่ง
โดยส่วนตัวผม ผมรู้สึกว่า ความเข้าใจในดนตรีของคนส่วนใหญ่ในประเทศไทย
ยังเป็นไปอย่างเบาบาง สังเกตได้จาก ดนตรีเชิงพาณิชย์ที่มักจะมีผู้นำเสนอหน้าตาดี หุ่นดี
มีข่าวออกมาสร้างกระแสเป็นระยะระยะ
และจากการที่ผมได้เดินสายเปิดกล่องเล่นกีต้าร์แบบบรรเลงไปหลายๆจังหวัดในประเทศไทย

สิ่งหนึ่งที่แว่บเข้ามาในหัวผม (จากปากคำของเพื่อนคนนึงที่จำมาจากอาจารย์เค้าอีกที)
ดนตรีก็เหมือนก๋วยเตี๋ยว ชอบรสยังงัยก็ปรุงเอาเอง
เหมือนกับว่า คนไทยส่วนใหญ่ อาจไม่มีโอกาสได้ฟังดนตรีที่มีรสกลมกล่อม
จึงเลือกทานแต่รสจัดจ้าน หรือจืดชืด ไปตามกระแสสังคม ที่ว่าตอนนี้วงไหนดัง
รสไหนกำลังมาแรง จากการบิดเบือนรสนิยมทางดนตรีของนายทุน
กลายเป็นสิ่งที่ฆ่านักดนตรี(จริงๆ) ในบ้านเรา

เชื่อไหมครับ ทุกวันนี้ ผมเล่นเพลงพระราชนิพนธ์ คนไทยส่วนใหญ่ยังไม่รู้จักกันเลย!!!!!!!!!!!

ผมเชื่อว่า สิ่งที่ผมทำอยู่นี้ สามารถเปลี่ยนแปลงรสนิยมทางดนตรี ของคนในประเทศไทยได้บ้าง
ถึงจะไม่ชอบรสกลมกล่อมเหมือนกัน
แต่อย่างน้อย ขอให้เลือกรสชาติที่ถูกปากเองได้ ไม่อ้าปากรอก๋วยเตี๋ยวจากนายทุนเพียงฝ่ายเดียว
ผมเชื่อว่า
ดนตรี เป็น อาหารอย่างหนึ่ง ของ วิญญาณ นะครับ(แบบเท่ห์นะครับ ไม่เกี่ยวกะเรื่องผี)
ดังนั้น การขัดเกลาดนตรีของเรา ก็ เป็นการหล่อหลอม วิญญาณ ของเราเช่นกัน
Pages: 1 2 3