LittleNomad Wrote:โฟล์คน้อย Wrote:
ฮ่า ฮ่า ฮ่า..
เสี่ยวฝอ เอ่ยมิผิด แต่ก็ิมิถูก
แต่ก็อีกนั่นแหละ อาจหาใช่เป็นมือกระบี่ที่เป็นพี่น้องร่วมสำนักเดียวกัน
อาจเพียงบังเอิญมีอำมหิตนิยมพรมจรรย์คล้ายคลึงกัน...
ตอบคำถามท่าน เสี่ยวฝอ จึงมิได้ง่ายราวพลิกฝ่ามือ....ฮ่า-ฮ่า-ฮ่า...
ฮ่า ฮ่า ฮ่า..
อาวุโสเคราขาวช่างบรรยายได้เห็นภาพนัก..
ทั้งซำจั๋ง และผู่ เอี้ยซือ.. ช่างมีรังสีอำมะฮารุนแรงทั้งคู่..
นี้มิคิดเลยว่ายังมีอำมหิตนิยมพรมจรรย์คล้ายคลึงกันเสียอีก..
ยามก้าวย่างไปที่ใด.. ดูจะเป็นภัยต่อเหล่าอิตสตรียิ่งนัก..
ด้วยว่าเสียงหัวเราะ และรอยยิ้มกลับมัดใจเหล่าพวกนาง
แต่มวลดอกไม้นั้นหารู้ไม่.. ว่าพรมจรรย์ที่หอมหวาน..
จักถูกเหล่าพวกแมลงนั้นเด็ดดม..
จอมยุทธทั้งสองท่านนี้.. น่าฮา.. เอ้ย! ช่างน่ากลัวนัก..
ฮ่า ฮ่า ฮ่า..
call Wrote:LittleNomad Wrote:[quote=โฟล์คน้อย]
ท่านจอมยุทธเสี้ยม (เสี้ยม ไต้ เฮี้ยบ) ไยท่านจึงต้องป้อยอมารเฒ่าเคราสีตกเช่นนี้ด้วยเล่า ฉายาผู้อาวุโสเคราขาวนั้นหาได้คู่ควรกับมารเฒ่าไม่ ความสามารถในการสไลด์นิ้วเหล็กได้ทั่วคอกระบี่..นั้น มันก็เป็นแค่การละเล่นของเด็ก ๆ ไม่ควรคู่กับการเอ่ยอ้างของท่านแต่อย่างใด เล่าฮูเคยเห็นกะตาตัวเองว่า ท่านนักบวช ถัง ซำ จั๋ง นั้น สามารถใช้ลำคอสไลด์คมกระบี่ทั้ง 6 สายแทนนิ้วได้อย่างน่าอัศจรรย์ วิชานี้เรียกว่า "คอหอยเหล็ก สไลด์ทั่วหล้า" ผู้ใดฝึกสำเร็จถึงขั้นที่ 9 ซึ่งเป็นขั้นสูงสุด จะมีลูกกระเดือกแข็งดั่งเพชร คมกระบี่ทั่วยุทธภพนี้ไม่อาจระคายผิวคอหอยเหล็กของหลวงจีน ซำ จั๋ง ได้ ความสามารถในการใช้คอสไลด์กระบี่แทนนิ้ว หากหลวงจีนท่านนี้บอกว่าเป็นแค่ที่สอง รับรองว่าทั่วยุทธภพนี้ต้องไม่มีใครกล้าว่าตัวเองเป็นที่หนึ่งอย่างแน่นอน
หากท่านเสี้ยมมีโอกาสพบเจอหลวงจีนซำจั๋ง ขอให้พิสูจน์คำพูดของเล่าฮู เพียงแต่ท่านเอามือลูบไล้สัมผัสเบา ๆ ที่ลำคอด้านในของหลวงจีนดูสักครั้ง จะได้ยินเสียงคราง "เมี้ยว... เมี้ยว..." ดังชัดเจน พลังวรยุทธ์ยิ่งแก่กล้าล้ำลึกเท่าไรยิ่งครางดังยิ่งครางยาวมากเท่านั้น แต่ขึ้นชื่อว่าเป็นหลวงจีนย่อมแพ้ทางอิสตรีฉันใด หลวงจีนซำจั๋งก็ไม่มีข้อยกเว้นในเรื่องนี้ เพราะวิชาคอหอยเหล็กของหลวงจีนจะแพ้ทางกระบวนท่า "ชิวหานารี" ซึ่งถือเป็นวรยุทธที่จัดได้ว่าอ่อนนุ่มและอำมหิตน้อยที่สุดในยุทธภพ แต่กลับมีพลานุภาพทำลายล้างวิชาคอหอยเหล็กของหลวงจีนซำจั๋งได้อย่างน่าประหลาดใจ ซึ่งนับว่าเป็นจุดอ่อนเพียงหนึ่งเดียวของหลวงจีนซำจั๋งในเวลานี้
(บัญชีหนี้แค้นทั้งหมดให้ไปคิดเอากับพี่กฤษณ์นะครับ โทษฐานที่เป็นคนปลุกปั่นบรรยากาศกลิ่นไอยุทธภพให้หวนกลับคืนมาสู่บ้านหลังนี้อีกครั้ง)
ฮ่า ฮ่า ฮ่า.. ศิษย์พี่call..
ไม่ได้พานพบศิษย์พี่เนิ่นนาน.. ฝีปากท่านย่อมมิเคยเป็นลองใครจริง ๆ
ดูเอาเถอะ.. เพียงแค่ท่านปรากฏตัว..
