![]() |
OPEN HOUSE V (รายการ 2 มาแล้วครับ) - Printable Version +- NimitGuitar webboard (http://www.NimitGuitar.com/mybb) +-- Forum: Classified (http://www.NimitGuitar.com/mybb/forumdisplay.php?fid=7) +--- Forum: ซื้อ-ขาย / Buy-Sell (http://www.NimitGuitar.com/mybb/forumdisplay.php?fid=8) +--- Thread: OPEN HOUSE V (รายการ 2 มาแล้วครับ) (/showthread.php?tid=12066) |
RE: OPEN HOUSE V (PREVIEW) - tiwa - 14-12-2011 คลาสสิคของน้า pood พอจะมีลุ้นซักตัวมั๊ยครับ RE: OPEN HOUSE V (PREVIEW) - Teera - 14-12-2011 ให้ไปที่บ้านเมื่อไหร่ครับพี่ RE: OPEN HOUSE V (PREVIEW) - น้าต่อ...... - 14-12-2011 กีต้าร์สวยๆทั้งนั้นเลยครับ.......... RE: OPEN HOUSE V (PREVIEW) - zenpj - 14-12-2011 มาลงทะเบียนไว้ครับ รอญี่ปุ่นอย่างเดียว ![]() RE: OPEN HOUSE V (PREVIEW) - pood - 14-12-2011 ต่อไปเป็นกีต้าร์คลาสสิคบ้างครับ 1983 ASTURIAS A10 S Asturias ตัวนี้น่าจะเป็นปี 1983 ครับเมื่อเทียบ serial number จากกระทู้เก่า เสป็คนั้นผมหาในเว้บไม่เจอแต่เจ้าของหลายท่านยืนยันว่าเป็น all solid แน่นอน อ่านเรื่องราวใด้ที่นี่ครับ http://www.nimitguitar.com/mybb/showthread.php?tid=5143 จุดเด่นของตัวนี้คือสภาพที่ไม่มีรอยตำหนิซึ่งหาใด้ยากในกีต้าร์อายุ 28 ปี ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() พวกกีต้าร์คลาสสิคนี่ผมหาคนเล่นคลาสสิคมาเล่นให้อัดเสียงไม่ทัน ตัวนี้ผมเลยแอบอัดตอนที่คุณโอภาสหยิบไปเล่น ขออนุญาติเอามาประจานหน่อยนะครับ ราคา 35,000 บาทครับ 1979 Yamaha GC10 C Grand Concert Series ตัวนี้เป็นรุ่นแพงของกีต้าร์คลาสสิคยามาฮ่าครับ ราคาตอนนั้น 100,000 เยนเท่ากับรุ่น L-10 ![]() ![]() ![]() ![]() ตัวนี้มีรอยบ้างตามรูปด้านล่างครับ ![]() ความจริงแล้วมันเป็นกีต้าร์คลาสสิคระดับ concert แต่นายหนึ่งเล่นเพลงคลาสสิคไม่เป็น ลองฟังเสียงเพลงปกติไปก่อนแล้วกันครับ ขาย 29,000 บาทพร้อมกล่องแท้ครับ(ความจริงผมก็ขายพร้อมกล่องแท้ทุกตัวครับ) RE: OPEN HOUSE V (PREVIEW) - pood - 14-12-2011 ปีนี้ผมลงรายการกีต้าร์มั่วไปหมดโดยไม่ใด้แยกประเภทหรือยี่ห้อนะครับ ที่ทำแบบนี้เพราะคิดว่าขายน้อยกว่าปีอื่นๆเยอะและอยากเล่าเรื่องราวของแต่ละตัวให้เป็นความรู้กับคนอ่านด้วยโดยไม่ใด้หวังแต่เงินอย่างเดียว กีต้าร์ที่ขายปีนี้มีหลายตัวมากที่นอกจากจะหายากและเสียงดีแล้วยังมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ของยี่ห้อนั้นด้วย