NimitGuitar webboard
น้ำล้นแก้ว...ทำยังไงดี - Printable Version

+- NimitGuitar webboard (http://www.NimitGuitar.com/mybb)
+-- Forum: All solid webboard (http://www.NimitGuitar.com/mybb/forumdisplay.php?fid=1)
+--- Forum: พูดคุยสนทนาทั่วไป (http://www.NimitGuitar.com/mybb/forumdisplay.php?fid=2)
+--- Thread: น้ำล้นแก้ว...ทำยังไงดี (/showthread.php?tid=11340)

Pages: 1 2 3 4 5 6 7 8 9


RE: น้ำล้นแก้ว...ทำยังไงดี - Cin - 26-08-2011

(26-08-2011, 09:38)Maow Wrote: จำนวนที่ผมสามารถดูแลได้อย่างทั่วถึง และไม่โดนภรรยาด่าคือ ไม่เกิน 10 ตัวครับ
ตอนนี้มี 8 ก็บ่นแล้วบ่นอีก

จำนวนที่โดนภรรยากระซวกแน่ๆ เลยคือเกิน 1 คนครับ
ส่วนกีต้าร์นั้น น้าหม่าวจะมีสักห้าสิบตัวภรรยาก็ไม่บ่น
เพราะเอามาฝากที่ผมไว้แค่นี้ก็จบ
(26-08-2011, 09:36)povation Wrote: อย่าบอกนะว่าน้องcin เป็น....ผู้ชายไม่มีน้ำ....

ใช่ครับพี่ป๋อ ผมคนไม่มีน้ำ.....ยาSad




RE: น้ำล้นแก้ว...ทำยังไงดี - povation - 26-08-2011

(26-08-2011, 09:14)rasun Wrote: แก้วของผมมันใบเล็กครับก็เลยล้นเร็วรู้สึกว่ามันมากไป หลายๆตัวได้เล่นปีละไม่กี่ครั้งแต่จะขายก็เสียดายทุกตัว ที่อยากได้ก็ยังมีอีกหลายตัว 2 อาทิตย์ก่อนก็ยังไปเอา Ovation ที่ใช้ preamp รุ่น iDea อัด backing track ได้มาอีกตัว

ผมไม่คิดว่าการซื้อกีต้าร์ของผมจะเป็นการลงทุนแต่เป็นการซื้อหาความสุขและเป็นการทดลองมากกว่า และที่ผ่านๆมาก็ขายขาดทุนทั้งนั้น

คนเรามีความต้องการพื้นฐาน 2 อย่างคือ satisfaction และ security ผมคิดว่าเราก็มีสิทธิ์ที่จะซื้อหา satisfaction ได้ถ้ามันไม่ไปรบกวน security ครับ

ไม่เชื่อคุณหมอแล้วจะไปเชื่อคุณหมาที่ไหน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณหมอด้านจิตเวชเก่งๆท่านนี้
คุณหมอสเปญ พูดตรงๆ และจริงใจตลอด
ทำให้ผมนึกถึงน้องอีกคนหนึ่งในบ้านหลังนี้ นิสัยคล้ายๆกัน
แต่อาจจะตั้งฉายาให้เค้าว่าเป็น...คุณหมอสเปิร์ม
ส่วนเป็นใคร


