+++จะเล่นกีตาร์ช่วยลดโลกร้อนได้อย่างไร+++

[Maton_1]

มาตอบกับเยอะจังเลยแสดงว่าสนใจจริง ๆ แปลกดี ผมช่วย clear เพิ่มเติม...
...เด็กช่างกลที่ประพฤติตัวดี มุ่งมั่นตั้งใจก็จบวิศวะได้ดี ผมชื่นชมด้วยใจจริง...ส่วนเด็กช่างกลที่ผมหมายถึง เป็นที่เรา ๆ เห็นเค้าพ่นสีเล่นเละเทะตามกำแพงนั่นแหล่ะ..ตำรวจก็เลยเอาไปฝากทหารให้อบรมศีลธรรมฝึกวินัยจนกลับเข้าสู่สังคมได้...น่าแปลกที่...ถ้าคน 4-5 คน สามารถเปลี่ยนสีฟ้าเป็นแดงได้....แต่ถ้าจะทำให้เหลือบไปบ้าง หม่นไปบ้างก็อาจเป็นได้...คน 4-5 คน นั้นสำคัญมากต่อผม ผมฟังและฟังและก็ตอบบ้าง...เข้าใจว่าแลกเปลี่ยนกัน..แต่คนอีกนับร้อยนับพันที่เค้ายังไม่ตอบคุณรู้ไหมครับว่าเค้าคิดอะไรกันอยู่...ทุกคนตัวจริงเสียงจริงใช่ไหม...บางคนสมัครสมาชิกไว้แล้วพวกเค้าหายไปไหน...แต่ไม่ว่าจะตอบซ้ำหรือไม่ซ้ำหรือยังไม่ตอบ...ผมก็ยังรอฟังอยู่ดี...
...มีเรื่อง"กระจก" มาเล่าให้ฟัง..."กระจกเงาสะท้อนทุกอย่าง"....
.....เวลาเรายืนหน้ากระจกยกแขนขวาขึ้นค้างไว้แล้วหมุนตัวออกนอกกระจก...(โดยภาพในกระจกไม่หมุน
ตามตัวเรา)...เมื่อทั้งภาพในกระจกและตัวเราต่างหันหน้าไปทางเดียวกัน...เราจะเห็นว่าภาพในกระจกกำลัง
ยกแขนซ้าย แต่ตัวเรากำลังยกแขนขวา...และเมื่อเราเดินห่างออกไปจากกระจก...ภาพในกระจกจะเล็กลงแต่ถ้าก้มมองตัวเรามันก็ขนาดเท่าเดิมนี่หน่า...
...การมองสิ่งใดก็ตามจากภาพสะท้อน...มักให้ผลตรงข้ามและมีขนาดบิดเบือนจากความเป็นจริงเสมอ...
...ถ้าสิ่งที่เรานำไปสะท้อนเป็นเรื่องเหตุผล...มันจะกลับกันทันที หรือถ้านำข้อเท็จจริงไปส่องมันจะเกิดการบิดเบือนทันที...
...กระจกสะท้อนมีอยู่ในทุกคนเพราะทุกคนพยายามมองผ่านมัน...ผมยกตัวอย่าง
1) ผมถามว่ากีตาร์กับโลกร้อน...บางท่านบอกว่า โลก(ไม่ร้อน)และ(ไม่เกี่ยวกับกีตาร์)
2) ผมกล่าวถึงหลักการศีลธรรม...บางท่านบอกว่า ไม่มีศาสนาและไม่เคร่งศีลธรรม
3) ผมกล่าวถึงหลักการอนุรักษ์...บางท่านบอกว่า ไม่อนุรักษ์และไม่ต้องมาชี้นำ
4) ผมทำบ้าน AF...บางท่านบอกว่า ผมกำลังทำวิจัย
5) ผมกล่าวถึงการรณรงค์ห่างไกลยาเสพติด...บางท่านบอกว่าขึ้นกับเราไม่เกี่ยวกับใคร
