Thread Rating:
  • 0 Vote(s) - 0 Average
  • 1
  • 2
  • 3
  • 4
  • 5
Simple man
Author Message
napman Offline
VIP member
******

Posts: 2,118
Likes Given: 91
Likes Received: 58 in 41 posts
Joined: 27 Apr 2009
Reputation: 45
#1
Simple man

ข้อคิดดี ๆ จากชายที่จากไป
แง่คิดดีๆ จากชายชราผู้จากไป โดย พิษณุ นิลกลัด

สัปดาห์ สุดท้ายของปี 2548
ผมไปงานสวดและงานเผาศพผู้ชายวัย 81 ปีที่ผมรู้จักเขามายาว นาน 30 ปี
ไม่ใช่ญาติ แต่สนิทกันรักใคร่เสมือนญาติ

ก่อนเสียชีวิตไม่กี่วันเขาสั่งลูกและภรรยาแบบคนไม่ครั่นคร้ามความตายว่า
สวด 3 วันแล้วเผา ไม่ต้องบอกใครให้วุ่นวาย
อย่าเศร้า
อย่าร้องไห้
ทุกคนต้องมีวันนี้
เพียงแต่เขาอยู่หัวแถวเลยต้องไปก่อน
แล้วลูกเมียก็ทำตามคำสั่ง สวด 3 วันเผา
งานสวด 3 คืน มีคนฟังพระสวดคืนละ 14 คน
คือเมีย ลูก หลาน เขย สะใภ้ และผม ซึ่งเป็นคนนอก
เป็นงานศพที่มีคนไปร่วมงานน้อยที่สุดเท่าที่ผมเคยไปฟังสวด

วันเผามีเพิ่มเป็น 17 คน
สามคนที่เพิ่มเป็นเพื่อนบ้านที่เคยคุยด้วยเกือบทุกเย็น
คนหนึ่งเป็นแม่ค้าล็อตเตอรี่ที่เคยยืมเงินแล้วไม่มีสตังค์จ่าย
เลยเอาล็อตเตอรี่ทยอยผ่อนใช้หนี้แทนเงินงวดละสองใบคนหนึ่ง
และคนสุดท้ายเป็นหญิงที่ผู้ตายเคยผูกปิ่นโตทุกมื้อเย็น
ทั้งสามคนบอกว่าเกือบมาไม่ทันเผา
เคราะห์ดีที่แวะไปเยี่ยมที่โรงพยาบาล
เจ้าหน้าที่บอกว่าเสียชีวิตไปแล้ว 3 วัน

หลังฌาปนกิจ พระกระซิบถามเจ้าหน้าที่วัดว่า เจ้าของงานจ่ายเงินค่าศาลาสวดพระอภิธรรมแล้วหรือยัง
พระท่านคงไม่เคยเห็นงานศพที่มีคนน้อยแบบที่ผมก็รู้สึกตั้งแต่สวดคืนแรก

จริงๆ แล้วผู้ตายเป็นคนค่อนข้างมีสตังค์
ทำงานธนาคารแห่งประเทศไทยจนเกษียณอายุที่ ตำแหน่ง หัวหน้าหน่วย
แต่ด้วยความที่รักและศรัทธา อาจารย์ป๋วย อึ๊งภากรณ์


อดีตผู้ว่าการแบงค์ชาติ
จึงดำเนินชีวิตแบบไม่ปรารถนาให้ใครเดือนร้อน - แม้กระทั่งวันตาย

ผมสนิทกับเขาเพราะเขามีความฝันในวัยเด็กอยากเป็นนักประพันธ์แบบไม้เมืองเดิม
ที่เขาเคยนั่งเหลาดินสอและวิ่งซื้อโอเลี้ยงให้
เมื่อตัวเองเป็นนักเขียนไม่ได้ พอมาเจอะผมที่เป็นนักข่าวก็เลยถูกชะตาและให้ความเมตตา
การมีโอกาสได้พูดได้คุยกับเขาตามวาระโอกาสตลอด 30 ปี
ทำให้ได้แง่คิดดีๆ มาใช้ในการดำรงชีวิต

วันหนึ่งเขารู้ว่าขโมยยกชุดกอล์ฟของผมไปสองชุดราคา 4 แสนกว่าบาท
เขาปลอบใจผมว่า ของที่หายเป็นของฟุ่มเฟือยของเรา
แต่มันอาจเป็นของจำเป็นสำหรับลูกเมียครอบครัวเขา
คิดซะว่าได้ทำบุญจะได้ไม่ทุกข์

