Thread Rating:
  • 0 Vote(s) - 0 Average
  • 1
  • 2
  • 3
  • 4
  • 5
ชวนกันทำบุญค่ะ
Author Message
BytSerk Offline
PsyCho
****

Posts: 297
Likes Given: 0
Likes Received: 0 in 0 posts
Joined: 31 Oct 2007
Reputation: 2
#11
RE: ชวนกันทำบุญค่ะ
(27-10-2009, 10:23)lekleklek Wrote: อนุโมทนาด้วยคนครับ ผมกลัวเข็มเลย ไม่กล้าบริจาคแลือดครับ ยอมรับอย่างลูกติดแม่เลยครับ อิอิ ...

ผมก็กลัวครับน้า ผมใช้วิธีไม่มองตอนเค้าเจาะ เพราะพอโดนเจาะจริงๆ บางครั้งยุงตัวใหญ่กัด ยังเจ็บกว่าอีกครับ เจ็บนิดเดียว

วิธีไม่มองผมก็ยังใช้อยู่ทุกครั้งครับ Smile
27-10-2009, 10:55
Website Find Like Post Reply
lekleklek Offline
VIP rachada member
******

Posts: 1,906
Likes Given: 50
Likes Received: 24 in 20 posts
Joined: 16 Sep 2007
Reputation: 23
#12
RE: ชวนกันทำบุญค่ะ
(27-10-2009, 10:33)Labour Wrote: ดูน้าเล็กถูกฟัน ยังดีเสียกว่าถูกฉีดยาเองอีกครับ Big Grin
พี่ Labour ได้สิทธิ์นั้นเดี๋ยวนี้ครับ ว่าแต่หาคนมา ฟัน ผมด้วยนะครับ ขอล่ำๆนะครับ
(27-10-2009, 10:55)BytSerk Wrote: ผมก็กลัวครับน้า ผมใช้วิธีไม่มองตอนเค้าเจาะ เพราะพอโดนเจาะจริงๆ บางครั้งยุงตัวใหญ่กัด ยังเจ็บกว่าอีกครับ เจ็บนิดเดียว

วิธีไม่มองผมก็ยังใช้อยู่ทุกครั้งครับ Smile

ผมเจอเข็ม รุจิรา ใสชุดว่ายน้ำ ก็ขาสั่น เข่าอ่อนแล้วครับ ทำใจไม่ได้ครับ เลยเลลือกทำดีทางอื่นดีกว่า
(This post was last modified: 27-10-2009, 10:58 by lekleklek.)
27-10-2009, 10:56
Find Like Post Reply
napman Offline
VIP member
******

Posts: 2,118
Likes Given: 91
Likes Received: 58 in 41 posts
Joined: 27 Apr 2009
Reputation: 45
#13
RE: ชวนกันทำบุญค่ะ
(27-10-2009, 10:23)lekleklek Wrote: ผมกลัวเข็มเลย ไม่กล้าบริจาคแลือดครับ ยอมรับอย่างลูกติดแม่เลยครับ อิอิ ...

Hi Lek & Labour too,
I unquestionalbly understand your fear. I guess I had that feeling too when I first did it but that was long ago. So long that I don't even remember why I did it first time.
40 + years later I'm still doing it. And everytime I always see in my mind's eye the pictures of the patients that need blood so badly but couldn't get any and quietly fading away and die.
Of course nobody likes to have any sharp object to puncture the skin! but would you do it for your loved one if that action can save his/her life?

I can guarantee with my life that YOU WILL NOT DIE from donating just 1 pint of your blood every 3 months or so. Actually your blood cells will die out for that period without any benefit for anyone anyway.

I'm not at all a big man, I'm 5' 7" and 130 lb and now 62 years old, even lighter when I was young and I'm still survive through the constant blood donations. So you can do it too and even better than me!

Lek & Labour, if you bite the bullet and go ahead and give the blood just 1 time, just 1 time OK? It may forever change your attitude about donating blood. I'm willing to bet that if you donate blood you will be so proud of yourselves and may even consider do it again and again and again.

Lastly, In my opinion, to donate blood is one of the most precious "GIFTS OF LIFE" that you can give to your sick fellow human beings.
[A friendship needs a little mulch of contacts every so often-just to save it from drying out completely.

