Thread Rating:
  • 0 Vote(s) - 0 Average
  • 1
  • 2
  • 3
  • 4
  • 5
Another dust in the wind
Author Message
napman Offline
VIP member
******

Posts: 2,118
Likes Given: 91
Likes Received: 58 in 41 posts
Joined: 27 Apr 2009
Reputation: 45
#1
Another dust in the wind


อ่านแล้ว เศร้าจัง

ชีวิตคน สั้นครับ... ทำอะไรก็รีบทำครับ? เห็นด้วย จริง จริง ชีวิตคน สั้นนัก อยากทำอะไรก็รีบทำ

เที่ยวบินสุดท้ายของ ?ดอกเตอร์มนัญยา ตันติวิวัฒน์? เธอคือแบบอย่างของนักเรียนไทยที่มุ่งมั่น อดทน ไม่ย่อท้อ จนประสบความสำเร็จ

?ดอกเตอร์มนัญยา ตันติวิวัฒน์? สร้างความสำเร็จให้ตัวเองจนเที่ยวบินสุดท้าย และสร้างชื่อเสียงให้ประเทศในฐานะนักเรียนทุนอย่างสมเกียรติ...คุณค่าเธอควรมีมากกว่านี้?
เธอ...?น้ำมนต์? --- มนัญยา ตันติวิวัฒน์ ฉายแววอัจฉริยะอย่างไม่น่าเชื่อตั้งแต่วัยเด็ก ได้รับเหรียญทองนักเรียนดีเด่นของโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ติดต่อกันตั้งแต่ชั้น ป.1 กระทั่งจบ ม.6
เธอ...คว้ารางวัลแห่งความสำเร็จไปคนเดียวอย่างน่าทึ่งในช่วงการเรียน 12 ปี
?น้ำมนต์? สอบเข้าคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้เป็นที่ 2 มีทุนสนับสนุนทั้ง 4 ปี ขณะเดียวกันก็สอบได้ทุนรัฐบาลไทยโดยกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ไปศึกษาต่อระดับปริญญาตรีถึงปริญญาเอก ณ สหรัฐอเมริกาด้วย
ในปี 2543 เธอเลือกไปอเมริกา เข้าเรียนปริญญาตรีคณะฟิสิกส์ที่ Dartmouth College ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยเก่าแก่มีชื่ออันดับต้นๆ ในดินแดนมะกัน กระทั่งจบคณะฟิสิกส์ และได้รับการคัดเลือกเข้าเรียนต่อในระดับปริญญาโทที่ The University of California Santa Barbara (UCSB)
ระหว่างนี้เธอสร้างชื่อเสียงให้มหาวิทยาลัยด้วยการเป็นตัวแทนไปนำเสนองานวิจัย ณ มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ประเทศอังกฤษ กลับมาจึงได้รับเลือกให้เป็นผู้ช่วยอาจารย์ ระหว่างเรียนเธอคอยเป็นพี่เลี้ยงช่วยดูแลน้องๆ นักเรียนทุนไทยเป็นประจำ นักเรียนไทยที่นั่นกว่า 600 คน จึงรู้จักมักคุ้น ?พี่น้ำมนต์? เป็นอย่างดี
มนัญยา...เข้าศึกษาต่อด้านฟิสิกส์สาขาถนัดในระดับปริญญาเอก ณ มหาวิทยาลัยแห่งเดิมอีก 6 ปี ระหว่างนั้นในปี 2551 เธอเริ่มทราบว่าตัวเองเป็นมะเร็งเต้านม จึงเข้ารับการรักษามาเป็นระยะ ทั้งการฉายแสง คีโม กระทั่ง 1 ปีผ่านไป ได้รับการผ่าตัดจนอาการอยู่ในเกณฑ์ปลอดภัย ทุกคนดีใจมากที่มนัญยาคนเดิมจะได้กลับมามุ่งมั่นทุ่มเทกับการเรียนของเธอ และในปีเดียวกันนั้นเธอก็ได้รับรางวัล Materials Research Lab Diversity Fellowship
?ถ้าเป็นคนอื่นคงเลิกเรียนแล้วมารักษาตัวที่บ้าน? คุณพ่อมนูญศักดิ์ ตันติวัฒน์ เล่า
สำหรับน้ำมนต์ไม่ใช่ --- เพื่อนๆ และอาจารย์ในคณะ เล่าว่า เธอเป็นคนไม่ยอมแพ้ แม้จะป่วยแต่ยังขยันขันแข็งและอดทนมาก --- จากนั้นไม่นานเธอเข้าเอกซเรย์ร่างกายอีกครั้ง พบว่ามะเร็งลามไปที่ปอด อดทนมาก ยังไงก็จะเรียนให้จบ???น้ำมนต์ไม่เคยท้อ คุณพ่อ ย้ำ

