ตามล่า Takamine ในฝัน - Printable Version +- NimitGuitar webboard (http://www.NimitGuitar.com/mybb) +-- Forum: All solid webboard (http://www.NimitGuitar.com/mybb/forumdisplay.php?fid=1) +--- Forum: Guitar gallery (http://www.NimitGuitar.com/mybb/forumdisplay.php?fid=3) +---- Forum: Pood's Guitar Gallery (http://www.NimitGuitar.com/mybb/forumdisplay.php?fid=20) +---- Thread: ตามล่า Takamine ในฝัน (/showthread.php?tid=955) |
RE: ตามล่า Takamine ในฝัน - จ๋า - 25-01-2008 งดงามมากเลยค่ะ จ๋าก็ชอบเสียงกีตาร์ไม้อันนี้ RE: ตามล่า Takamine ในฝัน - coldsteel - 25-01-2008 กีรืต้าสวยจังครับพี่กฤษณ์ ถ้าได้เล่นและฟังเสียงคงโดนหลอนแน่ๆ แต่ที่สำคัญ หาซื้อก็ไม่ได้ด้วยนี่ซิ ต้องฝันค้าง RE: ตามล่า Takamine ในฝัน - guitarpappap - 25-01-2008 เห็นภาพก็หลอนแล้ว หากฟังเสียงสงสัยวิญญาณออกจากร่างแน่ ลำพังแค่ An 15 กับ An75 ก็ใจสั่นแล้ว น้ายอดเยี่ยมกับ ท่านชาย Povation แกเป็นเซียนกีตาร์ ทาคามาย (พี่ป๋อบอกให้เรียกแบบนี้ตั้ง 10 กว่าปีมาแล้ว) หาตัวจับยากครับ RE: ตามล่า Takamine ในฝัน - pood - 25-01-2008 ยังมีหลายฯคนเข้าใจว่า Takamine เสียงเปล่าฯไม่ใด้เรื่องหรอก ผมก็เคยเป็นคนหนึ่งในจำนวนนั้น Takamine ตัวแรกที่ทำให้ผมเปลี่ยนใจก็คือเจ้า TAN-16C Koa ที่เป็น all solid ที่ตอนนี้น้า Merlot เป็นเจ้าของ ผมเลยสงสัยว่าทำไมอยู่ดีฯ Takamine ถึงใด้ทำกีต้าร์ all solid เสียงดีออกมาใด้ทั้งฯที่แต่ ใหนแต่ไรบริษัทนี้เขาเน้นแต่เรื่องเสียงเวลาออกแอมป์เท่านั้นและเน้นคอเล็กฯเอาใจพวกที่เล่นกีต้าร์ไฟฟ้า แต่มันเล็กไปสำหรับคนที่เล่นแต่กีต้าร์โปร่ง ผมเลยลองค้นประวัติดูครับ โรงงานของ Takamine ตั้งมาตั้งแต่ปี 1962 แต่ตอนแรกแค่รับจ้างผลิตกีต้าร์ให้คนอื่นเท่านั้น มาเริ่มทำกีต้าร์ คลาสสิคในป๊ 1968 ตอนที่ Mass Hirade เข้ามาคุมโรงงาน ตอนนั้นก็เลยเป็นโรงงาน Hirade ไปเลย ในปี 1969 บริษัท Coast Wholesale ที่เป็นผู้จัดจำหน่ายกีต้าร์ Martin ในเอเชียก็ใด้ชวนให้ Martin ไปจ้าง Hirade ผลิต Japanese Martin ในชื่อ Sigma Martin ทาง Martin ก็ส่งช่างและเครื่องไม้เครื่องมือไปสอน จนใด้กีต้าร์เสียงดีไม่แพ้ของแท้หลังจากทำผิดทำถูกกันมาสองปีเต็ม เป็นโชคร้ายของ Martin ที่บริษัท Coast Wholesale ถูก Kaman(Ovation) ซื้อกิจการไปในปี 1972 แผนการผลิต Sigma เลยต้องถูกยกเลิกไปโดยปริยายและ Martin ต้องใช้เวลาอีกหกปีเพื่อหาโรงงานผลิตใหม่ ในปี 1974 บริษัท Kaman ก็ชวน Hirade ผลิตกีต้าร์ออกมาขายทั่วโลกโดยทาง Kamann จะเป็นผู้จัดจำหน่ายให้เอง ยกเว้นในญี่ปุ่นประเทศเดียว ตอนนั้นเลยมีการปรึกษากันว่าจะใช้ชื่ออะไรดี เถียงกันไปเถียงกันมามีคนคนหนึ่งเหลือบไปมอง