Thread Rating:
  • 0 Vote(s) - 0 Average
  • 1
  • 2
  • 3
  • 4
  • 5
อ่านเล่นๆครับเกี๋ยวกับกีตาร์คลาสสิค
Author Message
BENZ Offline
(-1833 Custom Shop-)
******

Posts: 1,499
Likes Given: 62
Likes Received: 52 in 36 posts
Joined: 31 Jan 2009
Reputation: 30
#1
อ่านเล่นๆครับเกี๋ยวกับกีตาร์คลาสสิค
เดอะ กีต้าร์ โดย จอร์จ ซี.คริก
(The Guitar By George C.Krick)
จากวารสาร Etude ฉบับ July 1938

จากสถิติที่เชื่อถือได้ จำนวนกีต้าร์ที่ขายไปในปี 1937 (พ.ศ.2480) ในประเทศนี้ (สหรัฐอเมริกา) มีจำนวนมหาศาลถึงห้าแสนตัว นี่รวมถึงกีต้าร์ทุกประเภท ทั้งคลาสสิค เพล็คตรัม และฮาวายเอี้ยน (ยังไม่กีต้าร์ไฟฟ้าในสมัยนั้นนะครับ) เพื่อเป็นการเปรียบเทียบ ทอเรส (Torres) ซึ่งเป็นบิดาแห่งกีต้าร์คลาสสิคยุคใหม่ ที่ทำกีต้าร์ในช่วงกลางศตวรรษที่ 19 ได้ทำกีต้าร์ไม่ถึงสามร้อยตัวทั้งชีวิตของเขา ในจำนวนนี้ทั้งหมด มีเพียง 25 ตัวเท่านั้นที่ถือว่าโดดเด่นกว่าเพื่อน และส่วนใหญ่ตกอยู่ในมือของนักกีต้าร์ระดับสุดยอดของโลกทั้งสิ้น กีต้าร์เหล่านี้เป็นของมีคุณค่าและราคาที่สูงมากในสายตาของผู้ที่ครอบครองมันด้วยความภาคภูมิใจ [ผู้แปล - ปัจจุบัน กีต้าร์ Torres มีเป็นที่ต้องการของนักสะสมมาก มีราคาสูงที่สุด Pepe Romero และน้องๆ ได้ครอบกีต้าร์ Torres อย่างน้อยคนละหนึ่งตัวแล้ว ส่วน Pepe ครอบครองถึง 3 ตัว และได้ทยอยขายกีตาร์อื่นๆ ในมือออกมา] Miguel Llobet หนึ่งในสุดยอดฝีมือของสเปน ใช้ Torres ปี 1853 Emilo Pujol ก็ใช้ Torres, เมื่อ F.Tarrega เสียชีวิตลง กีต้าร์ Torres ของเขาก็ข้ามมหาสุมทรแอ็ตแลนติคไปอยู่ในมือของ Maria Anido, นักกีต้าร์ที่มีชื่อเสียงของอาเจนติน่า กีต้าร์เหล่านี้ ได้รับการยกย่องว่าเป็นกีต้าร์ที่มีเสียงงดงาม เต็มไปด้วยพลัง และถูกสร้างมาอย่างดี

แต่กีต้าร์ Torres ตัวที่ได้รับการยกย่องมากที่สุดตัวที่สร้างในปี 1856 และถูกตั้งชื่อโดย Torres ว่า "La Lione" [ผู้แปล - ปกติ Torres ตั้งชื่อกีต้าร์ที่สร้างขึ้นทุกตัว Jose Romanillos ก็เลียนแบบในการตั้งชื่อกีต้าร์ของเขาทุกตัวเหมือนกัน นอกเหนือไปจาก การทำกีต้าร์ในสไตล์ของ Torres] กีต้าร์ตัวนี้เป็นตัวที่ Torres รักที่สุดและไม่ยอมขายให้ใคร แต่ในที่สุดมันก็ตกมาถึงมือของ ลูกศิษย์สาวของ Tarrega ซึ่งเป็นคุณหนูของตระกูลที่ร่ำรวยมาก แต่ยี่สิบปีต่อมาตระกูลนี้ก็ประสบปัญหาด้านการเงินอย่างหนักทำให้ต้องขายกีต้าร์ตัวนี้ให้กับ Nicolo Gimenez นักกีต้าร์สมัครเล่นและนักสะสม ในราคาถึงสองหมื่นเหรียญสหรัฐฯ [หากคิดเป็นเงินปัจจุบันมีค่ามากกว่า หนึ่งล้านเหรียญ] เป็นที่กล่าวขวัญว่าในวันที่ซื้อขายกันนั้น สมาชิกทั้งตระกูลแต่งชุดไว้อาลัยและร้องให้ในการพรากจากกีต้าร์อันเป็นที่รักยิ่งตัวนี้ Gimenez นำกีต้าร์กลับไปยังกรุงปารีส และทำประกันทั้งโจรกรรมและอัคคีภัยในมูลค่าเท่าที่ซื้อมา และนำออกมาให้นักกีต้าร์ชื่อดังใช้ในการแสดงหลายครั้ง ซึ่งกีต้าร์ตัวนี้เป็นที่กล่าวขวัญในหมู่นักกีต้าร์อย่างมาก และทุกคนก็ยอมรับว่าเป็นกีต้าร์ที่ดีที่สุดที่ได้เคยสร้างมา

