NimitGuitar webboard

Full Version: ความแตกต่างของ D41 กับ HD28 มีอะไรบ้างครับ
You're currently viewing a stripped down version of our content. View the full version with proper formatting.
Pages: 1 2 3 4 5 6 7
.::.pOoH.::. Wrote:ทุกวันนี้นอกจากเสียงดีแล้ว ผมเลือกกีตาร์ "เล่นแล้วสบาย" ด้วยครับ เพราะถ้าเล่นแล้วไม่สบาย เสียงดีแค่ไหน มันก็ไม่ดัง เพราะมันไม่โดนหยิบมาเล่น!!

นอกเสียจากว่า จะเริ่มสะสมความสุขโดยการสะสมกีตาร์ Smile

หนับหนุนน้าปุ๊อีกแรง ผมเคยมีประสบการณ์ซื้อกีตาร์แล้วไม่ได้ลองเล่นอยู่ 1 ครั้งครับ ผลปรากฏว่าได้มาแล้วเสียงเค้าดีมากครับ แต่เล่นไม่เข้ามือ กล่าวคือ เล่นแล้วเมื่อย เล่นแล้วเกร็ง ยิ่งเล่นยิ่งเครียด สุดท้ายต้องขายกีตาร์ตัวนั้นไป หลังจากนั้นเวลาชอบกี่ตาร์ตัวไหนก็ไปลองให้แน่ใจว่า เข้ามือ หรือ ถนัดจริง ๆ แล้วค่อยตัดสินใจซื้อครับ กีตาร์ 2 ตัวต่างรุ่นกันนิดนึง คอก็อาจไม่เหมือนกันครับ
Therock Wrote:
Maow Wrote:กระผมได้ข่าวแบบที่พอจะกรองได้มาว่า น้ากิจจากำลังอยากตัวเบาโหวงโล่งสบายใช่ไหมครับ


เบาโหวง โล่งสบาย เหมือนใส่ผ้าอนามัย โซฟี ลอรีเอะ กันเลยทีเดียวครับน้าหม่าว อิอิ

ทำเป็นรู้ดี...... เมื่อไรจะมาราชบุรีอีกครับ จะพาไปคาวบอยอีกครั้ง เพื่อไปตอกย้ำความรู้สึกดี ๆ เช่นวันก่อนอีกไงครับ
Kitja Wrote:
.::.pOoH.::. Wrote:ทุกวันนี้นอกจากเสียงดีแล้ว ผมเลือกกีตาร์ "เล่นแล้วสบาย" ด้วยครับ เพราะถ้าเล่นแล้วไม่สบาย เสียงดีแค่ไหน มันก็ไม่ดัง เพราะมันไม่โดนหยิบมาเล่น!!

นอกเสียจากว่า จะเริ่มสะสมความสุขโดยการสะสมกีตาร์ Smile

หนับหนุนน้าปุ๊อีกแรง ผมเคยมีประสบการณ์ซื้อกีตาร์แล้วไม่ได้ลองเล่นอยู่ 1 ครั้งครับ ผลปรากฏว่าได้มาแล้วเสียงเค้าดีมากครับ แต่เล่นไม่เข้ามือ กล่าวคือ เล่นแล้วเมื่อย เล่นแล้วเกร็ง ยิ่งเล่นยิ่งเครียด สุดท้ายต้องขายกีตาร์ตัวนั้นไป หลังจากนั้นเวลาชอบกี่ตาร์ตัวไหนก็ไปลองให้แน่ใจว่า เข้ามือ หรือ ถนัดจริง ๆ แล้วค่อยตัดสินใจซื้อครับ กีตาร์ 2 ตัวต่างรุ่นกันนิดนึง คอก็อาจไม่เหมือนกันครับ

ผมมี AN10 Takamine อยู่ตัวนึง ผมว่าเสียงเค้าหวานใสดีมาก แต่คอมันอวบครับเล่นไม่ถนัดเลย
แต่พอเล่น Yamaha CPX-700 เสียงด้อยกว่าแต่กลับจับสบายถนัดมือ เลยเล่นประจำเลยทีนี้