เขามีวิธีคิด ' เท่ๆ ' แบบผมคิดไม่ได้มากมาย เป็นต้นว่า
สุขและทุกข์อยู่รอบตัวเรา
อยู่ที่ว่าเราจะเลือกหยิบเลือกคว้าอะไร
คงเป็นเพราะเขาเลือกคว้าแต่ความสุข
ช่วงปีสุดท้ายของชีวิตเขาต่อสู้กับโรคชรา
เบาหวาน หัวใจ ความดัน เกาต์
และไตทำงานเพียง 5 เปอร์เซ็นต์โดยไม่ปริปากบ่น
แถมยังสามารถให้ลูกชายขับรถพาเที่ยวในวัน หยุดสุดสัปดาห์
โดยที่ตัวเองต้องหิ้วถุงปัสสาวะไป ด้วยตลอดเวลา
เนื่องจากไตไม่ทำงาน ปัสสาวะเองไม่ได้
6 เดือนสุดท้ายของชีวิตต้องนอนโรงพยาบาลสามวันนอนบ้านสี่วันสลับกันไป เวลาลูกหลาน หรือเพื่อนของลูก รวมทั้งผมด้วยไปเยี่ยมที่โรงพยาบาล เขามีแรงพูดติดต่อกันไม่เกิน 10 นาที แต่ 10 นาทีที่พูด มีแต่เรื่องสนุกสนาน เรียกรอยยิ้มและเสียงหัวเราะจากคนไปเยี่ยมไข้ ทุกคนพูดตรงกันว่า
' คุณตาไม่เห็นเหมือนคนป่วยเลย ตลกเหมือนเดิม ' พอแขกกลับ ลูกหลานถามว่าทำไมคุยแต่เรื่องตลก เขาตอบว่า

' ถ้าคุยแต่เรื่องเจ็บป่วย วันหลังใครเขาจะอยากมาเยี่ยมอีก ' เขาเป็นคนชอบคุยกับผู้คนไม่ว่าจะอยู่บนเตียงคนไข้หรืออยู่บนรถแท็กซี่ บ่อยครั้งที่นั่งรถถึงหน้าบ้านแล้ว แต่สั่งให้โชเฟอร์ขับวนรอบหมู่บ้านเพราะยังคุยไม่จบเรื่อง
แล้วจ่ายเงินตามมิเตอร์ ! 4 เดือนสุดท้ายของชีวิต แพทย์ที่รักษาโรคไตมาตั้งแต่สมัยเป็นแพทย์อินเทิร์น จนกระทั่งเป็นหัวหน้าแผนกแนะนำให้พักรักษาตัวในโรงพยาบาลให้แข็งแรง
แล้วค่อยกลับบ้าน
แต่อยู่ได้ 4 วัน เขาวิงวอนหมอว่า ขอกลับบ้าน หมอซึ่งรักษากันมา 16 ปีไม่ยอม เขาพูดกับหมอด้วยความสุภาพว่า
' ขอให้ผมกลับบ้านเถอะ ผมอยากฟังเสียงนกร้อง ' ' คุณหมอไม่รู้หรอกว่า คนคิดถึงบ้านมันเป็นอย่างไร เพราะพอเสร็จงานหมอก็กลับบ้าน '
หมอได้ฟังแล้วหมดทางสู้ ยอมให้คนไข้กลับบ้าน แต่กำชับให้มาตรวจตรงตามเวลานัดทุกครั้ง 1 เดือนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต เขาสูญเสียการควบคุมอวัยวะของร่างกายเกือบทั้งหมด เคลื่อนไหวได้อย่างเดียว คือกะพริบตา แต่แพทย์บอกว่า สมองของเขายังดีมาก เวลาลูกเมียพูดคุยด้วยต้องบอกว่า
' ถ้าได้ยินพ่อกะพริบตาสองที ' เขากะพริบตาสองทีทุกครั้ง ! เห็นแล้วทั้งดีใจและใจหาย เขายังรับรู้ แต่พูดไม่ได้ นี่กระมังที่เรียกว่า ถูกขังในร่างของตนเอง สิบวันก่อนพลัดพราก ภรรยากระซิบข้างหูว่า
' พ่อสู้นะ ' เขาไม่กะพริบตาซะแล้ว ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้สองเดือนเคยตอบว่า ' สู้ ' เขาสู้กับสารพัดโรคด้วยความเข้าใจโรค สู้ชนิดที่หมอออกปากว่า
' คุณลุงแกสู้จริงๆ ' ตอนที่วางดอกไม้จันทน์ ผมนึกถึงประโยคที่แกพูดกับลูกเมื่อสี่เดือนก่อนว่า

' โรคภัยมันเอาร่างกายของพ่อไปแล้ว
อย่าให้มันเอาใจของเราไปด้วย ' ' แง่คิดดีๆ จากชายชราที่จากไป ' สอนให้เรารู้ว่า...
เราเกิดมาพร้อมกับจิตใจบริสุทธิ์
และมันสมองมหัศจรรย์
ที่จะสามารถเรียนรู้
แยกแยะเรื่องดีๆ และสิ่งร้ายๆ ในชีวิต
จงใช้โอกาสดีๆ ที่ร่างกายและจิตใจของเรา
ยังทำอะไรๆ ได้อย่างที่สมองสั่ง

จงเรียนรู้ และสร้างประโยชน์สุข
ให้กับตนเองและผู้อื่นอย่างพอเพียง
และดำรงชีวิตอย่างพอเพียงทางเศรษฐกิจ!

