NimitGuitar webboard
กีต้าร์โปร่ง JAPAN ปะทะ USA ที่ซอยอารีย์ - Printable Version

+- NimitGuitar webboard (http://www.NimitGuitar.com/mybb)
+-- Forum: All solid webboard (http://www.NimitGuitar.com/mybb/forumdisplay.php?fid=1)
+--- Forum: Guitar gallery (http://www.NimitGuitar.com/mybb/forumdisplay.php?fid=3)
+---- Forum: Pood's Guitar Gallery (http://www.NimitGuitar.com/mybb/forumdisplay.php?fid=20)
+---- Thread: กีต้าร์โปร่ง JAPAN ปะทะ USA ที่ซอยอารีย์ (/showthread.php?tid=12830)

Pages: 1 2


กีต้าร์โปร่ง JAPAN ปะทะ USA ที่ซอยอารีย์ - pood - 27-03-2012

PART 1: HYBRID NYLON STRING GUITARS


กีต้าร์ประเภทนี้มีหลายชื่อครับ บางคนก็เรียกว่า cross over nylon string บางทีก็เรียกว่า jazz nylon string แต่ตอนนี้เขาเรียกว่า hybrid nylon string ตาม Taylor ซึ่งเพิ่งประกาศว่ากีต้าร์ทุกรุ่นทุกทรงจะมีการผลิตทั้ง steel string และ nylon string versions ตั้งแต่ปี 2012 เป็นต้นไป

http://www.taylorguitars.com/guitars/acoustic/category/nylon

Martin เองก็เข็นรุ่น 000C Nylon ออกมาลองตลาดเหมือนกันในปีนี้ ดูเหมือนว่ากระแส hybrid nylon string นั้นจะเริ่มฮ้อตสุดๆในอเมริกาแล้วครับ

มาดูคำจำกัดความของกีต้าร์โปร่ง hybrid กันก่อนครับ

กีต้าร์โปร่ง hybrid nylon คือกีต้าร์ที่ทำมาสำหรับคนที่เล่นกีต้าร์สายเหล็กที่ชอบเสียง nylon แต่เล่นกีต้าร์คลาสสิคไม่ถนัดเพราะเหตุผลต่อไปนี้

1. คอกว้างเกินไป คอกีต้าร์คลาสสิคนั้นกว้าง 2” (50-52 mm.) ส่วนกีต้าร์โปร่งสายเหล็กนั้นส่วนใหญ่กว้างแค่ 1.68-1.75”(42-45 mm.)

2. จับ barred chord ยากเพราะ fretboard แบนสนิทไม่มี radius

3. สายไนล่อนมันย้วยและสูงเกินไป (4 mm. @ 12th fret) จะใช้สาย hard tension ก็กลัวคอยกเพราะกีต้าร์คลาสสิคไม่มี adjustable truss rod

4. เล่น fret บนๆยากเพราะมีแค่ 12 fret และไม่มี cutaway

5. เล่นออกงานยากเพราะไม่มีภาคไฟฟ้า

6. ไม่มี dot บนคอทำให้เล่นผิดง่ายมาก

ถ้าไม่นับ Gibson Chet Atkins CE ที่ออกวางตลาดปี 1982 เพราะมันไม่ใช่กีต้าร์โปร่ง บริษัทแรกที่ผลิต hybrid nylon string มาขายในปี 1983 คือ K. Yairi โดยแบ่งออกเป็นสามรุ่นที่เสป็คต่างกันตรงความกว้างของคอใด้แก่รุ่น CE-1 (50 mm.) CE-2 (42 mm.) ส่วน Yamaha ก็ออกรุ่น APX-10N มาในปี 1987 และ Takamine ออกรุ่น NPT-110N มาในปี 1988 ครับ


[Image: p15r.jpg]
[Image: apx10a01.jpg]
[Image: npt110.jpg]



ในยุค ‘90s ก็มีกีต้าร์คลาสสิคจากเสปนเริ่มออก hybrid มาขายบ้างแต่ส่วนมากคอจะกว้างและปรับคอไม่ใด้ผมเลยขอข้ามไปก่อนนะครับ ถ้าน้าท่านใดมีข้อมูลกรุณาเอามาเผยแพร่ด้วยครับ

ส่วนฝรั่งเจ้าแรกที่ทำ hybrid ขายน่าจะเป็น George Lowden ที่ออกรุ่น S-25 Jazz Nylon ในปี 1992 ครับ