เปลวไฟก็แทบจะรายล้อมยุทธภพแห่งนี้เสียแล้ว..
อันเรื่องราวระหว่างท่านกับผู้อาวุโสเคราขาว..
ย่อมเป็นเรื่องของท่าน.. มิใช่เรื่องของเรา.. อิอิ..
ด้วยว่าท่านเป็็นศิษย์พี่.. อาวุโสเคราขาวนับเราเป็นสหาย..
เราจึงมิสามารถเอ่ยอ้างถ้อยคำใดได้..
เราจึงมีความสุขที่ยังได้พูดคุยกับอาวุโสเคราขาว
แลมีความสุขที่ได้พบกับศิษย์พี่..
บุญคุณความแค้นชาวยุทธ..ย่อมเป็นเรื่องตัวบุคคล..
เราจึงมิใส่ใจสิ่งนั้น..
แต่หากสิ่งนั้นนำมาซึ่งภัยสู่สำนักเสี้ยม..
เราจะมิปล่อยมันไว้เช่นกัน.. มิว่าผู้ใดก็ตาม..
ฮ่า ฮ่า ฮ่า..
LittleNomad Wrote:...ผายลม...เจ้านี่ช่างสามหาวโอหังบังอาจนัก! จอมมาร ไคว่เกว้ย
แม้เจ้าจะมี "คำพูดพิษ" เป็นอาวุธลับที่ร้ายกาจไปทั่วแผ่นดิน จนมีฉายาว่า "ปีศาจปากอเวจี" แต่ข้าหากลัวเจ้าไม่!
"ลูกผู้ชายฆ่าได้ หยามมิได้! แค้นนี้ต้องมีวันชำระ เจ้าคงลืมสัจธรรมแห่งยุทธภาพไปแล้วสิ ว่าสิบปีแค้นไม่จาง... ยี่สิบปีสะสางแค้นไม่สาย..."
ฉะนั้นข้าขอสาบานต่อหน้าป้ายชื่อกีต้าร์ว่า มิใยถึงข้าจะคว่ำฟ้าพลิกดิน ก็จะตามล่าเจ้า...ยุทธภพจะได้สงบสุข...
ฮ่า ฮ่า ฮ่า..
อาวุโสเคราขาว.. ใยถึงได้รุ่มร้อนนัก..
เพียงศิษย์พี่หยอกล้อเล็กน้อย.. ขอท่านอย่าได้ใส่ใจ..
แต่หากท่านมิอาจลบลืมความรู้สึกได้..
วัันงานประลอง.. ก็เชิญท่านสะสางกันให้หนำใจเถิิด..
ฮ่า ฮ่า ฮ่า.. เสี้ยมมมมมมมมมม..
LittleNomad Wrote:myakira Wrote:ผู้น้อยมัวแต่ทำงาน แค่ชั่วอาทิตย์เดียว ยุทธภพก็ปั่นป่วนถึงเพียงนี้ ... ^__^
ปั่นป่วนก็เท่านั้น ไม่ปั่นป่วนก็เท่านั้น
แม่นาง เหมยคังหราน ฉายา หงส์สะท้านปฐพี จะมัวใส่ใจไปใย
เพียงกลับเข้าสู่ยุทธจักร ก็ คิก..คิก..หัวร่อร่าแล้ว...
ฮ่า ฮ่า ฮ่า.. คาราวะแม่นางเหมยคังหราน.. ฉายา หงส์สะท้านปฐพี
ได้ยินชื่อเสียงแม่นางเนิ่นนาน.. แต่มิเคยพานพบ..
อาวุโสเคราขาวให้เกียรติแม่นางเยี่ยงนี้..
ผู้ใดกันเล่าจะกล้าล่วงเกินต่อแม่นาง..
อันวิชายุทธของแม่นาง.. ก็มิได้เป็นสองรองผู้ใด..
แต่ท่านก็ควรต้องระวังไว้กับสองบุรุษ..
หนึ่งนั้นคือ.. ซำจั๋ง.. นักบวชโลกีย์(poppie)
ผู้ซึ่งมีวิชาคอหอยเหล็ก.. ยามลูบไล้ที่คอ.. กลับจะมีเสียงร้อง เมี๊ยว เมี๊ยว..
ซึ่งสตรีใดหลงรักใคร่เอ็นดูย่อมจะนำมาซึ่งภัยสู่นาง..
ด้วยว่าภายใต้เสียงร้อง เมี๊ยว.. เมี๊ยว.. นั้น.. กลับซ่อนไว้ซึ่งปริศนา..
เสร็จตู.. เสร็จตู..
ฮ่า ฮ่า ฮ่า..
ส่วนบุรุษที่สองคือ.. ผู่ เอีย ซือ.. กระบี่พร่าพรมจรรย์(pooh)
ทุกยามที่โปรยยิ้ม แลเสียงหัวเราะ.. คือซ่อนไว้ด้วยแววตาฉ่ำล้ำ..
ทุกคำพูดที่ชวนหัว.. คือความนัยที่ชี้ชวน..
บุรุษทั้งสองผู้นี้.. ต่างมีรังสีอำมหิตนิยมพรมจรรย์ที่น่ากลัวนัก..
ขอแม่นางโปรดอยู่ห่างไว้..
มิเช่นนั้น.. แม่นางอาจธาตุไฟเข้าแทรกจากความอำมะฮาของทั้งสองคนได้ทุกเมื่อ..
ความอำมะฮา.. จะนำมาซึ่งอำมหิตนิยมพรมจรรย์
น่ากลัวนัก.. น่ากลัว..
ฮ่า ฮ่า ฮ่า..
เสี้ยมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม..