NimitGuitar webboard

Full Version: หนังสือที่จุดประกายความฝันให้เป็นจริง
You're currently viewing a stripped down version of our content. View the full version with proper formatting.
Pages: 1 2 3 4 5 6 7 8
ขอแสดงความคิดเห็นบ้างนะครับ Smile

งานกับความสุข เป็นสิ่งที่ค้นหากันเป็นเวลายาวนาน บางคนทำงานทั้งชีวิตยังไม่พบความสุข รายได้มหาศาลแต่ก็ยังรู้สึกไม่เพียงพอ เพราะไม่พอเพียง..เท่านั้นเอง

ใครเจอตัวเองได้ก่อน นับว่าโชคดีมากๆ...

แต่เนื่องจากปัจจุบัน การแข่งขันในเมืองหลวงสูงมากๆครับ นับได้ตั้งแต่เด็กๆที่จะเข้าอนุบาล หรือ ป.1 ที่ส่วนใหญ่ถูกปลูกฝังจากครอบครัว มันเหมือนเป็นปฏิกิริยาลูกโซ่ ที่ว่าต้องขยัน ต้องเรียนให้เก่ง จะได้มีงานดีๆเงินดีๆทำ จนหลายคน...ทำได้ครับ...แต่ไม่พบความสุขที่แท้ แต่มันสำคัญเพราะ เป็นการสร้างรากฐานที่มั่นคง สร้างโอกาสให้ตนเองเอาไว้ก่อน

มีเพียงส่วนน้อยที่จะพบความสุขที่แท้หรือตัวตนจริงๆจะประสบความสำเร็จ

เพื่อนผมหลายคนเรียนด้วยกันมา....

บางคน...ยอมทิ้งอนาคตเพราะพบตัวตน
บางคน...ยอมทิ้งตัวตนเพราะความจำเป็น
บางคน...ยึดมั่นในตัวตนจนตัวตาย

มีประโยคหนึ่งที่ผมชอบมากๆ จาก หนังสือที่แนะนำความสำเร็จต่างๆ

"Do what you love..and the money will follow"

เหมือนกับ "พลังรัก" ครับ Smile

แต่สำหรับผม ยังไม่พบเลย แต่ก็ไม่ได้ทุกข์...ซะหน่อย
โอ...น้าปูห์ พูด(เขียน)ได้ตรงจุดดีแท้

สังคมไทย...ที่วุ่นวายอยู่ทุกวันนี้ เนื่องจากวัยเด็ก ถูกหล่อหลอมมาเช่นนั้นจริง ๆ

และผู้ใหญ่ในบ้านเมือง..ยังหาสาเหตุปัญหาสังคมไทยไม่เจอ..เที่ยวไปแก้โน่น แก้นี่...มันก็เพียงเป็นปมแขน ปมขา ของ "ตัวปัญหา" เท่านั้น...ต้องปอกเปลือกออกมาให้ล่อนจ้อน..แล้วหาเสื้อผ้า "เสียสละเพื่อส่วนรวม" สวมใส่เข้าไปใหม่

ปฏิรูปการศึกษาวันนี้...กลายเป็น ปฏิรูปรายได้ครู ปฏิรูปความรู้ครู....มีการประชุม สัมมนา ดูงานข้ามเขต ข้ามโรงเรียน ข้ามจังหวัด กันเป็นว่าเล่น...นัยว่า..จะนำมาใช้ในโรงเรียนตัวเอง..เพื่อพัฒนาเด็ก???...แต่ช่วงครูไม่อยู่ไปประชุม ดูงาน...เด็กนักเรียนต้องอยู่เฝ้าบ้าน (พ่อ/แม่ก็ไม่อยู่..ไปทำงานหาเงิน)...ปิดโรงเรียนซะงั้น...แล้วเด็กอยู่บ้านตามลำพัง..ปัญหาต่าง ๆ ก็ตามมา ฯลฯ เยอะแยะตามหน้าหนังสือพิมพ์

อ่านข่าวมากไปอีกแล้วเรา...กับพอดีคนที่บ้านเป็นครูครับ
ผมเคยคุยกับฮูหยินผมหลายครั้ง..
ผมถามเธอว่า ทุกวันนี้เรามีความสุขดีหรือเปล่า..
เราพอใจในสิ่งที่เรามีมั๊ย..
เรายังต้องการอะไรอีกบ้าง..

และเงินคือสิ่งที่เราต้องการมากที่สุดหรือไม่

ฮูหยินผมตอบว่า ไม่..
และผมก็ตอบว่า ไม่..