I always have great pleasure being alone by myself to play, If you're playing for any other reason, it won't last.
http://youtu.be/_tkGVGOKQ8c
27-10-2009, 11:17
Website Find Like Post Reply
lekleklek Offline
VIP rachada member
******

Posts: 1,906
Likes Given: 50
Likes Received: 24 in 20 posts
Joined: 16 Sep 2007
Reputation: 23
#14
RE: ชวนกันทำบุญค่ะ
ขอทำใจอีกสัก 2 - 3 ปีครับ น้า Nap ด้วยความนับถือครับ และหวังลึกๆว่าจะทำได้เหมือนน้า Nap ครับ
27-10-2009, 11:24
Find Like Post Reply
Tai Labour Offline
ป๊อก8 2 เด้ง
******

Posts: 3,576
Likes Given: 47
Likes Received: 38 in 29 posts
Joined: 28 Aug 2007
Reputation: 38
#15
RE: ชวนกันทำบุญค่ะ
จะำพยายามครับพี่แนบ และหวังว่าจะได้ความรู้สึกแบบเดียวกัน
แต่ถ้าผมตายเพราะเข็ม พี่แนบต้องแบ่งสมบัติให้ครอบครัวผมครึ่งนึงนะ...แฮ่ Big Grin


ป.ล.พี่แนบบอกขนาด เอ้ย!สัดส่วนด้วย ผมละ อ๊าย อาย ;P
============ เพื่อความบันเทิง =============

27-10-2009, 11:57
Website Find Like Post Reply
Mooja Offline
Member
***

Posts: 200
Likes Given: 0
Likes Received: 0 in 0 posts
Joined: 05 Oct 2009
Reputation: 18
#16
RE: ชวนกันทำบุญค่ะ
(27-10-2009, 10:16)BytSerk Wrote: น้านิดลองบริจาคไตสักข้างสิครับ จะได้ไม่ทรัพย์จาง อิอิ

ปกติสิ่งที่ผมบริจาคบ่อยที่สุดจะเป็นเกล็ดเลือดครับ ถ้าบริจาคเลือดมีเงื่อนไขเยอะแยะมากพอแล้ว
เกล็ดเลือดจะยุ่งมากกว่าอีกครับ เพราะเลือดต้องเข้มข้นพอ
เกล็ดเลือดเก็บไว้ได้ไม่นานเท่าเลือด
จะบริจาค 1 ครั้งใช้เวลา 1 - 2 ชั่วโมงครึ่ง นอนดูหนังได้เรื่องนึงๆ เลย
ตอนบริจาคจะรู้เลยว่าคนขาดเลือดตายเป็นยังไง แต่ไม่ได้น่ากลัวขนาดนั้นนะครับ
เป็นไปได้อยากให้ลองไปบริจาคกันสักทีครับ นับยอดเหมือนบริจาคเลือดตามปกติด้วยครับ

ไม่รู้ว่าเชียงใหม่ไปลงชื่อบริจาคอวัยวะที่ไหน

สวัสดีค่ะพี่..เหมียวก็คนเชียงใหม่
ดีจังเลย
พี่น่าจะเข้าไปติดต่อที่โรงพยาบาลสวนดอกนะคะ
เพราะว่าที่นั่นก็มีคณะแพทย์ของม.ช.อยู่แล้ว
น่าจะเป็นตึกศรีพัฒน์ เดี๋ยวจะเช็คข้อมูลให้อีกทีค่ะ
Sleepless Zone
I Love Mom & Dad
27-10-2009, 12:16
Find Like Post Reply
Maew Offline
Senior member
****

Posts: 470
Likes Given: 0
Likes Received: 0 in 0 posts
Joined: 03 Feb 2009
Reputation: 26
#17
RE: ชวนกันทำบุญค่ะ
ปกติแล้วผมจะไม่ส่ง fw เมล์ให้ใคร แต่เห็นว่าfwเมล์ฉบับที่เพิ่งได้รับมาไม่นานนี้เกี่ยวข้องกับกระทู้ดี และน่าจะเป็นกำลังใจให้กับคนที่อยากจะทำบุญทำกุศลได้บ้าง

/////////////////////////////////////////////////

Subject: FW: ผลมาจากการบริจาคโลหิตโดยแท้ !!!


