NimitGuitar webboard
"Thinline Story" เรื่องราวของกีตาร์ตัวบาง - Printable Version

+- NimitGuitar webboard (http://www.NimitGuitar.com/mybb)
+-- Forum: All solid webboard (http://www.NimitGuitar.com/mybb/forumdisplay.php?fid=1)
+--- Forum: Guitar gallery (http://www.NimitGuitar.com/mybb/forumdisplay.php?fid=3)
+---- Forum: Pood's Guitar Gallery (http://www.NimitGuitar.com/mybb/forumdisplay.php?fid=20)
+---- Thread: "Thinline Story" เรื่องราวของกีตาร์ตัวบาง (/showthread.php?tid=19109)

Pages: 1 2


RE: "Thinline Story" เรื่องราวของกีตาร์ตัวบาง - pood - 01-11-2014

(30-10-2014, 20:40)Naris Wrote: ชอบ The animals ครับ

The Animals ก็ใช้ Gretsch 6119 Chet Atkins Tennessean ซึ่งเป็นกีตาร์ thinline semi-hollow body ครับ





มาเล่าเรื่องต่อครับ

Epiphone Casino นั้นเลิกผลิตในอเมริกาตั้งแต่ปี 1971 และย้ายไปผลิตในญี่ปุ่นอยู่่สี่ห้าปี หลังจากนั้นก็ลดต้นทุนโดยย้ายไปผลิตในเกาหลี ต่อมาตั้งแต่ปี 2006 ก็ย้ายมาผลิตเมืองจีน ตอนนี้สามารถหาซื้อมือหนึ่งใด้ในราคาสองหมื่นกว่าบาทเท่านั้นเอง

http://www.ctmusicshop.com/store/product/view/Epiphone_Casino-11539497-th.html


แน่นอนว่ากีตาร์ Epiphone USA นั้นจากที่เคยเป็น "Gibson รุ่นประหยัด"ในยุค 60s ก็เลยกลายเป็นกีตาร์สะสมไปในหลายรุ่นแต่รุ่นที่ดังสุดก็คือ Casino ซึ่งราคามือสองนั้นเกินสองแสนบาทในขณะที่ราคาของ Gibson ES-330 ยุคเดียวกันนั้นราคามือสองไม่ถึงแสนบาทครับ

เมื่อมีเสียงเรียกร้องให้ Gibson ผลิต Epiphone ระดับโปรมาขายอีกครั้ง ทาง Gibson ก็เลยไปจ้างให้โรงงาน Terada ผลิตรุ่น hollow body และโรงงาน Fujigen ผลิตรุ่น solid body ออกมาขายในปึ 2002 โดยตั้งชื่อรุ่นว่า "Elitist Series" ซึ่งตั้งราคาแพงเท่าๆกับ Gibson USA ก็เลยขายไม่ดีเท่าไหร่และเลิกผลิตไปในปี 2008 ยกเว้นรุ่นเดียวคือ Casino Elitist ทียังขายดีจนถึงทุกวันนี้

http://epiphonewiki.com/index.php/Elitist_Archtops_(Japan)


[Image: 141101120212.jpg]


Dwight Yaokam กับกีตาร์ signature ที่ดัดแปงจาก Casino Elitist ของเขาครับ




ตัวของผมครับ เสียงคนละแนวกับ ES-330 เพราะมี bite มากกว่าแต่ ES-330L มีเสียงของกีตาร์ acoustic มากกว่า

[Image: 141101121700.jpg]



P-90 USA Pickups

[Image: 141101121814.jpg]



1 1/2" body depth.

[Image: 141101122039.jpg]



[Image: 141101122146.jpg]




[Image: 141101122316.jpg]


เสียงคลีนปิคอัพหน้า






RE: "Thinline Story" เรื่องราวของกีตาร์ตัวบาง - pood - 01-11-2014

Semi-hollow Body Thinline Electric Guitars


คนที่ควรจะใด้เครดิตในการออกแบบ semi-hollow body น่าจะเป็น Les Paul ที่เอาไม้ทั้งท่อนมาทำลำตัวและคอของกีตาร์ไฟฟ้าและเลื่อยตัวของกีตาร์ archtop มาประกบสองข้างเพื่อให้หน้าตามันเหมือนกีตาร์ในยุค 1940s เขาเรียกกีตาร์ต้นแบบนี้ว่า " The Log" และเสนอไอเดียให้กับ Gibson แต่ไม่ใด้รับความสนใจ ต่อมาเมื่อกีตาร์ solid body คือ Fender Telecaster เริ่มดังทาง Gibson ก็เลยเชิญเขาไปออกแบบ Gibsin Les Paul ออกมาแข่งบ้าง ส่วน "The Log" นั้นมาแจ้งเกิดในปี 1958 เพื่อสนองความต้องการของคนที่อยากใด้กีตาร์ hollow body ที่ไม่มี feedback


[Image: 141101072018.jpg]



ปัญหาของ simi-hollow body ก็คือเรื่องน้ำหนักดังนั้นกีตาร์ประเภทนี้ถ้าใช้ไม้ทั้งท่อนตรงกลางตลอดตัวจึงจำเป็นต้องเป็น thinline อย่างเช่น Gibson ES-335 เพราะถ้าหนาคงไม่มีใครแบกขึ้นเวที่ไหวแน่ ถ้าทำตัวหนาขึ้นมาหน่อยเพื่อให้เสียงของ archtop ก็ต้องใช้แกนกลางแบบไม่เต็มหมือน Gibson ES-135,137, Country Gentleman หรือ Gretsch รุ่น 6119, 6122 เป็นต้น


[Image: 141101072915.jpg]

[Image: 141101073008.jpg]