6) ผมบอกว่าเห็นเด็กช่างกลพ่นสีกำแพงอยู่ 4-5 คน...ท่านก็บอกว่าเห็นเด็กช่างกลคนเดียวพ่นสีอยู่...
7) ท่านบอกว่าผมตั้งแง่แต่จะเอาชนะและหมิ่น...ทางผมก็เห็นว่าท่านตั้งแง่จะเอาชนะและหมิ่นเช่นกัน....
...นี่บางส่วนเท่านั้นเอง...เห็นมุมมองที่ตรงกันข้ามกันขัดแย้งกันไหมครับ ??? เมื่อต่างคนต่างพยายามเอา
กระจกเงาของตัวเองมาสะท้อนใส่กันและกัน...
...มาดูในแง่อารมณ์บ้าง...กระจกเงายังทำหน้าที่เหมือนเดิม...เมื่อท่านยิ้มใส่กระจก คนที่เห็นภาพท่านใน
กระจกก็เห็นว่าท่านกำลังยิ้ม...ถ้าท่านแยกเขี้ยวเค้าก็เห็นว่าท่านกำลังแยกเขี้ยวอยู่...เพียงแต่ตาท่านกำลังเพิ่งมองคนที่สังเกตุการณ์ท่านอยู่..ท่านจึงไม่เห็นว่าท่านกำลังยิ้มหรือแยกเขี้ยว...
...ดังนั้นถ้าแต่ละคนต่างยกกระจกเงาของแต่ละคนใส่กัน ท่านจินตนาการสิครับว่า ภาพที่เห็นมันจะผิดเพี้ยนกันและตรงกันข้ามขนาดไหน อารมณ์และความรู้สึกมันโกรธมันจะพาท่านไปโดยที่ท่านไม่รู้ตัวเลย......ซึ่งผมเห็นมาบ้างแล้ว..หรือบางครั้งท่านคิดอะไรไปไกลจากประโยคเพียงแค่ประโยคเดียว...
...มาถึงเรื่อง "กระจกใสบ้าง"...หากกระจกของท่านเป็นกระจกใสจะสะท้อนอะไรไม่ได้เลย...ท่านจะมองเห็น
คนอื่นอย่างเดียว...แต่มองไม่เห็นภาพตัวท่านเอง...กระจกใส มีข้อดีหนึ่งข้อที่ชัดเจนมาก คือ เมื่อท่านมองเห็นแต่การกระทำของคนอื่น...สิ่งเดียวที่ท่านจะทำเมื่อท่านไม่อยากเลียนแบบคนอื่น คือ ท่านจะ "ริเริ่ม" เพื่อความแตกต่างที่สร้างสรรค์ทันที...ในด้านอารมณ์ท่านก็จะมองเห็นอารมณ์ผู้อื่นก่อนเสมอ...ทำให้ทราบจังหวะในการพูดคุย...
...มีเพียงสิ่ง ๆ เดียวจริง ๆ ที่ไม่มีผลต่อกระจกทั้งสองแบบ ....คือ "สัจธรรม" คือ ความจริงตลอดกาล คือ ความแน่นอนที่ไม่เคยแน่นอน...คำตอบที่มองผ่านสัจธรรม เป็นที่ยอมรับเสมอ...
...หากมุ่งทางอารมณ์และการชนะมากกว่าสาระสำคัญ...กระจกเงาจะมากขึ้น...ลองมองที่สัจธรรมดูซิครับ...แม้ข้อเท็จจริงจะถูกบิดเบือนได้ แต่สัจธรรมไม่มีวันบิดเบือน....
..................................ผมยังรับฟังทุกความคิดเห็นครับ...........................................

