ใช่ครับ..
กรุงเทพฯไม่น่าใช้จักรยานจริงๆ...
แต่ที่ไม่น่าใช้นี่แหละจึงน่าใช้!!!
เมืองศิวิไลท์ไม่น่าใช่เมืองที่อัดแน่นไปด้วยรถยนต์
เมืองศิวิไลท์ไม่น่าใช่เมืองทีขยายเพิ่มพูนแต่สิ่งปลูกสร้าง...
เมืองศิวิไลท์ไม่น่าใช่เมืองที่มีสะพานสูงๆไว้รองรับวัฒนธรรมรถยนต์...
เมืองศิวิไลท์ไม่น่าใช่เมืองที่เบียดบังพื้นที่ผู้คนเดินถนนให้เป็นส่วนเกิน...
เมืองศิวิไลท์ไม่น่าใช่เมืองที่สารพัดที่อย่างที่เป็นแบบนี้....
เราได้แต่สร้างเพิ่มๆๆๆๆ
จนแออัดยัดทะนานจนแน่นไปหมด...
จนแทบไม่มีพื้นที่พอสำหรับกิจกรรมชีวิตด้านอื่นๆ...
จนแทบหาอากาศหายใจไม่ได้...
จนแทบหาน้ำใจและรอยยิ้มเป็นเรื่องยาก...
จบแทบจะอีกสารพัดจะแทบ...ฯ
ฯลฯ
ผมว่าเปลี่ยนเถอะ....
หากกรุงเทพฯจะโปร่งโล่งเบาบางลงสักหน่อยคงน่าดี...
ผู้บริหารประเทศกับนโยบายแปลกๆ...
สนับสนุนให้ผู้คนช่วยเหลือตัวเองด้วยการก่อหนี้...
และตัวรัฐเองก็ก่อหนี้ให้ประชาชนด้วย...
นโยบายรถคันแรก...น่ารัก.ช่างคิดได้..
เอาละ...
ผมจะไม่พูดเรื่องนั้น...
แต่ผมเห็นว่าควรเอารถออกจาเมือง...
จำกัดปริมาณมัน...
แล้วรณรงค์สนับสนุนให้ประชาชนหันมาพึงพิงตัวเอง...
ใช้พาหนะยานที่ไม่เป็นพิษต่อความเป็นเมือง...
จักรยานน่าเป็นพาหนะทางเลือกที่เหมาะสมกับเมือง...
หากผู้คนหันมาใช้จักรยานกันเยอะ...
เยอะสักครึ่งเมือง....
เอารถยนต์ออกไปอีกสักครึ่งเมือง...
จัดการบริหารรถสาธารณะให้มีประสิทธิภาพ...
แล้วผู้คนหันมาใช้กันแทนใช้รถส่วนตัว...
รถยนต์ไม่ใช่เครื่องแสดงสถานะบางอย่างทางสังคมและชนชั้นอีกต่อไป...
โอ้...ผมเพ้ออะไรของผมนี่....
เมื่อครั้งที่ลูกสาวผมยังเรียนอนุบาล....
ผมปั่นจักรยานไปรับเธอกลับจากโรงเรียนทุกวัน..
บ้านผมอยู่บางไผ่-เพชรเกษม20...ปั่นมารับเธอที่ท่าเตียน...
ระยะทางน่าจะประมาณราวๆ8-9กิโล...
ออกจากโรงเรียนก็เอาจักรยานลงเรือ...
ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาแวะวัดอรุณฯ...
แล้วก็ลัดเลาะไปตามตรอกซอกซอยไปเรื่อยๆ..
ชุมชนแถวๆนั้นเดิมเขาทำสวน..
จึงมีเส้นทางเป็นทางสวนเก่า..
ย้อนนึกไปมันช่างรื่นรมย์จริงๆครับ...
แต่ปัจจุบันทำอย่างนั้นไม่ได้..
เธอมีน้องชายอีกคนที่โตทันกันแล้ว...
ผมจึงต้องเปลี่ยนตัวเองมาเป็นเด็กแว๊น(ได้3ปีแล้ว...)
ผมคุยกับลูกเสมอเมื่อโตพอที่จะรับผิดชอบตัวเองได้แล้ว..
จะให้ปั่นจักรยานไปโรงเรียน..
ลูกผมก็โอเคอยากทำอย่างนั้นเช่นกัน...
และผมก็คงจะได้ทำอย่างที่บอกลูกไว้...
พ่อจะปั่นจักรยานไปส่งลูกทุกวัน...
ตอนนี้เราจึงต้องช่วยกันเตรียมพื้นที่ไว้ให้ลูกครับ...
หวังว่าจะมีวันนั้นนะครับ....^^
ผมจึงอยากสนับสนุน"SAVE OUR CYCLISTS
โปรเจครณรงค์เพื่อผู้ร่วมใช้ถนนให้หันมาใส่ใจความปลอดภัยของผู้ใช้จักรยาน"
เพื่ออนาคตของลูกๆของผมและพวกเราครับ...
ปั่นจักรยานด้วยความเชื่อ...
เราไม่ได้ปั่นจักรยานเพราะเรายากจนข้นแค้น...
ปั่นจักรยานด้วยความเชื่อมีความสุขครับ...
แต่ปั่นจักรยานด้วยความสิ้นไร้นั่นมีแต่ทดท้อ....
ใจใหญ่ก็ปั่นได้ไกล....
ใจสบายก็ปั่นใกล้ๆ
ปั่นจักยานกันด้วยความเชื่อสนุกครับ...
เปลี่ยนทัศนคติเกี่ยวกับจักรยานเสียใหม่...
ไม่เหนื่อยหรอกครับ...
มาปั่นจักรยานกัน...
ปล.ขอบคุณพี่แนป,น้าเม็ดพริกมากครับ...