น้ำมนต์

ระหว่างอาการป่วยในระยะที่ 2 เธอยังพาเพื่อนๆ มาฝึกเรียนขี่ช้างที่ศูนย์อนุรักษ์ช้างที่ลำปาง ซึ่งเป็นสถานที่ทำงานของพ่อ กลับไปอเมริกาอีกครั้ง อาจารย์แจ้งว่าเธอสามารถขอจบปริญญาเอกได้ภายในเดือน มิ.ย. 2553 แต่เธอก็ยังไม่ยอม เพราะต้องการทำงานวิจัยให้สมบูรณ์และออกมาดีที่สุดก่อน งานวิจัยชิ้นที่ว่าชื่อ Structure-Function-Property Relationships In Solution-Processed Diketopyrrolopyrrole- Based Materials
ขณะที่เธอมุ่งมั่น มะเร็งร้ายก็ไม่ปรานี เริ่มลามไปยังตับและสมอง ผู้เป็นพ่อแม่และครอบครัวได้แต่ทำใจว่าลูกสาวว่าที่ดอกเตอร์คงต้องจากไปในเวลาอีกไม่นาน มนัญยาก็รู้ตัวเองดีเช่นกัน ช่วงเดือน พ.ย. 2553 เธอจึงบินกลับกรุงเทพฯ มาพักผ่อนนอนเที่ยวอยู่ 2 สัปดาห์ ก่อนจะเดินทางไปเยี่ยมและอำลาบรรดาเพื่อนๆ ในยุโรป รวมถึงอาจารย์สมัยเรียนปริญญาตรี
...ต่อมาเธอก็หายใจได้แผ่วเบาลงเรื่อยๆ ด้วยปอดถูกทำลายไปมากแล้ว
เธอใช้เวลาเขียนงานวิจัยบทสุดท้าย ซึ่งเป็นคำประกาศเกียรติคุณ แสดงการขอบคุณทุกคนที่คอยช่วยเหลืองานวิจัยขณะรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล Santa Barbara มลรัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งเป็นวาระสุดท้ายของชีวิต คุณพ่อมนูญศักดิ์จึงเดินทางไปอเมริกาในวันที่ 5 เม.ย. เพื่อรับลูกสาวกลับบ้าน หวังเพียงให้ลูกได้เดินทางสู่อีกภพอย่างสงบ ณ บ้านเกิด
คุณพ่อได้จองตั๋วเครื่องบินกลับเมืองไทยให้ล่วงหน้า มีกำหนดเดินทางกลับวันที่ 12 เม.ย. ก่อนเดินทาง 1 วัน เพื่อนๆ นักเรียนไทยช่วยเตรียมการวางแผนการเดินทางกันอย่างละเอียดถี่ถ้วน ป้องกันความผิดพลาดทุกอย่าง อาทิ เคลียร์ค่าใช้จ่ายโรงพยาบาล ยกเลิกการเช่าอพาร์ตเมนต์ ยกเลิกโทรศัพท์ ปิดบัญชีธนาคาร ตลอดถึงการเช่ารถเตรียมเดินทาง ฯลฯ
แม้จะเป็นภารกิจการจากลาอย่างไม่มีวันเจอะเจอกันอีก แต่ทุกคนก็ช่วยด้วยรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ ทั้งหมอ พยาบาลเข้าเยี่ยมอำลามนัญยาไม่ขาดสาย จนเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลต้องจัดห้องพิเศษให้เป็นการเฉพาะ
ผลการตรวจสุขภาพครั้งสุดท้าย น้ำมนต์อยู่ในอาการที่ดีมาก แพทย์ประจำตัวจึงออกหนังสือ Fit to Fly ให้ --- วันนั้นเธอบอกกับพ่อว่า The sooner the better
วันที่ 14 เม.ย. ศาสตราจารย์อลัน ฮีเกอร์ เจ้าของรางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์ ได้อนุมัติปริญญาเอกสาขาฟิสิกส์ให้ ?ดอกเตอร์มนัญยา? อย่างเป็นทางการ ขณะที่เจ้าตัวรู้ดีว่าคงมีลมหายใจได้อีกไม่นาน จึงแจ้งให้คุณแม่และน้องชายเดินทางมาเจอหน้าเป็นครั้งสุดท้าย
วันที่ 17 เม.ย. น้ำมนต์คุยกับพ่อ แม่ และน้องชายได้น้อยลง กระทั่งอยู่ในอาการนิ่งเงียบ
...บ่ายวันถัดมา 18 เม.ย. 2554 ดอกเตอร์มนัญยาก็จากไปอย่างสงบด้วยวัยเพียง 28 ปี
วันที่ 20 เม.ย. ทาง UCSB จัดพิธีมอบปริญญาให้ ?ดอกเตอร์มนัญญา? อย่างยิ่งใหญ่และสมเกียรติ มีนักศึกษาไทย เพื่อนร่วมคณะ คณบดี และศาสตราจารย์ผู้อนุมัติปริญญาเข้าร่วมเชิดชูเกียรติ พร้อมประกาศจัดตั้งกองทุน ?มนัญยา ตันติวิวัฒน์? ขึ้นในมหาวิทยาลัย เพื่อเป็นเกียรติและระลึกถึงมนัญยา ในฐานะนักศึกษาที่อุทิศตนให้กับงานและทำหน้าที่เป็นมากกว่านักศึกษา รวมถึงจะเป็นกองทุนการศึกษาแก่นักศึกษารุ่นต่อๆ ไปด้วย คงไม่มีบรรยากาศการรับปริญญาของมหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งนี้ครั้งไหนจะเศร้าสลดได้เท่าครั้งนี้อีกแล้ว --- เจ้าของปริญญาอันน่าภาคภูมิ...มีเพียงภาพถ่ายเข้าร่วมพิธี!!!
ศาสตราจารย์ฮีเกอร์ รวมถึงผู้แทนดูแลนักเรียนไทยจากกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ได้ขึ้นกล่าวยกย่องบัณฑิตแห่งปีอย่างยิ่งใหญ่ คุณพ่อคุณแม่ถึงกับกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ --- เธอคือแบบอย่างของนักเรียนไทยที่มุ่งมั่น อดทน ไม่ย่อท้อ จนประสบความสำเร็จ
?ผมร้องไห้ด้วยความปลาบปลื้ม เพราะวันนั้นลูกไม่มีโอกาสอยู่ในงานรับปริญญา? คุณพ่อ เล่า
เขา...
ในวันที่กำหนดว่าจะเดินทางกลับเมืองไทย สายการบินที่เธอโดยสารแจ้งครอบครัวตันติวิวัฒน์ว่าไม่สามารถให้ผู้ป่วยขึ้นเครื่องได้ โดยอ้างเหตุผลทางการแพทย์ ทำให้มนัญยาถึงกับมีอาการช็อกอย่างเห็นได้ชัด--- เธอผิดหวังมาก
?ทำไมมาบอกเราเอาวันจะเดินทาง? คุณพ่อมนูญศักดิ์ บอก
ล่วงเลยไปถึงวันที่ 22 เม.ย. สายการบินดังกล่าวจึงอนุญาตให้เธอและครอบครัวเดินทางกลับประเทศไทย ในเที่ยวบินเดิม เพียงแต่ร่างของดอกเตอร์มนัญยาต้องไปอยู่ใต้ท้องเครื่อง ยังโชคดีที่พนักงานต้อนรับจัดที่นั่งให้คุณพ่อ พอจะวางภาพถ่ายของเธอไว้ข้างๆ (ทั้งที่น่าจะเป็นที่นั่งของดอกเตอร์มนัญยาขณะยังมีชีวิต) พร้อมกับบริการไวน์ขาวเพื่อการเฉลิมฉลองปริญญาอันสูงค่ายิ่งตามคำขอของพ่อ
ก่อนและหลังพิธีพระราชทานเพลิงศพไปเมื่อวันที่ 1 พ.ค. 2554 ครอบครัวตันติวิวัฒน์ แสดงความขอบคุณต่อผู้ให้การ|ช่วยเหลือในการนำศพ ?ดอกเตอร์มนัญยา ตันติวิวัฒน์? กลับบ้าน ขณะเดียวกันได้ร้องขอความเป็นธรรมไปยังผู้บริหารสายการบินแห่งนั้นเพื่ออธิบายถึงความผิดพลาดที่เกิดขึ้นในการปฏิบัติต่อความประสงค์ของผู้ป่วย เพื่อไม่ต้องประทับไว้ซึ่งความสูญเสียอันยิ่งใหญ่ไม่ว่าจะเป็นครอบครัวใดอีกในวันหน้า
?ดอกเตอร์มนัญยา ตันติวิวัฒน์? สร้างความสำเร็จให้ตัวเองจนเที่ยวบินสุดท้าย และสร้างชื่อเสียงให้ประเทศในฐานะนักเรียนทุนอย่างสมเกียรติ
...คุณค่าเธอควรมีมากกว่านี้?
นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์
สถิตย์ทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา
[A friendship needs a little mulch of contacts every so often-just to save it from drying out completely.