[pood]

ในบ้านนี้มีความแตกต่างกันมากมายกว่าที่น้า Pooh บอกด้วยซ้ำครับ

ชาติวุฒิ....เรามีบรรพบุรุษมาจากหลายชาติหลายวรรณะ

วัยวุฒิ.....เรามีประสพการณ์มากน้อยไม่เท่ากัน

คุณวุฒิ...เรามีความรู้ความชำนาญแตกต่างสาขาวิชาชีพกัน
บางคนฝักไฝ่หาความรู้ บางคนคิดแต่เรื่องไร้สาระไปวันฯ

อาวุธ....ข้อนี้แตกต่างกันเยอะสุดไม่ใช่แต่เรื่องกีต้าร์นะครับ
บางคนมีกีต้าร์ระดับเทพแต่แป้นพิมพ์ไม่มีตัว ฅ. ฅน

[povation]

กระทู้นี้ถือว่าเป็นกระทู้สำคัญกระทู้หนึ่งที่เปิดโอกาสให้เพื่อนสมาชิกออกความเห็นกัน แต่ด้วยความเห็นเริ่มมีความแตกต่างและไม่สามารถโอนอ่อนผ่อนตามฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดไปได้ คำพูดบางคำอาจนำมาซึ่งการทำลายมิตรภาพที่ดีต่อกัน ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่สมาชิกบ้านสีฟ้าต้องการ
เท่าที่ดูแล้วผมว่า น่าจะหาทางออกสำหรับกระทู้นี้ดังนี้ครับ
1.กระทู้นี้ขอเสียงโหวตว่า
- สมควรให้ออกความคิดเห็นเพิ่มเติมต่อไปโดยไม่จำกัดการโพสต์ ให้พิมพ์คำว่า....โพสต์ต่อ
- สมควรยุติการโพสต์ไว้เพียงเท่านี้และคงเก็บไว้เป็นกรณีศึกษาถึงความเห็นที่แตกต่างกันแต่ยังไม่ถึงกับแตกแยก เพื่อเปลี่ยนเรื่องไปคุยกันในเรื่องอื่นๆดีกว่า ให้พิมพ์คำว่า....หยุดเถิด
2. หากเสียงโหวตออกมาว่าโพสต์ต่อหรือหยุดเถิด มีจำนวนครบ 20 ท่านก่อนเมื่อใด ให้ถือตามนั้น
3. แต่มีข้อจำกัดว่าสมาชิกที่สามารถโหวตได้ต้องเป็นสมาชิกมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 สัปดาห์และเคยโพสต์ลงในกระทู้ใดๆก็ตามมาแล้วอย่างน้อย 1 โพสต์

[SARUN]

บางคนมีกีต้าร์ระดับเทพแต่แป้นพิมพ์ไม่มีตัว ฅ. ฅน

แป้นพิมพ์ของผมมีตัว ฅ. ฅน ...แต่ไม่มีกีต้าร์ระดับเทพ

- สมควรยุติการโพสต์ไว้เพียงเท่านี้และคงเก็บไว้เป็นกรณีศึกษาถึงความเห็นที่แตกต่างกันแต่ยังไม่ถึงกับแตกแยก เพื่อเปลี่ยนเรื่องไปคุยกันในเรื่องอื่นๆดีกว่า ให้พิมพ์คำว่า....หยุดเถิด

....หยุดเถิด ดวงใจโปรดได้ฟังเพลง..นี้...ก่อน....
คนที่3

[pop_250823]

หยุดเถิด....

[pood]

เราน่ะหยุดแล้ว ท่านสิยังไม่หยุด

[Maton_1]