[Image: lowdens25j3.jpg]


ทาง USA นั้น Steve Henderson เป็นคนแรกที่ออกแบบ hybrid nylon string มาวางตลาดในปี 1999 ด้วย Breedlove N20, N25 ที่คอกว้าง 1 ¾” แต่เลิกผลิตไปหลังจาก Steve ลาออกในปี 2004

ในปี 2002 ทั้ง Martin และ Taylor ก็เริ่มเอา hybrid มาวางตลาดโดย Martin ออกมาสองรุ่นแต่ Taylor ออกมาสิบรุ่น ผลปรากฏว่า Martin hybrid ขายไม่ออกครับโดยมียอดผลิตไม่ถึงสามร้อยตัวก่อนจะเลิกผลิตไป Taylor นั้นก็เลยไม่มีคู่แข่งในระดับเดียวกันเพราะพวก hybrid ของญี่ปุ่นและคานาดาก็ไม่มี all solid เลย Taylor hybrid ที่ออกใหม่ปีนี้นั้นมี option ให้เลือกความกว้างของคอใด้ทั้ง 1 11/16” และ 1 7/8” ครับ

เล่าเบื้องหลังมามากแล้วมาลองฟังเสียงกันดีกว่าครับ

กีต้าร์ hybrid นั้นเสียงจะแตกต่างกับกีต้าร์คลาสสิคอย่างสิ้นเชิงครับเพราะกีต้าร์คลาสสิคนั้นเขาเน้นความชัดเจนของหัวโน้ตและ projection โดย sustain ต้องสั้นเพื่อไม่ให้เสียงของแต่ละโน้ตมาปนกัน ส่วนกีต้าร์ hybrid นั้นเน้น sustain และความนุ่มนวลโดยไม่เน้น projection เพราะกีต้าร์ตระกูลนี้มีระบบ preamp ทุกตัว เพลงแรกนี้ผมเลยลองเอามาเล่นด้วยกันว่ามันจะเข้ากันใด้ไหม ตัวคลาสสิคคือ Asturias A10 ปี 1980 ที่เป็น all solid cedar/rosewood ส่วนตัว hybrid คือ Breedlove N20 RE ที่เป็น cedar/rosewood เหมือนกัน ผมอัดด้วยไมค์ตัวเดียวโดยไม่มีการปรับ balance ครับ



คราวนี้ลองเอา hybrid ญี่ปุ่นตัวบางคือ K. Yairi CE-2 ที่เป็นแค่ solid top มาประชันกับ Breedlove ดูบ้างว่าจะดังสู้เขาใด้ไหม ตอนอัดคลิปนี้มีจักจั่นมาประสานเสียงเพียบครับ



ความจริงแล้วกีต้าร์ประเภทนี้เขาออกแบบมาให้เล่นผ่านแอมป์เป็นหลักนะครับแต่ขอติดคลิปเสียงออกแอมป์ไว้ก่อนเพราะตอนอัดนั้นไม่ใด้เช็คว่ามีไมค์เสียบแอมป์วางอยู่กับพื้นเลยมีเสียงฮัมจากไม้ค์แถมมาด้วยครับ



