Thread Rating:
  • 0 Vote(s) - 0 Average
  • 1
  • 2
  • 3
  • 4
  • 5
ตามล่า Takamine ในฝัน
Author Message
pood Offline
VIP member
******

Posts: 6,313
Likes Given: 13
Likes Received: 390 in 213 posts
Joined: 28 Aug 2007
Reputation: 77
#34
RE: ตามล่า Takamine ในฝัน
ยังมีหลายฯคนเข้าใจว่า Takamine เสียงเปล่าฯไม่ใด้เรื่องหรอก ผมก็เคยเป็นคนหนึ่งในจำนวนนั้น
Takamine ตัวแรกที่ทำให้ผมเปลี่ยนใจก็คือเจ้า TAN-16C Koa ที่เป็น all solid ที่ตอนนี้น้า Merlot
เป็นเจ้าของ ผมเลยสงสัยว่าทำไมอยู่ดีฯ Takamine ถึงใด้ทำกีต้าร์ all solid เสียงดีออกมาใด้ทั้งฯที่แต่
ใหนแต่ไรบริษัทนี้เขาเน้นแต่เรื่องเสียงเวลาออกแอมป์เท่านั้นและเน้นคอเล็กฯเอาใจพวกที่เล่นกีต้าร์ไฟฟ้า
แต่มันเล็กไปสำหรับคนที่เล่นแต่กีต้าร์โปร่ง ผมเลยลองค้นประวัติดูครับ

โรงงานของ Takamine ตั้งมาตั้งแต่ปี 1962 แต่ตอนแรกแค่รับจ้างผลิตกีต้าร์ให้คนอื่นเท่านั้น มาเริ่มทำกีต้าร์
คลาสสิคในป๊ 1968 ตอนที่ Mass Hirade เข้ามาคุมโรงงาน ตอนนั้นก็เลยเป็นโรงงาน Hirade ไปเลย

ในปี 1969 บริษัท Coast Wholesale ที่เป็นผู้จัดจำหน่ายกีต้าร์ Martin ในเอเชียก็ใด้ชวนให้ Martin ไปจ้าง
Hirade ผลิต Japanese Martin ในชื่อ Sigma Martin ทาง Martin ก็ส่งช่างและเครื่องไม้เครื่องมือไปสอน
จนใด้กีต้าร์เสียงดีไม่แพ้ของแท้หลังจากทำผิดทำถูกกันมาสองปีเต็ม

เป็นโชคร้ายของ Martin ที่บริษัท Coast Wholesale ถูก Kaman(Ovation) ซื้อกิจการไปในปี 1972 แผนการผลิต
Sigma เลยต้องถูกยกเลิกไปโดยปริยายและ Martin ต้องใช้เวลาอีกหกปีเพื่อหาโรงงานผลิตใหม่

ในปี 1974 บริษัท Kaman ก็ชวน Hirade ผลิตกีต้าร์ออกมาขายทั่วโลกโดยทาง Kamann จะเป็นผู้จัดจำหน่ายให้เอง
ยกเว้นในญี่ปุ่นประเทศเดียว ตอนนั้นเลยมีการปรึกษากันว่าจะใช้ชื่ออะไรดี เถียงกันไปเถียงกันมามีคนคนหนึ่งเหลือบไปมอง
ภูเขา Takamine หน้าโรงงานก็เลยตกลงกันใด้ว่าใช้ชื่อนี้ก็แล้วกัน

ในยุคนั้น Ovation ไม่ใด้สนใจว่า Takamine จะผลิตอะไรออกมาขายแต่ขอให้สวยและเสียงดีเป็นใช้ใด้ คราวนี้ก็สนุกซีครับ
เพราะ Takamine น่ะผลิตสายเหล็กเก่งเพราะ Martin เป็นคนสอนแถมยังทิ้งพวก mold ใว้ให้เพียบ พอปี 1975 Takamine
ก็เลยส่ง Martin Clone มาตีตลาดในอเมริกาแบบกระเจิดกระเจิงผ่าน network ของ Ovation ซึ่งยุคนั้นกำลังดังเป็นพลุ