สิ่งที่เราต้องการเหมือนกันคือ.. เวลา..
เวลาที่จะได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันทั้งครอบครัว ให้มากที่สุด
เราสองคนพอใจในสิ่งที่เรามี.. ถึงแม้จะยังคงมีกิเลสบ้างในบางเวลา

เราสามารถที่จะมีความเป็นอยู่ที่ดีกว่านี้..
มีเงินทองมากกว่านี้..
มีสิ่งอำนวยความสะดวกสบายต่าง ๆนานาอย่างเต็มที่..

แต่ต้องแลกกับเวลาที่จะหายไปจากการทำงานหาเงิน..

เธอบอกผมว่าไม่คุ้มค่า.. เราอยู่ของเราอย่างนี้ดีกว่า
เก็บเกี่ยวความรู้สึกดี ๆ ความทรงจำดี ๆให้ได้มากที่สุด
แต่ไม่ใช่ว่าอยู่ด้วยความประมาท ไม่คิดถึงอนาคตข้างหน้า..

เราต้องยอมรับในสิ่งที่เราเป็น และเข้าใจในสิ่งที่เราทำ
คนเราจะไม่โชคดีทั้งสองอย่างเสมอ..

คนที่ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน
น้อยคนที่จะมีชีวิตครอบครัวที่มีความสุข..
ผมหมายถึงในจิตใจ..

คนที่มีชีวิตครอบครัวที่อบอุ่น..
ต่างก็ต้องยอมแลกกับความสุขส่วนตัวที่หายไป
มิว่าจะเป็นความสุขจากการทำงาน
หรือความสุขจากการสังสรรค์กับเพื่อนฝูง..

ทุกวันนี้เรามีความสุขตามสมควร..
เราพอใจในสิ่งที่เรามีอยู่..
และสิ่งที่เราต้องการก็ยังมีอีกบ้าง เหมือนกับคนอื่น ๆ
แต่ให้มันค่อยเป็นค่อยไป..

เงินทองเราสามารถหาเพิ่มเติมได้เสมอ
แต่เวลาที่หายไป เราไม่สามารถเรียกคืนได้..

ถ้ามีพรวิเศษจริง..
ผมจะขอพรให้เราสามคนสุขภาพแข็งแรง จิตใจแจ่มใส
สามารถที่จะอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันทั้งครอบครัวได้เสมอ
ทุกเวลาที่มีโอกาส.. ให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้..

สำหรับผมแล้ว..
อะไรจะมีความหมายไปกว่าครอบครัว..
ภรรยา และลูกสาวแสนซนอีกนะ..

............................
ซึ้งครับ .......... ไม่กล้าป่วนเลย . . . .

ขอให้ความอบอุ่นจงเจริญ ครับ
pOoH Wrote:"Do what you love..and the money will follow"

ผมก็คิดเช่นนั้นครับ
โฟล์คน้อย Wrote:ผมเคยคุยกับฮูหยินผมหลายครั้ง..
ผมถามเธอว่า ทุกวันนี้เรามีความสุขดีหรือเปล่า..
เราพอใจในสิ่งที่เรามีมั๊ย..
เรายังต้องการอะไรอีกบ้าง..

และเงินคือสิ่งที่เราต้องการมากที่สุดหรือไม่

ฮูหยินผมตอบว่า ไม่..
และผมก็ตอบว่า ไม่..

สิ่งที่เราต้องการเหมือนกันคือ.. เวลา..
เวลาที่จะได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันทั้งครอบครัว ให้มากที่สุด
เราสองคนพอใจในสิ่งที่เรามี.. ถึงแม้จะยังคงมีกิเลสบ้างในบางเวลา

เราสามารถที่จะมีความเป็นอยู่ที่ดีกว่านี้..
มีเงินทองมากกว่านี้..
มีสิ่งอำนวยความสะดวกสบายต่าง ๆนานาอย่างเต็มที่..

แต่ต้องแลกกับเวลาที่จะหายไปจากการทำงานหาเงิน..

เธอบอกผมว่าไม่คุ้มค่า.. เราอยู่ของเราอย่างนี้ดีกว่า
เก็บเกี่ยวความรู้สึกดี ๆ ความทรงจำดี ๆให้ได้มากที่สุด
แต่ไม่ใช่ว่าอยู่ด้วยความประมาท ไม่คิดถึงอนาคตข้างหน้า..

เราต้องยอมรับในสิ่งที่เราเป็น และเข้าใจในสิ่งที่เราทำ
คนเราจะไม่โชคดีทั้งสองอย่างเสมอ..

คนที่ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน
น้อยคนที่จะมีชีวิตครอบครัวที่มีความสุข..
ผมหมายถึงในจิตใจ..

คนที่มีชีวิตครอบครัวที่อบอุ่น..
ต่างก็ต้องยอมแลกกับความสุขส่วนตัวที่หายไป
มิว่าจะเป็นความสุขจากการทำงาน
หรือความสุขจากการสังสรรค์กับเพื่อนฝูง..