มีช่างทำกีต้าร์ในสเปนอีกหลายคนในยุคนั้น แต่ไม่ใครเทียบได้กับ Torres เลย กีต้าร์ของ Lacote ของฝรั่งเศสได้รับความนิยมอยู่ในยุคต้นศตวรรษที่ 19 หลังจากที่ F.Sor ได้มาพำนักที่กรุงปารีสและใช้ Lacote ในการแสดงของเขา กีต้าร์เหล่านี้ส่วนมากตัวเล็กกว่าของสเปน กีต้าร์จากอิตาลีก็เช่นกันที่ตัวเล็กและแคบกว่ากีต้าร์สเปน ให้เสียงที่คมและมีพลังมาก แต่ขาดความลึกและคุณภาพเสียงอื่นๆ ที่มีในกีต้าร์สเปน

ช่างทำกีต้าร์ที่มีชื่อเสียงในกรุงเวียนนา
ในช่วงเวลาเดียวกัน [ต้นศตวรรษที่ 19] กรุงเวียนนาถือเป็นศูนย์กลางของกีต้าร์ในยุโรป ซึ่งเป็นที่รวมของนักกีต้าร์ดังๆ ในยุคนั้น ในหมู่ช่างทำกีต้าร์ทั้งหลายในเวียนนา J.G. Stauffer (1800-1850), J.G. Scherzer (1834-1870), and F. Schenk (1809-1850) เป็นผู้ที่มีชื่อเสียงมากที่สุด กีต้าร์เหล่านี้เป็นที่นิยมในหมู่นักกีต้าร์รัสเซียและอิตาเลี่ยน ในขณะที่กีต้าร์หกสายเป็นที่นิยมที่สุด แต่ก็มีศิลปินบางคนที่นิยมใช้กีต้าร์ที่มีสายเบสเพิ่มขึ้นสามสายหรือมากกว่า อาทิ J.K. Mertz ยอดนักกีต้าร์ชาวออสเตรีย ใช้กีต้าร์ที่มีสายเบสเพิ่มขึ้น 4 สาย Terz guitar, เป็นกีต้าร์ขนาดเล็ก ตั้งเสียงให้สูงกว่าปกติ "minor third" ก็เป็นที่นิยมในตอนนั้น โดยมักจะนำมาเล่น duet กับกีต้าร์หรือเปียโน หรือเล่นอยู่ในวง String Quartet

จากช่วงเวลานั้นจนถึงปัจจุบัน (1938) ก็ได้มีความพยายามที่จะพัฒนากีต้าร์ ที่มีพลังมากๆ แต่ในขณะเดียวกันก็มีคุณภาพเสียงที่ดีด้วย จากการแสดงในที่ต่างๆ ทั่วยุโรปของ Miguel Llobet และต่อจากนั้นก็ Andres Segovia ทำให้ช่างทำกีต้าร์ของยุโรปได้หันมายอมรับในแบบของกีต้าร์ Torres และก็ประสบความสำเร็จเป็นที่ยอมรับของนักกีต้าร์ด้วยความพึงพอใจและประหลาดใจไปด้วย ช่างทำกีต้าร์ที่โด่งดังที่สุดในตอนนี้คือ Hermann Hauser [ผู้แปล - ปัจจุบันนี้เป็นรุ่นหลานแล้วครับ แต่ Hauser Sr. ยังเป็นที่ต้องการในหมู่นักกีต้าร์และนักสะสมอย่างยิ่ง จากประวัติศาสตร์กล่าวว่า Segovia ประทับใจในกีต้าร์ของ Hauser มากแต่ยังไม่ดีเท่าที่ควร Segovia ได้ให้ยืมManuel Ramirez อันเป็นกีต้าร์ในแบบ Torres ที่ใช้มาหลายปีเพื่อศึกษา ต่อมา Hauser จึงได้ทำกีต้าร์ในสไตล์ของ Torres/Manuel Ramirez จน Segovia นำมาใช้แทน Ramirez ที่ในที่สุดก็ร้าว หรือ Crack ในขณะที่เล่น Concert เป็นที่กล่าวกันว่าเป็นเวลาเดียวกับที่ Manuel Ramirez สิ้นลมหายใจพอดี!!!] รุ่น "Segovia Model" ของ Hauser นั้นจะมีขนาดใหญ่กว่า Torres บ้างเล็กน้อย เป็นกีต้าร์ที่ Segovia ใช้เล่นในคอนเสิร์ตในสหรัฐอเมริกาด้วย เป็นกล่าวขวัญกันมากว่าเป็นกีต้าร์ที่ดีเยี่ยม ส่วนกีต้าร์อื่นๆ ที่ได้รับการยอมรับก็มี Vincente Tatay และ Luigi Mozzani. Big Grin Tongue Big Grin
I haven't got a clue.
16-08-2009, 20:32
Find Like Post Reply


Messages In This Thread
อ่านเล่นๆครับเกี๋ยวกับกีตาร์คลาสสิค - by BENZ - 16-08-2009, 20:32

Forum Jump:


Users browsing this thread: 1 Guest(s)

Contact Us | NimitGuitar | Return to Top | | Lite (Archive) Mode | RSS Syndication