รายละเอียดนั้นอ่านเพิ่มเติมใด้ในกระทู้นี้ครับ

http://www.nimitguitar.com/mybb/showthread.php?tid=8177

เดี๋ยวค่อยมาต่อตอนสองครับ


RE: กีต้าร์โปร่ง JAPAN ปะทะ USA ที่ซอยอารีย์ - thepguitar - 27-03-2012

รอตอนต่อไปและ
อยากรู้บทสุดท้ายพี่กฤษณ์จะให้ ญี่ปุ่นหรืออเมริกา จะเป็นฝ่ายชนะ


RE: กีต้าร์โปร่ง JAPAN ปะทะ USA ที่ซอยอารีย์ - dear709 - 27-03-2012

กด Like โลดครับ
ชอบมากครับ กีต้าสายเอ็นคอเล็กเนี่ย รออ่านๆ ครับ


RE: กีต้าร์โปร่ง JAPAN ปะทะ USA ที่ซอยอารีย์ - lekleklek - 27-03-2012



ยังคิดถึงตัวนี้อยู่เลย Sad


RE: กีต้าร์โปร่ง JAPAN ปะทะ USA ที่ซอยอารีย์ - noomxman - 27-03-2012

ชอบมากครับ


RE: กีต้าร์โปร่ง JAPAN ปะทะ USA ที่ซอยอารีย์ - parker1713 - 28-03-2012

ตอนนี้กีตาร์แบบนี้เป็นที่ต้องการในตลาดมากเนื่องจาก
1. ผู้ผลิตน้อย
2. ผู้ผลิตปัจจุบันโดยมากที่ผลิตมาเน้นเสียงออกแอมป์มากกว่าเช่น Taylor, Yamaha, Godin
3. ตลาดเพลงIndie, Bossa, Brazillain เป็นที่นิยมมากขึ้น

ของผมเองต้องการเน้นเสียงเปล่ามากกว่าเลยต้องสั่งช่างกีตาร์คลาสสิกทำครับ
รออยู่น่าจะใกล้เสร็จแล้ว แต่ต้องเคลียร์ส่วนที่เหลืออยู่นี่ซิ ดันถอยของใหม่มาอยู่เรื่อย ลืมตัวนี้ไปเลย CoolRolleyes



RE: กีต้าร์โปร่ง JAPAN ปะทะ USA ที่ซอยอารีย์ - pood - 29-03-2012

JAPAN ปะทะ USA ตอนสอง: STEEL STRING GUITARS.


ถ้าเป็นกีต้าร์สายเหล็กเรื่องประสบการณ์และค่านิยมนั้นญี่ปุ่นแพ้อเมริกันอย่างราบคาบครับ อเมริกาเขาผลิตกีต้าร์ประเภทนี้ออกมาขายเกือบๆร้อยปีแล้วในขณะที่ญี่ปุ่นเพิ่งจะทำใด้ไม่ถึงห้าสิบปีและในยุคแรกๆนั้นก็เป็นการก้อปปี้กีต้าร์อเมริกันยี่ห้อดังๆทั้งนั้น (ยกเว้นเจ้าเดียวคือ Yamaha) แม้แต่ในยุคนี้กีต้าร์โปร่งญี่ปุ่นก็ยังแจ้งเกิดในตลาดโลกไม่ใด้เพราะกลุ่มราคาสูงก็ต้องไปสู้กับกีต้าร์อเมริกันส่วนกลุ่มราคาต่ำก็โดนจีนและอินโดแย่งตลาดไปหมด

ความจริงแล้วกีต้าร์ญี่ปุ่นนั้นมีข้อใด้เปรียบกีต้าร์อเมริกันอยู่สามประการคือ

1. สต้อคไม้....กีต้าร์อเมริกันนั้นไม่มีโรงเลื่อยของตัวเองซักยี่ห้อเดียวและซื้อไม้มาทำกีต้าร์แบบปีต่อปี ส่วนญี่ปุ่นนั้นเขากว้านซื้อไม้ซุงและซื้อสัมปทานตัดไม้ไปทั่วโลกตั้งแต่ยุค ‘60s และมีไม้ในสต้อคเยอะมาก อย่าง K. Yairi นี่เขามีโรงเลื่อยของตัวเองและมีไม้ในสต้อคมากที่สุดในโลกครับ ดังนั้นต้นทุนเรื่องไม้ของญี่ปุ่นจึงถูกกว่าอเมริกันมากและถ้าเทียบกันแล้วส่วนใหญ่ไม้กีต้าร์ญี่ปุ่นลายมักสวยกว่าครับ

2. ความประณีตและคงทน...ผมเคยมีกีต้าร์ญี่ปุ่นและอเมริกันหลายร้อยตัว ผมยังไม่เคยเจอปัญหาคอยก ท้องป่อง bridge เผยอของกีต้าร์ญี่ปุ่นเลยครับ ผมเดาว่าอาจเป็นเพราะไม้ที่ทำกีต้าร์ญี่ปุ่นนั้นเขาใช้วิธี air dry เป็นเวลาหลายปีแต่กีต้าร์อเมริกันทุกยี่ห้อเขาใช้วิธีอบแห้งซึ่งพอมาอยู่เมืองไทยที่ความชื้นสูงอาจไม่ stable ก็เป็นใด้

