NimitGuitar webboard

Full Version: ......ดนตรี.....ในทัศนะของข้าพเจ้า.......
You're currently viewing a stripped down version of our content. View the full version with proper formatting.
Pages: 1 2 3
เคยคุย(บ่น)กะน้า1เรื่องนี้แล้วเหมือนกันคับ เห็นด้วย100% ลองดูตัวอย่างเช่นนายอิริค แคปหมู เอ้ย แคลปตัน ที่ชอบแจมกะเค้าไปทั่ว จะสังเกตุได้ว่าเค้าจะไม่เด่นในเพลงที่เป็นของเจ้าของคนนั้นๆ ยกเว้นแต่จะได้รับการโยนให้โซโล่เท่านั้นคับ

เช่นเพลงนี้ขนาดนายคาลอสโยนให้เปิดก่อน แต่ก็ยังเกรงใจให้นายคารอสนำ แล้วค่อยตามคับ
http://www.youtube.com/watch?v=pAf3gqdCrDs
เห็นด้วยเลยครับน้าหนึ่งBig Grin
แรกๆ ผมมองว่าคนเราก็ต่างมีความคิดที่หลากหลายครับ...เพราะ

ดนตรีคืองานศิลปะ เหมือนกับภาพยนตร์ ที่ต้องโยงเพราะถนัดกว่า Big Grin

มีทั้งหนังดี คนไม่ดู หนังโลกลืม

หนังโป๊อาร์ทจ๋า ไม่ประนีประนอม

หนังการเมือง คมลึก ดูยาก ทฤษฎหนักอึ้ง มึนกระบาล

หนังจิตวิเคราะห์ เปิดโปงความคิดที่ตกต่ำสุดขีดของผู้ชม!?

หนังบทเด่น แสดงดี หนังโดดเด้ง...

หนังบทด้อย แสดงห่วย หนังง่อย...ฯลฯ......

--------------------------

มีคู่ต่อสู้อยู่คู่เดียวครับ ก่อนที่หนังเกิดขึ้นมาบนโลกในฐานะที่เป็นศิลปะแขนงที่ 7 ที่รวมเอาศิลปะทุกแขนงไว้ด้วยกันเสียอีก แล้วงานศิลปะทุกประเภทรวมถึงดนตรีก็มักจะถกเถียงกันมิรู้จบ เพราะจุดมุ่งหมายมันคนละอย่าง

"ศิลปะเพื่อศิลปะ VS. พาณิชย์ศิลป์"

การสื่อสารที่น้าหนึ่งพูดถึง ก็จัดอยู่ใน ศิลปะเพื่อศิลปะ (art for art's sake) ประโยชน์ของมันคือดำรงไว้เพื่อความสุนทรียะและแนวความคิดอันเข้มข้นที่จะสานต่อความเป็นศิลปะอย่างแน่วแน่แท้จริง (ในสาขาดนตรี)

ส่วนอีกด้านหนึ่ง จุดมุ่งหมายสูงสุดคือผลกำไรเพื่อดำรงไว้ซึ่งนายทุนครับ
และการเล่นเพื่อเป็น Hero ก็คือความต้องการที่จะโฆษณาตนเองและสร้างภาพพจน์ให้ผู้คนจดจำและดูโดดเด่น หรือแม้แต่เข่นฆ่ากันให้แดดิ้นก็ยอม

ขนาดละครทีวี...ก็มักจะมี นักแสดงสมทบชอบขโมยซีน พระเอก-นางเอก บ่อยๆจนต้อง take ใหม่...แล้วจะเหลืออะไรกับดนตรี ที่ขโมยซีนง่ายดายกว่ามากละครับ

นอกจากกาละเทศะแล้วต้องเพิ่มสามัญสำนึกเข้าไปอีกนิดด้วยนะครับ

ส่วนผมชอบเป็นพวกสมทบมากกว่าครับ เพราะยังอ่อนหัดอยู่มากมาย แล้วรู้สึกว่าการสมทบให้ได้ดีนั้น ยากยิ่งกว่าทำให้เด่นอีก...
ด้วยความเคารพ

จริงๆ ผมกล่าวถึง**หลักความสมดุลย์อย่างเรียบง่ายที่สุด ขององค์ประกอบ **

ไม่ได้อ้างอิง ศิลปะเพื่อศิลปะ (art for art's sake)ในที่นี้นัก เเต่เดี๋ยวจะพูดในต่อๆไปนะครับ
Smile

