NimitGuitar webboard
เรื่องเล่า เเบบหัทยา^^ - Printable Version

+- NimitGuitar webboard (http://www.NimitGuitar.com/mybb)
+-- Forum: Others (http://www.NimitGuitar.com/mybb/forumdisplay.php?fid=12)
+--- Forum: Travel / Telling story (http://www.NimitGuitar.com/mybb/forumdisplay.php?fid=6)
+--- Thread: เรื่องเล่า เเบบหัทยา^^ (/showthread.php?tid=1657)

Pages: 1 2 3 4 5 6


RE: เรื่องเล่า เเบบหัทยา^^ - pood - 16-05-2008

คนที่รักแม่(รวมทั้งผมด้วย) ลองหยุดคิดซักนิดว่าเคยทำอะไรให้แม่ชื่นใจหรือภูมิใจบ้างในชิวิต
ของเรา พวกเรามักจะคิดกันว่า "ชิวิตของข้าใครอย่าแตะ" แต่ไม่ยักคิดว่าที่เราเติบโตมาใด้จนถึง
วันนี้ใครเป็นคนเลี้ยงดูเรามา

ลองหยุดคิดซักนิดครับก่อนที่มันจะสายเกินไป


RE: เรื่องเล่า เเบบหัทยา^^ - .::.pOoH.::. - 16-05-2008

วันจันทร์นี้ แทนที่จะไปเที่ยวกับเพื่อนหรือแฟนหรือกิ๊ก ก็พาแม่ไปเที่ยวแล้วก็ทำบุญกันนะครับ Smile


RE: เรื่องเล่า เเบบหัทยา^^ - hattaya111 - 19-05-2008

Good moornig


?..ในเกือบทุกเช้า ที่มีอาการ **ต้องตื่นขึ้นมา ** โดยจิตใต้สำนึก มันบอกฉันเลยว่า........

** เลิกนอนได้แล้ว นายต้องเปิด comp หรือ หาเรื่องอะไรทำสักอย่าง .... ลุกๆๆๆ **

และ ทั้งที่เรารู้ตัวเราเองเลยนะ ว่า?..

** เฮ้ย...นอนไม่พอเลย หลับยังไม่เต็มตา จะลุกขึ้นมา หา...ทำพระแสงอะไร ฟระ.. **



บ่อยๆเลยนะ ที่ต้องมานั่ง ทำๆอะไรไป ทั้งๆที่ตาแทบลืมไม่ขึ้น ไม่ว่าจะ เล่นกีตาร์ ทำงานเพลงของตัวเอง แม้กระทั่งพิมพ์อะไรแบบนี้

จึงเป็นคำถามว่า

** แล้วยังไง.. ทำไปทำไม ...เพื่ออะไร ?มรึง เป็นอะไรของมรึงงง ...ไม่หลับไม่นอน **



ตัวฉันเอง เฝ้าสังเกตุ ด้วยความมืดงัน ไร้คำตอบ มานานแล้ว พักใหญ่
มาเริ่ม สังเกตุโดยว่า เหตุที่ตื่น มันคงมีเหตุผลของกลไกลนั้นอยู่ อย่างแน่นอน

**อ๋อ ...หรือมันจะอยาก ใช้เวลาที่มี ไม่ให้ว่างเปล่า ด้วยการตักตวง ใช้เวลาต่อวันใ ห้มากกว่าชาวบ้านเค้า **
คล้ายแบบ ที่เคยมีอยู่ช่วงนึง ตอนสมัย เคยไปพักใช้ชีวิตที่หัวหิน


หัวหิน
ช่วงนั้นคือ วันเวลาที่ดีช่วงหนึ่ง ในชีวิตทีเดียว เป็นเช่นนั้น อยู่สัก 1 ปี แล้วก็ต้องมีเหตุ ให้ระบบชีวิต ต้องเปลี่ยนไปอีก

จนแอบมาคิดกับตัวเอง ว่า

**เราไปมีชีวิต เป็นแบบยิปซี ไปแล้วรึเปล่าว **

ไม่สามารถอยู่กับอะไรได้นาน ต้องคอยมีอันต้อง เดินจากสิ่งต่างๆในชีวิตอยู่ซะตลอดเลยทีเดียว

[attachment=8525]

