03-12-2010, 23:16
นี่คือทริปที่เป็นจุดหักเหของชีวิตของผม ผมอาจจะอินกับกระทู้นี้บ้าง...อย่าว่ากันนะ (เปิดเพลงฟังไปด้วยกันนะ)
ก่อนกลางปี 2551 ลูกค้าเบอร์หนึ่งของบริษัทฯประสบภาวะขาดสภาพคล่องทางการเงิน จากวิกฤตค่าเงินปอนด์
แน่ล่ะ..บริษัทของเราพลอยซวยไปด้วย ผมเพิ่งรับหน้าที่ดูแลการเงินได้ไม่กี่เดือน แจ็ตพ็อตเลยตู
เกิดมาไม่เคยเครียดอะไรขนาดนี้เลย...เช้าตื่นขึ้นมานั่งนึกกับตัวเองว่า กูไม่อยากตื่นเลย..
ตลอดเวลาผมแทบไม่ยิ้มไม่หัวเราะเลย พอจะยิ้มได้หัวเราะบ้างก็ในวันศุกร์แห่งชาติเท่านั้น (ขอบคุณเพื่อนๆทุกๆคนนะครับ)
ผมอยู่ในสภาพนี้มาเกือบปี พยายามหายอดขายให้มากขึ้นในเดือนถัดไป เพื่อหมุนมาอุดหนี้เสีย ทำอย่างงี้มาเกือบปี..
ปลายปีพวกเราก็ไปล่องแพกัน ผมได้ข่าวดี..สนามบินสุวรรณภูมิถูกปิด!! ทำใจกับยอดขายเดือนหน้าไว้ล่วงหน้าได้เลย...
หวยออกตามคาด ลูกค้าต่างประเทศไม่สามารถบินมา approve สินค้าจากลูกค้าของผมได้ ออเดอร์ถูกย้ายไปที่จีน..
ยอดขายของบริษัทหายไปกว่า 70% ผมต้องหมุนเงินเพื่อชำระหนี้ในเดือนหน้าหนักขึ้นกว่าเดิมเป็นสามเท่า..ยังพอไหว...ฮึบๆๆๆ
แม่เคยบอกกับพ่อว่า อยากไปเที่ยวกันตามประสาพ่อแม่ลูก ขับรถไปเรื่อยๆ ค่ำไหนนอนนั่น แต่พ่อก็จากไปก่อนที่จะได้ทำตามที่ตั้งใจ
ปีหน้าผมคงไม่มีเวลาให้แม่เหมือนเดิม พาแม่ไปตอนปีใหม่นี้แหละ แม่ยังแข็งแรงดีอยู่
ผมเลยพาแม่ขับรถขึ้นภาคเหนือ แล้วจองทริป สิบสองปันนา ไว้กับทัวร์ท้องถิ่นที่เชียงราย
เราขับรถออกจากกรุงเทพประมาณบ่ายสาม..เมื่อขับรถผ่านนครสวรรค์ ผมได้รับข่าวดีอีกข่าวหนึ่ง
ลูกค้าเบอร์สองและเบอร์สามของบริษัท ส่งหนังสือมาแจ้งเลื่อนดิวชำระหนี้ในเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ออกไปถึงเดือนมีนาคม...
จุกเลยตู!!!
ผมขับรถเหมือนคนเบลอ..พยายามไม่ให้แม่รู้ว่าผมเครียดแค่ไหน เงินขนาดนั้น ต่อให้ขายบ้าน 4 หลังก็ยังไม่พออุดเลย
ว่าแต่ว่าเรามีบ้านแค่หลังเดียว...ผมเหม่อ ตื้อ มือ เท้า เหงื่อออกเต็มไปหมด รู้ตัวอีกที เราก็มาถึงแม่สายตอนฟ้าสาง
ผมหาอินเตอร์เน็ตเพื่อดูไฟล์การเงินที่ลูกน้องเมล์มาให้...ยังพอมีทางออก....
ก่อนกลางปี 2551 ลูกค้าเบอร์หนึ่งของบริษัทฯประสบภาวะขาดสภาพคล่องทางการเงิน จากวิกฤตค่าเงินปอนด์
แน่ล่ะ..บริษัทของเราพลอยซวยไปด้วย ผมเพิ่งรับหน้าที่ดูแลการเงินได้ไม่กี่เดือน แจ็ตพ็อตเลยตู
เกิดมาไม่เคยเครียดอะไรขนาดนี้เลย...เช้าตื่นขึ้นมานั่งนึกกับตัวเองว่า กูไม่อยากตื่นเลย..
ตลอดเวลาผมแทบไม่ยิ้มไม่หัวเราะเลย พอจะยิ้มได้หัวเราะบ้างก็ในวันศุกร์แห่งชาติเท่านั้น (ขอบคุณเพื่อนๆทุกๆคนนะครับ)
ผมอยู่ในสภาพนี้มาเกือบปี พยายามหายอดขายให้มากขึ้นในเดือนถัดไป เพื่อหมุนมาอุดหนี้เสีย ทำอย่างงี้มาเกือบปี..
ปลายปีพวกเราก็ไปล่องแพกัน ผมได้ข่าวดี..สนามบินสุวรรณภูมิถูกปิด!! ทำใจกับยอดขายเดือนหน้าไว้ล่วงหน้าได้เลย...
หวยออกตามคาด ลูกค้าต่างประเทศไม่สามารถบินมา approve สินค้าจากลูกค้าของผมได้ ออเดอร์ถูกย้ายไปที่จีน..
ยอดขายของบริษัทหายไปกว่า 70% ผมต้องหมุนเงินเพื่อชำระหนี้ในเดือนหน้าหนักขึ้นกว่าเดิมเป็นสามเท่า..ยังพอไหว...ฮึบๆๆๆ
แม่เคยบอกกับพ่อว่า อยากไปเที่ยวกันตามประสาพ่อแม่ลูก ขับรถไปเรื่อยๆ ค่ำไหนนอนนั่น แต่พ่อก็จากไปก่อนที่จะได้ทำตามที่ตั้งใจ
ปีหน้าผมคงไม่มีเวลาให้แม่เหมือนเดิม พาแม่ไปตอนปีใหม่นี้แหละ แม่ยังแข็งแรงดีอยู่
ผมเลยพาแม่ขับรถขึ้นภาคเหนือ แล้วจองทริป สิบสองปันนา ไว้กับทัวร์ท้องถิ่นที่เชียงราย
เราขับรถออกจากกรุงเทพประมาณบ่ายสาม..เมื่อขับรถผ่านนครสวรรค์ ผมได้รับข่าวดีอีกข่าวหนึ่ง
ลูกค้าเบอร์สองและเบอร์สามของบริษัท ส่งหนังสือมาแจ้งเลื่อนดิวชำระหนี้ในเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ออกไปถึงเดือนมีนาคม...
จุกเลยตู!!!
ผมขับรถเหมือนคนเบลอ..พยายามไม่ให้แม่รู้ว่าผมเครียดแค่ไหน เงินขนาดนั้น ต่อให้ขายบ้าน 4 หลังก็ยังไม่พออุดเลย
ว่าแต่ว่าเรามีบ้านแค่หลังเดียว...ผมเหม่อ ตื้อ มือ เท้า เหงื่อออกเต็มไปหมด รู้ตัวอีกที เราก็มาถึงแม่สายตอนฟ้าสาง
ผมหาอินเตอร์เน็ตเพื่อดูไฟล์การเงินที่ลูกน้องเมล์มาให้...ยังพอมีทางออก....