ภูเขา Takamine หน้าโรงงานก็เลยตกลงกันใด้ว่าใช้ชื่อนี้ก็แล้วกัน ในยุคนั้น Ovation ไม่ใด้สนใจว่า Takamine จะผลิตอะไรออกมาขายแต่ขอให้สวยและเสียงดีเป็นใช้ใด้ คราวนี้ก็สนุกซีครับ เพราะ Takamine น่ะผลิตสายเหล็กเก่งเพราะ Martin เป็นคนสอนแถมยังทิ้งพวก mold ใว้ให้เพียบ พอปี 1975 Takamine ก็เลยส่ง Martin Clone มาตีตลาดในอเมริกาแบบกระเจิดกระเจิงผ่าน network ของ Ovation ซึ่งยุคนั้นกำลังดังเป็นพลุ หลังจากกระอักเลือดเพราะโดนคู่แข่งดัดหลังจนยอดขาย Martin หดหายไปเยอะ Martin เลยต้องขู่ว่าจะฟ้องละเมิดลิขสิทธ์ Takamine ยุคนั้นเลยใด้สมญานามว่า "Lawsuit Model" ถ้าอยากรู้ว่าเสียงดีแค่ใหนก็เชิญที่บ้านเต่าเลยครับเพราะมีอยู่หลายตัว Ovation ตอนนั้นเลยต้องมาสอนให้ Takamine ผลิตกีต้าร์ electric-acoustic แทนจนโด่งดังไปทั่วโลก แม้จะโดนบังคับให้ผลิตแต่โปร่งไฟฟ้าแต่หัวใจของตา Mass Hirade ก็ยังหลงไหลเสียง acoustic อยู่แถมยังไปซื้อไม้ดีฯมาตุนใว้เพียบ เพราะเล็งเห็นว่าอีกสามสี่สิบปีมันคงจะหมดโลกแน่นอน พอดีในปี 1981 ตา George Lowden ไปเดินท่อมฯหาโรงงานมาผลิต Lowden อยู่ในญี่ปุ่นพอดีแต่ Takamine ผลิตให้ไม่ใด้เพราะติดสัญญาอยู่กับ Kaman ก็เลยจ้างตา George เป็นที่ปรึกษาซะเลย ในยุค 80's จนถึง ปัจจุบันกีต้าร์ Takamine เลยใด้รับไอเดียของ Lowden ไปหลายอย่างเช่น split-saddle และ pinless bridge เป็นต้น กีต้าร์โปร่งของ Takamine ในยุคนั้นส่วนใหญ่จะขายเฉพาะในญี่ปุ่นครับ พอมาถึงยุคตกต่ำของ Ovation ปลายยุค 80's จากกีต้าร์ที่เห็นใด้ทั่วไปบนเวทีใหญ่ฯในยุค 70's ทาง Kaman ก็เลยดัน Takamine เข้ามาแทนที่ และประสพความสำเร็จอย่างเกินคาด ในยุค 90's วงร้อคเกือบทุกวงใช้ Takamine ทั้งนั้นเพิ่งมาโดนตา Bob Taylor เบียดตกเวทีไปในยุคสองพันนี่เอง ตอนนี้ก็ยังมี rock stars ดังฯใช้กันอยู่หลายคนอย่างเช่น Jon Bon Jovi, Glen Frey และ Bruce Springsteen เป็นต้น ในปี 2003 Takamine ก็ตัดสินใจหันมาเอาดีทางกีต้าร์โปร่งอีกครั้งโดยเริ่มต้นด้วยการจ้างฝรั่งมาเป็น product managers สองคน Takamine all solid ตัว แรกที่ขายทั่วโลกคือ 2005 LTD (2006, 07, 08 LTD's ไม่ใช่ all solid นะครับ) ตอนนี้ผมตามล่าหา "Takamine ปลอม" ที่เป็น all soild มาใด้สี่ตัวจาก สี่ประเทศแล้วครับคือ TAN-16C Koa(2006) ทรง D solid koa(ขายไปแล้ว) 2005 Limited Edition ทรง OM solid mahogany EF-450SM(2005) ทรง NEX solid flamed maple EF-75J number 44 ทรง OM solid brazilian rosewood และจะยังตามล่าต่อไป RE: ตามล่า Takamine ในฝัน - povation - 25-01-2008 ท่านใดต้องการนำข้อมูลของพี่กฤษณ์ข้างต้นนี้ไปทำวิทยานิพนธ์ -Thesis จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งครับ RE: