RAINSONG WS1000

[pood]

ที่มาของ Rainsong

Dr. John A. Decker Jr. เรียนจบด้านวิศวกรรมอากาศยานจาก M.I.T. และจบทางด้าน Plasma Physics จาก ม. Cambridge เขาเข้ารับราชการกับกองทัพอากาศและใด้ย้ายมาทำงานที่ฮาวายในยุค '80s

งานอดิเรกของเขาคือการเล่นกีต้าร์คลาสสิคแต่กีต้าร์ของเขาที่เอามาด้วยนั้นเสียงเปลี่ยนไปทันทีเมื่อมาเจออากาศร้อนชื้นของฮาวายเข้า มาวันหนึ่งในปี 1985 เขาใด้ไปร่วมงานแต่งงานที่จัดกลางแจ้งและมีนักกีต้าร์คลาสสิคเล่นอยู่ในงานแต่ฝนเกิดตกลงมาทำให้มือกีต้าร์เลิกเล่นและเก็บกีต้าร์กลับทันที เขาเลยเดินเข้าไปถามว่าทำไมถึงเลิกเล่นซึ่งมือกีต้าร์ก็บอกว่าถ้าเล่นต่อแล้วกีต้าร์พังมันไม่คุ้มค่าจ้างหรอก

ตั้งแต่วันนั้นมาเขาก็พยายามเสาะหาวัสดุที่ไม่กลัวความร้อนหรือความชื้นาทำกีต้าร์และใช้เดวลาอยู่สิบปีเต้มๆถึงใด้ทำสำเร้จ เมื่อผลิตออกขายเขาเลยตั้งชื่อว่า RAINSONG ซึ่งหมายความถึง "เสียงเพลงในสายฝน" เพราะมันเป็นกีต้าร์โปร่งตัวแรกในโลกที่ไม่กลัวฝนไงครับ

ในยุคแรกนั้น Rainsong ยังใช้ bracing pattern ตามแบบของกีต้าร์ไม้อยู่ซึ่งทำให้เสียงค่อนข้างเบา ต่อมาในปี 1999 ใด้มีการออกแบบใหม่หมดโดยไม่จำเป็นต้องใช้ bracing ทำให้เสียงดังกว่ากีต้าร์ที่ทำด้วยไม้เยอะ Rainsong ยุคใหม่นั้นในปีแรกทำอยู่รุ่นเดียวคือ WS1000 ซึ่งใด้รับความนิยมอย่างล้นหลามจนผลิตไม่ทันเพราะโรงงานในฮาวายมีช่างแค่สี่คน เขาก็เลยย้ายโรงงานมาที่รัฐ Washindton ในปี 2001 เพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายเพราะแผ่น carbon kevlar ที่ผสม พesin นั้นต้องสั่งทางเครื่องบินแบบแข่แข็งจากอเมริกาเพื่อไม่ให้มัน set ตัวครับ ปัจจุบัน Rainsong มีกำลังการผลิตปีละ 700 ตัวครับ

กีต้าร์ composite ที่ทำด้วย graphite ทั้งตัวนั้นมีคุณสมบัติแตกต่างกับกีต้าร์ที่ทำด้วยไม้อย่างมากมายเพราะแผ่น composite นั้นสั่นสะเทือนใด้นานกว่าไม้เนื่งจากมี mass น้อยกว่าเยอะทำให้เสียงดังกว่าและ sustain ยาวกว่า ยิ่งด้านเสียงแหลมนั้นไม้ทุกชนิดจะ damp ความถี่ทีเกิน 1000 hz. หมดแต่ composite จะไม่มีการดูดซับซึ่งทำให้เสียง overtone มีประกายมากกว่าเยอะครับ เสียงของ Rainsong นั้นคมชัดกว่ากีต้าไม้เยอะซึ่งเหมือนกับเอา CD ไปเทียบกับแผ่นเสียง LP ซึ่งแน่นอนว่าหลายๆคนที่ชินกับเสียง analog จะบอกว่าเสียง LP มันนุ่มกว่าและมีความเป็นดนตรีมากกว่า