Thread Rating:
  • 0 Vote(s) - 0 Average
  • 1
  • 2
  • 3
  • 4
  • 5
ผู้นำทั้งหลายเชิญฟังทางนี้
Author Message
povation Offline
Roundback
******

Posts: 15,199
Likes Given: 328
Likes Received: 227 in 148 posts
Joined: 28 Aug 2007
Reputation: 92
#1
ผู้นำทั้งหลายเชิญฟังทางนี้
ผมมีเจตนาที่จะให้อดีตทั้งหลายที่เกิดขึ้น
เป็นบทเรียนที่ควรระวังและจดจำเพื่อความเจริญรุ่งเรืองขององค์กร.....

จึงขอคัดลอกข้อความที่พี่สะใภ้ที่น่ารักของผมส่งต่อมาให้ผมอ่าน


จัดการผู้นำที่ "ไม่ยอมเปลี่ยนแปลง" "มาร์แชล โกลด์สมิธ" กูรู Leadership

กมลวรรณ มักการุณ
เมื่อถึงวันที่ "ผู้บริหาร" นำพาองค์กรฝ่าฟันคลื่นมรสุมต่างๆ และผ่านพ้นมาจนบริษัทประสบความสำเร็จ...พวกเขาหลายคนกำลังดื่มด่ำกับความสำเร็จที่มาจากมันสมองของเขาล้วนๆ ใครๆ ก็ไม่ปฏิเสธว่าเขาเก่ง ใครๆ ก็ยอมรับและเชื่อฟังคำสั่ง...

หากแต่ในความสำเร็จมี "อะไร" ที่มากกว่านั้น และวันนี้ "ดร.มาร์แชล โกลด์สมิธ" กูรูระดับโลกด้าน Leadership กำลังจะมาเปิดปมว่า เหตุใดผู้บริหารที่ประสบความสำเร็จมักมองข้ามและไม่สนใจที่จะ "เปลี่ยนแปลงตัวเอง"

"ดร.มาร์แชล โกลด์สมิธ" คือกูรูด้านการพัฒนาความเป็นผู้นำ (Leadership) ที่มีดีกรีถึงระดับโลก ไม่ว่าจะเป็นการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งใน 50 นักคิดระดับโลก และหนึ่งในนักปฏิบัติที่ทรงอิทธิพลที่สุดในประวัติศาสตร์ของการพัฒนาความเป็นผู้นำจากการจัดอันดับของนิตยสาร Business Week และหนึ่งใน 10 ของที่ปรึกษาระดับโลกจากการจัดอันดับของ Wall Street Journal

การเดินทางมาประเทศไทยครั้งนี้ นอกจาก "ดร.มาร์แชล" จะบรรยายในหัวข้อ " Coaching for Leadership: What Got You Here Won't Get You There" แล้ว นี่ยังเป็นการเดินทางมาเปิดตัวพอคเก็ตบุ๊คเล่มล่าสุดที่เขาเขียน " What Got You Here Won't Get You There" ซึ่งตอนนี้ติดอันดับหนังสือธุรกิจขายดีที่สุดในอเมริกาและเยอรมนีไปแล้ว

เขาได้เกริ่นถึงปัญหาที่เหล่าผู้นำหรือ Leader ต้องเผชิญเมื่อต้องขึ้นสู่จุด "สูงสุด" ในองค์กรว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ได้มาจากความสามารถหรือความเก่งของผู้นำ เพราะทุกคนยอมรับในความเก่งของเขาอยู่แล้ว หากแต่ "พฤติกรรม" ของพวกเขาต่างหากที่เป็นปัญหา

" ผู้นำที่ประสบความสำเร็จมักชอบเอาชนะมากเกินไป ไม่ชอบรับฟังความคิดเห็นของคนอื่น พวกเขาคิดว่าตัวเองถูกอยู่ตลอดเวลา" เขายกตัวอย่างอุปนิสัยไม่ดี ที่ผู้นำหลายคนมักเป็นกันโดยไม่รู้ตัว และยังได้ยกตัวอย่างสิ่งที่กูรู "ปีเตอร์ ดรักเกอร์" ปรมาจารย์ของเขา ที่มักพร่ำสอนเขาอยู่เสมอว่า "เราใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการสอนผู้นำว่าต้องทำอะไร แต่เราไม่ได้ใช้เวลาสักนิดสอนพวกเขาเลยว่าควรหยุดทำอะไรบ้าง"