ทุกวันนี้เรามีความสุขตามสมควร..
เราพอใจในสิ่งที่เรามีอยู่..
และสิ่งที่เราต้องการก็ยังมีอีกบ้าง เหมือนกับคนอื่น ๆ
แต่ให้มันค่อยเป็นค่อยไป..

เงินทองเราสามารถหาเพิ่มเติมได้เสมอ
แต่เวลาที่หายไป เราไม่สามารถเรียกคืนได้..

ถ้ามีพรวิเศษจริง..
ผมจะขอพรให้เราสามคนสุขภาพแข็งแรง จิตใจแจ่มใส
สามารถที่จะอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันทั้งครอบครัวได้เสมอ
ทุกเวลาที่มีโอกาส.. ให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้..

สำหรับผมแล้ว..
อะไรจะมีความหมายไปกว่าครอบครัว..
ภรรยา และลูกสาวแสนซนอีกนะ..

............................

ซาบซึ้งกินใจค่ะ ขอให้ฮูหยินของน้าโฟล์คน้อยหายวันหายคืนนะคะ ขอเป็นขวัญกำลังใจให้น้าโฟล์คน้อยเข้มแข็ง ต่อสู้ยืนหยัดต่อไป อย่าเพิ่งท้อถอยนะคะ เพื่อฮูหยินและลูกสาวแสนซนตัวน้อย สู้..สู้..Smile
มีคำพูดของใครบางคน(เสียดายที่ไม่จำ..)
ที่จำขึ้นใจและเห็นคล้อย
แต่ทว่าเป็นคำพูดแสลงหูเพื่อน
คำๆนั้นมีความหมาย
และผมยึดถือเสมอมา

"รักเมียมากกว่าเพื่อน
เมียจะร่วมชีวิตกับเรา
แต่เพื่อนก็คือเพื่อน
เวลาของเพื่อนนั้นชั่วครู่ชั่วยาม
แต่สำหรับเมีย..
ไม่มีเวลาใดเลยที่เมียจะไม่อยู่เคียงข้างกับเรา"

ผมจำและจำ
เห็นจริงตามนั้น
ขอโทษเพื่อนด้วยที่จะบอกว่า...
กูรักมึง...แต่เมียต้องมาก่อน!!
บทที่2
สิ่งต่างๆอุบัติขึ้นจากการเปรียบเทียบ

เมื่อคนในโลกรู้จักความสวยว่าสวย
ความน่าเกลียดก็อุบัติขึ้น
เมื่อคนในโลกรู้จักความดีว่าดี
ความชั่วก็อุบัติขึ้น

มีกับไม่มีเกิดขึ้นด้วยความรับรู้
ยากกับง่ายเกิดจากความรู้สึก
ยาวกับสั้นเกิดจากการเปรียบเทียบ
สูงกับต่ำเกิดจากการเทียบเคียง
เสียงดนตรีกับเสียงสามัญเกิดจากการรับฟัง
หน้ากับหลังเกิดจากการนึกคิด

ดังนั้นปราชญ์ย่อม
กระทำด้วยการไม่กระทำ
เทศนาด้วยการไม่เอ่ยวาจา
การงานทั้งหลายก็สำเร็จลุล่วงลง

ท่านให้ชีวิตแก่สรรพสิ่ง
แต่มิได้ถือตัวเป็นเจ้าของ
ประกอบกิจยิ่งใหญ่
แต่มิประกาศให้โลกรู้
เหตุที่ท่านไม่ปรารถนาในเกรียติคุณ
เกรียติคุณของท่านจึงดำรงอยู่ไม่สูญสลาย.

(วิถีแห่งเต๋า...พจนา จันทรสันติ แปลและเรียบเรียง)

เมื่ออ่านจบ...
ฉับพลันเด็กหนุ่มวัย18
ก็เริ่มแสวงหาคำตอบของชีวิต
และชีวิตของเขาก็เปลี่ยนผันดังเช่นทุกวันนี้...
หากอยากได้อย่างเดียว...
ผมก็ขออยากอยู่กับครอบครัวนานๆเช่นกันครับ

ขอให้ศรีภรรยาของคุณโฟล์คน้อย สุขภาพดีขึ้นเป็นลำดับ จนหายเป็นปกติครับ
กระทู้ดีๆอย่างนี้ปล่อยให้ตกไปได้ไง?
มาๆมาตอบต่อกระทู้นี้กันเถอะ..
ใครเคยอ่านหนังสือเล่มใด?
ประทับใจประทับลงในความคิดแทบกระทั่งซึมแทรกชีวิต
โปรดมาเล่าให้ฟังบ้าง
เผื่อใครสนใจจะได้ไปคิดลิ้มชิมลองอ่านดู
ท่าจะดีมีประโยชน์.......
Pages: 1 2 3 4 5 6 7 8