การตื่นแต่เช้า ดูพระอาทิตย์ขึ้น เกือบทุกวันคนเดียว ริมทะเล
ชายหาดๆที่เราสามารถ ตื่นได้ทุกวันที่นั่น โดยไม่ต้องเสียค่าเช่าที่พักราคาแพงๆ

ฉันใช้คำบังหน้าที่บ้านว่า **มาทำงาน ** ในตอนแรก โชคดีที่ได้พักอยู่ กับเจ้าของรีสอร์ท ลองไปๆกลับๆแบบนี้อยู่ไม่นาน

จากนั้นบังเอิญได้งาน จากเจ้าของรีสอร์ท คนเดิมนั่นแหละ พอดี แกชอบดนตรี และ อาจมีนิสัยอะไรบางอย่างของฉัน ที่สร้างความพอใจ จึงทำให้ ถูกอัตราเงินค่าจ้าง ซื้อความอิสระส่วนตัว มาใช้ชีวิตประจำการอยู่ที่นี่


แต่ก็คงคุ้มค่า น่าพอใจ กับที่พัก อาหารการกิน การให้เกียรติ์ รายได้ส่วนหนึ่งที่ได้มา

มันทำให้ผมแอบไปนึกถึง นักดนตรี สมัยยุค บาโร๊ค คลาสสิค หรือ ในยุคก่อนๆ ที่ถูกเลี้ยงดู เอื้อเฟื้อ ชุบเลี้ยง จ้างงาน โดยคนมีเงิน พ่อค้า กษัตริย์ คหบดี อะไรทำนองนั้น

ที่นี่ก็เช่นกัน ฉันเสรีชน คนที่ไปไหนมาไหน ถูกให้เกียรติ์ ว่าคือ เพื่อนคุณเจ้าของที่นี่ หลานคนนั้น อะไรอย่างงั้นอย่างงี้

โดยที่ ตัวพี่เค้าเอง ก็มักจะภูมิใจ นำเสนอผม กับเพื่อนฝูงคนรู้จัก ไม่ว่าไทย หรือ เทศ ในโอกาสต่างๆ ให้แสดงความสามารถ หรือ เป็นหัวข้อนึงของเรื่องสนทนา
กล่าวชื่นชมด้วยความสามารถ หรือ นินทา แบบเผาขน เรื่อง พฤติกรรมประหลาด อะไรแปลกๆ
ซึ่งเป็นปกติของฉัน ที่เกิดขึ้นเสมอ แต่ก็สร้างความบันเทิง แก่คณะ เพื่อนฝูง คนต่างๆของแกไม่น้อย

ที่นี่ ทำให้ฉันเหมือนนักดนตรีเคลื่อนที่ คอยเล่นประกอบกับ บรรยากาศต่างๆ ของในแต่ละช่วงเวลาของแต่ละวัน

ซึ่งผู้เล่น ก็เหมือน นักพูด ผู้เล่าเรื่อง ย่อมรู้สึกดีเสมอ ที่ได้มีผู้รับฟังชื่นชม สิ่งที่เรานิยมเสนอ

ใมวิถีการแสดงออก บอกเล่าของเรานั้น โชคดีที่มีการบอกเล่าพลิกแพลงสดๆ เปลี่ยนแปลงรูปแบบในเนื้อหาเดิม โดยการด้นสด หรือ ที่เรียกกันทางดนตรีว่า Improvisation

ที่นี่ดีที่สงบ เงียบน่าเล่นดนตรี โชคดีมาก ที่มีทั้ง กีตาร์ และ เปียนโน ให้ได้เล่นอย่างสุขใจ

การเล่นดนตรีประกอบ ส่วนต่างๆในเวลาของชีวิต เป็นไปอย่างสมบูรณ์ ทั้ง ผู้รับสาร และ ผู้สื่อสาร


ภารดรภาพ ก็ดำเนินไปได้ด้วยดี


RE: เรื่องเล่า เเบบหัทยา^^ - Webmaster - 19-05-2008

น้า hattaya111 ร้านอยู่ตรงไหนเอ่ย น่าไปเยี่ยมจัง...