หลังจากกระอักเลือดเพราะโดนคู่แข่งดัดหลังจนยอดขาย Martin หดหายไปเยอะ Martin เลยต้องขู่ว่าจะฟ้องละเมิดลิขสิทธ์
Takamine ยุคนั้นเลยใด้สมญานามว่า "Lawsuit Model" ถ้าอยากรู้ว่าเสียงดีแค่ใหนก็เชิญที่บ้านเต่าเลยครับเพราะมีอยู่หลายตัว
Ovation ตอนนั้นเลยต้องมาสอนให้ Takamine ผลิตกีต้าร์ electric-acoustic แทนจนโด่งดังไปทั่วโลก

แม้จะโดนบังคับให้ผลิตแต่โปร่งไฟฟ้าแต่หัวใจของตา Mass Hirade ก็ยังหลงไหลเสียง acoustic อยู่แถมยังไปซื้อไม้ดีฯมาตุนใว้เพียบ
เพราะเล็งเห็นว่าอีกสามสี่สิบปีมันคงจะหมดโลกแน่นอน พอดีในปี 1981 ตา George Lowden ไปเดินท่อมฯหาโรงงานมาผลิต Lowden
อยู่ในญี่ปุ่นพอดีแต่ Takamine ผลิตให้ไม่ใด้เพราะติดสัญญาอยู่กับ Kaman ก็เลยจ้างตา George เป็นที่ปรึกษาซะเลย ในยุค 80's จนถึง
ปัจจุบันกีต้าร์ Takamine เลยใด้รับไอเดียของ Lowden ไปหลายอย่างเช่น split-saddle และ pinless bridge เป็นต้น กีต้าร์โปร่งของ
Takamine ในยุคนั้นส่วนใหญ่จะขายเฉพาะในญี่ปุ่นครับ

พอมาถึงยุคตกต่ำของ Ovation ปลายยุค 80's จากกีต้าร์ที่เห็นใด้ทั่วไปบนเวทีใหญ่ฯในยุค 70's ทาง Kaman ก็เลยดัน Takamine เข้ามาแทนที่
และประสพความสำเร็จอย่างเกินคาด ในยุค 90's วงร้อคเกือบทุกวงใช้ Takamine ทั้งนั้นเพิ่งมาโดนตา Bob Taylor เบียดตกเวทีไปในยุคสองพันนี่เอง
ตอนนี้ก็ยังมี rock stars ดังฯใช้กันอยู่หลายคนอย่างเช่น Jon Bon Jovi, Glen Frey และ Bruce Springsteen เป็นต้น

ในปี 2003 Takamine ก็ตัดสินใจหันมาเอาดีทางกีต้าร์โปร่งอีกครั้งโดยเริ่มต้นด้วยการจ้างฝรั่งมาเป็น product managers สองคน Takamine all solid ตัว
แรกที่ขายทั่วโลกคือ 2005 LTD (2006, 07, 08 LTD's ไม่ใช่ all solid นะครับ)


[Image: ltd2005lgsw8.jpg]


ตอนนี้ผมตามล่าหา "Takamine ปลอม" ที่เป็น all soild มาใด้สี่ตัวจาก
สี่ประเทศแล้วครับคือ

TAN-16C Koa(2006) ทรง D solid koa(ขายไปแล้ว)
2005 Limited Edition ทรง OM solid mahogany
EF-450SM(2005) ทรง NEX solid flamed maple
EF-75J number 44 ทรง OM solid brazilian rosewood

และจะยังตามล่าต่อไป
(This post was last modified: 09-06-2009, 13:21 by pood.)
25-01-2008, 13:24
Find Like Post Reply


Messages In This Thread
RE: ตามล่า Takamine ในฝัน - by pood - 25-01-2008, 13:24

Forum Jump:


Users browsing this thread: 1 Guest(s)

Contact Us | NimitGuitar | Return to Top | | Lite (Archive) Mode | RSS Syndication