LittleNomad Wrote:ไม่ได้ทำ 'วิจัย AF' บ้าบออะไรนั่นใช่ไหมน้าSARUN...5555...
ไม่แน่ใจตัวเองเหมือนกัน
SARUN Wrote:Knights Templar เป็นกลุ่มอัศวินคริสเตียนในสงครามครุเสดที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุด
สงครามครูเสด??(THE CRUSADES)
ครูเสด แปลว่า ติดด้วยเครื่องหมายกางเขน จะเป็นที่อกหรือที่ใดก็ตาม ต่อมาใช้หมายถึงสงคราม ทั่ว ๆ ไปที่พวกคริสต์ต่อต้านพวกนอกศาสนา ตามแต่ สังฆนายก (bishop)ของโรมันจะบัญชาว่าเป็นศัตรูของคริสต์จักร โดยฝ่ายคริสต์จักรจะมีพวกที่มีเครื่องหมายกางเขนติดไว้
เริ่มมาจาก ?พระสันตะปาปาอินโนเซนต์ที่ 3 ประกาศให้ผู้ที่นับถือนิกาย คาธาร์ส ทั้งหมดนี้เป็นพวกนอกรีต เป็นอันตรายต่อศาสนา เพราะ นิกายคาธาร์ส มีพิธีกรรมทีสังเวยทั้งความดีและความชั่วคู่กัน จึงต้องถูกกำจัดและกวาดล้าง ทำให้สงครามครูเสดเกิดขึ้น ถึงกับฆ่าล้างเผ่าพันธุ์กันเลยทีเดียว แม้กระทั่งผู้หญิง เด็ก และคนแก่
การกวาดล้าง ของ นิกายโรมันคาทอลิคนั้น รุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ รวมทั้งอิทธิพลและความแข็งแกร่งก็เพิ่มขึ้นด้วย รวมถึงอำนาจการปกครองบ้านเมือง หรือสถาบันกษัตริย์ และขุนนางอีกด้วย ศาสนจักรมีกองทัพนักรบเป็นของตนเอง
ภายหลัง จากสงครามครูเสด ผ่านพ้นไป อำนาจของคริสต์จักรก็ยิ่งเข้มแข็งขึ้น ไม่มีผู้ใดกล้าต่อรองแม้แต่กษัตริย์ หรือผ่ายการเมืองการปกครองก็ตาม ทำให้คริสต์จักรมีอำนาจ เป็นเวลาหลายศตวรรษ
ปริศนาท้าทายการสืบค้นมาจนทุกวันนี้ คือการกำจัดเหล่าอัศวินนักรบ จากสงครามครูเสด ที่เรียกตนเอง Knights Templar หรือในนาม อัศวินแห่งวิหารโซโลมอน (Knights of Temple of Solomon) กลุ่มคนเหล่านี้เกิดขึ้น หลังจากชัยชนะในสงครามครูเสด ครั้งแรกใน ค.ศ. 1099
สงครามครูเสดครั้งแรก หมายถึง สงครามศาสนาที่พวกคริสเตียนได้กระทำต่อมุสลิม เพื่อแย่งชิงดินแดนศักดิ์สิทธิ์ เริ่มตั้งแต่ ค.ศ. 1099 เป็นเวลา 150 ปี ที่เมือง เบธเลเฮม และเยรูซาเลม เนื่องจากชาวคริสต์ต้องการยึดครองดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ซึ่ง ชาวมุสลิมปกครองอยู่ ?.เชื่อกันว่า ดินแดนแห่งนี้เป็นสถานที่สำคัญของสามศาสนาได้แก่ อิสลาม ยูได และ คริสต์ (ในปัจจุบันดินแดนแห่งนี้คือดินแดนปาเลสไตน์ ใน ประเทศอิสราเอล)
เริ่มต้นเมื่อปี1095 โดยสมเด็จพระสันตะปาปาเออร์บันที่ 2 (Urban II) แห่งกรุงโรม รวบรวมกองทัพชาวคริสต์ จากฝรั่งเศส และ อังกฤษ บุกไปยังกรุงเยรูซาเลม ในที่สุดเมื่อปี 1099 กองทัพชาวคริสต์นักรบครูเสด เข้าปิดล้อมเยรูซาเล็มไว้ และต่อสุ้กับกองกำลังมุสลิม แต่ท้ายที่สุดนักรบครูเสดก็บุกฝ่าเข้าไป และฆ่าทุกคนที่ไม่ใช่ชาวคริสต์ ทั้งชาวมุสลิมและชาวยิว
บทสรุปของสงครามในครั้งนั้นคือกองทัพมุสลิมสามารถยึดดินแดนศักดิ์สิทธิ์คืนจากชาวคริสต์ได้ และขับไล่ผู้รุกรานต่างดินแดนออกไป ซึ่งยังคงดำรงชาติมุสลิมสืบต่อมาจนถึงทุกวันนี้
ขอย้อนกลับไปถึงชนวนแห่งการเกิดสงคราม...