ผมว่าถึงเเค่ เรื่องสามัญที่สุดในการดำเนินกระบวนร่วมกับผู้อื่น

**และการเล่นเพื่อเป็น Hero ก็คือความต้องการที่จะโฆษณาตนเองและสร้างภาพพจน์ให้ผู้คนจดจำและดูโดดเด่น **

ที่น้า.::.pOoH.::.กล่าวถึง

จริงๆมันจะรังเเต่ทำลายตัวเอง ไม่ได้ทำให้น่าจำหรอกครับ เพราะ เค้าไม่ได้คำนึงถึง ความเข้าใจต่อผู้ฟังที่จะได้รับ

น่าจะโดนรังเกียจมากกว่า



ถ้ากล่าวถึง"ศิลปะเพื่อศิลปะ VS. พาณิชย์ศิลป์" มันยิ่งน่าจะยังไม่เกี่ยวครับ

เพราะยิ่ง...พาณิชย์ศิลป์... การเล่นประกอบอย่างกลมกล่อม เเนบเนียน มาเมื่อควรมา ไปเมื่อควรไป จะยิ่งจำเป็นมากกว่าด้วย ผมว่านะ

สำหรับการขโมยซีนอย่างจำเป็นเเบบผมBig Grin ผมก็ต้องทำอย่างเป็นธรรมชาติ ผมก็จะมา เเละ ไปอย่างเเนบเนียนเช่นกัน

เพราะนั่นคือ พาณิชย์ศิลป์...ของการเเสดงของผม ทำให้มีคนชื่นชมจดจำ เเละ ต่อยอดทางด้านอื่นๆ



สำหรับที่**มองว่าคนเราก็ต่างมีความคิดที่หลากหลาย**

ผมว่าความคิดที่ ไม่คิดในการเเสดงนี่เเหละทำลาย

ไม่คิดที่จะเล่นบทให้งานโดยรวมออกมาสมดุลย์

คงเป็นศิลปะในการชักใบให้เรือเสีย ไม่น่าจะเป็นศิลปะที่ดีเลย ซึ่งไม่ได้บอกว่า เป็นศิลปะเเบบไหน

คนเเบบนี้ ก็น่าจะ บรรเลงดนตรีด้วยได้ยาก ผมหมายถึง เเม้การร่วมใช้ชีวิตด้วยเลยนะครับ

บางคนยังไม่รู้เรื่องที่ง่ายที่สุด ในการเล่นให้ตรงจังหวะด้วยซ้ำ จะบรรเลงด้วยกันได้อย่างไร

บางคนร้องโน๊ตได้ตรงหมด มีเนื้อเสียงที่จริง ตรงๆไม่หลบ ดัง คมชัด นั่นบอกเลยว่า เป็นคนยังไง

เป็นผู้นำ หรือ ลูกน้อง เป็นคนเข้าใจกฏ รู้เกมส์ เข้าใจธรรมชาติ หรือ อย่างไร



กาละเทศะ จะบอกพื้นเพ รสนิยม เเละ ศิลปะในใจได้เป็นอย่างดี

ไม่รู้ผมคิดผิดหรือเปล่าว Tongue ผมมักเเอบมอง สังเกตุไปว่า

คนชอบทำอาหาร เมื่อฝึกฝนเพียงเล็กน้อย โดยเข้าใจหลักสมดุลย์ธรรมชาติ ก็จะทำได้ดี

คนชอบวาดรูป ก็เช่นกัน คนที่เข้าใจธรรมชาติ ของความสมดุลย์ ก็จะทำได้ดี โดยไม่ต้องพยายามมากนัก

จะถ่ายรูป ปั้นดิน อย่าว่าเเต่เล่นดนตรีเลยครับ ใช้หลักเข้าใจเดียวกัน เเล้ว เเปรรูปในสิ่งเเสดงออก

กุ๊ก มีอาวุธ เป็นอาหาร นักดนตรีใช้เสียง นักถ่ายรูปก้อมีงานภาพเค้าเป็นเครื่องเเสดงศิลปะ


ผมมีกเเอบเห็นถึงคนที่เข้าใจ สมดุลย์ธรรมชาติกลาง จะทำอะไรก็ตาม ส่วนใหญ่มักมีทิศทางที่ออกมาดี

เเต่....ไม่รู้ผมคิดผิดหรือเปล่าว หรือ ผมใจเเคบที่ไปมองว่า

ความเข้าใจศิลปะของเเต่ละบุคคล บ่งบอกตัวตนของคนผู้นั้นSad

เเละ ความเข้าใจในสุนทรีย์ศาสน์ การมีสมาธิ เข้าใจธรรมชาติ นี่เเหละ คือหัวใจสำคัญของการดำเนินการในทุกสิ่ง

