NimitGuitar webboard
YAMAHA L-8 STORY - Printable Version

+- NimitGuitar webboard (http://www.NimitGuitar.com/mybb)
+-- Forum: All solid webboard (http://www.NimitGuitar.com/mybb/forumdisplay.php?fid=1)
+--- Forum: Guitar gallery (http://www.NimitGuitar.com/mybb/forumdisplay.php?fid=3)
+---- Forum: Pood's Guitar Gallery (http://www.NimitGuitar.com/mybb/forumdisplay.php?fid=20)
+---- Thread: YAMAHA L-8 STORY (/showthread.php?tid=8324)



YAMAHA L-8 STORY - pood - 13-10-2010

เนื่องจากมีน้าๆหลายคนใด้ PM มาถามผมเกี่ยวกับ Yamaha L serie ว่าผมมีขายหรือเปล่า ผมก็เลยขอเอาเรื่องราวของกีต้าร์รุ่นนี้มาเล่าสู่กันฟังในหน้า gallery เพราะถ้าไปเล่าในหน้าซื้อขายกระทู้ก็จะตกเร็วมากจนไม่เป็นประโยชน์กับคนอื่นที่สนใจประวัติของรุ่นนี้

หลายๆคนคงจะไม่ทราบว่า Yamaha เป็นบริษัทแรกที่เปิด custom shop ที่โรงงานใน Hamamatsu ตั้งแต่ปี 1966 (ก่อนหน้า Martin และ Fender เป็นสิบปี)
ในยุคแรกนั้นก็ทำแต่กีต้าร์คลาสสิค Grand Concert Series อย่างเดียว ต่อมาในปี 1972 ถึงใด้เริ่มผลิตกีต้าร์สายเหล็ก Handcrafted Series สองรุ่นแรกคือ FG1500 และ FG2000 อีกสามปีต่อมาก็เลิกผลิตสองรุ่นนี้และออก L series ที่ออกแบบใหม่หมดมาหลายรุ่น L series แบ่งเป็นสองระดับราคาคือพวก limited edition ที่ราคาแพงเท่าๆกับรถยนตร์มือสองในสมัยนั้นทำเอาไว้แจกพวกศิลปินดังๆเอย่าง John Denver, James Taylor, John Lennon, Paul Simon, Bruce Springsteen เพื่อโปรโมทยี่ห้อและรุ่นที่ชาวบ้านพอซื้อใด้ซึ่งเรียกว่า handcrafted series เหมือนกัน

พวกรุ่นแพงที่ออกมาในปี 1975 มีดังนี้คือ L51, L52, L53, L54 lส่วนรุ่นปกตินั้นก็มี L5, L6, L7S, L8, L10, L15 และ L31 (L31 ออกเป็นรุ่นแรกปลายปี 1974) ส่วนราคานั้นถ้ารุ่นปกติก็คือชื่อรุ่น + 0000 อย่างรุ่น L5 = 50000 yen รุ่น L15 = 150000 yen เป็นต้น ข้อมูลเพิ่มเติมดูใด้ที่นี่ครับ

http://www.yamaha.co.jp/product/guitar/archive/list/l_series.html

การที่ Yamaha เอาราคาไปผูกไว้กับชื่อรุ่นนั้นก็ทำให้เกิดปัญหาเพราะตอนที่วัสดุแพงขึ้นหรือค่าเงินอ่อนตัวกำไรก็หายหมด ดังนั้นหลังจากผลิตใด้แค่สองปีกว่าก็มีการเปลี่ยนสเป็คเพื่อลดต้นทุนในปี 1978 ในต้นยุค 80s นั้นค่าเงินเยนแข็งขึ้นเรื่อยๆทาง Yamaha เลยต้องขยายโรงงานที่ไต้หวันที่ค่าแรงถูกกว่าและลดยอดผลิตที่ญี่ปุ่นลงเรื่อยๆ

โรงงาน Hamamatsu Wada gลิกผลิตกีต้าร์โปร่งในปี 1985 ซึ่งก็เป็นจุดจบของ L series (Japan) ทุกรุ่นและปิดกิจกรรมทั้งหมดในปี 1987 และไม่มีการผลิตในญี่ปุ่นอีกจนถึงปี 1997 ที่กลับมาเปิดโรงงาน Yamaha Music Craft ที่ Hamamatsu อีกเพื่อผลิตกีต้าร์ high end.

ดังนั้นพวก L series รุ่นหลังปี 1985 จนถึงปี 1997 ไม่ว่าจะเป็นรุ่น LL, LA, LD, LE นี่ผลิตในไต้หวันหมดนะครับ ผมไม่ใด้บอกว่ากีต้าร์ไต้หวันเสียงสู้ญี่ปุ่นไม่ใด้นะครับแต่การเปลี่ยนจาก lacquer มาเป็น polyurethane finish นี่ทำให้กีต้าร์ไต้หวันขึ้นฝ้าเกือบทุกตัวเมื่อมาเจอความชื้นในบ้านเรา
Yamaha L-8 มีสองรุ่นนะครับ รุ่นแรกผลิตอยู่แค่สองปีกว่าเป็น all soli สเป็คเดียวกับ L-10 รุ่นสองส่วนรุ่นหลังเป็น solid back ครับ

[Image: l81h.jpg]


ส่วน L-8S นั้นหน้าตาและสเป็คต่างจาก L-8 ปกติโดยสิ้นเชงเพราะมันคือ L-7S ที่โดนเปลี่ยนชื่อใหม่ในปี 1980 เพื่อเพิ่มราคาขายจากเจ็ดหมื่นเป็นแปดหนื่นเยนครับ