I always have great pleasure being alone by myself to play, If you're playing for any other reason, it won't last.
http://youtu.be/_tkGVGOKQ8c
(This post was last modified: 21-11-2011, 21:59 by napman.)
21-11-2011, 21:48
Website Find Like Post Reply


Messages In This Thread
Another dust in the wind - by napman - 21-11-2011, 21:48
RE: Another dust in the wind - by pood - 21-11-2011, 22:13
RE: Another dust in the wind - by beetle - 21-11-2011, 23:24
RE: Another dust in the wind - by Olanla - 22-11-2011, 01:01
RE: Another dust in the wind - by napman - 22-11-2011, 03:33
RE: Another dust in the wind - by thepguitar - 22-11-2011, 09:32
RE: Another dust in the wind - by Naris - 22-11-2011, 09:56
RE: Another dust in the wind - by karn - 22-11-2011, 11:50
RE: Another dust in the wind - by Olanla - 22-11-2011, 14:01
RE: Another dust in the wind - by thepguitar - 22-11-2011, 18:51
RE: Another dust in the wind - by Tai Labour - 22-11-2011, 22:30
RE: Another dust in the wind - by Olanla - 27-11-2011, 01:23

Forum Jump:


Users browsing this thread: 2 Guest(s)

Contact Us | NimitGuitar | Return to Top | | Lite (Archive) Mode | RSS Syndication