เเสดงออกมาทุกการกระทำ การเเสดงใดๆ จริต ผลงาน จะบอกศิลปะในตัวตนของคนเหล่านั้น

ผมทิ้งประเด็นใหม่เอาไว้ง่ายๆว่า

ศิลปะในการเเสดงตัวตน ในเกือบทุกด้าน จะบ่งบอกภาวะจิตของคนผู้นั้น


ว่าจะอธิบายสั้นๆ กลัวจะไม่เข้าใจหน่ะครับ ยาวอีกเเล้ว 555Big Grin

เดี๋ยวคง จะคัดลอกบางส่วนในเเก่นมัน ไปลงในหัวข้ออื่นอีกที

เดี๋ยว..ดนตรี.....ในทัศนะของข้าพเจ้า.......จะกลายเป็นกระทู้อะไรไม่รู้เอา คริๆๆๆ คริๆๆๆ



ขอบคุณที่มาอ่านกัน เเละ ขอบคุณที่เเสดงความคิดเห็น ทุกท่านนะครับBig Grin
hattaya111 Wrote:**หลักความสมดุลย์อย่างเรียบง่ายที่สุด ขององค์ประกอบ ** ......
....................................
เดี๋ยว..ดนตรี.....ในทัศนะของข้าพเจ้า.......จะกลายเป็นกระทู้อะไรไม่รู้เอา คริๆๆๆ คริๆๆๆ

เห็นด้วย มาตลอดที่อ่าน
แต่........
คริๆๆๆ คริๆๆๆ อีกแล้ว!!!
[Image: 912143237oo8.gif][Image: 912143237oo8.gif][Image: 912143237oo8.gif][Image: 912143237oo8.gif][Image: 912143237oo8.gif]
ในทรรศนะและมุมมองของนักดนตรี ทุกทรรศนะผมให้ความเคารพในความคิด
แต่สิ่งที่ผมชอบมากคือ นักดนตรีท่านนั้นถ้ามีความคิดสร้างสรรค์ ที่มีแนวไม่ซ้ำใคร หรือมีความเป็นตัวตนยิ่งดีเยี่ยม การเล่นอย่างรู้จังหวะรู้เวลาไหนต้องเด่น เวลาไหนต้องหลบ เป็นสิ่งที่สร้างเสน่ห์และสีสรรให้กับบทเพลง
การเล่นได้อย่างเนียน ด้วยท้วงทำนองที่ไพเราะและลีลาของบทเพลงคงไม่สามารถฝึกได้ในระยะเวลาอันสั้น หากแต่ต้องมีการเพราะบ่ม (หรืออาจต้องใช้พรจากสวรรค์) ด้วยระยะเวลา และการฝึกฝนอย่างหนัด เพื่อให้มีความเฉียบคม ชัดเจน ถูกต้อง ของนักดนตรีท่านนั้นด้วย
มันคงยากครับน้าหนึ่งที่จะให้นักดนตรีทุกคนเข้าใจ ด้วยเบ้าหลอมของแต่ละคนมันต่างกันอย่างที่น้าว่า แต่การที่น้าหนึ่งเขียนไว้ในนี้ ก็ถือเป็นการเผยแพร่ความคิดที่ดี เมื่อมีคนอ่านและบอกต่อ ตลอดจนใน Hi5 ของน้าหนึ่งเองด้วย

เออแฮะ...ผมอาจจะออกนอกประเด็นไปเยอะ

แต่ผมว่าก็ไม่ถึงกับไหลออกไปมากนัก เพราะความสมดุลย์แบบง่ายๆ มันคงทำไม่ได้ถ้าไม่เรียนรู้หลักการให้ลึกซึ้งซะก่อน

มีหลายครั้งที่ผมได้แจมได้คนอื่นๆที่ไม่ได้เป็นสมาชิกบ้านฟ้า ก็รู้สึกเช่นเดียวกัน ไม่ได้โกรธว่าโดนขโมยซีน แต่หมดอารมณ์เล่นต่อ เพราะดนตรีมันขาดความงามไปซะแล้ว และแต่ละคนก็รังแต่จะเล่นกลบกันให้ดังและดึงใบเรือให้เสีย เอามันส์เข้าว่า

ก็เลยไม่ต้องแจมกันอีกไงครับ

----------------------------------
ในเมื่อเราพูดถึง sender แล้ว....