[Image: l82.jpg]

หน่าตาสามพี่น้องครับ

[Image: sc05351.jpg]

[Image: sc05362.jpg]


Fingerboard inlay รุ่นแรกจะเรียบง่ายสุด

[Image: l83y.jpg]

Purfling รุ่นแรกเป็นรูป diamond ส่วนรุ่นสองเป็น herringbone pattern

[Image: sc05356.jpg]

[Image: sc05365.jpg]

คอรุ่นแรกเป็นคอ V ส่วนรุ่นหลังเป็นคอ C เหมือน Martin รุ่น Vintage vs. Standard ครับ

[Image: sc05369.jpg]

รุ่นแรกหลังนูน ส่วนรุ่นหลังหลังเรียบ

[Image: sc05368.jpg]

ลูกบิดเป็นคนละรุ่นครับ

[Image: sc05358.jpg]

ส่วนเรื่องเสียงนั้นคล้ายกันมาก (ผมชอบ balance เสียงรุ่น L-8 มากกว่า L-10 ที่ผมว่าเบสหนักไปหน่อย) รุ่นแรกหางเสียงยาวกว่าคล้ายๆกับมี reverb ในตัว ส่วน L-8S นั้นเสียงฉ่ำดีมากครับแต่เสียงไม่ใด้ไกล้เคียงกับอีกสองตัวเลย

ผมคิดว่า Yamaha L series Japan น่าจะเป็นกีต้าร์สะสมอีกรุ่นหนึ่งในอนาคตเพราะเป็นกีต้าร์เสียงดีราคาแพงในยุค 70s และเริ่มหายากขึ้นทุกวัน อย่าง L-10 รุ่นแรกนี่สภาพสวยๆก็ซื้อขายกันประมาณห้าหมื่นบาทในญี่ปุ่นแล้วครับ หรือแม้แต่กีต้าร์ถูกๆอย่าง FG180 ที่ราคามือหนึ่งแค่ 18000 เดี๋ยวนี้ก็ยังขายกันเกือบสองหมื่นบาท ส่วนพวก L series รุ่น 50 up นั้นตอนนี้ถ้าสภาพดีก็ราคาไม่ต่ำกว่าสองแสนแล้วครับ ใครใด้มาครอบครองอย่างที่บ้านเต่าก็นับว่าโชคดีไป (ผมก็อยากใด้แต่ใจไม่ถึง)







RE: YAMAHA L-8 STORY - yuth_pu - 13-10-2010

ข้อมูลแน่น กีต้าร์งาม ขอบพระคุณที่แบ่งปันความรู้ครับ


RE: YAMAHA L-8 STORY - pood - 13-10-2010

1977 YAMAHA L-8 (All Solid)

[Image: sc05378.jpg]



[Image: sc05379.jpg]



[Image: sc05390.jpg]



วันเดือนปีเกิด

[Image: sc05387.jpg]


ลูกบิดทองสีจางบ้าง คอมีรอยนิดหน่อย

[Image: sc05401.jpg]


มีรอยถลอกและรอยขีดข่วนแต่ไม่มีรอยแตกหรือรอยบุบถึงเนื้อไม้ครับ

[Image: sc05395.jpg]

กล่องแท้รุ่นแพงของ Yamaha (ตอนถ่ายใส่กีต้าร์ผิดตัวครับ)

[Image: sc05405.jpg]


1980 YAMAHA L-8 (solid top, solid back)

ตัวนี้สภาพสวยกว่าตัวบนครับ

[Image: sc05376.jpg]

คราบในรูปเกิดจากการลืมเช็ดก่อนถ่ายครับ เดี๋ยวค่อยถ่ายใหม่ครับ

[Image: sc05375.jpg]



[Image: c05358.jpg]



[Image: c05365.jpg]



[Image: sc05389.jpg]



[Image: sc05388.jpg]



กล่องแท้เหมือนกัน

[Image: sc05403.jpg]


RE: YAMAHA L-8 STORY - pood - 13-10-2010

1980 YAMAHA L-8S (Heavy relic)

ตัวนี้ไม้ไม่แตก ไม่บุบแต่รอยถลอกเยอะมาก คอตรงเล่นง่ายเสียงดีครับ

[Image: c04715.jpg]




[Image: c05386.jpg]




[Image: c05380.jpg]




[Image: c04727.jpg]




[Image: c04724.jpg]




[Image: c04718.jpg]


ตัวนี้เปลี่ยน saddle ใหม่เป็น bone เพราะอันเดิมที่ติดมาตอนซื้อมันต่ำเกินไปจนเล่นแล้ว buzz นิดๆครับ

[Image: c04729.jpg]


RE: YAMAHA L-8 STORY - yuth_pu - 13-10-2010

ตัวสุดท้ายนี้สวยมากครับ รอยประสบการณ์เยอะเชียว Smile


RE: YAMAHA L-8 STORY - SuwaanZ - 13-10-2010

ขอบคุณที่ให้ความรู้ครับ


RE: YAMAHA L-8 STORY - โฟล์คน้อย - 15-10-2010

ตามอ่านอยู่ตลอด.. ยิ่งอ่านยิ่งสนุก

ขอบคุณพี่กฤษณ์ครับ

...............................................


RE: YAMAHA L-8 STORY - humnoi - 22-12-2010

ปีหน้าหวังว่า จะได้ L8 มาชมอีกสักตัวครับ
ปีนี้ L6 ก็พอ