Matin เองผมก็ไม่แน่ใจนักว่าผมจะถนัดใหมนี่ เพราะที่เคยสัมผัสก็แค่แป๊ปๆเท่านั้น แต่ถึงจะแป๊บๆก็รู้สึกดี
ก็กะหวังพึ่งพิงพี่น้องบ้านฟ้านี่แหละครับ ถึงจะได้ลองแบบเจ๋งๆนานๆหน่อย อีกอย่าง Martin นี่มันอยู่ในฝัน
มานานแล้ว ก็คิดว่าคงถึงเวลาที่จะต้องไขว่คว้ามาเหมือนกลอน เห็นแก้วแวววับที่จับจิต...น่ะครับ
ส่วนตัวไม่คิดที่จะสะสมกีต้าร์เลยครับ แค่อยากมีไว้ 3-4 ตัวที่ชอบจัดๆ ผมก็เป็นสุขและพอเพียงแล้ว
Run Wrote:
Kitja Wrote:
.::.pOoH.::. Wrote:ทุกวันนี้นอกจากเสียงดีแล้ว ผมเลือกกีตาร์ "เล่นแล้วสบาย" ด้วยครับ เพราะถ้าเล่นแล้วไม่สบาย เสียงดีแค่ไหน มันก็ไม่ดัง เพราะมันไม่โดนหยิบมาเล่น!!

นอกเสียจากว่า จะเริ่มสะสมความสุขโดยการสะสมกีตาร์ Smile

หนับหนุนน้าปุ๊อีกแรง ผมเคยมีประสบการณ์ซื้อกีตาร์แล้วไม่ได้ลองเล่นอยู่ 1 ครั้งครับ ผลปรากฏว่าได้มาแล้วเสียงเค้าดีมากครับ แต่เล่นไม่เข้ามือ กล่าวคือ เล่นแล้วเมื่อย เล่นแล้วเกร็ง ยิ่งเล่นยิ่งเครียด สุดท้ายต้องขายกีตาร์ตัวนั้นไป หลังจากนั้นเวลาชอบกี่ตาร์ตัวไหนก็ไปลองให้แน่ใจว่า เข้ามือ หรือ ถนัดจริง ๆ แล้วค่อยตัดสินใจซื้อครับ กีตาร์ 2 ตัวต่างรุ่นกันนิดนึง คอก็อาจไม่เหมือนกันครับ

ผมมี AN10 Takamine อยู่ตัวนึง ผมว่าเสียงเค้าหวานใสดีมาก แต่คอมันอวบครับเล่นไม่ถนัดเลย
แต่พอเล่น Yamaha CPX-700 เสียงด้อยกว่าแต่กลับจับสบายถนัดมือ เลยเล่นประจำเลยทีนี้

Matin เองผมก็ไม่แน่ใจนักว่าผมจะถนัดใหมนี่ เพราะที่เคยสัมผัสก็แค่แป๊ปๆเท่านั้น แต่ถึงจะแป๊บๆก็รู้สึกดี
ก็กะหวังพึ่งพิงพี่น้องบ้านฟ้านี่แหละครับ ถึงจะได้ลองแบบเจ๋งๆนานๆหน่อย อีกอย่าง Martin นี่มันอยู่ในฝัน
มานานแล้ว ก็คิดว่าคงถึงเวลาที่จะต้องไขว่คว้ามาเหมือนกลอน เห็นแก้วแวววับที่จับจิต...น่ะครับ
ส่วนตัวไม่คิดที่จะสะสมกีต้าร์เลยครับ แค่อยากมีไว้ 3-4 ตัวที่ชอบจัดๆ ผมก็เป็นสุขและพอเพียงแล้ว


นั่นมันก็เริ่มจะเข้าขั้นสะสมแล้วหละครับ
ผมมี VCD เยี่ยมชมโรงงาน Martin ให้สัมภาษณ์โดยตา Chris ครับ