RE: เรื่องเล่า เเบบหัทยา^^ - hattaya111 - 19-05-2008

ในเวลาต่อมา
การถ่ายรูป เป็นเหตุผลหนึ่ง ที่ ค่อยๆถูกนำมาเป็นข้ออ้าง ของการตื่นเ เฝ้าตะวันทุกเช้า

และ ก็เป็น กรรมเวร ที่พี่เจ้าของที่นอน ชื่นชม

แต่บางที สิ่งที่เรารักสิ่งหนึ่ง ก็จะพาเราเดินจากที่หนึ่ง ไปยังอีกที่หนึ่ง

นำเราต้องห่างจาก ความรู้สึกรักผูกพันธ์ใดๆที่เคยมี


ความสุขในตัวตน ที่ได้ค้นพบ และ เรียนรู้ ......บางทีก็ ต้องแลกมาด้วย...... การจากลา


[attachment=8527]


พี่เจ้าของรีสอร์ท ที่เป็นที่นอนหลุมหลบภัยของผมนี้ เป็นคนที่ค่อนข้างเหงา และ อาจชอบอยู่ท่ามกลางคนใกล้ชิด บริวาร
บางทีการมีทรัพย์สิน เงินทองล้นกาย ก็มิอาจทำให้ ค้นพบความหมายใด แม้ความสุขจากการ มีมิตรแท้ที่จริงใจ

ซึ่งแก ก็หาผลประโยชน์ตอบแทน เหล่ามิตรชั่วคราว ที่มาร่วมก่อบรรยากาศ ที่ดูคล้ายความครึกครื้นของแก
จะด้วย สุราชั้นดี รถสปอร์ทสวยๆแพงระยับให้ขับเล่น ข้าวของเครื่องใช้ต่างๆนาๆให้ล้างผลาญ ภาพพจน์ที่โอ่อ่า คนดูแลรายล้อม

เมื่อมือเติบ เงินถึง สาวๆก็วิ่งมาตอมกลิ่น บรรยากาศ ที่พิเศษ และ ดูภูมิฐานเหล่านั้น เพื่อนผูง ก็ตามมา
ดังฝูงคางคกหิวกระหาย เจอฝูงยุงที่แสนโอชะ ซึ่งก็เป็น วัฏจักร ของสิ่งมีชีวิตที่ กินกันเป็นห่วงโซ่อาหาร



ผมก็เป็นอีกคนนึง ที่เคยยืนอยู่ตรงนั้น กลิ่นซิการ์ สุราไฮโซ เต้นรำ ท่ามกลางสาวๆ สูดกลิ่นอายของพวกหล่อน
ที่เต้นระเริงกาย ขยับย้ายทรวดทรง อย่างใกล้ชิด เร้าอารมณ์ ประกอบการมึนเมา แบบแทบไร้สติ ที่แสนสนุกสนาน ไร้ขีดจำกัด แผลงฤทธ์กันอย่างสุดขั้ว

สิ่งต่างๆที่ไม่ค่อยได้สัมผัส ไม่เคยทำมาก่อนเลยในชีวิต มันช่างน่าสนุกสนาน ชวนลุ่มหลงซะยิ่งกระไร



เป็นไปได้อยู่สักพัก** มองเห็นของในมุมมืด ด้วยตาที่สว่างขึ้น **

เห็น ปาร์ที่ที่เริ่มต้นอย่างโอ่อ่า สวยสง่า รื่นเริง และ เห็นการจบงานที่ เต็มไปด้วย กองขยะคนเมา สาวสาวที่ยับเยิน ยุ่งเหยิง
โซเซไม่รู้เรื่อง ร้องโวยวาย ไม่ต่างจากสัตว์

ขนตาปลอม หน้าอกปลอม บางที่ก็มีถุงยางอนามัย ที่เพิ่งผ่านการใช้งานอย่างเผ็ดร้อนเร่งรีบ กระเด็นหล่นชุ่มเปียกอยู่ตามซอกมุมต่างๆ

** โอ้ว์..ลูกโป่งสุขสันต์ ผิวสัมผัส ที่ดู เปียกมัน น่าหยิบมาเป่าต่อเล่นจริงๆ 555 **



แสงตะวันที่ฉายภาพจริง ละลายคราบเครื่องสำอาง โชว์ภาพลักษณ์ คราบไคลรอยร่อง ความเป็นจริงต่างๆ ของซอกหลืบที่เคยพรางซ่อน ปรากฏขึ้นทีละชั้น


รู้เห็น เข้าใจสิ่งเป็นไปต่างๆเช่นนั้นไม่นาน..... ก็เริ่ม อิ่ม เบื่อ เดินหามุมวิเวก มีความสุข กับความธรรมดาที่เรียบง่ายอีกเช่นเคย