ผมจะพยายามเล่าประวัติของแต่ละตัวให้ฟังเพราะมันคือเหตุผลสำคัญที่ทำให้ผมตามล่าหามันมาเก็บไว้ บางตัวก็ต้องใช้เวลาหลายปีกว่าจะหาใด้เพราะโอกาสที่ผมจะซื้อใด้ในราคาถูกก็เนื่องจากคนขายไม่มีความรู้ครับ ถ้าผมขายต่อในราคาถูกเหมือนกันก็อย่าเอาไปปู้ยี่ปู้ยำแล้วกันครับเพราะมันหาใหม่อีกไม่ใด้แล้ว เริ่มต้นด้วยประวัติของตัวนี้ที่อ่านจากหนังสือฝรั่งมาครับ เขาตั้งชื่อเรื่องว่า "The Fender guitars that saved Fender" บริษัท Fender ซึ่งเป็นบริษัทผลิตกีต้าร์ของอเมริกาที่ยอดขายสูงสุดในขณะนี้นั้นเกือบจะล้มละลายมาหนึ่งครั้งในปี 1984-1985 ครับ ในตอนนั้นเจ้าของเดิมคือ CBS ใด้พยายามขายทอดตลาดแต่ไม่สำเร็จ (บริษัท Ovation ก็เสนอซื้อแต่ให้ราคาต่ำมาก) ในที่สุดทาง CBS ก็เลยเสนอขายให้กัยทีมผู้บริหารในตอนนั้นในราคาแค่ 12.5 ล้านเหรียญแต่ข้อเสนอนั้นไม่รวมโรงงานผลิตที่ Fullerton ครับ ตอนที่เจ้าของกลุ่มปัจจุบันซื้อ Fender มานั้นก็ใด้มาแต่ชื้อและชิ้นส่วนที่อยู่ในสต้อครวมถึงอุปกรณ์ที่ใช้ผลิตแต่เมื่อไม่มีโรงงานผลิตแล้วจะหาเงินที่ไหนมาใช้หนี้ละครับ ในปี 1982 นั้น Fender ใด้เริ่มผลิต Fender Japan เพื่อขายในญี่ปุ่นแข่งกับพวก Fender Copy ของญี่ปุ่นเอง รุ่นแรกที่ออกมาคือรุ่น Vintage series '57 และ '62 Strat และ '52 Tele โรงงานที่ผลิตคือ Fujigen ที่ผลิต Ibanez ผลปรากฏว่าโรงงานญี่ปุ่นผลิตวางตลาดใด้ก่อนโรงงานอเมริกาหลายเดือนและใด้ส่งตัวอย่างมาให้ทางอเมริกาดูด้วย ตอนนั้น Dan Smith เขาเล่าว่า "Everybody came up to inspect them and the guys almost cried, because the Japanese product was so good - it was what we were having a hell of a time trying to do" ตอนที่ตัดสินใจซื้อ Fender นั้น Dan Smith ใด้คุยกับ Fujigen ไว้แล้วว่าจะให้ทางญี่ปุ่นผลิตกีต้าร์ให้ก่อนจนกว่าทางอเมริกาจะหาโรงงานใหม่ใด้ ปัญหามีอยู่ว่า Fujigen ก็ผลิตไม่ทันขายอยู่แล้วในตอนนั้น เขาเลยมอบให้ Fujigen ผลิตเฉพาะรุ่นที่ส่งอเมริกาส่วนรุ่นถูกๆอย่าง Squier series นั้นไปจ้างโรงงาน Moridaira ผลิตครับ ในปี 1985-86 นั้น Fender ที่ขายในอเมริกาผลิตในญี่ปุ่นกือบทั้งหมดครับและขายดีด้วยซึ่งทำให้ Fender รอดตายมาใด้จนถึงทุกวันนี้ ตอนนั้นทาง Fender USA ใด้สั่งให้ Fender Japan ย้าย serial number มาติดที่หัวเหมือนกีต้าร์ที่ผลิตในอเมริกาแทนที่จะติดไว้ด้านหลังเหมือน Fender Japan ครับ ![]() ตอนนี้ Fender Japan