NimitGuitar webboard
ดึกสงัด-วิกาลยามนี้แล้วเหตุไฉนท่านยังไม่นอน? - Printable Version

+- NimitGuitar webboard (http://www.NimitGuitar.com/mybb)
+-- Forum: All solid webboard (http://www.NimitGuitar.com/mybb/forumdisplay.php?fid=1)
+--- Forum: พูดคุยสนทนาทั่วไป (http://www.NimitGuitar.com/mybb/forumdisplay.php?fid=2)
+--- Thread: ดึกสงัด-วิกาลยามนี้แล้วเหตุไฉนท่านยังไม่นอน? (/showthread.php?tid=115)



RE: ดึกสงัด-วิกาลยามนี้แล้วเหตุไฉนท่านยังไม่นอน? - LittleNomad - 01-08-2008

ดีครับน้าbooฯ เราลองมาถกปรัชญาธรรมยามค่ำคืนกัน...

ก่อนอื่น...
เราได้จำแนกไหมว่า ที่สุดแล้ว...
"กิเลส" คืออะไร?
"อบายมุข" คืออะไ?
และการจำแนกนั้น เรายึดตรรกะปรัชญาใดมาเป็นบรรทัดฐาน

เพราะประเด็น ดี ๆ ชั่ว ๆ นั้น
ผมว่าทุกสังคมชนชาติ อย่างน้อยก็กระจ่างตรงกัน หรืออย่างมากก็ใกล้เคีึยงกันอยู่แล้วว่า..
อะไรชั่ว อะไรดี...


RE: ดึกสงัด-วิกาลยามนี้แล้วเหตุไฉนท่านยังไม่นอน? - LittleNomad - 01-08-2008

ต่อ...

แน่นอน.. "กิเลส" ในทางปรัชญาธรรม หมายถึง
"สิ่งทำใจให้เศร้าหมอง" ซึ่งนับเป็น "มาร" อย่างหนึ่ง (เรื่อง "มาร" คงขอพักไว้คุยกันวันหลัง)
ส่วน "อบายมุข" ในทางปรัชญาธรรม หมายถึง
"เหตุแห่งความฉิบหาย"

แต่ผมเชื่อว่า...เรา ๆ ท่าน ๆ มักเอ่ยถึง "กิเลส" และ "อบายมุข" โดยยังมิสู้กระจ่างความ
แต่ถูกสอนให้ต่อต้านความเลว สิ่งเลว ซึ่งนั่นเป็นที่ดี
ทว่าก็อีกนั่นแหละ...
สิ่งอันตรายของธรรมะ คือความสุดขั้วในจริตธรรม...


RE: ดึกสงัด-วิกาลยามนี้แล้วเหตุไฉนท่านยังไม่นอน? - LittleNomad - 01-08-2008

ต่อ...

หากเอ่ยกันตามธรรมปรัชญา
"กิเลส" มีมากมายคณานับ แต่จับหลักได้ 10 ประการ
1. อโนตตัปปะ : ความไม่รู้สึกตื่นกลัวต่อทุจริต
2. โทสะ : ความโมโห ความโกรธ ความไม่พึงใจ
3. โมหะ : ความหลง ความโง่
4. อุทธัจจะ : ความฟุ้งซ่าน
5. ทิฏฐิ : ความเห็นผิดเป็นชอบ
6. วิจิกิจฉา : ความเคลือบแคลง ความข้องใจ
7. โลภะ : ความพึงใจในโลกียอารมณ์
8. ถีนะ : ความหดหู่
9. อหิริกะ : ความไม่ละอายต่อการกระทำผิด
10. มานะ : ความถือตัว ความทะนงตน ความยะโส

นอกจากนี้ยังมี "อุปกิเลส" อีกกระบุง...


RE: ดึกสงัด-วิกาลยามนี้แล้วเหตุไฉนท่านยังไม่นอน? - LittleNomad - 01-08-2008

ต่อ...