จริงๆเราน่าจะกล่าวถึงสถานการณ์ด้วยนะครับ (Channel) เพราะการเล่นในสถานการณ์ต่างๆก็แตกต่างกันไป เช่น การแจมในวงเหล้า การแจมในร้านเหล้า (ร้านเหล้าแบบไหนก็แยกย่อยไปได้อีก) การแจมบนเวทีแสดงสด การแจมในห้องอัด ฯลฯ

S - Sender (ศิลปิน, นักดนตรี)
M - Message (ตอนนี้เราคงกำลังพูดถึงการส่งข้อมูล ส่งสารให้ผู้ฟัง)
C - Channel (ช่องทาง)
R - Receiver (ตัวผู้ฟังเอง)

นอกจากนั้นยังมี Noise (ตัวรบกวนทั้งทางกายภาพและภายในจิตใจ) เช่น เสียงดัง ไม่ได้ยินชัด ไม่ค่อยได้แคะหู อกหัก หูอื้อ

แล้วก็ feedback (ปฏิกริยาตอบกลับของผู้ฟัง) บางที่ผมเคยพยายามจะเล่นให้มันสมดุลย์ แต่คนฟังเค้าบอกไม่ entertain ก็เลยต้องเล่นกันดังสนั่น กรอกหู เพื่อความเมามันส์ของผู้ฟัง ก็เลยไม่รู้ว่าสมดุลย์แล้วเกิดประโยชน์ไหม sender เซ็ง เพราะ receiver ไม่สนใจ message แถมผิด channel และ noise บานตะไท

------------------------

ด้วยความเคารพรัก Smile
จริงมากๆครับSmile

มีผลมากในเรื่องนี้ feedback (ปฏิกริยาตอบกลับของผู้ฟัง) ....การเล่นในสถานการณ์ต่างๆ...Noise (ตัวรบกวนทั้งทางกายภาพและภายในจิตใจ)

เป็นเรื่องน่าสนใจมาก น่ามาร่วมกันเขียน องค์ประกอบของการส่งสาร

เดี๋ยวไปทำกับข้าวให้เเม่ก่อนครับ คนเเก่ขี้งอน 5555 สาวยังเอาใจง่ายกว่าเลย คริๆๆๆBig Grin



ดีใจมากๆ ที่เห็นทุกความคิดเห็นShy เดี๋ยวมีรวมเล่ม จะเเบ่งค่าตัว ...อิอิ

เเล้วจะมาสรุปเเบบในบ้าน af ....เอ้ยยย..นั่นมันโรคร้อนนี่หว่า


555555 คริๆๆๆ

ชาวเชียงใหม่ เร็วๆนี้หนูหนึ่งจะไปเยือนเเน่นอนคร้าบบ.... ใครอยากมุดขุนตาน ยกมือขึ้นนนนBig Grin
นับเป็นกระทู้ให้มุมความคิดที่น่าสนใจยิ่ง...
ซึ่งเมื่ออ่า่นทบทวนหลายรอบแล้ว ดูเหมือนผมจะพบเห็นปมประเด็นว่า...
ศาสตร์ศิลป์แห่งการเล่นการแสดงดนตรีร่วมเวทีเดียวกันนั้น ยังซ่อนศาสตร์ศิลป์แห่งมิติสัมพันธภาพของมนุษย์ไว้ด้วย
อย่างน้อยที่สุด -ก็ระหว่างนักดนตรีกับนักดนตรีบนเวทีนั้น
อย่างมากที่สุด -ก็ระหว่างนักดนตรีกับผู้ฟังดนตรี

ครับ... ดนตรีในเชิงสรรค์สร้างงานศิลป์
แน่นอนว่าถ้าสามารถสะท้อนก้องถึงการประสานสำเนียงผนึกเสียงจิตวิญญาณ
เช่นนี้แล้ว...แม้จะบรรเลงอยู่กลางความเวิ้งว้างร้างไร้ผู้ฟัง ก็ย่อมนับเนื่องเป็นลำเนาเสนาะกล่อมเอกภพ.
LittleNomad Wrote:ดนตรีในเชิงสรรค์สร้างงานศิลป์
แน่นอนว่าถ้าสามารถสะท้อนก้องถึงการประสานสำเนียงผนึกเสียงจิตวิญญาณ
เช่นนี้แล้ว...แม้จะบรรเลงอยู่กลางความเวิ้งว้างร้างไร้ผู้ฟัง ก็ย่อมนับเนื่องเป็นลำเนาเสนาะกล่อมเอกภพ.
[Image: 1216711964-1.gif]
hattaya111 Wrote:555555 คริๆๆๆ

ดีมาตลอด
แต่ ...คริๆๆๆ อีกแล้ว
[Image: 912143237oo8.gif][Image: 912143237oo8.gif][Image: 912143237oo8.gif][Image: 912143237oo8.gif][Image: 912143237oo8.gif]
Pages: 1 2 3