จึงเริ่มมา **จับกล้องถ่ายรูป **เพื่อหากิจกรรม ก่อเหตุผล ให้กระตุ้นตื่น
แม้ในหลายครั้ง จะเพิ่งกลับมาจาก การร่ำสุรา เป็นตัวประกอบ ในค่ำคืนนั้นๆอย่างเหนื่อยล้า
แม้เริ่มเท่าทันมองเห็นหลายๆสิ่ง ในสภาวะที่แท้จริง

ก็เลี่ยงได้บ้าง ไม่ได้บ้าง .......แต่ จนในที่สุด ละลา ทิ้งระยะออกมาจนสำเร็จ


การรอแสง ถ่ายรูป ในที่ทาง และ มุมมองต่างๆ ...... บอกเล่า ถ่ายทอดเรื่องราว ของสิ่งต่างๆ ได้อย่างน่าอัศจรรย์ใจ

เครื่องบันทึก หยุดเวลานี้ นับเป็น ของขวัญจากพระเจ้า ที่แสนวิเศษ โชคดีเหลือเกิน ที่ได้เรียนรู้ และ มีโอกาศได้สัมผัสมัน



กิจกรรมยามเช้า ที่ เคยมีมาแต่เดิม คือ การไปซื้อของ ที่ร้านขายข้าวแกงร้านนึง คุยทักทายปราศรัย กับคนขายสักพัก รอพระตักบาตร
หรือ ขับรถมอเตอร์ไซด์ ไล่ตามหาพระ เพราะอาจออกมาสาย /พระแถวนี้ ท่านจะออก บิณทบาตรในเวลาที่เช้ามากๆ /

ฉันเป็นเหมือนลูกค้าประจำ ของท่านอย่างสม่ำเสมอ

ความรู้สึกของฉันต่อพระ คือ ท่านจะเป็นเหมือน บุรุษไปรษณีย์ ที่ส่ง ข้าวของ อะไรต่างๆ
แม้กระทั่ง ความรู้สึก ไปยังที่ หรือ บุคคล ที่เราไม่อาจสื่อสารได้ ด้วยระบบการสื่อสาร ปกติ ที่มีบริการอยู่ จะ internet โทรศัพท์

คล้ายๆ โรงพยาบาล ที่ฉัน ก็แอบคิด และ ชอบเรียกไปว่า** สนามบิน **ที่ๆมีผู้โดยสาร ขาเข้า และ ขาออก

การเกิด และ ตาย ล้วนแต่ เป็นการเคลื่อนที่เดินทางของ วิณญาณทั้งสิ้น ** ที่ฉันคิดนะ **


หลังจากกิจกรรมภายนอก

ก็จะกลับมาว่ายน้ำ ในสระที่ไม่มีใคร ตอนก่อนแดดออกความเข้มแรงขึ้น
ในยามสาย ฉันจะวางสมุดไว้ริมขอบสระ ว่ายน้ำวนๆขนานไปในสระ เป็นวงกลม ในสมองของฉันที่อยู่ในน้ำ
ฉันจะคิด แต่งเพลง หรือ เขียนเรื่องอะไรบ้าง เมื่อ คิดได้ จะมาเขียนจดไว้ในสมุดที่เละๆนี้

ฉันรักสมุดของฉันเล่มนี้มาก เคยหายไป1เล่ม แต่ตอนนี้ ระวังตัวมากขึ้นมากๆ
และพยายามถ่ายข้อมูลที่ได้ลง เก็บไว้ที่อื่นเป็นสำเนา ของ ความคิดที่เขียนบันทึกได้เหล่านั้น

การถ่ายรูป ถูกเพิ่มเข้ามาอยู่ใน กิจกรรมยามเช้านี้

[attachment=8528]

รูปนี้เอื้อเฟื้อโดย ลีลาวดี

ผมตื่นเช้าเสมอ มานานแล้ว ลุ่มหลง ชื่นชม บรรยากาศแรกผลิ ของตะวัน ยามเช้า

การมา และ ลาจาก ของเค้า มันมีความแตกต่างนิดเดียวคือ.... ยามเช้า คนมักไม่ค่อยได้จับจอง ไม่มีโอกาส ที่จะได้ชื่นชมมันนัก