ยุคนั้นราคาแพงหูฉี่ในอเมริกาแล้วครับแต่สำหรับผมแล้วผมคิดว่าคุณค่าของกีต้าร์นั้นขึ้นอยู่กับเสียงของมันมากกว่าประวัติของมันครับ มาลองฟังเสียงจากเพลง Little Wing ของ Jimi Hendrix ครับ (ต้องขอโทษแฟน Hendrix นะครับที่เล่นไม่เหมือนแผ่นเพราะเป้นการบังคับให้นายหนึ่งเล่นแบบ free style โดยใช้กีต้าร์ตัวเดียว) กีต้าร์ตัวนี้คือ 1971 Stratocaster Vintage Series ปี 1985 ครับ ผมลองเปลี่ยน pickup เป็น Texas Special ซึ่งเสียงก็ไม่ใด้แตกต่างจากของ original (ชุดเดิมทั้งชุดอยุ่ในกล่องครับ) ตัวนี้มาพร้อมกับกล่องยุค '80s ตรงรุ่นครับ ![]() ![]() ![]() ตำหนิมีอยู่สามจุดครับ ขนาดเล็กเท่าหัวไม้ขีด ![]() รุ่นนี้ยังผลิตอยู่ครับ ราคาลดแล้วที่เพชรสยาม 43,560 บาทไม่มีกล่อง ผมขายราคา 26,000 บาทรวมกล่องแท้ครับ (วันก่อนมีน้องโทรฯมาถามราคาตัวนี้ ผมบอกไปเท่าไหร่จำไม่ใด้เพราะซื้อมานานแล้วครับแต่น่าจะเป็นราคาทุนที่ไม่รวมกล่องซึ่งผมมาหาเจอตอนหลัง) ตัวต่อไปครับ 2004 Gibson BB King Lucille กีต้าร์ต้นแบบของ Lucille คือ Gibson ES-355 TD-SV สีดำที่เป็นกีต้าร์คู่ใจของ BB King ในสมัยนั้น BB จะเอาผ้าไปยัดรู F-holes ไว้เพื่อกันหอน ต่อมาเมื่อ Gibson เริ่มผลิตรุ่นนี้ในปี 1982 ก็เลยไม่เจาะ F-hole ซะเลย รุ่นนี้ Gibson มาเปลี่ยนเป็น Custom Shop เมื่อสองปีที่แล้วเพราะขายโก่งราคาใด้มากขึ้นขณะที่ต้นทุนยังเหมือนเดิมครับ ![]() กีต้าร์ตัวนี้ผมใด้มาจากญี่ปุ่นจากตาคนนี้ครับ (มันคือตัวในคลิป) ฺฺจากรูปข้างบนเขาบอกว่า " Lucille don't want to play anything but the blues? B.B. King" ถ้าเป็นยังงั้นจริงมันก็เป็น "one trick pony" ที่คนมีสตางค์ซื้อไว้เก็บเป็น status symbol เพราะผมไม่เคยเจอมือกีต้าร์คนไหนที่เล่นแต่เพลง blues อย่างเดียว ผมเลยให้นายหนึ่งเอาเจ้านี่มาเล่นเพลง jazz ดูบ้างครับ ฟังเองนะครับว่ามันเล่นใด้ไหม http://www.youtube.com/watch?v=tIbS1xmJVyw&list=UUfIskUK9cZYBLSYcffMZEOw&feature=plcp ตัวนี้สภาพดีกว่าตัวอื่นๆที่เคยเห็นครับ ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() รุ่นนี้ราคา list price $4,449 ขาย 71,000 บาทครับ RE: OPEN HOUSE V (PREVIEW) - pood - 14-12-2011 ต่อไปคือ Morris ตัวสุดท้ายครับ ตัวนี้หายากกว่า S-102 (S-102 ถ้ามีสตางค์ก็มีขายครับ) เพราะเป็น limited edition ที่ผลิตอยู่ล้อตเดียว MORRIS M-1003 Limited. รุ่นนี้ไม้หน้าใช้ solid American Red Cedar ไม้หลังชิ้นกลางเป็น solid flamed maple ประกบด้านข้างด้วย brazilian rosewood