NimitGuitar webboard

Full Version: ถาม ครับ takamine กับ the eagles
You're currently viewing a stripped down version of our content. View the full version with proper formatting.
Pages: 1 2 3
ใด้ฟัง the eagles acoustic บ่อย บ่อย ก็นึกถึง takamine อยากถาม อยากรู้เกี่ยวกับ eagles ครับ น้าน้า พี่ พี่ และ อาจาร คงรู้มากก่าวผมแน่ครับ
อยากทราบข้อมูล The Eagles และข้อมูล Takamine รวมถึงความเป็นมา การที่ The Eagles เป็น presenter ให้ Takamine ใช่มั้ยครับ

ถ้าใช้ก็อยากทราบเหมือนกันครับ อิ ๆ
ถ้าน้า หนุ่มยังให้คำตอบไม่ได้ ก็ต้องรอผู้อวุโสอีก มาตอบคับ เด๋วก็มาแป๊บนึง
เข้ามาช่วยตีโจทย์ให้น้าเค้าอ่ะครับ อยากฟังคำตอบน้าซ่าส์จังเลย... อิ ๆ
กำลังตีโจทย์อยู่อ่ะครับBig Grin
(12-09-2008, 12:00)SARUN Wrote: [ -> ]กำลังตีโจทย์อยู่อ่ะครับBig Grin

ดีนะที่ไม่ได้กำลังตีโจทก์ มิฉะนั้น
ขึ้นศาลแพ้คดีแน่นอน
ขอเล่าประวัติเลยแล้วกัน ถ้าเล่ารายละเอียดผิดเดี๋ยวค่อยแก้นะครับเนื่องจาก
หนังสืออยู่ที่บ้าน

คนที่เอากีต้าร์ Takamine มาเผยแพร่จนโด่งดังไปทั่วอเมริกานั้นคือ Ry Cooder
ครับ ในปี 1980 Ry Cooder ใด้รับเชิญชมโรงงาน Takamine และเขาใด้เอา
กีต้าร์ตัวโปรดของเขาที่สร้างโดย luthier ชื่อ Lloyd Baggs ติดตัวไปด้วย ทาง
โรงงาน Takamine เลยขอก้อปไว้และอีกสามเดือนต่อมาก็ส่งกีต้าร์ Takamine
ที่หน้าตาและโครงสร้างเหมือนตัว Lloyd Baggs ยังกับแกะแต่ติด Palathetic
pickup ของ Takamine มาให้

Ry Cooder เลยเอากีต้าร์มาอวดไปทั่ว ตา Lloyd เขาเล่าเรื่องว่าอย่างนี้ครับ

"It was during the recording of Ry Cooder's "Bop Till You Drop" album that the L.R. Baggs transducer pickup was inspired. There in the recording studio was an exact Takamine copy of the guitar Lloyd had built for Ry, with a transducer pickup system. After recovering from the shock of seeing an exact copy of his instrument (as an aside, the current Takamine headstock is the headstock that Lloyd designed for his handmade instruments), Lloyd became intrigued with the wonderful possibilities of the piezo ceramic transducer pickup for the acoustic guitar. "

ตา Lloyd Baggs แกเลยตั้งหน้าตั้งตาก้อป pickup ปิ้คอัพของ Takamine มาทำขายมั่งจนมีชื่อเสียงโด่งดังในปัจจุบัน (LR Baggs) ฝ่ายญี่ปุ่นก็ไม่ว่าอะไรเพราะไม่
ใด้ทำปิ้คอัพขายแยกอยู่แล้วแต่ขอก้อป head stock ของกีต้าร์ Lloyd Baggs
ไปใช้บ้างจนถึงทุกวันนี้

ตอนนั้นตา Lloyd แกเลยเลิกทำกีต้าร์ขายแล้วบอกให้ลูกค้าไปซื้อ Takamine
มาเล่นดีกว่าเพราะเสียงก็ครือๆกันแหละ ลูกค้าดังๆของแกตอนนั้นก็มีหลายคน
อย่าง Jackson Browne, Janis Ian เป็นต้น

Takamine เลยโด่งดังเป็นพลุแตกในยุค '80s เพราะศิลปิน rock หลายคนเช่น
Bruce Springsteen, Glenn Frey, Jon Bon Jovi ใช้แต่ยี่ห้อนี้กัน เมื่อตอน
The Eagles เอามาออกคอนเสริตนั้นก็ใช้รุ่นต่อไปนี้ครับ

EC-132SC (nylon), EF-381SC(12 strings), EF-341SC

รุ่นพวกนี้เป็นรุ่นส่งออกที่ไม่มีขายในญี่ปุ่นนะครับ เคล็ดลับสำคัญที่ทำให้ Takamine ดังขึ้นมาใด้เดี๋ยวค่อยเล่าต่อครับเพราะยิ่งพิมพ์ยาวมันยิ่งช้า
โอววว ขอบคุณข้อมูลน้า pood ครับ ไม่น่าเชื่อว่า Takamine มีอะไรเกี่ยวข้องกันกับ L.R. Baggs ขนานนั้น เหลือเชื่อจริง ๆ


แล้ว head stock ที่ผมแอบชื่นชมมานานว่ามีความเป็นเอเซียมาก ๆ ของ Takamine มันกำเนิดจากตะวันตก !!!