มันจึงมีความเป็นส่วนตัว สุนทรียะที่จับจองร่วมโดยคนไม่กี่คน เสน่ห์ในความสงบ กลิ่นน้ำค้างที่เพิ่งหยดริน
ก่อความชุ่มชื้น มอบพลัง ความสดใสให้กับจิตใจที่เหนื่อยล้า

ดังโอสถทิพย์ ที่ชั้นต้องถวิลหามาเสพอยู่เป็นประจำ

แต่ฉันก้อรู้ ว่าการไม่นอน แต่ตื่นเช้าของฉัน ในปัจจุบันนี้ มันอาจมีเหตุผลแอบแฝง เนื่องจากสิ่งอื่น ซึ่งซ่อนเร้นในใจ

อยู่ในจิตใต้สำนึก ที่ไม่อาจรู้

บดบังซ้ำอีกที ด้วยรอยยิ้มของจิตสำนึก ภาพพจน์ กิจกรรม สิ่งต่างๆ ในฐานะทางสังคม ที่ฉาบใส่หน้ากาก มอบไว้ให้อย่างแนบเนียน

จนผมหาสาเหตุ แห่งผลที่คลุมเครือ ที่ซุกซ่อนไว้นี้ได้ยาก

แต่ทุกสิ่งที่มีผล ย่อมสืบเนื่องมาจากเหตุเสมอ ฉันเชื่ออย่างนั้น



**ฉันเริ่มสงสัยถึงอะไรบางอย่างเข้าให้แล้ว** ................................


RE: เรื่องเล่า เเบบหัทยา^^ - hattaya111 - 19-05-2008

ร้านเดิมที่เคยเล่น ปิดไปเเล้วครับ ตอนนี้ตกเเต่งใหม่เป็น เเจ๊สบาร์ ชื่อ take 5 อยู่ ตรง สมอสปาร์ เกือบๆถึงเขาตะเกียบครับ

มีรูปถ่ายมากเลยครับ เเต่ผมใช้ fm2 ไม่ได้เเสกน เเละ ส่วนมาก มักถูกดึงจากอัลบั้ม เยอะมากๆ เหลือเเต่ฟิลม์ คงต้องค้นหาต่อไปครับ


RE: เรื่องเล่า เเบบหัทยา^^ - karn - 20-05-2008

hattaya111 Wrote:**ฉันเริ่มสงสัยถึงอะไรบางอย่างเข้าให้แล้ว** ................................

ติดตามอ่านอยู่นะครับ...รอลุ้นอยู่ว่า น้าหนึ่งสงสัยอะไรBig Grin


RE: เรื่องเล่า เเบบหัทยา^^ - hattaya111 - 21-05-2008

มือที่เราเคยอุ่นไอ







อากาศหลังตะวันเริ่มเปิดฟ้า ช่วงนี้ดูเย็นขึ้นนิดหน่อย คงกำลังใกล้เป็นต้นฤดูฝนแล้วมั้ง ฟ้ามีเมฆขุ่นๆปกคลุม

ซึ่งก็ยังไม่แน่ใจนัก ว่านั่น อาจเป็นควันพิษรึเปล่าว

ฉันกำลังกลับบ้านโดยมาขึ้นรถไฟฟ้าใต้ดิน หลบลี้หนีความวุ่นวาย ของการจราจรบนเมืองมนุษย์ข้างบน


มุดลงสู่เมืองบาดาล .......... หุ่นยนต์มากมาย เคลื่อนที่คล้าย ระบบฟันเฟืองน้อยๆ ที่เคลื่อนเลื่อนไปตามสายพาน

พวกเขากำลังจะไปเป็นส่วนต่อเชื่อม ในกลไกลต่างๆกับเครื่องจักรตัวเเม่ ที่หล่อเลี้ยง เเละ ครอบงำ ชีวิตหุ่นๆ ของพวกเค้า ในที่ต่างๆกันไป

เดิน และ เดินเคลื่อนที่ไปด้วยความเร็วเฉลี่ย ที่ใกล้เคียงกันในแววตาไร้ชีวิต ใบหน้าอารมณ์ที่ไม่แตกต่างกันนัก

ฉันเดินอยู่ท่ามกลางพวกเขา โดยที่พวกเขาไม่รู้ เพราะ ไม่สนใจอะไรในระบบอื่น สิ่งแวดล้อมข้างเคียงอย่างฉัน
ที่จำลังจาบจ้วง มองพวกเขาอยู่