สำหรับ "อบายมุข" ในทางปรัชญาธรรม ก็แบ่งเป็น 2 หมู่หมวด คือ
"อบายมุข 4" และ "อบายมุข 6"

อบายมุข 4 : นักเลงผู้หญิง, นักเลงสุรา, นักเลงพนัน, คบคนชั่วเป็นมิตร
อบายมุข 6 : ดื่มน้ำเมา, เที่ยวกลางคืน, เที่ยวดูการละเล่น, เล่นการพนัน, คบคนชั่วเป็นมิตร, เกียจคร้านการงาน, (ซึ่งในแต่ละหัวข้อ ยังย่อยออกไปอีกอย่างละ 6 -ขอไม่เอ่ย)


RE: ดึกสงัด-วิกาลยามนี้แล้วเหตุไฉนท่านยังไม่นอน? - LittleNomad - 01-08-2008

ครับ...ปรัชญาธรรมทั้งปวง โดยเฉพาะของพุทธศาสนา
ผมไม่คิดว่า แท้จริงแล้วจะเป็น "กฎ" เป็น "ข้อห้าม" สำหรับฆราวาส
แต่เป็นข้อเตือนใจ ให้เกิดสติ...

เพราะเท่าที่เคยอ่านนิทานธรรม...
หลายเรื่อง ก็มีเนื้อหาบางส่วน ที่ผู้เจริญธรรม ต้องข้องแวะกับ "กิเลส" กับ "อบายมุข" ด้วยความจำเป็น -แต่สัมผัสสิ่งเหล่านั้นด้วยสติ.


RE: ดึกสงัด-วิกาลยามนี้แล้วเหตุไฉนท่านยังไม่นอน? - LittleNomad - 01-08-2008

boobyblue Wrote:ผมไม่ได้หมายต้องการกำจัดคนเลวครับ
แต่ผมหมายกำจัดกิเลสในใจคน
อย่างน้อยอบายมุขน่าจะเป็นพาหะชนิดหนึ่ง(อาจบางทีจะเป็นชนิดสำคัญ)
ที่นำไปสู่บางสิ่งบางอย่างที่ไม่น่าพิศมัยเท่านั้นครับ

สำหรับประเด็น...
ผมไม่ได้หมายต้องการกำจัดคนเลวครับ
เรื่องนี้ผมก็คิดต่าง...

เพราะผมถือว่า "กิเลส-ในใจคน" เป็น "ปัจเจก"
ส่วน "คนเลว" เป็น "ปัญหา"


RE: ดึกสงัด-วิกาลยามนี้แล้วเหตุไฉนท่านยังไม่นอน? - boobyblue - 01-08-2008

อ้ายหยา!
แวบไปทำธุระมาแผลบเดียวพี่ตั้งปุจฉาชวนถกปรัชญาธรรมเสียแล้ว
ผมขอยอมรับผมอ่อนด้อยและไม่แตกฉานปรัชญาสกุลใดๆเลย
เกรงว่าปัญญายังเบานักมิกล้าถกเรื่องอันมีเนื้อหาสาระอันเข้มข้นได้ขนาดถึงแก่นแท้ดอก
ผมพูดถึง"กิเลส"กับ"อบายมุข"ในระดับดาษสามัญอย่างที่ชาวบ้านรู้อย่างผิวๆเท่านั้น
ผมเพียงแต่รู้สึกความโลกนี้อุดมไปด้วยสิ่งเย้ายวนใจไปสู่ความต่ำ
หาสิ่งใดอยากแท้ที่จะโอบอุ้มเราไปสู่ความสูงอย่างที่เราเรียกตนเองว่า
"มนุษย์"ที่แปลว่าสัตว์ใจสูง
นี่เป็นสิ่งที่ผมรู้สึกเสมอว่าเหตุใดอารยธรรมมนุษย์ที่มาหลายร้อยหลายพันปีไม่มุ่งไปสู่จุดนั้น.........
ก็เท่านั้นเองครับ