ชม.กว่าๆ ตอนนั้นดูแล้วหลอนมาก จนต้องคว้าเอา D-41 มาเชยชม

แต่ตอนนี้มีหนุ่มน้ำใจงามรับไปเชยชมตลอดไปแล้ว Smile

ขอเวลาหาแป๊บนะครับ ว่าไปซุกอยู่ที่ไหน แล้วจะ write ไว้ให้น้า Run ครับ Wink
น้าปูครับ ถ้าน้าปูกรุณาขอผมสักแผ่นได้ไหมครับ อยากได้เป็นแบบ VCD เก็บไว้ครับ
เพราะเคยดูแต่ในเวปมันไม่ค่อยประติดประต่อครับ
Smile ถ้าให้เลือกระหว่าง HD-28 กับ D-41 ผมเลือก D-41 นะครับ (ในความชอบส่วนตัวนะ)

เชื่อผมเถอะ มาตินน่ะ ลูกเล่้นเยอะ อะไรที่เขียนไว้ในเวปมันบอกไม่หมดครับ
Bracing บอกว่าเหมือน แต่เอาเข้าจริงๆ เอามือลูบดูรู้เลยว่ามันคนละแบบ
ยังมีลายละเอียดอื่นๆอีกมาที่ Martin ไม่ยอมบอก

แต่เวลาเล่นแล้วคุณจะบอกได้ว่ามันต่างกัน Smile
.::.pOoH.::. Wrote:ผมมี VCD เยี่ยมชมโรงงาน Martin ให้สัมภาษณ์โดยตา Chris ครับ

ชม.กว่าๆ ตอนนั้นดูแล้วหลอนมาก จนต้องคว้าเอา D-41 มาเชยชม

แต่ตอนนี้มีหนุ่มน้ำใจงามรับไปเชยชมตลอดไปแล้ว Smile

ขอเวลาหาแป๊บนะครับ ว่าไปซุกอยู่ที่ไหน แล้วจะ write ไว้ให้น้า Run ครับ Wink

ขอบคุณครับน้าปู หุ่นเท่ น้ำใจงาม หวังว่าผมจะฟังออกบ้างนะครับ แหะๆ..ไม่แน่ใจ
ถ้าไงวันเสาร์นี้ผมว่าจะไปเยี่ยมบ้านเต่านะครับ เผื่อเจอน้าปู
ถ้าเชื่อ Martin ความแตกต่างของรุ่นที่สูงกว่า D-28 ขึ้นไปนอกจากเครื่องประดับแล้วก็จะใด้
grade ของไม้ที่สูงขึ้นครับ Martin จะคัดเกรดตั้งแต่ 1-8 โดยเลือกจากความสวยงามเป็นหลักและไม่มีการ
ทำ tap tone

Chris Martin เคยบอกว่าเสียงมาตรฐานของกีต้าร์ Martin คือ Martin 28 series ครับ ใครที่ยอมจ่ายมากขึ้น
ก็จะใด้กีต้าร์ที่หรูหราขึ้นเท่านั้น Martin D-28 เคยเป็นรุ่นแพงสุดของยี่ห้อนี้อยู่ตั้ง 22 ปี(1943-1964) หลังจากที่เลิก
ผลิต D-45 ไปในปี 1942 และเริ่มผลิต D-35 ที่ตัวเลขสูงกว่าแต่ราคาขายพอฯกันในปี 1965

ตอนยุค 60's มีแฟน Martin และศิลปินหลายคนอยากใด้ D-45 แต่ไม่มีปัญญาซื้อรุ่น pre-war เพราะมีอยู่แค่ 72 ตัว
ในโลก(ผลิตทั้งหมด 91 ตัวแต่lสูญหายไป 19 ตัว) หลายคนเลยไปจ้างช่างแกะสลักที่ชื่อ Mike Longworth ให้เอาหอย
มาใส่ D-28 ให้หน้าตาเหมือน D-45 มาร์ตินก็เลยไปจ้างตานี่มาอยู่ด้วยและผลิต D-45 ออกมาขายตั้งแต่ปี 1968 และผลิต
D-41 ออกมาในปี 1969 เพื่อเอาใจคนเบี้ยน้อยแต่อยากใด้หอยเยอะๆ