หุ่นบางตัว สรีระดูงดงามน่ามอง


ฉันแอบมองดูไปเรื่อยๆโดยสมองที่ว่างเปล่าว ด้วยความทึ่ง ชื่นชมในความสามารถที่น่าทึ่ง ของเหล่าเครื่องจักรเหล่านั้น

และ ก็แอบทำเลียนแบบตามไปด้วยๆความขบขัน ของท่านหุ่นยนต์ ที่เคลื่อนไหวไปด้วยเครื่องแบบประดับยศใน รูปแบบ ภาพพจน์ต่างๆ

การเดินทางวันนี้ ดูไม่เงียบเหงาเหมือนเคย

** ไม่เลวนะ ยามเช้านี้ มีเรื่องบันเทิงสมองเบลอๆด้วย ตลกแบบร้ายๆ เป็นอาหารเช้า **ฉันรำพึงในใจ

เมื่อวานตอนเย็นมีสายโทรศัพท์ แจ้งเข้ามาว่า....

** ฉันกลายเป็นสิ่งที่มีความจำเป็นต่อ กองถ่ายหนังกองหนึ่ง กำลังถ่ายทำหนังสั้นส่งประกวด มีเพื่อนคนหนึ่งเป็นตากล้อง บังเอิญขาดสายอุปกรณ์เชื่อมต่อ ในการอัดบันทึกเสียง

จึงต้องโทรติดต่อให้ฉันนำไปให้ ที่กองกำลังดังกล่าว ซึ่งถ่ายทำกันแถวย่านรามอินทรา

ของชิ้นเล็กๆ ที่มีความสำคัญในการถ่ายทอด อารมณ์ อรรถรสของงาน บอกเจตนารมณ์ ในการสื่อสาร
ถูกนำไปยังสถานที่ทำการถ่ายทำนั้น ในเวลาเกือบ 2 ทุ่ม

ภาพยนต์ดังกล่าว สื่อสารเรื่องราวเกี่ยวกับ มุมมองสะท้อนความคิด ความรู้สึกของคนที่มีความต้องการความแปลกใหม่ทางเพศ

การเกี่ยวพันกับฉาก ของน้องๆขายบริการ ที่ยืนแสดงสินค้า อยู่ริมถนน ในซอยๆหนึ่ง
มีการขอความร่วมมือ จากเจ้าหน้าที่ตำรวจ มาอำนวยความสะดวก ในการคอยกั้นช่องจราจรเดินรถ ปิดเปิด การจราจรในบางช่วงเวลา ปรับเปลี่ยนไปตาม การใช้พื้นที่ของถนน ในช่วงของการถ่ายทำในฉากต่างๆ


ทีมงานทุกฝ่ายทำงานกันอย่างตั้งใจและหวาดกลัว

ฝนคือสิ่งน่ากลัว สำหรับงานถ่ายกองนี้ ฝนตกมาแล้วในหลายช่วงของวัน

ช่วงนี้มีพายุลูกใหญ่มาก กวาดชีวิตคนมาแล้ว จำนวนมาก ในประเทศพม่า เพื่อนบ้านใกล้เคียงของเรา

น้องๆที่มายืนรับบท สาวๆน่ารักๆที่ ห่อหุ้มด้วยเสื้อผ้าชุดที่ดูสะเทือนความรู้สึกสามัญของมนุษย์ ให้แสดงตัวตนหิวกระหาย

เหมือนเอาขาวัวชุ่มเลือด มาแกว่งใกล้จมูก จระเข้อดโซ

ได้ยินมาว่า เป็นเด็กฝึกงานของเพื่อนคนหนึ่งในทีมงานนี้

จราจรที่ติดขัดเล็กน้อย หาได้เกิดจากปริมาณรถแออัด แต่ประการใด แต่เป็นการเคลื่อนที่อย่างเชื่องช้าที่จะดู สาวน้อยนางต่างๆ
ที่งดงามราวกับเทพธิดา ลงมาเดินดิน ในชุดนุ่งน้อยห่มน้อย

ขับรถกัน คอหันแทบหัก ตากลับ โชคดีที่ยังไม่มีอุบัติเหตุ เกิดขึ้นตอนนี้ หลายคนคงแอบฝันไป ว่าที่นี่มีบริการอย่างนี้จริงๆ ผมก็แอบคิดเงียบๆอยู่เช่นกัน