แต่ที่ผมไม่แปลกใจเลยคือ Takamine Pickup ที่มีความเสถียรภาพมาก ขนาด L.R. Baggs นำไปต่อยอดจนดังไปทั่วโลก เพราะผมชอบ Takamine Preamp & Pickup มากครับ

เอาแค่รุ่น CT4B-II ก็เยี่ยมมาก ๆ แล้ว

รออ่านต่อนะครับ ขอบคุณล่วงหน้าซะเลย อิ ๆ
Lloyd Baggs มาตอบแทนบุญคุณ Takamine ในปี 2004 โดยการผลิตปิ้คอัพ
Takamine Triax ให้ซึ่งเป็น pickup ของ Takamine รุ่นเดียวที่ผลิตในอเมริกา

เคล็ดลับที่ทำให้ Takamine สามารถครองตลาด rock ใด้นอกจากระบบปิ้คอัพที่
เหนือชั้นแล้วก็คือการก้อปคอมาจาก Gibson Les Paul เลยทำให้คนที่เล่นกีต้าร์
ไฟฟ้าเป็นหลักเล่นใด้สบายมือ คำขวัญของ Takamine ในยุคนั้นก็คือ

"Think Acoustic, Live Electric."

สมัยนั้นระบบปรีแอมป์ของ Takamine ดังมากจนศิลปินอย่าง Ricky Scaggs เอา
Martin D-28 Prewar ไปเจาะข้างใส่ปรีของ Takamine เพื่อเอาไปออกคอนเสิรต
ผมว่าตานี่คงยังเสียใจไม่หายมาถึงทุกวันนี้แน่ๆเลย

หลายคนคงสงสัยว่าตอนนั้น Ovation ซึ่งเป็นผู้ค้นคิด acoustic-electric guitar
มัวไปทำอะไรอยู่ถึงใด้ปล่อยให้ Takamine ครองตลาดใด้ คำตอบก็คือ Kaman
Music ก็มัวแต่นั่งนับสตางค์เพลินอยู่ครับเพราะเขาเป็นผู้จัดจำหน่ายในอเมริกา
ส่วน Ovation เองพอหมดยุค Folk boom ในปลายยุค '70s ก็เริ่มแผ่วแล้วหลังจากที่เคยครองยอดขายเป็นอันดับหนึ่งมาตลอดยุค 70s ในอเมริกา

พอมาถึงยุค acoustic revival ซึ่งมี MTV Unplugged เป็นตัวจุดประกายในปี 1989 Takamine ก็เลยดังระเบิด(แต่ตอนนั้น Ovation ไม่มีใครใช้ในคอนเสิร์ต
เลยปลุกไม่ขึ้นครับ)
น้าๆที่อายุยังน้อยคงไม่รู้ว่า Ovation เคยดังแค่ไหนในยุคโน้น ลองดูจากตัวเลขการผลิตของ US Ovation เทียบกับ Martin ที่ผมบวกลบจาก serial number
ใด้เลยครับ

ยอดการผลิต

1975...Martin = 18411 ตัว, Ovation = 28000 ตัว

1981...Martin = 6174, Ovation = 48649 (Adamas =997)

1991...Martin = 9178, Ovation = 9680 (adamas = 736)

1997...Martin = 31869, Ovation = 9678 (Adamas = 571)

2003... Martin = 61947, Ovation = 7770 (Adamas = 761)

หลังจากปี 2003 ผมไม่มีตัวเลขของกีต้าร์เต่าครับ

ที่ผมยกตัวเลขมาให้ดูเพราะผมคิดว่าการที่ Kaman ช่วยพัฒนาและโปรโมท
Takamine อย่างไม่ลืมหูลืมตาก็เป็นสาเหตูหลักที่ทำให้ต้องขายกิจการของ
ตัวเองให้ Fender เมื่อต้นปีนี้ Ovation เคยมียอดขายมากกว่า Martin ถึงแปด
เท่าในปี 1981 แต่ไม่เคยแตะหลักหมื่นอีกเลยตั้งแต่ปี 1991

Kaman คิดอะไรอยู่ไม่ทราบที่ไปโปรโมท Takamine ที่ตัวเองถือหุ้นอยู่แค่ 25%
แต่กลับไม่มีการพัฒนาและโปรโมท Ovation ที่ถือหุ้นอยู่ 100% ในที่สุดสินค้าหลักก็เลยโดนสินค้ารองแย่งตลาดหมดจนต้องขายหุ้นให้ Fender ในราคาถูก
เหมือนใด้เปล่า(4 ล้านเหรียญ)
ยิ่งอ่านยิ่งสนุกครับ .. ได้ความรู้อย่างมากเลย.. เอาอีกครับ..น้าpood รออ่านอยู่../ Moowan
Pages: 1 2 3