ในประเทศไทยก็มีช่างแกะสลัก inlay คนนึงที่มีฝีมือไม่เป็นรอง Mike Longworth เลยครับ ช่างคนนี้ชื่ออะไรผมไม่ทราบ
รู้แต่ว่าอยู่ที่จังหวัดระยอง บางทีน้า run อาจหาตัวเจอ ช่างคนนี้ผมเคยเห็นผลงานของเขาแล้ว ขนาด Martin D-100 ยังทำใด้
เหมือนมากเลยครับ

ถ้าอยากใด้กีต้าร์ระดับโปรก็เล่น series 28 พอครับ ถ้าจะคบกับ D-41 ก็ควรลองเสียง D-42 ของน้าโจ๊กก่อนด้วย
pood Wrote:ถ้าเชื่อ Martin ความแตกต่างของรุ่นที่สูงกว่า D-28 ขึ้นไปนอกจากเครื่องประดับแล้วก็จะใด้
grade ของไม้ที่สูงขึ้นครับ Martin จะคัดเกรดตั้งแต่ 1-8 โดยเลือกจากความสวยงามเป็นหลักและไม่มีการ
ทำ tap tone

Chris Martin เคยบอกว่าเสียงมาตรฐานของกีต้าร์ Martin คือ Martin 28 series ครับ ใครที่ยอมจ่ายมากขึ้น
ก็จะใด้กีต้าร์ที่หรูหราขึ้นเท่านั้น Martin D-28 เคยเป็นรุ่นแพงสุดของยี่ห้อนี้อยู่ตั้ง 22 ปี(1943-1964) หลังจากที่เลิก
ผลิต D-45 ไปในปี 1942 และเริ่มผลิต D-35 ที่ตัวเลขสูงกว่าแต่ราคาขายพอฯกันในปี 1965

ตอนยุค 60's มีแฟน Martin และศิลปินหลายคนอยากใด้ D-45 แต่ไม่มีปัญญาซื้อรุ่น pre-war เพราะมีอยู่แค่ 72 ตัว
ในโลก(ผลิตทั้งหมด 91 ตัวแต่lสูญหายไป 19 ตัว) หลายคนเลยไปจ้างช่างแกะสลักที่ชื่อ Mike Longworth ให้เอาหอย
มาใส่ D-28 ให้หน้าตาเหมือน D-45 มาร์ตินก็เลยไปจ้างตานี่มาอยู่ด้วยและผลิต D-45 ออกมาขายตั้งแต่ปี 1968 และผลิต
D-41 ออกมาในปี 1969 เพื่อเอาใจคนเบี้ยน้อยแต่อยากใด้หอยเยอะๆ

ในประเทศไทยก็มีช่างแกะสลัก inlay คนนึงที่มีฝีมือไม่เป็นรอง Mike Longworth เลยครับ ช่างคนนี้ชื่ออะไรผมไม่ทราบ
รู้แต่ว่าอยู่ที่จังหวัดระยอง บางทีน้า run อาจหาตัวเจอ ช่างคนนี้ผมเคยเห็นผลงานของเขาแล้ว ขนาด Martin D-100 ยังทำใด้
เหมือนมากเลยครับ

ถ้าอยากใด้กีต้าร์ระดับโปรก็เล่น series 28 พอครับ ถ้าจะคบกับ D-41 ก็ควรลองเสียง D-42 ของน้าโจ๊กก่อนด้วย

D-45V ปี 99 ของน้าปูดนี่เด็ดสุดแล้ว ทั้งเรื่องเสียง และความถนัดมือ รวมถึงสภาพกีตาร์ ได้ลองเล่นกีตาร์ตัวนี้ต้องนับเป็นบุญของผม ต้องขอขอบคุณน้าปูดเป็นอย่างสูงที่กรุณาให้สัมผัส ได้ลูบคลำจับต้องเจ้า D-45V เพราะน้าปูดรู้ว่าผมชอบมาร์ตินที่ซู้ดดดดด..
Pages: 1 2 3 4 5 6 7