เป็นครั้งแรกมั้งที่เห็นตำรวจ มาดูแลการซื้อขายบริการ อย่างเป็นทางการ แล้วพวกหล่อนไม่ต้องวิ่ง


น้ำในแอ่งเล็กๆที่ขังน้ำฝนจากเวลาที่ผ่านมาของวัน คอยสะท้อนแสงไฟส่องทางสาดมาจากรถ ที่วิ่งไปมาเป็นระยะ

ฟ้าเริ่มร้อง จากที่ไกลๆ สร้างความกดดันกับทีมงาน พวกที่ไม่รู้จะหาเรื่องพูดอะไรก็ เอามาเป็นเรื่องพูดคุยกัน ระหว่างทำงาน


กบ คือเพื่อนคนหนึ่ง ซึ่งถูกขอร้องจากผู้กำกับ ในการมาร่วมแสดง โดยมีจุดเชิญชวนด้วยข้อเสนอที่น่าสนใจ คือ

** มันจะได้ มาลูบขานางเอก **เพื่อนผมตกลงตัดสินใจ รับมอบหมายอันทรงกียรติ์นี้ อย่างไม่คิดมากรอช้า
ซึ่งก่อนหน้านี้ก็เพิ่งไป เที่ยวงาน ดนตรี ที่หัวหิน เมาถึงเช้ามาหลายคืน ใช้ชีวิตสำมะเล มาหลายวันอย่างสบักสบอม

แต่ ก็ขับรถฝ่าจราจรที่คับคั่ง ของเพื่อนร่วมทาง ที่กลับจากงานเทศการดนตรีด้วยกัน

กบ ** กลับมาถึงจุดนัดหมายก่อนเวลานัดจริง **

แต่ ผมรู้อยู่แล้ว ว่ากองนี้น่าจะนัดเผื่อ จึงมาตรงเวลาคือ ทุ่มกว่า เกือบ 2 ทุ่ม

เพื่อนกบของผม ถูกเรียก ตามสคริบว่า camry เพราะ เค้าถูกขอให้นำรถส่วนตัวมาใช้ คือ ยี่ห้อที่ต้องดูดีสักนิด เพราะมารับบท เสี่ย

มีเรื่องตลก ที่มาจากนิสัยขี้ประชดของมันว่า


** แมร่ง เรียก กู ซะ....แบบไม่เห็นค่า ความเป็นกูเลย **

** คงแค่อยากให้มีรถมาขับ วนไปวนมาในฉาก จะเรียกชื่อกูเข้าฉาก ........ ยังเป็นวัตถุเลย **


** แถม....มันจะให้ กูใส่เนคไท้ เสื้อเชิ้ต .....กูต้องอุตสาห์ ไปเอาที่บ้านเมียเก่า **

** จนเกือบจะมีปัญหากัน แม่งยังด่าไล่หลัง กูมาเลย **

** ว่า....เมื่อไหร่ ......กูจะมาแวะมาขนอะไรไป ให้หมดซะที **



** กูหล่ะเซ็งจริงๆ **


เพื่อนผม แอบบ่นออกมาใน สไตล์ ตลกร้ายของมันเช่นเคย ผมแอบขำ และ หดหู่ กับเรื่องที่เกิดเล็กน้อย ได้แต่หัวเราะให้ดูขำๆ และ ผ่านๆไป



ในช่วงเวลที่ แออัด มีผู้คนมาทำงานกันวุ่นวาย

ผมได้แต่เฝ้าดู การเคลื่อนไหวของมนุษย์งาน อย่างเพลิดเพลิน จะมีบางเวลาบ้างที่ไม่มีคิว กบก้อแวะมาคุยกันบ้าง ตามประสาเพื่อนเก่าแก่กัน


** กูว่าเที่ยงคืน......แม่งก้อไม่จบหรอก **


และ ก็เป็นไปตามนั้น ตี 2 กว่าๆเห็นจะได้ ก็มีคนตะโกนเรียก camry มาเข้าฉากถ่ายได้

ผมถือโอกาส มานอนลงบนเบาะ ในตอนท้ายของรถหลังคนขับ ทำตัวหมอบๆแนบ ชวนคุยเล่นกับกบบ้าง


แต่....ก้อมารู้สึกตัวอีกที ตอนมันต้องกลับบ้าน พูดจาฝากฝังผมกับทีมงาน ให้ช่วยหาที่นอนให้ผม

