อยากได้คำแนะนำหน่อยครับ

[beetle]

คือพอดีว่า ผมได้เปิดไปเจอสาวคนหนึ่งชื่อ Kaori Kobayashi เล่นแซ๊กเก่งมาก แล้วเวลาเล่นเข้ากับวงเพราะมาก แล้วเพลงจังหวะมันสนุกดีอะครับ ทีนี้ไม่รู้อีท่าไหน มันบิวด์ให้ผมเกิดอยากแบบจะแต่งเพลงที่ใช้กีตาร์บรรเลง แต่จังหวะมันสนุกอะครับ ไม่รู้ว่า น้าๆแต่ละท่านจะมีคำแนะนำให้เด็กน้อยอย่างผมมั้ยครับ ขอบคุณล่วงหน้าครับ บางคนอาจะคิดว่ามันเพ้อเจ้อสำหรับความคิดของผม แต่ผมคิดว่ามันคือสิ่งที่ผมอยากทำอะครับ ถ้าใครไม่สนใจก็ข้ามๆไปเลยก็ได้ครับ

[SARUN]

คือพอดีว่า ผมได้เปิดไปเจอสาวคนหนึ่งชื่อ Kaori Kobayashi เล่นแซ๊กเก่งมาก แล้วเวลาเล่นเข้ากับวงเพราะมาก แล้วเพลงจังหวะมันสนุกดีอะครับ ทีนี้ไม่รู้อีท่าไหน มันบิวด์ให้ผมเกิดอยากแบบจะแต่งเพลงที่ใช้กีตาร์บรรเลง แต่จังหวะมันสนุกอะครับ ไม่รู้ว่า น้าๆแต่ละท่านจะมีคำแนะนำให้เด็กน้อยอย่างผมมั้ยครับ

ตอนนี้คุณยังไม่ได้"อยากแต่งเพลง"เองหรอก
แต่สิ่งที่คุณอยาก น่าจะเรียกว่า "อยากด้นสด" เองมากกว่า

แนะนำว่า...
การเล่นดนตรี มันก็เหมือนการเรียนรู้เพื่อให้เข้าใจภาษาคน...ชาติไหนภาษาไหนไม่สำคัญ
นักเขียน กับ นักปราชญ์
คนเล่นดนตรี กับ นักดนตรี
คน 2 ฟากฝั่งในแต่ละสาย จะมีความคล้ายคลึง แต่ไม่เหมือนกัน
"ฟัง คิด ถาม เขียน" เป็นหัวใจสำคัญของนักปราชญ์ ในการที่จะหลุดออกมาจากนักเขียน
ดังนั้น นักดนตรี น่าจะเอาเรื่อง "ฟัง คิด ถาม เขียน"มาดัดแปลงได้
ฟัง ...ฟังเพลง ฟังการแสดงสด ฟังเสียงรอบข้างให้มากๆ หลากหลาย และสม่ำเสมอ
คิด..คิดตามจินตนการของท่วงทำนอง ของผู้ประพันธ์ ของเวลาที่ได้รับฟังขณะนั้น เสมอ
ถาม..ถามหาที่มา ที่ไป จากผู้ชำนาญ ผู้ฟัง ผู้ใกล้ชิด ผู้ที่อยู่รอบข้าง และ internet เสมอๆ
เขียน..หมั่นฝึกเล่นให้สม่ำเสมอ

ถ้าประพฤติทั้ง 4 เรื่องพร้อมๆกันได้สม่ำเสมอแล้ว
"การแต่งเพลง" อย่างมีคุณภาพแก่ผู้ฟัง มันจะไม่ยากเลย

ทั้งหมดทั้งสิ้น แค่อยากจะเพ้อเจ้อ ว่า"ดนตรี...ง่ายนิดเดียว...............ที่เหลือ ยากทั้งหมด "
ถ้าใครไม่สนใจก็ อ่านผ่านๆไปรอบเดียวพอครับ

[beetle]

ขอบคุณมากครับ จะนำไปปฏิบัติดูครับ ขอบคุณมากๆครับ

[Naris]