RE: น้ำล้นแก้ว...ทำยังไงดี - nattapat - 26-08-2011

ความพอเพียง ขออนุญาตcopy มานะครับ

ดร.จิรายุ อิศรางกูร ณ อยุธยา ประธานคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนเศรษฐกิจพอเพียง อธิบายถึงการพัฒนาตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง ว่า เป็นการพัฒนาที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของทางสายกลางและความไม่ประมาท โดยคำนึงถึง ความพอประมาณ ความมีเหตุผล และการสร้างภูมิคุ้มกันที่ดีในตัวตลอดจนการใช้ความรู้ ความรอบคอบละคุณธรรมประกอบการวางแผน การตัดสินใจและการกระทำต่างๆ
ความพอประมาณ หมายถึง ความพอดี ที่ไม่มากและไม่น้อยจนเกินไป ไม่เบียดเบียนตนเองและผู้อื่น เช่น การผลิตและการบริโภคที่พอประมาณ
ความมีเหตุผล หมายถึง การใช้หลักเหตุผลในการตัดสินใจเรื่องต่างๆ โดยพิจารณาจากเหตุปัจจัยที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนผลที่คาดว่าจะเกิดขึ้นอย่างรอบคอบ
การมีภูมิคุ้มกันที่ดี หมายถึง การเตรียมตัวให้พร้อมรับต่อผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงรอบตัว ปัจจัยเหล่านี้จะเกิดขึ้นได้นั้น จะต้องอาศัยความรู้ และคุณธรรม เป็นเงื่อนไขพื้นฐาน กล่าวคือ เงื่อนไขความรู้ หมายถึง ความรอบรู้ ความรอบคอบ และความระมัดระวังในการดำเนินชีวิตและการประกอบการงาน ส่วนเงื่อนไขคุณธรรม คือ การยึดถือคุณธรรมต่างๆ อาทิ ความซื่อสัตย์สุจริต ความอดทน ความเพียร การมุ่งต่อประโยชน์ส่วนรวมและการแบ่งปัน ฯลฯ ตลอดเวลาที่ประยุกต์ใช้ปรัชญา

ตามความคิดของผมนะครับ
ผมจะกันเงินส่วนนึงเอาไว้ซื้อความสุขครับ (หลังจากกันเงินส่วนอื่นไว้ทำอย่างอื่นแล้ว)
ถ้าผมหาเงินได้เพิ่มขึ้น เงินที่จะเอาไว้ซื้อความสุขก็เพิ่มขึ้น ซึ่งการซื้อกีตาร์และเล่นมันก็เป็นความสุขอย่างนึงของผม ผมจะยังซื้อกีตาร์ต่อไป ถ้าเงินส่วนนี้ยังไม่หมดเสียก่อน และผมก็จะหยุดต่อเมื่อเงินส่วนนั้นหมด หรือ ผมไม่มีความสุขกับการซื้อกีตาร์แล้ว


RE: น้ำล้นแก้ว...ทำยังไงดี - piggyprince - 26-08-2011

(26-08-2011, 09:36)povation Wrote:
(26-08-2011, 08:41)cin Wrote: ผมว่าถ้าพี่ป๋อมีความสุขจากการสะสม ทำให้ตนเองและครอบครัวไม่เดือดร้อน
จากการนี้ก็ทำไปเถอะครับ มันจะล้นไปเต็มแก้วอีกกี่ใบก็ไม่สำคัญหรอกครับ ถ้าใจเป็นสุข
แต่ถ้าพูดเกี่ยวกับการลงทุน ผมว่าอาจจะมีอย่างอื่นที่ได้ผลตอบแทนดีกว่ากีต้าร์แน่นอน
แต่มันจะทำให้พี่ป๋อมีความสุขเท่ากับการสะสมกีต้าร์หรือป่าว
ผมว่าพี่ป๋อต้องตอบตัวเองครับ

ขอบคุณครับน้องcin
แต่ไม่เห็นเอ่ยถึงน้ำในแก้วของตนเองเลย
อย่าบอกนะว่าน้องcin เป็น....ผู้ชายไม่มีน้ำ....

พี่ป๋อ พูดแบบนี้ได้อย่างไรครับ พี่Cinเค้าน้ำใจงามและเยอะซะขนาดนี้ ทำให้น้องๆเสียตังค์ เอ้ยไม่ช่ายยยย Tongue
ปล.ส่วนน้ำอย่างอื่นเนี่ย ไม่กล้าเอ่ยถึงครับ แต่เท่าที่รู้พี่แกหมั่นยิงกระสุนครับ ไปแว้วววว ตัวใครตัวมันว้อยยยยยยยย Big GrinBig Grin


RE: น้ำล้นแก้ว...ทำยังไงดี - povation - 26-08-2011

(26-08-2011, 09:18)Maow Wrote: ผมคิดว่าสถานะของแต่ละคนไม่เหมือนกันครับ ก็เลยเป็นภาวะที่ทำให้ความสามารถในการได้มาซึ่งกีต้าร์ต่างกัน
ยกตัวอย่างเช่นน้าป๋อ บ้านมีแล้ว รถมีแล้ว ภาระก็คือเลี้ยงครอบครัวทั้งลูกและภรรยาให้มีความสุขในขั้นหนึ่ง

ผมว่ามันเป็นความสุข หรือความท้าทาย ความตื่นเต้นในชีวิตแต่ละวันก็อาจเป็นการเสาะแสวงหากีต้าร์ใหม่ๆ เท่าที่ตัวเองสามารถจะหาได้
มันก็ไม่แปลกอะไรที่เมื่อภาระต่างๆ เราสามารถรับมือได้ เราก็หาอะไรที่เป็นของชอบในชีวิตสำหรับตัวเราบ้าง
ถ้าพูดถึงเรื่องคุณค่าทางจิตใจ หรือความชอบส่วนตัว ผมคิดว่าทำไปเถอะ แต่ถ้าคิดว่าเพื่อการลงทุนก็ไม่คุ้มครับ
ผมมองว่าที่สำคัญน้องปิ๊ง และน้องปั๊ง ผมเชื่อว่าเขามีความรู้เรื่องกีต้าร์ดีมากขึ้นทุกวันๆ ที่สำคัญเล่นเป็นด้วย
เพราะฉะนั้นไม่ต้องห่วงว่าของที่พ่อสะสมเอาไว้จะสูญสิ้นคุณค่าไปเพราะทายาทก็รู้คุณค่าในตัวของเหล่านั้นด้วย
ที่สำคัญเขารู้ราคาของ และลึกๆน่าจะรู้ว่าของเหล่านี้ก็คือทรัพย์สมบัติที่พ่อหามาไว้ให้

ผมมักพูดกับลูกชายเสมอๆ ตอนที่นั่งเล่นกีต้าร์ด้วยกันว่า กีต้าร์พวกนี้พ่อซื้อมาเล่นแล้วก็เก้บให้ลูกนะ
มันเริ่มหายากแล้วขอให้ลูกเก็บให้ดีๆนะ จากนั้นลูกก็ถามว่าผมไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับกีต้าร์เลย ผมก็ตอบลูกชายไปว่า
ไม่เป็นไรพ่อค่อยๆ บอกไปเรื่อยๆ สักวันหนึ่งลูกก็จะรู้เรื่อง หรืออาจจะมากกว่าพ่อเสียอีก สุดท้ายลูกตอบว่า "วันหลังผมจะหัดเล่นกีต้าร์ครับ แต่ตอนนี้ขอเล่นเปียโนให้ดีก่อน"

ที่สำคัญกีต้าร์ที่หลั่งไหลเข้ามาก็มาพร้อมกับเพื่อนใหม่ๆ มิตรภาพดีๆ มิตรภาพที่แน่นแฟ้นมากขึ้นด้วยใช่ไหมครับ
เพราะบ้านเต่าพรมเช็ดเท้าไม่เคยแห้งเลย เห็นรูปในกระทู้เมื่อไหร่ผมก็อดยินดีด้วยไม่ได้ที่มีเพื่อนเยอะเช่นนี้

ชอบมากครับตรงที่น้องหม่าวบอกว่า....เป็นความสุข หรือความท้าทาย ความตื่นเต้นในชีวิตแต่ละวัน....
ใช่เลยครับ ผมเสาะหากีตาร์ ตื่นเต้นที่หาจนเจอ จ่ายเงินซื้อ แล้วก็รอกีตาร์เดินทางมาถึง ลุ้นระทึกว่าจะมีสภาพอย่างไร จะเหมือนในภาพที่เห็นทุกอย่างหรือไม่ แต่ผมไม่ค่อยลุ้นเรื่องเสียงเท่าไร เพราะผมค่อนข้างจะมั่นใจ (แปลกนะ)

น้องหม่าวบรรยายการสนทนากับลูกแล้วเห็นภาพน่ารักจัง ผมเองหยิบกีตาร์มาเล่น หรือได้กีตาร์มาใหม่เมื่อใด ลูกชายคนดีนามศิลปินปั๊งต้องเป็นอันมานั่งพินิจพิจารณาดูและชมว่าสวยตลอด แสดงว่าเค้าใส่ใจในสิ่งที่พ่อทำทุกอย่าง เกือบทุกรายละเอียด ทำให้ผมหมดห่วงไปได้บ้าง

ที่ว่าซื้อกีตาร์คุ้มกว่าซื้อทองก็ตรงนี้แหละ ซื้อทองคงไม่เห็นมีเพื่อนหลั่งไหลมาขอดู มาแบ่งปันความรู้และความสุขร่วมกัน ผมได้ตรงนี้เต็มๆเลยครับ

ตกลงน้องหม่าว มีน้ำเติมไปถึงครึ่งแก้วหรือยังครับ ทราบแล้วเปลี่ยน....