คือเรื่องจริง ที่เกิดขึ้นจริง ๆ เป็นผลมาจากการบริจาคโลหิตโดยแท้ !!!
รุ่นพี่ของเราคนหนึ่ง อายุประมาณ 35 ปี ทำงานอยู่ที่ ทีพีไอ สำนักงานใหญ่ ซึ่งบริษัทมีสวัสดิการให้
พนักงานตรวจสุขภาพประจำปีทุกปี ผลการตรวจล่าสุดเมื่อปลายปีที่แล้ว ปรากฎว่าพี่เค้าเป็นโรคลิ้น
หัวใจรั่ว ซึ่งคุณหมอก็งงเหมือนกัน เพราะเกือบทั้งหมดของคนที่เป็นโรคนี้ มักเป็นมาแต่กำเนิด
หลังทราบผล พี่เค้าก็ไปปรึกษาคุณหมอ สรุปว่า ทางเดียวที่จะรอดได้ก็ต้องผ่าตัด เพื่อดูว่าสามารถ
ซ่อมลิ้นหัวใจได้หรือไม่ ถ้าไม่ได้ก็ต้องเปลี่ยนใหม่ หลังจากปรึกษาที่รพ.เซ็นหลุยส์ ค่าใช้จ่ายในการ
ผ่าตัดประมาณ 3 ?4 แสนบาท จึงลองไปปรึกษาที่รพ.จุฬาฯ ค่าใช้จ่ายอยู่ที่ประมาณ 1 แสน
กว่า ๆ จึงตัดสินใจไปผ่าตัดที่รพ.จุฬา ฯ


แต่ก่อนหน้านี้ พี่เค้าบริจาคเลือดทุก ๆ 3 เดือนมาโดยตลอด รวมทั้งหมดที่บริจาคก็ 49 ครั้ง และ
พี่เค้าก็ได้รับคำแนะนำมาว่า ทางสภากาชาดจะช่วยเหลือในส่วนของค่าห้องในการพักรักษาตัวได้
จึงได้ไปขอจดหมายรับรองจากสภากาชาดไว้ ว่าได้บริจาคเลือดจำนวนครั้งเท่านี้จริง อย่างน้อย
ก็จะได้ช่วยลดค่าใช้จ่ายไปได้บ้าง


พี่เค้าเพิ่งได้รับการผ่าตัดเรียบร้อย เมื่อวันที่ 29 เม.ย. 48 นี้เอง วันที่ออกจากรพ. ก็ต้องไป
เคลียร์ค่าใช้จ่าย ซึ่งทั้งหมดเป็นเงิน 110,000 บาท แต่พี่เค้าต้องจ่ายจริง คือค่ายาเพียง
9,800 บาทเท่านั้น เพราะสรุปว่า สภากาชาดออกค่าใช้จ่ายทั้งหมดให้ เจ้าหน้าที่ของรพ.แจ้งว่า
ได้รับสิทธิ์เหมือนกับข้าราชการคนหนึ่ง ส่วนของค่ายาที่ต้องจ่ายเองนั้น เพราะเป็นยาบัญชีประเภทสอง
ซึ่งถึงจะเป็นข้าราชการก็ต้องจ่ายส่วนนี้เองเหมือนกัน เจ้าหน้าที่ยังแนะนำอีกว่า เพียงแค่คุณบริจาค
เลือดกับสภากาชาดอย่างน้อย 24 ครั้ง คุณก็จะได้รับสิทธิประโยชน์นี้เหมือนที่รุ่นพี่เราได้รับไปแล้ว
นี่ถือเป็นโชค 2 ชั้นเลยนะ ได้บุญจากการบริจาคเลือดแล้ว ยังเหมือนได้ประกันแถมมาอีก
ถ้าใครมีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงดี ก็พยายามไปบริจาคเลือดไว้นะ แต่ขอย้ำว่า นับเฉพาะที่บริจาค
ไว้กับสภากาชาดเท่านั้นนะ



