Thread Rating:
  • 1 Vote(s) - 5 Average
  • 1
  • 2
  • 3
  • 4
  • 5
Story of an old man from long ago and far away
Author Message
Maew Offline
Senior member
****

Posts: 470
Likes Given: 0
Likes Received: 0 in 0 posts
Joined: 03 Feb 2009
Reputation: 26
#46
RE: Story of an old man from long ago and far away
เยี่ยมเลยครับ มีภาพประกอบด้วย

แปลก่อนนะครับ
------------------------
(09-05-2009, 04:08)napman Wrote: Hi all,
It's me "The ghost from the past" 5555555
P.S. This is the only picture that I had with "THANKS" as I know of, given to me by my dearest friend from Thammasat, she cut it from the newspaper when "THANKS" was interviewed back in early 70s and saved it for me after all those years.

Notice how I dress? All black, black T-shirt, black jeans, and black slippers that made from tires. It's my "uniform" no matter where I played and amazingly my bandmates never complained about it! Thanks to them.

นี่ผมเอง "ผีจากอดีต" 5555555
ปล. นี่เป็นภาพถ่ายภาพเดียวที่ผมมีกับวง "Thanks" เท่าที่ผมทราบ, ผมได้รับภาพนี้จากเพื่อนรักของผมที่ธรรมศาสตร์ เธอตัดมาจากหนังสือพิมพ์เมื่อตอนที่ "Thanks" ถูกสัมภาษณ์ในช่วงต้นยุค 70 และเก็บรักษาไว้ให้ผมหลังจากผ่านไปหลายปี
สังเกตมั๊ยครับว่า ผมแต่งตัวยังไง? ดำทั้งตัว, เสื้อยืดดำ, ยีนส์ดำ, และรองเท้าแตะดำที่ทำจากยางรถยนต์ มันเป็น"เครื่องแบบ"ของผมไม่ว่าผมจะไปเล่นที่ไหน และน่าทึ่งมากที่เพื่อนร่วมวงของผมไม่เคยท้วงติงอะไรเลย! ขอขอบคุณพวกเขาด้วยครับ

Nap "Thanks"
dejemerry Wrote:วงของน้าได้เล่นเพลงไทยด้วยในบางครั้งรึป่าวคะ

Hi Dej,
No we never did,Sad
just didn't know how to, besides "The Impossible" was the king of Thai songs in that era.Cool

ไม่ครับ พวกเราไม่เคยเล่น
พวกเราเล่นไม่เป็น นอกจากนั้น "ดิ อิมพอสสิเบิ้ล" เป็นราชาเพลงไทยในช่วงเวลานั้น

Now 40 years later!!

Photobucket

And here with friend (Ben) few months ago!! in action.
Photobucket

Here's the live jamming with Nana on guitar, I on bass, and 2 American friends Russ and TJ on another guitar and Roland E drum. No rehearsal needed, Nana lead and we all tagged along 5555
นี่เป็นการแจมสดร่วมกับณ นะที่เล่นกีต้าร์, ผมเล่นเบส, และเพื่อนอเมริกันอีกสองคน, Russ และ TJ , ที่เล่นกีต้าร์กับกลองไฟฟ้า Roland ไม่จำเป็นต้องซ้อมใหญ่อะไรเลย ณนะ นำและพวกเราก็เกาะตามเค้าไป 5555



This one particularly for Maew,
The hike up to Yosemite fall summit in 2005, we couldn't get up to Half Dome that year because it's rained and snowed so much. We had to change plan and took a short 3 hrs but steeper hike up to Yosemite fall summit in rain/snow.
I took the picture of my 2 Thai friends on the way up, want to go????

อันนี้สำหรับน้าแมวโดยเฉพาะ,
ทางขึ้นเขาสู่ยอดน้ำตกYosemite ในปี 2005 พวกเราไม่สามารถขึ้นไปที่ Half Dome ในปีนั้นได้ เพราะฝนและหิมะตกหนักมาก เราจำต้องเปลี่ยนแผนและใช้เส้นทางที่ใช้เวลาแค่ 3 ชม.แต่ชันกว่า ขึ้นสู่ยอดน้ำตก Yosemite ท่ามกลางสายฝนและหิมะ
ผมถ่ายรูปนี้กับเพื่อนคนไทยอีกสองคนระหว่างทางขึ้นไป อยากจะไปไหมล่ะ????