ปัจจุบัน "ดร.มาร์แชล" นอกจากจะเป็นอาจารย์สอนทางด้านการศึกษาบริหารจัดการ ในอีกด้านหนึ่งที่สำคัญเขายังเป็นที่ปรึกษาชั้นยอดให้แก่ผู้นำองค์กรต่างๆ ในตลอดระยะเวลากว่ายี่สิบปีที่ผ่านมา เขายังป็นที่ปรึกษาให้กับผู้นำองค์กรชั้นนำในหลายอุตสาหกรรม ทั้งภาครัฐและเอกชน และบางแห่งก็เป็นถึงองค์กรระดับโลก เช่น ฟอร์ด มอเตอร์ , จีอี แคปปิตอล และโกลด์แมน แซคส์ เป็นต้น

ไม่น่าแปลกใจที่เขาพบว่า "ปัญหา" ในตัวผู้นำหลายต่อหลายองค์กร มีความคล้ายคลึงกันอย่างไม่น่าเชื่อ

"ผู้นำเหล่านี้บางคนมาขอให้ผมช่วยเป็นโค้ชในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม พวกเขาหลายคนเป็นคนที่ประสบความสำเร็จ ร่ำรวย เก่ง ฉลาด เพอร์เฟคท์ และคิดว่าพวกเขาประสบความสำเร็จแล้ว แต่สิ่งเหล่านี้เองที่เป็นภาพลวงตา ทำให้เขาก้าวไปไกลหรือประสบความสำเร็จมากไปกว่านี้ไม่ได้"

กับดักทางความคิดของผู้นำเหล่านี้ก็คือความเชื่อที่ว่า พวกเขาประสบความสำเร็จแล้ว เป็นคนเลือกที่จะประสบความสำเร็จด้วยตัวเอง สามารถประสบความสำเร็จได้ และ "จะต้อง" ประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน

"ผู้นำเหล่านี้จะเชื่อว่าจากความสำเร็จที่ผ่านมา จะทำให้พวกเขาประสบความสำเร็จมากขึ้นในอนาคต พวกเขาจะยอมรับเฉพาะความเห็นที่ตรงกับความรู้สึกของตนเอง และปฏิเสธความเห็นที่ไม่ตรงใจ พวกเขาจะไม่ยอมได้ยินในสิ่งที่พวกเขาไม่อยากได้ยิน หลายครั้งที่พวกเขาชอบให้ลูกน้องประจบโดยที่ไม่รู้ตัว"

นอกจากนี้ ผู้นำส่วนใหญ่ยังยึดติดกับวิธีการและแนวทางที่ทำให้พวกเขาประสบความสำเร็จ ซึ่งทำให้พวกเขาไม่ยอมรับว่าแนวทางนั้น อาจจะไม่ถูกต้องเท่าใดนัก และยังนำไปสู่ความ "หลงตัวเอง" โดยมีความเชื่อที่ผิดๆ ว่าตนเองสามารถสร้างความแตกต่างให้โลกนี้ได้

เหล่านี้ล้วนเป็น "สัญญาณอันตราย" ที่อาจย้อนกลับมาทำร้ายผู้นำคนนั้นเองในที่สุด

"ดร.มาร์แชล" แนะนำว่า สิ่งที่ผู้นำควรต้องเริ่มเปลี่ยนแปลงตัวเองตั้งแต่ " เดี๋ยวนี้" ก็คือ การเปิดใจให้กว้าง และรับฟังความเห็นจากผู้ร่วมงาน หรือที่เรียกว่า Feedforward เพื่อนำมาปรับใช้ในอนาคต ไม่ใช่เพียง Feedback ที่เป็นผลจากอดีตที่เกิดขึ้นแล้ว

เขาเล่าว่า จากผลการวิจัยจากผู้นำกว่า 86,000 ราย ใน 8 อุตสาหกรรมชั้นนำทั่วโลก พบว่าการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมในตัวผู้นำนั้น มีผลอย่างมากต่อการทำงานลูกน้อง หากลูกน้องเห็นว่าหัวหน้าเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น พวกเขาก็จะทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย

" ผู้นำที่ดีต้องรู้จักปล่อยวางเรื่องราวในอดีต และรับฟังคำแนะนำจากคนรอบตัวโดยไม่ด่วนสรุปหรือตัดสินเอง" เขากล่าวและขยายความว่า "ในการจะช่วยให้ผู้นำพัฒนาตนเองได้นั้น ผู้นำต้องรู้จักถามความเห็นจากเพื่อนร่วมงานและลูกน้องที่ขึ้นตรงกับคุณ คุณเคยถามเขาหรือไม่ว่าคุณควรจะทำอย่างไรเพื่อจะได้เป็นหัวหน้าที่ดีขึ้นสำหรับพวกเขา

นอกจากนี้ การที่ผู้นำจะเปลี่ยนได้นั้น ผู้นำต้องรู้จักการรับฟัง เก็บมาคิด การตอบ การมีส่วนร่วมในการเปลี่ยนแปลง และติดตามผลการเปลี่ยนแปลงด้วย ในชีวิตการเป็นที่ปรึกษาของผม หากลูกค้ามาปรึกษาแต่ไม่ได้มีความต้องการ หรือแสดงให้เห็นเลยว่าเขาต้องการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม ผมก็จะไม่ทำอะไรเลย เพราะนั่นจะเป็นการเสียเวลามาก"

ดร.มาร์แชลเล่าถึงขั้นตอนในการเป็น "โค้ช" ให้กับผู้นำในการเริ่มต้นเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมว่า ก่อนเริ่มต้นจะต้องมีการพูดคุยกันก่อนว่าพฤติกรรมใดบ้างที่ผู้นำคนนั้นอยากเปลี่ยน โดยต้องสอบถามจาก 360 องศารอบตัวผู้นำรายนั้น ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนร่วมงาน ลูกน้อง หุ้นส่วน คู่ค้าหรือผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมด

เมื่อตกลงได้แล้วว่าพฤติกรรมใดที่ควรเปลี่ยน เขาก็จะใช้เวลาประมาณ 18 เดือน ในการเข้าไปเป็นโค้ช ติวเข้มผู้นำรายนั้น และมีการพูดคุยสอบถามปฏิกิริยาจากคนรอบข้างอย่างใกล้ชิดว่าพวกเขารู้สึกได้หรือเห็นการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นหรือไม่

"หากทุกคนเห็นพ้องต้องกันว่าเขาเปลี่ยนไปจริงๆ ผมถึงจะได้ค่าตัว ซึ่งค่าตัวผมก็อยู่ที่ 250,000 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 9 ล้านบาท) จัดว่าไม่สูงเมื่อเทียบกับเวลา 18 เดือนที่ผมต้องเข้าไปทำให้ผู้นำคนนั้นเปลี่ยนพฤติกรรม บางบริษัทก็ยินดีที่จะจ่ายหากสามารถทำให้ผู้นำของเขาเปลี่ยนได้จริงๆ แต่หากทุกคนเห็นว่าผู้นำไม่ได้เปลี่ยนเลย ผมก็จะไม่รับค่าตัวสักนิดเดียว" เขากล่าวถึงการเป็นที่ปรึกษา

ก็เป็นที่น่าพอใจสำหรับเขา... 90% พบว่า ผู้นำของเขาได้ "เปลี่ยนไปแล้ว" จริงๆ

เขายังเล่าอีกว่า จากการที่เขาเคยทำการสำรวจรวมกับจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน โดยสำรวจผู้นำที่ประสบความสำเร็จกว่า 2,000 รายทั่วโลก รวมทั้งแถบเอเชียและประเทศไทยด้วย ซึ่งศึกษาในเรื่องของลักษณะการเป็นผู้นำในวัฒนธรรมต่างๆ ( Cross-cultural leader) เขาพบว่าแม้ส่วนใหญ่อุปนิสัยของผู้นำทั่วโลกจะมีความใกล้เคียงกัน แต่ก็พบว่าผู้นำจากเอเชียมีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ดีกว่าผู้นำจากยุโรปหรืออเมริกา เพราะมีวัฒนธรรมที่ไม่แข็งกร้าว และมีการรับฟังความคิดเห็นมากกว่า