RE: น้ำล้นแก้ว...ทำยังไงดี - Maow - 26-08-2011

(26-08-2011, 09:45)cin Wrote:
(26-08-2011, 09:38)Maow Wrote: จำนวนที่ผมสามารถดูแลได้อย่างทั่วถึง และไม่โดนภรรยาด่าคือ ไม่เกิน 10 ตัวครับ
ตอนนี้มี 8 ก็บ่นแล้วบ่นอีก

จำนวนที่โดนภรรยากระซวกแน่ๆ เลยคือเกิน 1 คนครับ
ส่วนกีต้าร์นั้น น้าหม่าวจะมีสักห้าสิบตัวภรรยาก็ไม่บ่น
เพราะเอามาฝากที่ผมไว้แค่นี้ก็จบ
(26-08-2011, 09:36)povation Wrote: อย่าบอกนะว่าน้องcin เป็น....ผู้ชายไม่มีน้ำ....

ใช่ครับพี่ป๋อ ผมคนไม่มีน้ำ.....ยาSad

ที่กองอยู่บ้านน้าซินเป็นภูเขาเลากา นั่นก็ของผมทั้งนั้น ทำเป็นลืมซะงั้น



RE: น้ำล้นแก้ว...ทำยังไงดี - povation - 26-08-2011

(26-08-2011, 09:19)SARUN Wrote:
(26-08-2011, 01:34)povation Wrote: แล้วท่านล่ะ ในความคิดของท่านการมีกีตาร์เท่าใดจึงจะเพียงพอสำหรับท่าน
แก้วน้ำของท่านมีน้ำเต็มแก้วแล้วหรือไม่ประการใด
ในความคิด..
การมีกีตาร์ที่ใช่ ซัก 5-10 ตัว น่าจะเพียงพอสำหรับกระผม ถือว่าเป็นจำนวนที่สามรถดูแลได้อย่างทั่วถึง
หากจะเปรียบเทียบ แก้วน้ำของกระผมตอนนี้มีน้ำแค่ "ก้นแก้ว"
และคงจะรักษาระดับนี้ไปอีกนาน

น้องSARUNตอบตรงฟันธงฉับๆดีครับ
ส่วนตัวผม อยากจะให้ความเห็นสำหรับคนที่พอจะมีกำลังทรัพย์หามาได้ว่า
มีไม่เกิน 15 ตัวกำลังดีครับ (1-15) ส่วน15 ตัวที่ผมว่า มีประเภทใดบ้าง ไว้จะตั้งเป็นกระทู้ต่างหากให้มาแสดงความเห็นกัน



RE: น้ำล้นแก้ว...ทำยังไงดี - Maow - 26-08-2011

(26-08-2011, 10:05)povation Wrote:
(26-08-2011, 09:18)Maow Wrote: ผมคิดว่าสถานะของแต่ละคนไม่เหมือนกันครับ ก็เลยเป็นภาวะที่ทำให้ความสามารถในการได้มาซึ่งกีต้าร์ต่างกัน
ยกตัวอย่างเช่นน้าป๋อ บ้านมีแล้ว รถมีแล้ว ภาระก็คือเลี้ยงครอบครัวทั้งลูกและภรรยาให้มีความสุขในขั้นหนึ่ง