Photobucket

And 2 last but not least for Maew,
This is me at Lone Pine lake up at 9,000 feet elevation on the 1/4 way up to Whitney summit. In 2005. Over the horizon is the descending trail down to the portal

และสองรูปท้ายสุด แต่ไม่ได้(สำคัญ)น้อยสุด สำหรับน้าแมว
นี่เป็นภาพผมที่ทะเลสาบ Lone Pine ที่ความสูง 9000 ฟุต เป็นระยะทาง 1/4 ของทางขึ้นยอดเขา Whitney ในปี 2005 เหนือเส้นขอบฟ้าคือเส้นทางเดินลงเขาสู่ทางเข้า

Photobucket

Here's closer to home, only 1 hr drive away, the highest peak in Southern California, San Gorgonio in Mentone.
With my young American friends, this one has a fun story to be told, Got lost overnight and the search went on for us, (3 of us and another 7 of the other group of hikers), JUST PLAIN FUN to me but not for the others !!!!

อันนี้ใกล้บ้านขึ้นมาหน่อย ขับรถแค่ชม.เดียว, ยอดเขาที่สูงที่สุดในแคลิฟอร์เนียใต้, San Gorgonio ใน Mentone
ผมไปกับเพื่อนๆหนุ่มอเมริกัน ทริปนี้มีเรื่องสนุกๆมาเล่าด้วยครับ
เราหลงทางกันทั้งคืน ต้องงมหาทางกันไปเรื่อยๆ (พวกเราสามคน และ ทีมนักปีนเขาอีกทีมหนึ่งที่มี 7 คน) สำหรับผม มันสนุกสุดๆ แต่คงจะไม่เป็นอย่างงั้นสำหรับคนอื่นๆ

Photobucket
--------

น้าnap ครับ
ไม่ลังเลเลยครับ อยากไปแน่นอน แต่ดูท่าทางต้องฟิตพอตัวทีเดียวนะครับ
น้าnap แข็งแรงมากๆ สมกับเป็นนักกีฬาเก่า และยังดูหนุ่มมากๆ
คุณพ่อผมก็อายุรุ่นราวคราวเดียวกับน้าnap แต่ไม่มีทางไปลุยแบบนี้ได้แน่ๆ
นับถือครับ
ผมไม่เคยไป hiking แบบลำบากๆอย่างที่น้าnap ไปเลยครับ เคยไปก็แต่ทางที่เค้าราดยางให้เดินง่ายๆ
เห็นแล้วน่าสนุกจริงๆ
ผมเคยอ่านเรื่องของนักเขียนดัง ชาวญี่ปุ่นคนหนึ่ง ชื่อ มุราคามิ เค้าเป็นคนที่ชอบวิ่งมาราธอนมาก
เค้าบอกว่า ระหว่างที่วิ่งทุกครั้งเค้ารู้สึกเหนื่อยมากๆ ทรมานมากๆจนไม่อยากจะวิ่งต่อ คิดถึงที่นอนสบายๆ เบียร์เย็นๆ แต่เค้าต้องการสัมผัสความสำเร็จหลังจากที่ถึงจุดหมาย และมันเป็นความรู้สึกที่ดีทุกครั้งที่ทำได้
ผมไม่แน่ใจว่า มันเป็นเรื่องดีหรือเปล่ากับแนวคิดแบบนี้ เพราะผมมักจะคิดว่า การจะไปถึงจุดหมายอะไรก็ตาม ระหว่างทางที่เดินไปก็ควรจะมีความสุขกับมันไปด้วย แต่คิดในอีกแง่หนึ่งการกัดฟันสู้กับความยากลำบากจนแทบจะเกินกำลังร่างกายและจิตใจ ก็เป็นการฝึกให้ตัวเราเองพัฒนา และมันเป็นเคล็ดลับสู่ความสำเร็จของหลายๆคน
ผมเลยสรุปว่า มันก็คงต้องมีช่วงเวลาทั้งสองอย่างที่คละเคล้ากันไปในเส้นทางที่เราเลือกเดิน

น้าnap รู้สึกยังไงบ้างครับ ในระหว่างทางที่เดิน และ เมื่อไปถึงยอดเขา

แล้วน้าไม่สนใจลองปีน everest ดูเหรอครับ ผมเพิ่งอ่านเจอเร็วๆนี้ว่ามีคนไทยปีนขึ้นไปสำเร็จเป็นคนแรก
แต่คนที่อายุมากที่สุดในโลกที่พิชิต everest ได้อายุ 69 ปี น้าnap อาจจะทำลายสถิติโลกก็ได้นะครับ
" Remember happiness doesn't depend upon who you are or what you have; it depends solely on what you think. "
- Dale Carnegie
09-05-2009, 11:19
Find Like Post Reply


Messages In This Thread
RE: Story of an old man from long ago and far away - by Maew - 09-05-2009, 11:19

Forum Jump:


Users browsing this thread: 1 Guest(s)

Contact Us | NimitGuitar | Return to Top | | Lite (Archive) Mode | RSS Syndication