Lowden และประวัติความเป็นมา

[เฒ่าทารก]

ขอบคุณน้าป๊อปสองแสนจ้าที่แปลให้เป็นช่วง....แต่อ่านๆไปประหยัดค่าเขียวเจี๊ยบเยอะเลยเพราะอ่านแล้วตาลาย...55555+++
ส่วนน้า karn อาเฮียก็รู้มุขอยู่แร้นน่าของน้าปุ๊.....ชิมิๆ
ขอบพระคุณอากฤษณ์ครับ ที่แปลสนุกจนอยากจะดูแปลภาคต่อไปคร๊าบบบบ
อิอิอิ........ไม่เก่งภาษา ต้องรอแบบนี้น่ะครับ อ่านสนุกแถมได้ความรู้ดี

[pop_250823]

ผมแปลโดยใช้โปรแกรมแปลน่ะครับ ภาษามันเลยทะแม่งๆน่ะจ้าจะให้ดีต้องมาเรียบเรียงใหม่ครับ

[.::.pOoH.::.]

ขอบพระคุณน้ากฤษณ์ครับ อ่านแล้วสนุกทีเดียว

ส่วนรูปภาพของประวัติเจ้า Lowden เท่าที่จะหาได้ ผมขอเอาไปลงไว้ใน

The Cult of Lowden

ในหน้า Musical Tips นะครับ

[povation]

ไม่จำเป็นต้องลาวด้นลาวเด้นหรอกครับ
แต่นี่คือสิ่งที่พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า...
บ้านสีฟ้าช่วยกันคนละไม้ละมือ...
ใครมีอะไรที่จะพอเป็นประโยชน์แก่ส่วนรวมได้ก็รีบเข้ามาช่วยกันเสริม
ผมเห็นแล้วดูน่ารักดี มิน่าใครๆพากันพูดว่าบ้านนี้อยู่แล้วอบอุ่นดี
ภาษาอังกฤษไม่ใช่ภาษาที่บังคับให้เราต้องรู้หรอกครับ แต่หากรู้ไว้บ้างก็น่าสนุก
ผมยังมองว่าพี่กฤษณ์คงเป็นที่พึ่งของน้องๆในบ้านสีฟ้านี้ได้เสมอ...(อาจยกเว้นเรื่องยืมตังค์)
คิดไม่ออก..บอกประธานกฤษณ..นะจ๊ะ
ขอบคุณน้าปุ๊ด้วยครับ

[SARUN]

ผมยังมองว่าพี่กฤษณ์คงเป็นที่พึ่งของน้องๆในบ้านสีฟ้านี้ได้เสมอ...(อาจยกเว้นเรื่องยืมตังค์)
คิดไม่ออก..บอกประธานกฤษณ..นะจ๊ะ

คงเฉพาะ ตอนที่เรขาฯกองคลัง ของท่านประธานกฤษณ ยังพำนัก อยู่ในเมืองไทย เท่านั้นแหละครับ
ปีๆนึง ท่านเรขาฯก็จะเดินทางไป ต่างประเทศ ซัก 7 วัน
ช่วงนั้นแหละคงเป็นที่พึ่งของน้องๆในโอกาสยื่นโครงการเงินหมุนฯ
แต่โครงการดีๆอย่า โครงการเล่นก่อน ผ่อนทีหลัง ของท่านประธาน ปีนี้หวังว่าก็คงยังมีเช่นเดิม...แต่จะอนุมัติหรือเปล่า เท่านั้นเอง

แต่โครงการจ่ายสด งดเชื่อ อย่าเพิ่งประกาศ ใช้เลย ดองเอาไว้ก่อนนะครับ เพื่อ น้องๆ

[povation]

เพื่อน้อง...พี่ปองหมายพยายาม
(เพลงครับเพลง)

[pood]

มาเล่าต่อครับ

เมื่อไม่มีโรงงานผลิตให้ตา George เลยตัดสินใจรวบรวมสตางค์มาก้อนหนึ่งเพื่อทำโรงงานเล็กฯเองที่
ไอร์แลนด์เหนือและก็ใด้ช่างจากญี่ปุ่นชื่อ Micky Uchida มาควบคุมการผลิต แต่ในยุคนั้นตลาดกีต้าร์โปร่งซบเซา
มากเลยจนขายกีต้าร์ไม่ออก ผลก็คือ Lowden ต้องปิดตัวเองลงในปี 1988 กีต้าร์ในยุคนั้นผลิตใด้ 5-600 ตัว
เป็นป้ายวงรีขนาดเล็กกว่ายุคหลังฯ

การที่ Lowden ขายไม่ออกในยุคนั้นไม่ใช่เพราะกีต้าร์เขาไม่ดีนะครับ ความจริงแล้วเป็นเรื่องมหัศจรรย์ที่ Lowden อยู่รอดมาใด้
ถึงตอนนั้นเพราะอัจฉริยภาพในการออกแบบของ George เพียงอย่างเดียว กีต้าร์ Lowden ขายใด้เรื่อยฯโดยคำล่ำลือแบบปากต่อปาก
เรื่องเสียงที่ไม่เหมือนใครและการออกแบบที่ไม่เหมือนใครด้วย ก่อนจะเล่าต่อขอย้อนอดีตกลับไปที่ปี 1985 ก่อนว่าตลาดกีต้าร์ตอนนั้นมัน
ตกต่ำขนาดใหน