3. ระบบอีเล็คโทรนิค.....กีต้าร์ญี่ปุ่นนั้นเรื่องนี้เขาเคยเก่งกว่าอเมริกันแน่นอนเพราะเขาครองตลาดโปร่งไฟฟ้าใด้ทั้งโลกในยุค ‘90s ไม่ว่าจะเป็นยี่ห้อ Takamine, Yamaha หรือ A. Yairi แต่ในยุคปัจจุบันนั้นอเมริกันตามทันแล้วครับ ข้อนี้เลยไม่ใช่จุดขายของกีต้าร์ญี่ปุ่นอีกต่อไป

ความจริงแล้วเรื่องการเปรียบเทียบเสียงของกีต้าร์ใน Youtube นั้นเป็นเรื่องเหลวไหลครับเพราะแม้แต่คนที่เล่นเองก็ยังมีความเห็นไม่ตรงกันซักคนว่าตัวไหนเสียงดีกว่ากัน

บังเอิญเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาน้า Sarun กับนายหนึ่งแวะมานั่งเล่นที่คอนโดก็เลยใด้โอกาสแจมกันเล่นๆเพื่อลองกล้องวีดีโอตัวใหม่ คลิปแรกที่อักก็หยิบกีต้าร์ที่แขวนอยู่สองตัวมาลอง ตัวแรกคือ Taylor 712 ปี 1993 ไม้ Engelmann spruce/Indian rosewood ส่วนอีกตัวคือ K. Yairi RJY-45 GB ปี 2007 ไม้ sitka spruce/gabon mahogany เรื่องราคานั้น Taylor แพงกว่าเกินหมื่นบาทครับ ลองฟังเสียงใด้เลยครับ






RE: กีต้าร์โปร่ง JAPAN ปะทะ USA ที่ซอยอารีย์ - palith_t - 30-03-2012

ผมรออ่าน และติดตามกระทู้ของพี่กฤษณ์ มาตลอดเลยครับ หาอ่านที่ไหนไม่ได้แล้วจริงๆ
ผมอยากทราบว่าใน Clip นี่พี่กฤษณ์ใช้อุปกรณ์อะไรอัดเสียงครับ พอดีผมสนใจอยากได้อุปกรณ์อัดเสียงแบบสมัครเล่นสักตัว พอจะให้คำแนะนำได้มั๊ยครับ


RE: กีต้าร์โปร่ง JAPAN ปะทะ USA ที่ซอยอารีย์ - pood - 30-03-2012

ผมขอสรุปง่ายๆเลยแล้วกันว่า

"กีต้าร์โปร่งระดับไม่เกินครึ่งแสนนั้นกีต้าร์ญี่ปุ่นน่าใช้กว่ากีต้าร์อเมริกันแต่ถ้าราคาเกินแสนนี่กีต้าร์อเมริกันกินขาดครับ"

ในระดับครึ่งแสนลองมาฟัง Takamine สองตัวนี้ดูครับ ตัวเล็กคือ TSN-10 เป็น all solid spruce/rosewood ส่วนอีกตัวคือ LTD-99 solid top spruce/rosewood ครับ



ในระดับเกินแสนนี่กีต้าร์ญี่ปุ่นกินอเมริกันไม่ลงแน่นอน ลองมาฟัง Martin D-45V ประกบ Martin Porter Wagoner ในเพลงบลูส์ "The Loner" ดูครับ




RE: กีต้าร์โปร่ง JAPAN ปะทะ USA ที่ซอยอารีย์ - SARUN - 30-03-2012

(30-03-2012, 10:14)palith_t Wrote: ผมอยากทราบว่าใน Clip นี่พี่กฤษณ์ใช้อุปกรณ์อะไรอัดเสียงครับ

จำได้คลับคล้ายคลับคลาว่า
กล้อง หน้าตาประมาณนี้
[Image: 34468173_512x384.jpg]
ไมค์ หน้าตาแบบนี้
[Image: svm__25233_zoom.jpg]

เท่าที่จำได้ เสียงที่เล่นจริง กับ ฟังจากคลิป..ใกล้เคียงกันมาก
แต่ไม่รู้ว่ากล้องและไมค์นั้น มาจาก JAPAN หรือ USA ..
แต่ที่ทำให้ประหลาดใจ ก็คือ มีไมค์ตัวเดียวแท้ๆ แต่ตอนฟังจากคลิป (ใครฟังจากคอมพ์ ลองใช้หูฟัง) เสียงที่ได้ มีแยกซ้าย-ขวา ใกล้เคียงระบบ stereo มากๆ