หากทุกๆ ครั้งที่เรียนรู้ เราล้ม
เราพลาดอาจจะรู้สึกท้อบ้างในบางที
แม้ไม่มีกำลังกายที่จะลุกในทันที.. แต่ขอให้มีกำลังใจที่จะสู้ต่อไป
ถ้าเราเรียนรู้... ก็จะทำให้เราพบว่า
การล้มหรือพลาดครั้งต่อไป เราจะไม่เจ็บเท่าเดิม


ความดีก็เหมือนกางเกงใน ต้องมีติดตัวไว้แต่ไม่ต้องเอามาโชว์




[A friendship needs a little mulch of contacts every so often-just to save it from drying out completely.

I always have great pleasure being alone by myself to play, If you're playing for any other reason, it won't last.
http://youtu.be/_tkGVGOKQ8c
29-09-2011, 21:46
Website Find Like Post Reply
lekleklek Offline
VIP rachada member
******

Posts: 1,906
Likes Given: 50
Likes Received: 24 in 20 posts
Joined: 16 Sep 2007
Reputation: 23
#2
RE: Simple man
สุดยอดครับ

โดยเฉพาะวรรคสุดท้าย ชอบมากครับ ปรัชญาประจำตัวผมเลย
29-09-2011, 23:54
Find Like Post Reply
piggyprince Offline
VIP member
******

Posts: 1,671
Likes Given: 31
Likes Received: 46 in 30 posts
Joined: 17 May 2010
Reputation: 9
#3
RE: Simple man
อ่านแล้วซึ้งใจมากๆครับ
ให้ข้อคิดมากๆ ขอบคุณลุงNapมากๆครับ
I love singing&playing guitar.
I love photography.
http://www.facebook.com/greenmade.cafe
Instagram: greenmadecafe

30-09-2011, 07:24
Find Like Post Reply
tao Offline
Member
***

Posts: 116
Likes Given: 0
Likes Received: 0 in 0 posts
Joined: 04 Mar 2010
Reputation: 0
#4
RE: Simple man
น่ายกย่องครับ
30-09-2011, 07:27
Find Like Post Reply
ยอดเยี่ยม Offline
ลักเมา
******

Posts: 2,025
Likes Given: 116
Likes Received: 85 in 65 posts
Joined: 21 Sep 2007
Reputation: 29
#5
RE: Simple man
(29-09-2011, 21:46)napman Wrote: ความดีก็เหมือนกางเกงใน ต้องมีติดตัวไว้แต่ไม่ต้องเอามาโชว์

(29-09-2011, 23:54)lekleklek Wrote: สุดยอดครับ

โดยเฉพาะวรรคสุดท้าย ชอบมากครับ ปรัชญาประจำตัวผมเลย

ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ครับ
บางคนชอบโชว์กางเกงใน ใส่เสื้อเบอร์ S
ทำให้โด่งดัง มีคนรู้จักไปทั่วโลก Cool
*** ตัวที่ใช่ ไซส์ที่ชอบ ***
30-09-2011, 07:32
Find Like Post Reply
karn Offline
you may say I'm a dreamer
******

Posts: 3,884
Likes Given: 81
Likes Received: 97 in 64 posts
Joined: 28 Aug 2007
Reputation: 39
#6
RE: Simple man
อ้าว...เพิ่งจะเห็นครับ อยู่บ้านเดียวกันแท้ๆBig Grin

หากทุกๆ ครั้งที่เรียนรู้ เราล้ม
เราพลาดอาจจะรู้สึกท้อบ้างในบางที
แม้ไม่มีกำลังกายที่จะลุกในทันที.. แต่ขอให้มีกำลังใจที่จะสู้ต่อไป
ถ้าเราเรียนรู้... ก็จะทำให้เราพบว่า
การล้มหรือพลาดครั้งต่อไป เราจะไม่เจ็บเท่าเดิม

ชอบประโยคนี้ครับSmile
In my life, I love you more... [Image: 2685i.jpg]




30-09-2011, 08:15
Find Like Post Reply
tatsanai Offline
Junior member
**

Posts: 38
Likes Given: 0
Likes Received: 0 in 0 posts
Joined: 09 Mar 2011
Reputation: 1
#7
RE: Simple man
ขอบคุณสำหรับเรื่องดีๆครับ
หวังว่าผมจะทำได้ซัก 1 ในสิบของท่าน ป๋วย
-------เพื่อลูก-------
01-10-2011, 12:34
Find Like Post Reply


Forum Jump:


Users browsing this thread: 1 Guest(s)

Contact Us | NimitGuitar | Return to Top | | Lite (Archive) Mode | RSS Syndication