ผมเดินออกไปแบบเบลอๆ ไม่มองใคร ไม่ได้ล่ำลาอะไร ดูนาฬิกาที่ข้อมือ



** ตี 4 แล้วเว้ยย ...... ทำไรต่อดีฟระ **


ไปยืนงงๆสักครู่ หายใจทิ้ง แล้ว สักพักก็มาดู ฉากสำคัญในบท ที่ผู้หญิง ทำท่าทางยั่วยวน เอามือมาลูบต้นขาฝ่ายชาย
และ พูดจาอะไรกัน ในแนวทางที่หมิ่นเหม่ ก.บ.ว

ฉากนี้ มีหลายมุมกล้อง ผมยืนดูด้วยความเบื่อ มึนๆ สลึมสลือ หลังจากการเผลอหลับไป ในเวลาแปลกๆ
ไม่รู้จะทำอะไรละ และ คงไม่ได้มีโอกาสดูใคร มาทำอะไรแบบนี้บ่อยๆ โดยเราสามารถ มายืนมองโดยอ้างเหตุ อ้างงานได้แบบนี้

สักพักก็ดูๆจะรู้สึกอะไรดีๆ เกิดความรู้สึก ......สมจุดประสงค์ ผู้สร้าง


แต่...มีหลายครั้งที่วูบๆหน้าชา แปลกๆ....ทีแรก ก็ไม่รู้ ว่าคืออะไร ....


.** คงนอนไม่พอมั้ง ..........** ฉันคิด.......
.

..........เกิดขึ้นอยู่หลายที อาการโหวง ๆ ชา ๆ ดังกล่าว



.........................................และ มันก็ตกตะกอน

น่าจะเป็นเพราะ ...ภาพอะไรที่ได้เห็น คงมากระตุ้นความรู้สึก นึกถึงเหตุการณ์บางสิ่ง ที่เคยผ่านมา

มันสร้างความรู้สึก สะเทือนใจเป็นอย่างยิ่ง ไม่อยากนึก ..อยากคิด ...ถึงภาพอดีต ที่เคยมีผ่านมานั้นเลย


** ชั้นเคยขับรถ มีเธอยิ้มสดใส ช่างพูดช่างเจรจา อยู่ข้างๆ ....นั่งกุมมือเธอ มีมือเธอมาอยู่ ที่ตักของฉัน ..**

เธอมักทำอย่างนี้เกือบตลอด เวลาขับรถ หรือ ไม่มือใครก็ใคร ต้องเอื้อมมาสัมผัสกัน เราเป็นกันอย่างนี้ตลอดมา

ฉันชอบเอามือเธอ มาไว้ข้างหน้าอก... ในใจอยากบอกเธอว่า......

[Image: whyshe002.JPG]

** ฉันไม่มีอะไรที่จะให้ไม่ได้ แม้กระทั่ง หัวใจดวงนี้ **

ฉันชอบมองหน้าเธอ แต่ฉันไม่เคยพูดอะไรออกมา ด้วยที่ว่า มันอาจจะดูน้ำเน่ามั้ง

ภาพที่เห็นขณะนี้ ย้อนรอยความทรงจำ ให้ระลึกเห็นภาพในอดีต อย่างชัดเจนมาก


ช่างสับสนดีจริง

ระหว่าง ...ภาพสาวน้อยแปลกหน้า ในเสื้อผ้าเย้ายวน ตรงหน้า....กับ ภาพเสมือนของตัวเราเอง ในอดีตความหลังอันแสนสุข

ที่นาทีนี้ มันย้อนกลับมาทิ่มแทงจิตใจฉัน


อากาศดูหนาวเย็นขึ้น อย่างไม่มีเหตุผล


มันกระซิบบอกกับฉันในสมอง ที่มองโลกขณะนี้ ผ่านน้ำที่คลอเบ้าตา ด้วยสายตาที่พร่ามัว ให้หัวใจต้องมืดมัวตาม ว่า..........


** คงไม่มีอีกแล้ว **



** คนเราช่างติดยึดจริงเนอะ ** ฉันคิด



RE: เรื่องเล่า เเบบหัทยา^^ - Run - 22-05-2008

ติดตามอยู่ครับ


RE: เรื่องเล่า เเบบหัทยา^^ - karn - 22-05-2008

ติดตามอยู่เช่นกันจ้ะWink