ผ่านมาสามเดือนเต็ม เป็นสามเดือนที่ค่อนข้างย่ำแย่ในชีวิต น้ำไม่ท่วมบ้านผมสักหยด ที่ทำงานก็ไม่ท่วมแม้แต่น้อย
แต่โรงงานลูกค้าผมโดนน้ำท่วมเป็นแถวเลย รายได้หดหายไปกับสายน้ำ หุ้นก็ตกวินาศสันตะโร เป็นช่วงที่ชีวิตค่อนข้างต๊อแต๊
แต่แล้วมันก็ผ่านไปกับปีเก่า เริ่มปีใหม่ยอดขายก็เพิ่มขึ้นมาชดเชยกับของเก่าที่เสียไป หุ้นก็กลับฟื้นคืนชีพมาอีกครั้ง
และที่ดีใจที่สุด คือผมหา SD card ตอนไปเที่ยว California เจอแล้ว คือเก็บไว้ดีเกินไปอ่ะครับ เส้นผมบังภูเขา
ผมผ่านชีวิตขึ้นๆลงๆมาหลายครั้งแล้ว ตอนนี้เริ่มชิน อยู่กับสิ่งที่มีไม่ใช่สิ่งที่ฝัน..และทำวันนั้นให้ดีที่สุด
ปัญหาคือ วันนั้นอ่ะมันวันไหนกันแน่ วันที่ฝันหรือวันที่มี (ถ้าคุณบอยอ่านอยู่ช่วยตอบที)
เช้าวันนั้นผมตื่นมาด้วยความสดชื่น อากาศที่นี่กำลังสบาย ราวๆ 28c น่าจะได้ เพิ่งสังเกตเห็นว่าผ้าปูเตียงของผมเป็นรูปกีต้าร์ด้วย
พี่ nap ชวนไปดูโรงเรียนของหลานสาว ผมรีบไปทันที อยากเห็นชีวิตของเด็กๆอเมริกัน
ที่นี่มีเด็กๆหลากหลายเชื้อชาติ ทุกๆคนเป็นเพื่อนกัน วิ่งเล่นกันสนุกสนาน
หลังจากนั้นเราแวะไปที่โรงพยาบาลที่พี่ imp ทำงานอยู่ เนื่องจากเป็นโรงพยาบาลผมเลยไม่กล้าถ่ายรูป เลยถ่ายแต่บอร์ดมา
แล้วพี่ nap ก็พาไปเที่ยว Santa Monica
ระหว่างทางก็เกิดกลุ่มหมอกทึบเข้ามาปกคลุม แย่หน่อยวันนี้คงถ่ายรูปไม่สวย พี่ nap บอก
สิ่งแรกที่เห็นคือจุดสิ้นสุดของ Route 66 ทางหลวงซึ่งพาดจาก Chicago มายัง LA.
เป็นเส้นทางหลักที่เชื่อมรัฐฝั่งตะวันออกและรัฐฝั่งตะวันตกเข้าด้วยกัน
ช่วงนี้เป็นช่วงเช้า ยังไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวมากนัก คงแฮงค์อยู่เลยยังไม่ตื่นกัน
Santa Monica Pier มีสวนสนุก Pacific Park สวนสนุกริมทะเล (จริงๆต้องบอกว่าริมมหาสมุทร)
หมอกลงจัดจริงๆ
อู้...ให้ภาพเล่าเรื่องแทน อิอิ
ภาพ Santa Monica Pier มุมนี้เป็นที่คุ้นตาในภาพยนต์หลายๆเรื่อง
เดินมาถึงสุดท่า ได้ยินเสียงเพลงไพเราะแว่วมาแต่ไกล