เดิมทีนั้น คริสต์ศาสนิกชน พากันไปจาริกแสวงบุญ ณ ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ โดยชนชาติซาราเซ็น ที่ปกครองปกครองอยู่นั้นก็ยินดีต้อนรับ หากทว่าตั้งแต่ ค.ศ. 1076 เป็นต้นมา พวกเติร์กมุสลิมได้เข้ามาเป็นใหญ่เหนือดินแดน ศักดิ์สิทธิ์นี้ และได้ปล้นฆ่านักจาริกแสวงบุญ อย่าง***มโหดรวมทั้งทำลายโบสถ์ ของชาวคริสต์เกือบหมดสิ้น
ในช่วงนี้มีพระคริสเตียนรูปหนึ่งนามว่า ปีเตอร์ เป็นชาวฝรั่งเศส ได้เห็นชนมุสลิม กระทำทารุณกรรมต่อชาว จึงเดินทางกลับยุโรป และแจ้งแผนการนี้แด่ท่านสังฆนายก เออร์บันที่ 2 (Urban II) ด้วยการทำศึก ชิงเอาดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งก็ได้รับการสนับสนุน โดยเฉพาะชาวยุโรป ได้รับรู้ถึงความ โหดร้ายทารุณที่เกิดขึ้น ต่างก็โกรธแค้นและหลั่งไหลกันมาฝรั่งเศสจากทั่วยุโรป เพื่อสมัครไปรบแย่งชิง นครเยรูซาเลมคืนมา โดยสังฆนายกเออร์บันได้กำหนดให้ทุกคนที่ไปรบ ติดเครื่องหมายกางเขนไว้ที่ตัว กองทัพนี้จึงได้ชื่อว่า ครูเสด (Crusade) คือมาจากคำว่า (Cross) ที่หมายถึงไม้กาง-เขนนั่นเอง
โดยสงครามครูเสดครั้งแรกเกิดขึ้นในช่วง ต้นๆ ได้รวมพลกันมากถึง 250,000 คน แต่ทว่าส่วนใหญ่เป็นประชาชนชน จึงถูกพวกเติร์กโจมตีแตกพ่าย กลับมา
ต่อมา จึงได้มีการรวบรวม อาสาสมัครขึ้นใหม่ 600,000 คน และมีนักรบที่แท้จริงกว่าในหนแรก และตียึดเยรูซาเลมได้ในเดือนกรกฎาคมปี 1099 แล้วจึงตั้ง กอดเฟรย์แห่ง บุยอินยอง ผู้นำทัพเบลเยียม ขึ้นเป็นกษัตริย์ ปกครองเยรูซาเลม
สงครามครูเสดเกิดขึ้นหลายครั้ง แต่ครั้งที่สำคัญที่สุดคือ สงครามครูเสดครั้งแรก ซึ่งมีสงครามใหญ่ๆเกิดขึ้นถึง 7 ครั้งในมหาสงครามครั้งนี้
สงครามครูเสดครั้งต่อมา ครั้งที่3 ในปี ค.ศ. 1187 จัดเป็นการศึกที่ ยิ่งใหญ่และมีตำนานต่างๆ เกิดขึ้นมากมาย
โดยทางฝ่ายมุสลิม มาตียึดเมืองเยลูซาเล็มกลับมาได้อีกครั้ง (จากสงครามครูเสดครั้งที่2) ทำให้ นักรบครูเสด ต้องระดมพลกลับมาอีกครั้ง
โดยทางฝ่ายคริสเตียน มีนายทัพชั้นดีหลายคน อาทิ
พระเจ้า ริชาร์ดใจสิงห์ (Richard the lion hearted) แห่งอังกฤษ
กษัตริย์ ฟิลลิป ออกัสตัส แห่งฝรั่งเศส
พระเจ้า เฟร เดอริก บาร์บารอสซา แห่งเยอรมัน
ทางฝ่ายมุสลิมก็มีขุนพลอย่าง สุลต่านซาลาดิน (Sarla din)ผู้ปกครองชนเผ่า ซาราเซน
ท้ายที่สุด พระเจ้าริชาร์ดและสุลต่านซาลาดิน ได้ทำสัญญาสงบศึกต่อกัน แต่ หลังจากสัญญาสิ้นสุดลงก็ได้มีสงครามครูเสดเล็กๆ น้อยๆเกิดขึ้นอีกหลายครั้ง
**หนังเรื่อง...Kingdom of Heaven ... จะเสนอเนื้อเรื่องในช่วงรอยต่อสงครามครูเสดครั้งที่ 3และ4 **
สงครามครูเสดครั้งสุดท้าย เกิดขึ้นในปี ค.ศ. 1229 โดยการนำทัพของ พระเจ้าเฟรเดอริกที่ 2 แห่งเยอรมัน ซึ่งในระหว่างนั้นเหล่ามุสลิมกำลังเกิดความขัดแย้งระส่ำระสาย กองทัพคริสเตียนจึงได้ชัยชนะ และยึดเอาเมืองต่างๆในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ไว้ได้ รวมทั้งเยรูซาเลม หลัง จากปกครองอยู่ 10 ปี พวกอียิปต์ก็กลับเข้ามาตีเมืองเยรูซาเลมคืนในปี ค.ศ. 1244 และขับ ไล่นักรบครูเสดออกไปทีละเมืองจนหมดใน เดือนสิงหาคม ค.ศ. 1291
และเป็นการยุติสงครามครูเสดอันยาวนาน โดยสิ้นเชิง