Thread Rating:
  • 3 Vote(s) - 5 Average
  • 1
  • 2
  • 3
  • 4
  • 5
วันละเป๊ก Archtop Guitar : Gibson Custom 1934-L5 Limited Edition
Author Message
pood Offline
VIP member
******

Posts: 6,313
Likes Given: 13
Likes Received: 390 in 213 posts
Joined: 28 Aug 2007
Reputation: 77
#12
RE: My First Archtop Guitar: Gibson 1934-L5
1934 L-5 เป็นหนึ่งในสี่รุ่นของ Gibson Historic Collection Acoustic Models ซึ่งประกอบด้วย Master Museum Collection ($42,998), 1934 L-5 ($6,774), L-5CT ($12,588) และ 1939 Super 400 Premier ($14,719) มันเป็นกีต้าร์สะสมครับ ไม่ใช่กัต้าร์ใช้งาน ถ้าเอาไปติด pickup ราคาตกแน่นอนครับ

เหตุผลที่ Gibson เลือก reissue รุ่นปี 1934 ไม่ใช่เพราะว่าเป็นปีที่ L-5 ขายดีที่สุดครับแต่ความจริงแล้วเป็นปีที่ original L-5 ขายไม่ออกจน Gibson ต้องออกรุ่น Advanced L-5 มาแทนตอนปลายปี 1934 นั่นเอง

ทำไมมันถึงขายไม่ออก เรื่องจริงในประวัติศาสตร์ยุคนี้สนุกกว่าหนังกำลังภายในอีกครับผมชอตั้งชื่อนิทานเรื่องนี้ว่า

"The King Is Dead, Long Live The King"

Gibson L-5 นั้นเป็น F-hole Archtop รุ่นแรกของโลกซึ่งโด่งดังสุดขีดเมื่อมือกีต้าร์ jazz ที่มีชื่อเสียงคนแรกของโลกคือ Eddie Lang (The father of jazz guitar) นำไปใชhเป็นกีต้าร์คู่ชีพ ( http://eddielang.com/ ) L-5 รุ่น original นั้น body กว้าง 16" และยาว 20.25" ครับ รุ่นแรกใช้ dot inlay ธรรมดาแต่เปลี่ยนเป็น block inlay ในปี 1929

ต่อมาในปี 1930 ก็เป็นยุครุ่งเรืองของ Big Band ซึ่งมือกีต้าร์ต้องตีคอร์ดกันจนมือแทบหักเพื่องแข่งกับเครื่องเป่า ตอนนี้เองเป็นตอนที่ The king of jazz guitar คือ Gibson โดนถล่มยับเยินโดย the new kid on the block ที่เพิ่งทำกีต้าร์ขายมาใด้ไม่กี่ปี

เจ้าเด็กผู้ฆ่ายักษ์คนนั้นคือ "Epiphone" ครับ ในปี 1931 Epiphone ก็เอากีต้าร์ F-hole ออกวางตลาดพร้อมๆกันถึง 7 รุ่น (Beverly, Blackstone, Broadway, Deluxe, Olympic, Triumph และ Zenith) ในขณะที่ Gibson มีขายอยู่รุ่นเดียวคือ L-5

ในสมัยนั้นกีต้าร์ archtop คือกีต้าร์ไฮโซของชาว New York, Chicago และ LA ในขณะที่กีต้าร์ flattop นั้นเป็นกีต้าร์โลโซที่นิยมกันในหมู่คนผิวดำและคนเลี้ยงวัว (cowboys) กีต้าร์ Epiphone ที่มีขายทุกระดับราคาก็เลยกลายเป็น sweetheart ยี่ห้อใหม่ของพวกไฮโซไปแต่รุ่นที่โค่น L-5 อย่างราบคาบก็คือรุ่น Broadway ที่เสียงดังกว่าเพราะ body ใหญ่กว่า (กว้าง 16.375" ยาว 20.75")

มีหรือครับที่ยักษ์ใหญ่อย่าง Gibson จะยอมแพ้เด็กหน้าใหม่ พอถึงปลายปี 1934 Gibson ก็เลยขยาย body ของ L-5 เป็นกว้าง 17" และยาว 21" แถมยังทำให้หรูหราขึ้นอีกโดยเอา binding มาใส่ขอบ F-hole แปลี่ยน tailpiece ใหม่แถมยังเอารุ่น Super 400 มาวางตลาดเพื่อยึดตำแหน่ง The King of Archtop ด้วยความกว้างลำตัว 18"

Epiphone ซึ่งครองตลาด archtop อยู่ก็สวนกลับทันควันในอีกไม่กีเดอนต่อมาโดยออกรุ่น "Emperor" ที่ราคา 400 เหรียญเหมือนกันแต่ลำตัวกว้าง 18.5" (ถ้าให้น้ายอดเยี่ยมเล่นรุ่นนี้แกคงต้องปีนขึ้นไปเล่นแน่นอน)

นิทานเรื่องนี้พระเอก (Epiphone) ตายตอนจบครับเพราะในปี 1936 Gibson ก็นำกีต้าร์ archtop ที่เสียงดังแบบที่ใช้เล่นโซโล่ใด้ในวง big band ออกวางตลาดและมีมือกีต้าร์ของวง Benny Goodman ที่ชื่อ Charlie Christian เป็น presenter ให้ ที่เสียงมันดังกว่านั้นก็เพราะมันเป็นกีต้าร์ไฟฟ้าครับ (ES-150) คราวนี้ Epiphone แพ้ราบคาบจนต้องขายบริษัทให้ Gibson ไปในปี 1957 ในราคาแค่ 20,000 เหรียญ

[Image: rcYhA.jpg]

ที่ Gibson เลือกปี 1934 มาเป็นปีที่ผลิต Historic Model ก็เพราะมันเป็นปีสุดท้ายของ original L-5 ครับ

ศิลปินคนที่ทำให้ Gibson L-5 โด่งดังจนเป็นกีต้าร์ในตำนานนั้นไม่ใช่ Eddie Lang เนื่องจากเขาเสียชีวิตไปตั้งแต่ปี 1933 ด้วยวัยเพียง 31 ปีแต่เป็นศิลปิน country music คือ Maybelle Carter ที่ใช้กีต้าร์อยู่ตัวเดียวตลอดอายุขัยของเธอคือ 1928 Gibson L-5 ครับ



ที่ผมยังสงสัยอยู่ก็คือถ้าจะให้เสียงเหมือนกับ original L-5 นี่ควรจะใส่สายประเภทใหนครับ สมัยนั้นน่าจะมีแต่สาย 80/20 bronze มั้งครับ

(This post was last modified: 01-10-2011, 01:57 by pood.)
01-10-2011, 01:51
Find Like Post Reply


Messages In This Thread
RE: My First Archtop Guitar: Gibson 1934-L5 - by pood - 01-10-2011, 01:51

Forum Jump:


Users browsing this thread: 2 Guest(s)

Contact Us | NimitGuitar | Return to Top | | Lite (Archive) Mode | RSS Syndication