ผมว่ามันเป็นความสุข หรือความท้าทาย ความตื่นเต้นในชีวิตแต่ละวันก็อาจเป็นการเสาะแสวงหากีต้าร์ใหม่ๆ เท่าที่ตัวเองสามารถจะหาได้
มันก็ไม่แปลกอะไรที่เมื่อภาระต่างๆ เราสามารถรับมือได้ เราก็หาอะไรที่เป็นของชอบในชีวิตสำหรับตัวเราบ้าง
ถ้าพูดถึงเรื่องคุณค่าทางจิตใจ หรือความชอบส่วนตัว ผมคิดว่าทำไปเถอะ แต่ถ้าคิดว่าเพื่อการลงทุนก็ไม่คุ้มครับ
ผมมองว่าที่สำคัญน้องปิ๊ง และน้องปั๊ง ผมเชื่อว่าเขามีความรู้เรื่องกีต้าร์ดีมากขึ้นทุกวันๆ ที่สำคัญเล่นเป็นด้วย
เพราะฉะนั้นไม่ต้องห่วงว่าของที่พ่อสะสมเอาไว้จะสูญสิ้นคุณค่าไปเพราะทายาทก็รู้คุณค่าในตัวของเหล่านั้นด้วย
ที่สำคัญเขารู้ราคาของ และลึกๆน่าจะรู้ว่าของเหล่านี้ก็คือทรัพย์สมบัติที่พ่อหามาไว้ให้

ผมมักพูดกับลูกชายเสมอๆ ตอนที่นั่งเล่นกีต้าร์ด้วยกันว่า กีต้าร์พวกนี้พ่อซื้อมาเล่นแล้วก็เก้บให้ลูกนะ
มันเริ่มหายากแล้วขอให้ลูกเก็บให้ดีๆนะ จากนั้นลูกก็ถามว่าผมไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับกีต้าร์เลย ผมก็ตอบลูกชายไปว่า
ไม่เป็นไรพ่อค่อยๆ บอกไปเรื่อยๆ สักวันหนึ่งลูกก็จะรู้เรื่อง หรืออาจจะมากกว่าพ่อเสียอีก สุดท้ายลูกตอบว่า "วันหลังผมจะหัดเล่นกีต้าร์ครับ แต่ตอนนี้ขอเล่นเปียโนให้ดีก่อน"

ที่สำคัญกีต้าร์ที่หลั่งไหลเข้ามาก็มาพร้อมกับเพื่อนใหม่ๆ มิตรภาพดีๆ มิตรภาพที่แน่นแฟ้นมากขึ้นด้วยใช่ไหมครับ
เพราะบ้านเต่าพรมเช็ดเท้าไม่เคยแห้งเลย เห็นรูปในกระทู้เมื่อไหร่ผมก็อดยินดีด้วยไม่ได้ที่มีเพื่อนเยอะเช่นนี้

ชอบมากครับตรงที่น้องหม่าวบอกว่า....เป็นความสุข หรือความท้าทาย ความตื่นเต้นในชีวิตแต่ละวัน....
ใช่เลยครับ ผมเสาะหากีตาร์ ตื่นเต้นที่หาจนเจอ จ่ายเงินซื้อ แล้วก็รอกีตาร์เดินทางมาถึง ลุ้นระทึกว่าจะมีสภาพอย่างไร จะเหมือนในภาพที่เห็นทุกอย่างหรือไม่ แต่ผมไม่ค่อยลุ้นเรื่องเสียงเท่าไร เพราะผมค่อนข้างจะมั่นใจ (แปลกนะ)

น้องหม่าวบรรยายการสนทนากับลูกแล้วเห็นภาพน่ารักจัง ผมเองหยิบกีตาร์มาเล่น หรือได้กีตาร์มาใหม่เมื่อใด ลูกชายคนดีนามศิลปินปั๊งต้องเป็นอันมานั่งพินิจพิจารณาดูและชมว่าสวยตลอด แสดงว่าเค้าใส่ใจในสิ่งที่พ่อทำทุกอย่าง เกือบทุกรายละเอียด ทำให้ผมหมดห่วงไปได้บ้าง

ที่ว่าซื้อกีตาร์คุ้มกว่าซื้อทองก็ตรงนี้แหละ ซื้อทองคงไม่เห็นมีเพื่อนหลั่งไหลมาขอดู มาแบ่งปันความรู้และความสุขร่วมกัน ผมได้ตรงนี้เต็มๆเลยครับ

ตกลงน้องหม่าว มีน้ำเติมไปถึงครึ่งแก้วหรือยังครับ ทราบแล้วเปลี่ยน....


