NimitGuitar webboard

Full Version: หนังสือที่จุดประกายความฝันให้เป็นจริง
You're currently viewing a stripped down version of our content. View the full version with proper formatting.
Pages: 1 2 3 4 5 6 7 8
Picking ที่พิมพ์ขึ้นมาใหม่มีเพลงและเนื้อหาเพิ่มขึ้นจากเล่มเก่า ผมซื้อมาเหมือนกันครับ ของเค้าดีนะ!
povation Wrote:Picking ที่พิมพ์ขึ้นมาใหม่มีเพลงและเนื้อหาเพิ่มขึ้นจากเล่มเก่า ผมซื้อมาเหมือนกันครับ ของเค้าดีนะ!

ดีมาก ๆครับ.. ผมก็ใช้อยู่ด้วยเหมือนกัน..
ผมก็ตามอาจารย์ราเชลมานาน ก็ตั้งแต่ออกมาทำนิตยสาร FOLK นั่นแหละครับ...แต่ได้วิชามาอย่างเดียว...TRAVIS PICKING STYLE...แบบอื่น ๆ แกะแล้วตาลาย เลยจำได้แบบเดียวครับ
Webmaster Wrote:ป.ล.ที่คุณแดงใส่อยู่นี่คงเป็นอุปกรณ์ป้องกันหลังกีต้าร์เป็นรอยเวลาเล่นใช่มั้ยคับ อิอิ

นั่นนะสิ คุณ นิมิตร เพิ่งจะสังเกตุเห็นเหมือนกันค่ะ ใส่เสื้อตัวนี้เล่นกีต้าร์ได้ไงเนี่ย !..ถ้าใส่เล่นตอนนี้ สงสัย ฮึ้อ..ไม่อยากคิด.. Rolleyes
ผมเคยมีเหมือนกันแต่เสียดายโดนที่บ้านเอาไปชั่งกิโลขายตอนผมไปเรียนต่อต่างประเทศ ไม่รู้ตอนนี้มันพิมพ์มาขายใหม่หรือเปล่าครับพี่ป๋อ
ถ้าเป็นหนังสือ Folk เล่มบางๆ ของคุณราเชล สิกขารา ไม่เคยเห็นพิมพ์ใหม่ครับ
.........ดีใจจังเลยที่พี่ป๋อตามหาของที่ใฝ่ฝันมาไว้ในครอบครอง เหมือนเติมเต็มกับสิ่งที่เพียรไขว่คว้ามานาน ไม่เหมือนผมที่ฝันแล้วขาดช่วงจนหายไปกับความทรงจำ กว่าจะมีกำลังทรัพย์ก็อายุแก่เสียจนต้องมาตั้งไข่ใหม่ แต่สิ่งที่ชดเชยกลับคืนมาคือ การได้พบกับ น้อง เพื่อน พี่ อา ที่มากด้วยน้ำใจ แล้วได้รับความกรุณาจากผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง พร้อมด้วยฮูหยินแสนสวย มากน้ำใจ ได้จุดประกายเรื่องกีต้าร์ของผมให้กลับมาอีกครั้ง แล้วก็เป็นครั้งที่เกิดกิเลสอย่างมากมายที่จะหากีต้าร์ดีๆมาไว้ในครอบครองให้สมกับที่รอคอยมานาน ส่วนหนังสือผมเคยมีเหมือนกัน แต่ได้ถูกวางไว้บนตาชั่งแล้วชั่งขายไปนานหลายปีแล้วโดยฝีมือแม่ผมเอง5555++
พี่ป๋อทำให้ผมหวนรำลึก....
มีหนังสืออยู่หนึ่งเล่มที่เปลี่ยนชีวิตผม
ไม่เกี่ยวแก่กีต้าร์เลย
"วิถีแห่งเต๋า"
แต่นั่นก็เมื่อวัยละอ่อน
ช่วงขณะปัจจุบันไฉนกลับเป็นหนังสือhow to ไปได้
"จะเลือกเงินหรือชีวิต"
หนังสือเล่มนี้เปลี่ยนชีวิตผมอีกครั้งเมื่อวัยวันนี้
ผมพยายามเป็นนักทำ
มากกว่าที่จะเป็นนักคิด
แต่กลับกลายเป็นว่า...
ผมพูดมากกว่าคิด
คิดน้อยกว่าพูด
ได้แต่เพ้อพร่ำร่ำเรื้อรัง...
ผมรำคาญตัวเองจริงเทียว!!
ผมหนักกว่าน้าบู..... ผมมักคิดเสมอว่า บางครั้งผมไม่ควรพูดบางประโยคอะไรออกไปเลย
คนฟังจะต้องเข้าใจผิดในตัวผมแน่ๆ ระยะหลังนี้ผมจึงระวังคำพูดของตัวเองมากขึ้น
เพราะมีบ่อยครั้งที่คำพูดประโยคเดียวแต่แปลไปตั้งหลายความหมาย
ภาษาไทยมีเสน่ห์ตรงนี้แหละ แต่ก็ยุ่งชะมัดกว่าจะทำความเข้าใจเจตนาที่แท้จริงของผู้พูดได้

"จะเลือกเงินหรือชีวิต" ที่เอ่ยถึง สำหรับผมตอบเพียงว่า เงินไม่มีความหมายสำหรับผมหากได้มาแล้วทำให้ผมไม่มีความสบายใจ ประมาณ 20 ปีที่แล้ว ผมเคยทำงานกฎหมายได้เงินเดือนกว่า 2 หมื่นบาท มีตำแหน่งที่ดี ไม่มีปัญหาอะไร ผมยังออกจากงานมาเล่นดนตรีอาชีพและมีรายได้เพียงครึ่งเดียวเฉยเลย! เพราะใจมันบอกว่าอยากจะเล่นดนตรี ในขณะที่เพื่อนๆไปไกลแล้ว แต่ผมไม่เปรียบเทียบ ถือว่าคนเราเลือกที่จะอยู่จะเป็น พอใจในสิ่งที่เราทำและต้องยอมรับผลของการกระทำของตนเอง ผมไม่มีความสุขเลยหากจะต้องทำอะไรที่ขัดกับความรู้สึกตัวเองมากๆ
ถึงตอนนี้ผมยังต้องทำงานที่ปรึกษากฎหมายหารายได้มาเลี้ยงดูทั้งสองครอบครัว ?? (ครอบครัว Blue Ribbon และครอบครัวเต่าและเพื่อนของผม)

ส่วนที่เปลี่ยนชีวิตผม...ผมยังนึกไม่ออกเลยว่าอะไรจะสามารถเปลี่ยนชีวิตผม ผมไม่เคยวางแผนชีวิตล่วงหน้าเกิน 3 ปี เพราะคิดเสมอว่าเสียเวลา อะไรๆก็เปลี่ยนแปลงไปได้ ทันเหตุการณ์เฉพาะหน้าดีกว่า (ความคิดนี้อาจผิดถนัดก็ได้..แต่เปลี่ยนนิสัยของผมตรงนี้ยากจัง)
povation Wrote:ผมไม่เคยวางแผนชีวิตล่วงหน้าเกิน 3 ปี เพราะคิดเสมอว่าเสียเวลา อะไรๆก็เปลี่ยนแปลงไปได้ ทันเหตุการณ์เฉพาะหน้าดีกว่า

อื ม ม ม ม ม....น่าคิด
Pages: 1 2 3 4 5 6 7 8