"นอกจากนี้ ผู้นำที่เป็นผู้หญิงก็มีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนตัวเองได้ดีกว่าผู้ชาย เพราะผู้หญิงจะมีความอยากเอาใจทุกๆ คน อยากเป็นคนที่ดีที่สุดสำหรับทุกๆ คน อยากเป็นเจ้านายที่ดีที่สุด ภรรยาที่ดีที่สุด และแม่ที่ดีที่สุด ทำให้ผู้ชายสู้ผู้หญิงไม่ได้ในเรื่องนี้"

การเดินทางมาบรรยายในครั้งนี้ เขาบอกว่า ผู้นำ ผู้บริหารไม่ว่าจะเป็นองค์กรขนาดใหญ่หรือแม้แต่เอสเอ็มอี รวมถึงพนักงานบริษัท ตลอดจนคนที่สนใจทั่วไป ล้วนสามารถนำแนวคิดนี้ไปใช้ได้

เพราะไม่เพียงแต่จะทำให้การทำงานดีขึ้นเท่านั้น แต่ "การใช้ชีวิต" จะดีขึ้นด้วยเช่นกัน

"ในการทำธุรกิจ คุณตอบคำถามได้ทันทีว่า ความพึงพอใจของลูกค้าสำคัญที่สุดหรือไม่ แต่ในชีวิตครอบครัว เมื่อเจอคำถามว่า ความพึงพอใจของภรรยา ลูก หรือคนในครอบครัว (ที่เป็นยิ่งกว่าลูกค้าของคุณ) นั้นสำคัญที่สุดหรือไม่ คุณกลับตอบไม่ได้ หรือลังเลที่จะตอบคำถามนี้ หรือในชีวิตของคุณ คุณเคยถามคนรอบตัวไหมว่าคุณจะต้องทำอย่างไรบ้างเพื่อจะเป็นหัวหน้าที่ดีขึ้น หรือเป็นพ่อแม่ เป็นสามีที่ดีขึ้น ส่วนใหญ่มีน้อยมากที่จะถาม

แต่ผมอยากให้คุณนำแนวคิดนี้ไปปรับใช้กับชีวิตครอบครัวของคุณด้วย แล้วคุณจะพบว่าชีวิตคุณดีขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ" เขาทิ้งท้าย

Key Points

20 นิสัย "แย่ๆ" ของผู้นำ

1. เอาชนะมากเกินไป พยายามจะเอาชนะทุกๆ คนในทุกๆ เรื่อง

2. ทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่

3. ชอบเอาความรู้สึกส่วนตัวตัดสินคนอื่น

4. ให้ความเห็นที่ไม่สร้างสรรค์เอาเสียเลย

5. ชอบเริ่มต้นประโยคว่า "ไม่", "แต่"

6. ชอบบอกให้ทั้งโลกรู้ว่าคุณเก่งแค่ไหน

7. แสดงอารมณ์โกรธออกมา

8. ชอบสอนหรืออธิบายพร่ำเพรื่อโดยที่ลูกน้องยังไม่ได้ถาม

9. หวงวิชา

10. ไม่ชมหรือให้รางวัลเมื่อลูกน้องสมควรได้รับ

11. ชอบคุยโอ่ถึงความดีความชอบของตัวเอง

12. ชอบแก้ตัว

13. ชอบกล่าวโทษคนอื่นในเหตุการณ์ที่ผ่านไปแล้ว

14. เลือกที่รักมักที่ชัง ลำเอียง

15. ไม่แสดงความรู้สึกสงสารหรือเห็นใจ

16. ไม่รับฟัง

17. ไม่สำนึกบุญคุณ

18. ลงโทษได้แม้กระทั่งพนักงานรับส่งเอกสาร

19. ชอบปัดความผิดให้พ้นตัว

20. หลงตัวเองเป็นที่สุด
All I Have
The dreams come true
Facebook : Povation NH
25-10-2007, 09:57
Website Find Like Post Reply


Messages In This Thread
ผู้นำทั้งหลายเชิญฟังทางนี้ - by povation - 25-10-2007, 09:57

Forum Jump:


Users browsing this thread: 1 Guest(s)

Contact Us | NimitGuitar | Return to Top | | Lite (Archive) Mode | RSS Syndication