ตอนนี้ก็ปริ่มๆ แล้วครับน้าป๋อ ตราบใดที่เงินส่วนหนึ่งที่เก็บไว้ซื้อความสุขยังไม่หมดไป
ก็จัดความตื่นเต้นไปเรื่อยๆ ครับ

น้องปั๊งยังดีนะที่มานั่งฟังอย่างพินิจพิเคราะห์ว่ากีต้าร์สวยดี
ส่วนตัวผมเวลาเอาก้าร์มาเล่น ลุกชายมักจะถามต่อหน้าภรรยาผมเสมอว่า
"พ่อ...กีต้าร์ใหม่เหรอพ่อ" เสียวสันหลังวาบทุกที
แต่ก็ตอบไปว่า "โอ๊ย... ก็ตัวเก่านั่นแหละ"
แหม...เป็นเด็กเป็นเล็กทำเป็นรู้ดี เดี๋ยวจับตีก้นซะเลย

แต่อย่างไรก็ตาม ผมมีความสุขมากที่เล่นกีต้าร์โดยมีครอบครัวผม
อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันทั้งลูกและภรรยา เพราะเมื่อใดที่ผมร้องเพลง
ลูกชายกับลูกสาวจะมาดำน้ำอยู่ข้างๆเสมอ แค่นี้ผมก็ไม่ขออะไรมากไปกว่านี้แล้ว


RE: น้ำล้นแก้ว...ทำยังไงดี - povation - 26-08-2011

(26-08-2011, 09:50)nattapat Wrote: ความพอเพียง ขออนุญาตcopy มานะครับ

ดร.จิรายุ อิศรางกูร ณ อยุธยา ประธานคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนเศรษฐกิจพอเพียง อธิบายถึงการพัฒนาตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง ว่า เป็นการพัฒนาที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของทางสายกลางและความไม่ประมาท โดยคำนึงถึง ความพอประมาณ ความมีเหตุผล และการสร้างภูมิคุ้มกันที่ดีในตัวตลอดจนการใช้ความรู้ ความรอบคอบละคุณธรรมประกอบการวางแผน การตัดสินใจและการกระทำต่างๆ
ความพอประมาณ หมายถึง ความพอดี ที่ไม่มากและไม่น้อยจนเกินไป ไม่เบียดเบียนตนเองและผู้อื่น เช่น การผลิตและการบริโภคที่พอประมาณ
ความมีเหตุผล หมายถึง การใช้หลักเหตุผลในการตัดสินใจเรื่องต่างๆ โดยพิจารณาจากเหตุปัจจัยที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนผลที่คาดว่าจะเกิดขึ้นอย่างรอบคอบ
การมีภูมิคุ้มกันที่ดี หมายถึง การเตรียมตัวให้พร้อมรับต่อผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงรอบตัว ปัจจัยเหล่านี้จะเกิดขึ้นได้นั้น จะต้องอาศัยความรู้ และคุณธรรม เป็นเงื่อนไขพื้นฐาน กล่าวคือ เงื่อนไขความรู้ หมายถึง ความรอบรู้ ความรอบคอบ และความระมัดระวังในการดำเนินชีวิตและการประกอบการงาน ส่วนเงื่อนไขคุณธรรม คือ การยึดถือคุณธรรมต่างๆ อาทิ ความซื่อสัตย์สุจริต ความอดทน ความเพียร การมุ่งต่อประโยชน์ส่วนรวมและการแบ่งปัน ฯลฯ ตลอดเวลาที่ประยุกต์ใช้ปรัชญา

ตามความคิดของผมนะครับ
ผมจะกันเงินส่วนนึงเอาไว้ซื้อความสุขครับ (หลังจากกันเงินส่วนอื่นไว้ทำอย่างอื่นแล้ว)
ถ้าผมหาเงินได้เพิ่มขึ้น เงินที่จะเอาไว้ซื้อความสุขก็เพิ่มขึ้น ซึ่งการซื้อกีตาร์และเล่นมันก็เป็นความสุขอย่างนึงของผม ผมจะยังซื้อกีตาร์ต่อไป ถ้าเงินส่วนนี้ยังไม่หมดเสียก่อน และผมก็จะหยุดต่อเมื่อเงินส่วนนั้นหมด หรือ ผมไม่มีความสุขกับการซื้อกีตาร์แล้ว