ข้อมูลเพิ่มเติมค่ะ ( จากด้านล่าง อย่าลืมเลื่อนลงไปอ่านด้วยนะ )
สิทธิพิเศษสำหรับผู้บริจาคโลหิตค่ะ
1. ผู้บริจาคโลหิต ตั้งแต่ 7 ครั้งขึ้นไป สามารถขอใช้สิทธิ์ ช่วยเหลือค่าห้องพิเศษและค่าอาหารพิเศษได้ ไม่เกินร้อยละ 50
2. ผู้บริจาคโลหิต ตั้งแต่ 16 ครั้งขึ้นไป สามารถขอใช้สิทธิ์ ช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาล + ค่าห้องพิเศษและค่าอหาร ได้ร้อยละ 50
3. ผู้บริจาคโลหิต ตั้งแต่ 24 ครั้งขึ้นไป สามารถขอใช้สิทธิ์ ช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาล 100% + ค่าห้องพิเศษและค่าอาหาร ได้ร้อยละ 50
4. ผู้บริจาคโลหิต ตั้งแต่ 100 ครั้งขึ้นไป สามารถขอใช้สิทธิ์ " ขอพระราชทานเพลิงศพ " ได้เป็นกรณีพิเศษ ** เฉพาะผู้บริจาคโลหิตเท่านั้น ไม่สามารถโอนสิทธิ์ให้ผู้อื่นได้ **5 ผู้บริจาคโลหิต ตั้งแต่ 9 ครั้งขึ้นไป สามารถขอใช้สิทธิ์ ตรวจวิเคราะห์สารเคมีในโลหิตได้ เช่น ตรวตจหาน้ำตาล , ไขมัน , การทำงานของตับ , การทำงานของไต ฯลฯ
โดยผู้บริจาคโลหิตสามารถใช้สิทธิ์ได้ ปีละ 1 ครั้ง
เพื่อนๆ พี่ๆ คนใด ที่น้ำหนักตัวเกิน 45 ก.ก . ไม่มีโรคประจำตัว ไม่ต้องทานาเป็นประจำ ไม่มีพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศ
อยากจะชวนไปช่วยกันบริจาคเลือดทุกๆ 3 เดือนเป็นประจำนะคะ เพราะคนไทยส่วนใหญ่ มักจะไปบริจาคกันปีละ 2 ครั้งเท่านั้น ซึ่งก็คือ " วันเฉลิมฯ "
ทำให้ช่วงวันเฉลิมจะมีเหลือเข้าสภากาชาด เยอะจนล้น แต่ในขณะที่ไม่ใกล้กับวันเฉลิมฯ จะมีปัญหาเรื่องเลือดหมดคลัง
จึงอยากจะชวนเพื่อนๆ พี่ๆ ไปบริจาคเลือดกันนะคะ
เพราะนอกจาก เราจะได้ทำบุญ ช่วยชีวิตเพื่อนมนุษย์แล้ว เรายังเป็นการตรวจสุขภาพตัวเราเอง ไปในตัวด้วยนะคะ
เพราะถ้าหากสุขภาพเราไม่ดี ทางสภากาชาด เค้าก้อไม่รับบริจาคโลหิตจากเรานะคะ
ไว้สัปดาห์นี้ จะไปบริจาคเลือด แล้วจะส่งภาพถ่ายมาให้ดูใหม่นะคะ
อย่าลืม ** บริจาคเลือดทุก 3 เดือนนะค๊า **
อย่าลืม ** อ่าน FW เมล์ด้านล่างด้วยนะ ** * v *

//////////////////////////////////////////////

ตอนสมัยเรียนผมก็ไปบริจาคอยู่เนืองๆ เพราะบนพระพรหมไว้ว่าถ้าเอนต์ติดจะบริจาคเลือด 12 ครั้ง
จำไม่ได้ว่า บริจาคครบไปยัง แต่หลายปีมานี้ไม่ได้ไปบริจาคเลย
อ่านกระทู้นี้ของ mooja แล้วจุดประกายเลย

ผมชอบมองเวลาเข็มใหญ่ๆเจาะลงไปในเนื้อเรา รู้สึกว่ามันท้าทายความกลัวในจิตใจเราดี
กับเวลาบริจาคเสร็จเห็นเลือดเราเป็นถุงๆ มันสะใจ...
" Remember happiness doesn't depend upon who you are or what you have; it depends solely on what you think. "
- Dale Carnegie
(This post was last modified: 27-10-2009, 14:24 by Maew.)
27-10-2009, 14:23
Find Like Post Reply
napman Offline
VIP member
******

Posts: 2,118
Likes Given: 91
Likes Received: 58 in 41 posts
Joined: 27 Apr 2009
Reputation: 45
#18
RE: ชวนกันทำบุญค่ะ
I thank you Maew and Meaw in behalf of Mooja,

Your info. is very helpful and powerful that may be a lot of people didn't know before (and that includes me tooShy)

I have no doubt it will change somebody's minds about this good deed especially Lek and Labour.Big Grin

And I also did this too "ผมชอบมองเวลาเข็มใหญ่ๆเจาะลงไปในเนื้อเรา รู้สึกว่ามันท้าทายความกลัวในจิตใจเราดี"

I'll be seeing you, Meaw and Pepe in 4 weeks.Wink
[A friendship needs a little mulch of contacts every so often-just to save it from drying out completely.

