+- NimitGuitar webboard (http://www.NimitGuitar.com/mybb)
+-- Forum: All solid webboard (http://www.NimitGuitar.com/mybb/forumdisplay.php?fid=1)
+--- Forum: Guitar gallery (http://www.NimitGuitar.com/mybb/forumdisplay.php?fid=3)
+---- Forum: Pood's Guitar Gallery (http://www.NimitGuitar.com/mybb/forumdisplay.php?fid=20)
+---- Thread: กีต้าร์โปร่ง JAPAN ปะทะ USA ที่ซอยอารีย์ (/showthread.php?tid=12830)
Pages:
1
2
RE: กีต้าร์โปร่ง JAPAN ปะทะ USA ที่ซอยอารีย์ - thepguitar - 30-03-2012
ขอบคุณพี่กฤษณ์ครับ ที่ช่วยฟันธง เป็นแนวทางในการซื้อครั้งต่อไป
RE: กีต้าร์โปร่ง JAPAN ปะทะ USA ที่ซอยอารีย์ - ยอดเยี่ยม - 30-03-2012
(27-03-2012, 17:33)pood Wrote: ส่วนฝรั่งเจ้าแรกที่ทำ hybrid ขายน่าจะเป็น George Lowden ที่ออกรุ่น S-25 Jazz Nylon ในปี 1992 ครับ
ผมหิ้วมาจากญี่ปุ่นแล้วครับ สนใจมาลองเล่นที่คอนโดได้เลย
![[Image: lowdens25.jpg]](http://imageshack.us/photo/my-images/195/lowdens25.jpg/)
RE: กีต้าร์โปร่ง JAPAN ปะทะ USA ที่ซอยอารีย์ - thepguitar - 30-03-2012
(30-03-2012, 16:08)ยอดเยี่ยม Wrote:(27-03-2012, 17:33)pood Wrote: ส่วนฝรั่งเจ้าแรกที่ทำ hybrid ขายน่าจะเป็น George Lowden ที่ออกรุ่น S-25 Jazz Nylon ในปี 1992 ครับ
ผมหิ้วมาจากญี่ปุ่นแล้วครับ สนใจมาลองเล่นที่คอนโดได้เลย
อเมริกา กับ ญี่ปุ่น หลบไป ยุโรปต้นตำหรับมาแล้ว
RE: กีต้าร์โปร่ง JAPAN ปะทะ USA ที่ซอยอารีย์ - pood - 02-04-2012
ความจริงแล้วผมยังตอบคำถามใด้ไม่ครบเมื่อผมบอกว่ากีต้าร์ราคาถูกนั้นญี่ปุ่นน่าเล่นกว่าแต่กีต้าร์ราคาสูงเกินแสนอเมริกันน่าเล่นกว่า ส่วนตัวผมเองนั้นมีกีต้าร์ระดับราคาห้าหกหมื่นบาทเยอะมากทั้งญี่ปุ่นและอเมริกัน (ราคามือสองนะครับ) เมื่อวานนายผึ้งแวะมาหาผมเลยวานให้อัดคลิปมาเพื่อเปรียบเทียบเสียงตัวที่เป็นสเป็คเดียวกันดูครับ คราวนี้อัดทีละตัวนะครับ
กีต้าร์ระดับนี้ก็เปรียบเหมือนหญิงสาวหรือชายหนุ่มหน้าตาดีคือทุกตัวเสียงดีหมดแต่ใครจะชอบตัวไหนก็เป็นเรื่องรสนิยมส่วนตัวมากกว่า กีต้าร์ทั้งสามตัวเป็นทรง D ไม้หน้า solid sitka spruce ไม้ข้างและไม้หลัง solid mahogany ทั้งสามตัว
กล้องที่ใช้อัด J-50 คือ Zoom Q3HD ส่วนอีกสองตัวใช้ Canon Legria HF 400M ไม้ค์เป็น condenser สองตัวครับ
ตัวแรกจากคลิปเก่าที่เคยอัดไว้คือ 1978 Gibson J-50 ตัวนี้แสดง character ของ J-45/50 ใด้ชัดเจนที่สุดเท่าที่ผมเคยมีสองรุ่นนี้มาคือ sustain สั้น เสียงแห้ง เบสคมและกระแทกกระทั้นที่เขาเรียกกันว่า "Gibson thump"
ตัวที่สองคือรุ่น Custom Line ที่ Ren Ferguson ออกแบบโครงสร้างใหม่หมดและมีขายอยู่สองปีคือปี 1997-1998 ตามปกติรุ่นนี้เขาทำแต่สี natural แต่ตัวนี้เป็นการสั่งพิเศษเป็น sunburst ในปี 2000 ครับ เสียงนั้นเข้าข่าย "กิบสันปลอม" เพราะมี overtone เยอะมากแต่เบสยังเป็น Gibson อยู่
ส่วนทางญี่ปุ่นนั้นคือ K. Yairi RJY-45GB ( GB= Gabon Mahogany) รุ่นนี้เป็น round shoulder น้าตาเหมือน J-45 มาก เสียงก็มี character ของ Gibson อยู่พอสมควรแบบหลับตาฟังก็คงทายยากแต่ harmonic ละเอียดกว่า
ขออนุญาตินำคลิป J-45 รุ่นใหม่ๆของคุณ Cin มาแปะไว้ที่นี่ด้วยนะครับ คนฟังจะใด้เปรียบเทียบเสียงกันใด้สะดวก
ลองฟังดูว่าชอบเสียงตัวไหนเองนะครับ
ก่อนจะจบขอนำเสนอเสียงของกีต้าร์สเป็คเดียวกันแต่ราคาเกินแสนหนึ่งตัวคือ Martin D-18 1934 Golden Era ซึ่งไม้หน้าเป็น adirondack spruce
"เหนือฟ้ายังมีฟ้า"ครับ Martin Golden Era นี่ผมไม่ขอแนะนำให้ซื้อครับเพราะซื้อมาแล้วมันไม่จบ เดี๋ยวก็ต้องไปเสาะหารุ่น Authentic ที่ราคาแพงกว่าสองเท่ามาอีก
RE: กีต้าร์โปร่ง JAPAN ปะทะ USA ที่ซอยอารีย์ - Cin - 02-04-2012
พี่กฤษณ์เอาคลิปผมมาลงแบบนี้ ต้องคิดค่าลิขสิทธิ์ซะแล้ว
คลิกละสามบาทแล้วกัน
RE: กีต้าร์โปร่ง JAPAN ปะทะ USA ที่ซอยอารีย์ - JuztinBond11 - 09-12-2013
ได้รับข้อมูลมากมายครับ ขอบคุณสำหรับข้อมูลที่ดีมากๆครับ
ส่วนตัวก็เล่นทั้ง USA และ Japan
ชอบทุกค่ายครับ 5555