...คำถาม ?จะเล่นกีตาร์ช่วยลดโลกร้อนได้อย่างไร?? ได้นำทุกท่านเข้าสู่การแสดงความคิดเห็นเข้าสู่บ้าน AF จนถึงห้องแห่งกระจกที่ได้สะท้อนด้านความคิดอารมณ์เหตุผล...จนท้ายสุดได้เห็นไปถึง?อุปนิสัยใจคอ?.กันเลย..
...กระจกที่อยู่ในห้องที่ผมเลือกใช้เป็นกระจกสากลโลก อันได้แก่ กระจกแห่งศีลธรรม กระจกแห่งการอนุรักษ์ทรัพยากร กระจกรณรงค์ต่อต้านสารเสพติด กระจกวัฒนธรรมและประเพณี เป็นต้น ล้วนล้อมรอบตัวท่านอยู่? ซึ่งความจริงกระจกทั้งหลายเหล่านี้?ท่านสามารถพบเห็นได้ในทุก ๆ สถานที่ทั่วไป ในทุก ๆ ประเทศทั่วโลก?เพียงแต่ทุก ๆ ครั้งที่เผชิญหน้ากับสิ่งเหล่านี้?ท่านจะฉุนเฉียวปฏิเสธต่อต้านทันทีหรือเลือกที่จะนิ่งเฉยหรือจะลองศึกษาดู?ห้องนี้เปิดกว้างให้ใครก็สามารถเข้ามาดูได้?.มีคนเข้าดูนับพันคน?คนที่ดูแล้วรู้สึกเฉย ๆ ก็จะหาทางออกจากห้องนี้?โดยไม่ได้เขียนอะไรทิ้งไว้?คนที่ยังไม่สนใจก็ยังไม่เดินเข้ามาดู?คนที่ดูแล้วแสดงความเห็นเขียนข้อความทิ้งไว้บนกระจกก็มี?บางคนเข้า ๆ ออก ๆ หรือบางคนเข้ามาร่วมขำขัน..ก็ยังมี?
?.ดังนั้นสิ่งที่ผมรอคอยไม่ใช่รอคอยคนที่จะมาเห็นด้วยกับผม?แต่ผมรอคอยคนที่ยังไม่เคยเข้ามาในห้อง?และอยากรู้ว่าคนเหล่านั้นเค้าคิดกันอย่างไร?สมาชิกจำนวนมากมายหายไปไหน?ทำไมคนตั้งและตอบกระทู้จึงมีกันวนเวียนไม่กี่คน?ดังนั้นผมจึงยังรอฟังคำตอบอยู่ตลอดเวลา?และเดินออกไปดูกระทู้อื่นหรือบ้านหลังอื่นบ้างเมื่อมีโอกาส
?ในการบำเพ็ญภาวนาครั้งหนึ่ง?มีผู้สัญญากับตัวเองว่าข้าพเจ้าจะไม่พูดตลอดช่วงพรรษานี้เพื่อจะไม่ต้องทำบาปในเรื่องวจีกรรม...ปรากฏว่า ปากเค้าไม่พูดเลยแม้แต่คำเดียว?แต่ใจเค้าพูดตลอดเวลา?
? ?เราหยุดแล้ว ท่านซิยังไม่หยุด? ซึ่ง ?หยุด? ในความหมายนี้ไม่ใช่ว่าหยุดทำทุกสิ่งทุกอย่าง?แต่หมายถึง ?หยุดในมิจฉาทิฐิ แต่มุ่งหน้าในสัมมาทิฐิ??จอมมารถึงได้เป็นพระอรหันต์ได้?ดังนั้นการหยุดจึงไม่ใช่การห้ามกายกรรม วจีกรรม และมโนกรรม?
?แต่การหยุดคือการกลับทิศของมิจฉาทิฐิไปสู่สัมมาทิฐิ?.
?น๊าป๋อได้เสนอเรื่องการ vote?เพื่อเขียนต่อหรือไม่เขียนต่อ?.ผมเข้าใจและเห็นเจตนาดีในเรื่องนี้?ปัญหาของการ vote คือมันจะเป็นผลกระทบในระยะยาว?เพราะทุกคนที่คิดได้จะไม่มีโอกาสได้พูดอีก?และคนที่เคยพูดก็ไม่มีโอกาสให้คิดต่อยอด?เมื่อกระทู้มีคนเข้ามาตอบหลายคน?หากเราใช้คำว่า หยุดเพียง 20 คำ มาคว่ำบาตรหรือล่มกระทู้นี้?คนนับพันคนที่ดูกระทู้นี้จะเข้าใจว่าอย่างไร?.ในอนาคตถ้ามี Mr. Maton 2 , Maton 3?4?5?6 ที่เค้าอยากจะเริ่มถามคำถามแล้วก็มีคนเข้ามาตอบ?แต่ตอนจบต้องใช้วิธี 20 เสียง เพื่อปิดกระทู้ ทุก ๆ ครั้ง?แบบนี้เราจะมีจำนวนสมาชิกเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วทุกวัน?แต่จะมีคนมาเล่นกระทู้เพียงไม่กี่คน?ผมขอไม่มีความเห็นที่จะ vote อย่างใดอย่างหนึ่งนะครับ?แต่ผมในฐานะเจ้าของกระทู้ยังคงรับฟังและฟัง?ต่อไป...ผมจะพยายามนำวิธีลดโลกร้อนที่จะเป็นประโยชน์มาลงในกระทู้นี้อย่างต่อเนื่อง?หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับผู้ที่ได้อ่านต่อไปครับ?โอกาสเปิดกว้างสำหรับทุก ๆ คน...

[yodchula]

คั่นโฆษณา...............