I always have great pleasure being alone by myself to play, If you're playing for any other reason, it won't last.
http://youtu.be/_tkGVGOKQ8c
27-10-2009, 20:23
Website Find Like Post Reply
Mooja Offline
Member
***

Posts: 200
Likes Given: 0
Likes Received: 0 in 0 posts
Joined: 05 Oct 2009
Reputation: 18
#19
RE: ชวนกันทำบุญค่ะ
วันนี้มาอัพเดต เกี่ยวกับการบริจาค stem cell
จากโครงการตามหาคนพิเศษของสภากาชาดไทย
ามารถบริจาคได้ทั้งชายหญิงค่ะ

เซลล์ต้านกำเนิดเม็ดโลหิต หรือสเต็มเซลล์ (stem cell)
คือเซลล์ตัวอ่อนที่จะโตขึ้นไปเป็นเม็ดเลือดแดง เม็ดเลือดขาว และเกร็ดเลือด
ใช่แล้วค่ะ อ่านไม่ผิดกันหรอก สเต็มเซลล์สามารถโตขึ้นไปเป็นเม็ดเลือดหลากหลายชนิดได้ค่ะ

สเต็มเซลล์สามารถให้กำเนิดตัวเองได้ตลอดเวลา
คุณสมบัติดังกล่าวนี้ทำให้สเต็มเซลล์ไม่มีวันหมดไปจากร่างกายเราได้
และทำให้เราสามารถบริจาคให้ผู้ป่วยได้ โดยที่ร่างกายสามารถสร้างเซลล์ต้นกำเนิดหรือสเต็มเซลล์ทดแทนจากการบริจาคได้อย่างรวดเร็วนะจ๊ะ

ถึงแม้ว่าจากสถิติในปีที่แล้วคือปี 2551 จะมีผู้มาบริจาคสเต็มเซลล์ถึง 22,550 คน
หรือจากปี 2545-2551 มีผู้บริจาคสเต็มเซลล์ 45,000 คน
แต่ก็มีผู้ที่สามารถบริจาคได้จริงถึงผู้ป่วยเพียงแค่ 60 คนเท่านั้น
ทำให้ตอนนี้มีผู้ป่วยที่เป็นมะเร็ง และผู้ที่เป็นโรคทางเลือดหรืออวัยวะที่สร้างโลหิต
ต้องรอเพื่อที่จะพบคู่แท้ หรือสเต็มเซลล์ที่สามารถเข้ากันได้ดีกับเซลล์ของผู้ป่วย
อยู่เป็นจำนวนมากกว่าพันราย


ฉะนั้น....อย่างนิ่งนอนใจ
อย่านิ่งเฉยนะคะ ช่วยๆกัน

พี่ๆน้าๆที่ต้องการบริจาคเพียงแค่
1.อายุ 18-50 ปี
2.น้ำหนัก 40 กิโลกรัมขึ้นไป
3.สุขภาพร่างกายแข็งแรง
4.ไม่มีโรคติดต่อ ไม่มีโรคประจำตัว ไม่มีพฤติกรรมเสี่ยงเช่น สำส่อนทางเพศ

การลงทะเบียนเพื่อขอเป็นผู้บริจาค
1.ถ้าเป็นผู้ที่บริจาคโลหิตอยู่แล้ว
ก็แจ้งความจำนง ลงทะเบียนและบริจาคโลหิตตามปกติค่ะ
-ตรวจวัดความดัน ความเข้มของโลหิต และรับหมายเลยถุงบรรจุโลหิตที่เค้าน์เตอร์ลงทะเบียน(ในขั้นตอนที่3) และก็ย้ำกับเจ้าหน้าที่อีกครั้งนะคะ ว่าจะขอลงทะเบียนเป็นอาสาสมัคร
บริจาคสเต็มเซลล์
-กรอกรายละเอียดแจ้งความจำนงขอบริจาคสเต็มเซลล์ ก่อนไปบริจาคโลหิตที่ชั้นสอง