ตามล่า Takamine ในฝัน - fretbuzz - 25-01-2008 อ่านทุก ข้อความของพี่pood แล้วไม่ผิดหวังครับได้ความรู้มากมาย มีข้อสงสัยอยากถามครับ ว่าทําไม takamine รุ่นสูงๆ ไม้ด้านข้างถึงไม่ใช่ solid ขอบคุณครับ RE: ตามล่า Takamine ในฝัน - SARUN - 25-01-2008 pood Wrote:ตอนนั้นเลยมีการปรึกษากันว่าจะใช้ชื่ออะไรดี เถียงกันไปเถียงกันมามีคนคนหนึ่งเหลือบไปมอง สงสัยมานานแล้ว เพิ่งได้คำตอบก็วันนี้-กะทู้นี้ แหละ RE: ตามล่า Takamine ในฝัน - pood - 25-01-2008 ความจริงแล้วยังไม่เคยมีใครพิสูจน์ใด้ว่าการใช้ไม้ solid ด้านข้างของกีต้าร์นั้นทำให้กีต้าร์เสียงดีกว่า การใช้ไม้ laminate เพราะไม่ด้านข้างมันไม่น่าเกี่ยวกับเรื่องเสียงไม่งั้นเขาคงไม่กล้าเจาะใส่ปรีหรือ เอาแบตมาแปะใว้ตรงไม้ข้างอย่างที่ Martin ทำอยู่หรอก แต่ที่แน่นอนคือไม้ laminate ดัดขึ้นรูปง่ายกว่า และแข็งแรงกว่า อย่างที่ Martin เคยใช้ใน series 1 เขาพบว่าสามารถลด bracing ของไม้ด้านหน้าและ ด้านหลังใด้ทำให้กีต้าร์เสียงดังขึ้น การใช้ไม้ solid ทำไม้ด้านข้างเขาทำกันมาเป็นร้อยปีแล้วและเป็นค่านิยม มากกว่าครับ( ผมไม่ใด้คิดเองนะแต่ Dick Boak ของ Martin เป็นคนพูด) ตามปกติกีต้าร์ Takamine ที่มีปรีด้านข้างจะใช้ไม้ข้างเป็น laminate ครับแต่เพิ่งมามี all solid เมื่อสามสี่ปีนี้เอง Takamine เพิ่งออกปรีรุ่น Line G ที่ไม่ต้องเจาะใส่มาตอนออกรุ่น EF-75 ครับแต่ตอนนี้เริ่มใช้กับหลายรุ่นที่เป็น all solid แล้ว Takamine อ่านออกเสียงว่าทาคามีเนะนะครับแต่สันดานคนอเมริกันมักจะอ่านตามใจตัวเองอย่างนิค่อนเขาก็อ่านว่าไนค่อน ทาคามีเน้ะก็อ่านว่าทาคามีนิ ปอร์เช่ก็อ่านว่าปอร์ช เราอยู่เมืองไทยอ่านออกเสียงตามเจ้าของภาษาดีกว่าครับ เอาใว้ย้ายไป อยู่อเมริกาค่อยอ่านตามมันก็ไม่ว่ากัน ส่วนทาคาไมน์นั้นเพิ่งเคยใด้ยินนี่แหละครับ เชิญชมโรงงาน Takamine ครับ http://www.laboitenoiredumusicien.com/boite/bonusmedia.php?boite=1&id=955&choix_marque=97&categorie=presentation&fam= RE: ตามล่า Takamine ในฝัน - povation - 25-01-2008 อยู่ที่ไหนก็แล้วแต่ ผมขอฝากไว้ว่ารู้เยอะรู้มากไว้ดีกว่าครับ ผมเคยไปอเมริกา 2 ครั้ง ครั้งแรกเดินเข้าไปถามขอดูกีตาร์ * กิ๊บสัน * และ * มาร์ติน * คนขายฟังไม่เข้าใจ ผมต้องพูดใหม่ว่า * กิ๊บสั้น * และ * ม้าททิ่น * เค้าจึงฟังออก ส่วนชื่อ Takamine นั้น ผมเห็นว่า ภูเขาลูกนั้นชื่ออะไร ก็นั่นแหละครับชื่อกีตาร์ * ผมว่าพี่กฤษณ์กูรูยี่ห้อนี้มากกว่าผมเยอะหลายสิบเท่าเลยครับ RE: ตามล่า Takamine ในฝัน - guitarpappap - 25-01-2008 พี่ Pood กับ พี่ Povation น่าทำรวมเล่มความรู้ดีๆ เกี่ยวกับกีตาร์เลยครับ ถ้าไม่กลัวติดลิขสิทธิ์ ผมว่า Work มั่กๆ ใครจะเล่นเรื่องได้ดีกว่าเจ้าของละครับ |