ขอบคุณมากครับที่นำหลักเศรษฐกิจพอเพียงมาคุยกัน ผมยอมรับเต็ม 100% ว่าหลักการนี้ถูกต้องที่สุด
ผมจะคอยติดตามความเคลื่อนไหวของน้องnattapat พฤติกรรมน่าสนใจมากๆ
(26-08-2011, 10:12)Maow Wrote:
(26-08-2011, 10:05)povation Wrote:
(26-08-2011, 09:18)Maow Wrote: ผมคิดว่าสถานะของแต่ละคนไม่เหมือนกันครับ ก็เลยเป็นภาวะที่ทำให้ความสามารถในการได้มาซึ่งกีต้าร์ต่างกัน
ยกตัวอย่างเช่นน้าป๋อ บ้านมีแล้ว รถมีแล้ว ภาระก็คือเลี้ยงครอบครัวทั้งลูกและภรรยาให้มีความสุขในขั้นหนึ่ง

ผมว่ามันเป็นความสุข หรือความท้าทาย ความตื่นเต้นในชีวิตแต่ละวันก็อาจเป็นการเสาะแสวงหากีต้าร์ใหม่ๆ เท่าที่ตัวเองสามารถจะหาได้
มันก็ไม่แปลกอะไรที่เมื่อภาระต่างๆ เราสามารถรับมือได้ เราก็หาอะไรที่เป็นของชอบในชีวิตสำหรับตัวเราบ้าง
ถ้าพูดถึงเรื่องคุณค่าทางจิตใจ หรือความชอบส่วนตัว ผมคิดว่าทำไปเถอะ แต่ถ้าคิดว่าเพื่อการลงทุนก็ไม่คุ้มครับ
ผมมองว่าที่สำคัญน้องปิ๊ง และน้องปั๊ง ผมเชื่อว่าเขามีความรู้เรื่องกีต้าร์ดีมากขึ้นทุกวันๆ ที่สำคัญเล่นเป็นด้วย
เพราะฉะนั้นไม่ต้องห่วงว่าของที่พ่อสะสมเอาไว้จะสูญสิ้นคุณค่าไปเพราะทายาทก็รู้คุณค่าในตัวของเหล่านั้นด้วย
ที่สำคัญเขารู้ราคาของ และลึกๆน่าจะรู้ว่าของเหล่านี้ก็คือทรัพย์สมบัติที่พ่อหามาไว้ให้

ผมมักพูดกับลูกชายเสมอๆ ตอนที่นั่งเล่นกีต้าร์ด้วยกันว่า กีต้าร์พวกนี้พ่อซื้อมาเล่นแล้วก็เก้บให้ลูกนะ
มันเริ่มหายากแล้วขอให้ลูกเก็บให้ดีๆนะ จากนั้นลูกก็ถามว่าผมไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับกีต้าร์เลย ผมก็ตอบลูกชายไปว่า
ไม่เป็นไรพ่อค่อยๆ บอกไปเรื่อยๆ สักวันหนึ่งลูกก็จะรู้เรื่อง หรืออาจจะมากกว่าพ่อเสียอีก สุดท้ายลูกตอบว่า "วันหลังผมจะหัดเล่นกีต้าร์ครับ แต่ตอนนี้ขอเล่นเปียโนให้ดีก่อน"

ที่สำคัญกีต้าร์ที่หลั่งไหลเข้ามาก็มาพร้อมกับเพื่อนใหม่ๆ มิตรภาพดีๆ มิตรภาพที่แน่นแฟ้นมากขึ้นด้วยใช่ไหมครับ
เพราะบ้านเต่าพรมเช็ดเท้าไม่เคยแห้งเลย เห็นรูปในกระทู้เมื่อไหร่ผมก็อดยินดีด้วยไม่ได้ที่มีเพื่อนเยอะเช่นนี้

ชอบมากครับตรงที่น้องหม่าวบอกว่า....เป็นความสุข หรือความท้าทาย ความตื่นเต้นในชีวิตแต่ละวัน....
ใช่เลยครับ ผมเสาะหากีตาร์ ตื่นเต้นที่หาจนเจอ จ่ายเงินซื้อ แล้วก็รอกีตาร์เดินทางมาถึง ลุ้นระทึกว่าจะมีสภาพอย่างไร จะเหมือนในภาพที่เห็นทุกอย่างหรือไม่ แต่ผมไม่ค่อยลุ้นเรื่องเสียงเท่าไร เพราะผมค่อนข้างจะมั่นใจ (แปลกนะ)