ลองเลยครับ ไม่แน่น่ะ อนาคต อาจมีนักแต่งเพลง ชื่อดัง ว่า เบ๊นซ์ก็ได้ครับ

[pood]

คิดถูกทางเลยครับ เคยสังเกตุไหมครับว่าวงจรของดนตรีมันขึ้นอยู่กับวงจรของเศรษฐกิจและการเมือง ในสภาวะที่ผู้คนสุขสบายมีเงินใช้นั้นมักจะไม่มีใครสนใจเรื่องดนตรีเท่าไหร่แต่พอภาวะเศรษฐกิจย่ำแย่หรือชีวิตเดือนร้อน ผู้คนก็จะหันไปหาดนตรีเพื่อชะโลมใจให้คลายทุกข์และในยุคนั้นก็จะกลายเป็นยุครุ่งเรืองของดนตรีไป

ในยุคที่เศรษฐกิจล่มทั้งโลกครั้งแรกในปี 1929 นั้นผู้คนก็หันมาพึ่งดนตรีเพื่อคลายทุกข์ ยุคนั้นเป็นยุคกำเนิดของดนตรี Jazz, Swing ที่มีจังหวะสนุกสนาน ส่วนพวกที่ชีช้ำจนร้องไห้ไม่ออกก็หันไปร้องเพลง Blues ครับ

เพลง jazz standard ที่เรารุ้จักกันทุกวันนี้ก็ถือกำเนิดมาในยุคนั้นซะเป็นส่วนมาก นักแต่งเพลงดังๆอย่าง George Gershwin, Cole Porter ก็ดังมาจากยุคนั้นเช่นเดียวกัน พอมาถึงยุคปัจจุบันที่เศรษฐกิจอเมริกาและยุโรปเริ่มห่อเหี่ยว คนก็เลยเริ่มกลับมาฟังเพลง Jazz & Swing กันอีกครับ

ตอนนี้เศรษฐกิจบ้านเรากำลังจะแย่ตามชาวบ้านเขา คนไทยก็คงอยากลืมทุกข์ด้วยเสียงเพลงสนุกๆกันอีกครับ ถ้าอยากเล่นหรือแต่งเพลงแบบสนุกๆผมแนะนำให้ลองฟังเพลงจังหวะ swing แล้วนำมาดัดแปลงเอา เพลงประเภทนี้ส่วนใหญ่คนแต่งตายหมดแล้วครับและลิขสิทธิ์เดินที่มีอายุ 75 ปีก็หมดแล้วด้วย เมื่อฟังแล้วก็เอาทำนองมาดัดแปลงบ้างวรับรองดังระเบิดครับ

ผมจะยกตัวอย่างหนึ่งเพลงนะครับ

เพลง swing ที่โด่งดังเพลงหนึ่งในยุค The Great Depression คือเพลง "On The Sunny Side of The Street" แต่งโดย Jimmy McHugh เมื่อปี 1930 ลองฟังทำนองและเนื้อหาดูครับ



เพลงข้างบนน่าจะเป็นแรงบันดาลใจให้สุรพล โทณะวณิกแต่งเพลงนี้ครับ



ผมคิดว่าเวอร์ชั่นของสุรพลทำนองเพราะกว่าครับ เพลง "รักไม่รุ้ดับ" นี่น่าจะอายุร่วมหกสิบแล้วเหมือนกันครับแต่พอมาเป็นเพลงโฆษณาผมก็เห็นเด็กร้องกันทั่วเมือง

ลองหาแงบันดาลใจจากเพลง swing บ้างครับ อย่างเพลง On The Sunny Side of The Street นี่เอามาแจมใด้สบายครับ

[beetle]

ครับ ตอนนี้ก็นั่งฟังเพลงอยู่อะครับ หาเพลงไปเรื่อยๆครับ ขอบคุณน้าPood ที่ช่วยชี้ทางสว่างให้ครับ น้านริศ มันคงไม่ดังขนาดนั้นมั้งครับเหอๆ