RE: ดึกสงัด-วิกาลยามนี้แล้วเหตุไฉนท่านยังไม่นอน? - .::.pOoH.::. - 01-08-2008

ผมชอบอ่านบทความหรือข้อคิดจากธรรมะบ้าง เพื่อเตือนสติเท่านั้นเองครับ เพราะปฏิบัติจริงมันยากยิ่ง

แต่ชอบอ่านเพราะธรรมะจะมีมุมที่คล้ายกับทฤษฎีจิตวิเคราะห์หลายๆรูปแบบ ผมชอบจิตวิเคราะห์ Smile

ทุกวันนี้ ก็วนเวียนอยู่กับกิเลสมากมาย แต่ในระดับที่คิดว่าเหมาะสม และไม่สร้างความเดือดร้อนให้ผู้อื่น

ในขณะเดียวกัน ก็สร้างประโยชน์ให้สังคมบ้างตามโอกาสอำนวย

ฟุ้งเฟ้อบ้างเป็นบางเวลา อบายมุขหนักหน่วงบ้างเพื่อเรียนรู้...

แต่ก็กลับมามีสติ และหาความสมดุลย์ได้อย่างมีความสุขดีครับ Smile

ขอบคุณสำหรับบทความดีๆ ก่อนนอนครับ Wink


RE: ดึกสงัด-วิกาลยามนี้แล้วเหตุไฉนท่านยังไม่นอน? - LittleNomad - 01-08-2008

boobyblue Wrote:อ้ายหยา!
แวบไปทำธุระมาแผลบเดียวพี่ตั้งปุจฉาชวนถกปรัชญาธรรมเสียแล้ว
ผมขอยอมรับผมอ่อนด้อยและไม่แตกฉานปรัชญาสกุลใดๆเลย
เกรงว่าปัญญายังเบานักมิกล้าถกเรื่องอันมีเนื้อหาสาระอันเข้มข้นได้ขนาดถึงแก่นแท้ดอก
ผมพูดถึง"กิเลส"กับ"อบายมุข"ในระดับดาษสามัญอย่างที่ชาวบ้านรู้อย่างผิวๆเท่านั้น
ผมเพียงแต่รู้สึกความโลกนี้อุดมไปด้วยสิ่งเย้ายวนใจไปสู่ความต่ำ
หาสิ่งใดอยากแท้ที่จะโอบอุ้มเราไปสู่ความสูงอย่างที่เราเรียกตนเองว่า
"มนุษย์"ที่แปลว่าสัตว์ใจสูง
นี่เป็นสิ่งที่ผมรู้สึกเสมอว่าเหตุใดอารยธรรมมนุษย์ที่มาหลายร้อยหลายพันปีไม่มุ่งไปสู่จุดนั้น.........
ก็เท่านั้นเองครับ

นั้นเพราะ...
"มนุษย์" พยายามเป็น "สัตว์ใจสูง" ไงครับ...
มันถึงเกิดอารยธรรมแล้วเสื่อม แล้วเกิด แล้วเสื่อม แล้วเกิด แล้วเสื่อม...


RE: ดึกสงัด-วิกาลยามนี้แล้วเหตุไฉนท่านยังไม่นอน? - boobyblue - 01-08-2008

นั่นนับว่าตรงกับใจผมนัก
ใครจะว่าอย่างไรก็ช่าง....
ผมเคยคิดเสมอว่าผมอยากเป็นแค่"สัตว์สองเท้าเดินหลังตรง"
เป็นแค่สัตว์อีกชนิดหนึ่งในโลกที่เพียงแต่หายใจรดรินชีวิตตัวเองโดยไม่สำมะหาความหมายอันใดในโลกนี้เลย..!


ราตรีสวัสดิ์ครับ...ไว้วันหน้าค่อยพูดคุยกันใหม่(ง่วงแล้ว...)