ในปีนั้นบริษัท Fender เจ๊งครับ เจ้าของบริษัทคือ CBS ตัดสินใจเลิกกิจการและพยายามขาย Fender ให้กับ Ovation(Kaman Music Corp.)
แต่ Ovation ก็เสนอราคาต่ำเสียจน CBS บอกว่าปล่อยให้ล้มละลายไปเลยดีกว่า ในที่สุด CBS ก็เลยขายให้กับกลุ่มผู้บริหารในตอนนั้นในราคาที่
ขาดทุนยับเยินคือ 12.5 ล้านเหรียญ(อีก 22 ปีต่อมา Fender ก็ซื้อ Ovation มันซะเลย)

ส่วนอีกบริษัทที่เกือบเจ๊งคือ Martin ครับ ปี 1985 ขายกีต้าร์ใด้แค่ 7,275 ตัวทั้งฯที่ไม่เคยขายใด้ต่ำกว่าสองหมื่นตัวต่อปีตลอดยุค 70's ที่รอดมาใด้ก็เพราะ
Chris Martin ที่เข้ามากุมบังเหียนในปีนั้นประกาศสู้ตายและไม่ยอมขายกิจการให้กับ Ovation ที่มาขอซื้ออยู่ในตอนนั้น

[povation]

ระหว่าง Fender กับ Ovation เลยเสมือนหนึ่งว่า เป็นแค้นนี้ต้องชำระ...ซื้อมันซะเลย!

[pood]

George Lowden ต้องปิดโรงงานและยื่นขอล้มละลายต่อศาลในเดือนพฤศจิกายนปี 1988 ในที่สุดก็มีนักลงทุน
ท้องถิ่นกลุ่มหนึ่งเสนอซื้อชื่อ Lowden Guitar และตกลงให้ตา George เป็นผู้ออกแบบให้โดยไม่ใด้มีส่วนเกี่ยวข้อง
กับการผลิตหรือมีหุ้นในบริษัทใหม่แม้แต่หุ้นเดียว

เป็นเรื่องแปลกที่ยุค 1989-1998 ที่เป็นยุคทองของ Lowden นั้นตา George มีหน้าที่เพียงแค่ออกแบบกีต้าร์รุ่นใหม่ฯให้กับบริษัท
คนที่ควบคุมด้านการผลิตในตอนนั้นคือ Micky Uchida จนถึงปี 1991 และ Dermot McIlroy ในช่วงหลังฯ

ในยุดนี้เป็นยุคที่มี Lowden รุ่นใหม่ฯเกิดขึ้นเยอะสุด เริ่มต้นด้วยการเปลี่ยนจาก bracing รูปปลาโลมา(Dolphin bracing) มาเป็น bracing
ตรงฯไม่มีส่วนโค้งจากไอเดียของ Ernie McMillen เพราะคนงานไอริชเหลา dolphin bracing ไม่เหมือนกันซักตัวกีต้าร์เลยเสียงไม่เหมือนกัน
แสดงว่าเรื่องงานละเอียดนี่ญี่ปุ่นกินฝรั่งขาดเพราะ S. Yairi เคยทำใด้นี่นา

Lowden รุ่นใหม่ที่เกิดในยุคนั้นก็มี S-body, Jazz และ Premier range รายละเอียดขีเกียจแปลครับ ในตอนนั้นตา George แกก็ทำกีต้าร์ตามสั่ง
ขายเองด้วยที่ shop หลังบ้านของแกเองจนทางโรงงาน Lowden ก็เลยสร้าง shop เล็กฯให้แกที่โรงงานซะเลยจะแกจะใด้มาโรงงานทุกวันไง

ในยุค acoustic guitar revival หรือ
ยุค MTV Unplugged นี่เองที่ Lowden เริ่มเป็นที่รู้จักของคนทั่วไปเพราะมีศิลปิน
ดังซื้อไปใช้กันให้เกร่อ ในปี 1996 Lowden มี waiting list ผลิตกีต้าร์ขายใด้ 1,200 ตัวหรือเป็นสองเท่าของปี 1993

ลองมาดูรายชื่อตัวอย่างของศิลปินที่ซื้อ Lowden กันครับ

Eric Clapton, Bob Dylan, James Taylor, Mark Knopfler, Van Morrison, วง U2, Jim Corr ฯลฯ

Lowden ที่ศิลปินพวกนี้ใช้มันไม่ใช่ Lowden จากโรงงานหรอกครับแต่เป็น
Lowden ที่ตา George แกทำเองกับมือต่างหาก สมัยนั้นตา George แกทำแค่
ปีละยี่สิบกว่าตัวและมี waiting list เป็นปี

Lowden by Lowden นี่หน้าตาก็เหมือน Lowden โรงงานนั่นแหละและชื่อรุ่น
ก็เหมือนกันแต่ราคาคูณสองครับ

ข้อมูลละเอียดดูใด้จาก article เก่าปี 1996 อันนี้ครับแต่แปลเองนะ

http://www.uhb.fr/Langues/Cei/niguitar.htm

ตัวของ Eric Clapton ถูกนำมาประมูลในปี 2004 ใด้ราคาตามนี้ครับ

Lot #32 - George Lowden Model 038 (circa 1996) $41,825 (Pre-Sale Estimate: $5,000 - $7,000)
Used by EC at the 39th Annual Grammy Awards Ceremony NYC

[pood]

ก่อนเล่าต่อ(เล่าเรื่องนี้เหนื่อยจริงฯเพราะต้องไปหา reference มาประกอบนิทานที่ตา George แกเล่าด้วย)
ผมมีคำถามสำหรับแฟนพันธ์แท้ Lowden หนึ่งคำถามครับ

Leo Fender กับ George Lowden มีอะไรที่เหมือนกันอยู่อย่างนึง ถามว่าอะไรรู้ใหมครับ?