น้องหม่าวบรรยายการสนทนากับลูกแล้วเห็นภาพน่ารักจัง ผมเองหยิบกีตาร์มาเล่น หรือได้กีตาร์มาใหม่เมื่อใด ลูกชายคนดีนามศิลปินปั๊งต้องเป็นอันมานั่งพินิจพิจารณาดูและชมว่าสวยตลอด แสดงว่าเค้าใส่ใจในสิ่งที่พ่อทำทุกอย่าง เกือบทุกรายละเอียด ทำให้ผมหมดห่วงไปได้บ้าง

ที่ว่าซื้อกีตาร์คุ้มกว่าซื้อทองก็ตรงนี้แหละ ซื้อทองคงไม่เห็นมีเพื่อนหลั่งไหลมาขอดู มาแบ่งปันความรู้และความสุขร่วมกัน ผมได้ตรงนี้เต็มๆเลยครับ

ตกลงน้องหม่าว มีน้ำเติมไปถึงครึ่งแก้วหรือยังครับ ทราบแล้วเปลี่ยน....


ตอนนี้ก็ปริ่มๆ แล้วครับน้าป๋อ ตราบใดที่เงินส่วนหนึ่งที่เก็บไว้ซื้อความสุขยังไม่หมดไป
ก็จัดความตื่นเต้นไปเรื่อยๆ ครับ

น้องปั๊งยังดีนะที่มานั่งฟังอย่างพินิจพิเคราะห์ว่ากีต้าร์สวยดี
ส่วนตัวผมเวลาเอาก้าร์มาเล่น ลุกชายมักจะถามต่อหน้าภรรยาผมเสมอว่า
"พ่อ...กีต้าร์ใหม่เหรอพ่อ" เสียวสันหลังวาบทุกที
แต่ก็ตอบไปว่า "โอ๊ย... ก็ตัวเก่านั่นแหละ"
แหม...เป็นเด็กเป็นเล็กทำเป็นรู้ดี เดี๋ยวจับตีก้นซะเลย

แต่อย่างไรก็ตาม ผมมีความสุขมากที่เล่นกีต้าร์โดยมีครอบครัวผม
อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันทั้งลูกและภรรยา เพราะเมื่อใดที่ผมร้องเพลง
ลูกชายกับลูกสาวจะมาดำน้ำอยู่ข้างๆเสมอ แค่นี้ผมก็ไม่ขออะไรมากไปกว่านี้แล้ว

สักวัน ครอบครัวของผมจะได้ร่วมชื่นชมครอบครัวน้องหม่าวไปพร้อมๆกัน ในบรรยากาศที่เป็นกันเอง รับรองว่าผมจะไม่ปริปากถามเรื่องน้ำในแก้วของน้องหม่าวต่อหน้าศรีภรรยาของน้องหม่าวอย่างเด็ดขาด.....เชื่อเถอะ


RE: น้ำล้นแก้ว...ทำยังไงดี - custom - 26-08-2011


แล้วท่านล่ะ ในความคิดของท่านการมีกีตาร์เท่าใดจึงจะเพียงพอสำหรับท่าน
แก้วน้ำของท่านมีน้ำเต็มแก้วแล้วหรือไม่ประการใด ต่างคนต่างจิตต่างใจ ต่างสถานะทางการเงิน
ขอบคุณล่วงหน้าหากจะกรุณาแสดงความเห็นครับ
[/quote]

ส่วนตัวผมไม่ได้ตั้งจำนวนไว้ครับว่าจำนวนเท่าไรจึงจะเพียงพอสำหรับผม แต่ทุกครั้งที่จะซื้อกีต้าร์ ก็จะถามตัวเองว่าเล่นแล้วชอบหรือเปล่า ราคานี้สมควรหรือเปล่า และทุกครั้งที่ซื้อจะต้องใช้เงินที่เหลือเก็บไม่กระทบ cashflow ของครอบครัวครับ Smile