ครับ น่าแปลกใจที่วันก่อนมีคนบอกว่ากีต้าร์ตัวนี้ไม้หอมมากผมเลยดมดูมันก็หอมจริงๆครับ ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ตัวนี้ติดตั้งปรี Fishman Acoustic Matrix VT ครับ ![]() เสียงเปล่าครับ http://www.youtube.com/watch?v=489kLQZi4Q8&list=UUfIskUK9cZYBLSYcffMZEOw&feature=plcp ขาย 32,000 บาทครับ RE: OPEN HOUSE V (PREVIEW) - piggyprince - 14-12-2011 กีต้าร์สวย รูปก็สวย แป๊บเดียวเปิดขายหมดแน่ๆเลยครับพี่ปู๊ด ![]() RE: OPEN HOUSE V (PREVIEW) - pood - 14-12-2011 (14-12-2011, 15:16)นริศ วงษ์เวช Wrote: รอดู K.yairi ครับ K. Yairi ขอลงเป็นชุดปิดท้ายครับเพราะเป็น collection ที่หวงสุดแต่เก็บไว้เยอะแยะก็ไม่ใด้เล่นหรอก สู้แบ่งให้คนอื่นเอาไปชื่นชมบ้างดีกว่า ตัวแรกครับ 1970-1971 K. Yairi K. SEVEN U.S. EXPORT MODEL ในปี 1965 ที่ St.Louis Music เริ่มไปจ้างให้โรงงาน Terada ผลิตกีต้าร์ Alvarez ที่อเมริกันออกแบบเพื่อมาขายที่อเมริกาในราคาถูกนั้นก็ใด้มีการติดต่อกับช่างกีต้าร์ handmade ที่มีชื่อเสียงของญี่ปุ่นหลายคนเพื่อเปิด high end line และมาจบที่ Kazuo Yairi แต่ตอนนั้นซึ่งเป็นยุค folk boom ทาง K. Yairi ก็มีงานล้นมืออยู่แล้ว ต่อมาประมาณปี 1970 ทาง K. Yairi จึงใด้ส่งกีต้าร์ไปลองตลาดที่อเมริกาซึ่งเป็นกีต้าร์ญี่ปุ่นยี่ห้อเดียวในสมัยนั้นที่ไม่ใด้ copy Martin ครับ ตอนนั้นเขาตั้งชื่อชั่วคราวว่า K. SEVEN ต่อมาในปี 1972 จึงใด้เปลี่ยนเป็น Alvarez Yairi ครับ เจ้า K. SEVEN ตัวนี้น่าจะเป็นกีต้าร์รุ่นเดียวในโลกที่ด้านหน้าเป็น natural color แต่ด้านข้างและด้านหลังเป็น 3 color sunburst ครับ ตัวนี้สภาพไม่น่าเชื่อว่าเป็นกีต้าร์อายุสี่สิบปีเพราะคอยังตรงเป๊ะ ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ตัวนี้ไม้หน้าเป็น solid spruce แน่นอนแต่ไม้ข้างและไม้หลังดูคล้าย mahogany แต่ลายและเสี้ยนไม่ใช่ ที่แน่ๆคือเสียงย่านเบสนี่มันเสียงไม้ตระกุล rosewood แน่นอนเพราะทั้งนุ่มทั้งลึก ลองฟังดูครับ ขาย 25,000 บาทครับ (14-12-2011, 11:28)Teera Wrote: ให้ไปที่บ้านเมื่อไหร่ครับพี่ ปีนี้ไม่จัดงานเปิดบ้านเหมือนที่เคยทำมาทุกปีนะครับเพราะตอนนี้ที่บ้านไม่มีเด็กช่วยงาน (ขนาดมีเด็กยังเหนื่อยทุกปี) เราไปฉลองปีใหม่กันที่บ้านคุณนพดลเลยก็แล้วกัน ผู้ที่จะมาลองกีต้าร์เชิญใด้ที่คอนโดตั้งแต่วันอังคารหน้าตอนเย็นหลังเลิกงานครับ RE: OPEN HOUSE V (PREVIEW) - shood - 14-12-2011 รอ K.Yairi เช่นกันครับ |