2.สำหรับผู้ที่ยังไม่เคยบริจาคโลหิต
ก็แจ้งความจำนง ลงทะเบียนเป็นอาสาสมัครบริจาคสเต็มเซลล์ที่เค้าน์เตอร์ประชาสัมพันธ์
ก่อนไปเก็บตัวอย่างโลหิตค่ะ

หลังจากทีเราลงทะเบียนเป็นอาสาสมัครบริจาคสเต็มเซลล์แล้ว
เจ้าหน้าที่จะเก็บตัวอย่างเลือดไว้ประมาณ 20 ml.
และก็นำไปตรวจลักษณะเนื้อเยื่อ และเก็บเป็นฐานข้อมูลไว้
หลังจากนั้นถ้าเรามีลักษณะเนื้อเยื่อ HLA ตรงกับผู้ป่วยเมื่อไหร่
ทางศูนย์ก็จะติดต่อเชิญอาสาสมัครมาบริจาคภายหลังค่ะ

ตอนนี้มาถึงขั้นตอนการเก็บเซลล์ต้นกำเนิดมีอยู่ 2 วิธีนะคะ
1.บริจาคทางหลอดเลือดดำ
ต้องใช้เครื่องมือพิเศษในการเก็บสเต็มเซล์ค่ะ
เพราะว่าในกระแสเลือดของเรามีสเต็มเซลล์อยู่น้อยมาก
ดั้งนั้น เราต้องโดนคุณหมอฉีดยา G-CSF เป็นเวลา 4 วัน
เพื่อกระตุ้นให้สเต็มเซลล์กระจายในกระแสเลือดมากพอ
จึงจะมีการเก็บสเต็มเซลล์ค่ะ
วิธีนี้จะคล้ายกับการบริจาคเกล็ดเลือด หรือ น้ำเหลืองค่ะ(Plasma)
โดยที่หมอจะแทงเข็มเข้าที่ข้อพับแขน ให้เลือดเราเข้าไปในเครื่อง
Automatic Blood Cell Separator ค่ะ
เจ้าเครื่องนี้จะทำการแยกและเก็บเฉพาะสเต็มเซลล์เท่านั้นค่ะ
จะใช้เวลาในการเก็บสเต็มเซลล์ต่อครั้งประมาณ3ชั่วโมง
และอาจต้องมาเก็บประมาณ 2-3 วัน ขึ้นอยู่กับน้ำหนักผู้ป่วยค่ะ

2.บริจาคทางไขกระดูก
ขั้นตอนนี้จะใช้เข็มเจาะบริเวณสะโพกด้านหลังค่ะ
( นึกถึงการบล็อคหลังได้เลยค่ะ คือๆๆกัน)
กระบวนการนี้ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงค่ะ
แต่ในขั้นตอนี้ผู้บริจาคต้องนอนพักที่โรงพยาบาลหนึ่งคืนค่ะ
และควรพักฟื้นร่างกายประมาณ 5-7 วันค่ะ
..................................................................
มาเรามาช่วยกัน

ทำไมบ้านฟ้า ไม่ยกขบวนผู้กล้าไปบริจาคกันล่ะคะ
น่าจะดีน้าาาา.........
Sleepless Zone
I Love Mom & Dad
28-10-2009, 00:10
Find Like Post Reply
Mooja Offline
Member
***

Posts: 200
Likes Given: 0
Likes Received: 0 in 0 posts
Joined: 05 Oct 2009
Reputation: 18
#20
RE: ชวนกันทำบุญค่ะ
(27-10-2009, 14:23)Maew Wrote: ปกติแล้วผมจะไม่ส่ง fw เมล์ให้ใคร แต่เห็นว่าfwเมล์ฉบับที่เพิ่งได้รับมาไม่นานนี้เกี่ยวข้องกับกระทู้ดี และน่าจะเป็นกำลังใจให้กับคนที่อยากจะทำบุญทำกุศลได้บ้าง

/////////////////////////////////////////////////

Subject: FW: ผลมาจากการบริจาคโลหิตโดยแท้ !!!


คือเรื่องจริง ที่เกิดขึ้นจริง ๆ เป็นผลมาจากการบริจาคโลหิตโดยแท้ !!!
รุ่นพี่ของเราคนหนึ่ง อายุประมาณ 35 ปี ทำงานอยู่ที่ ทีพีไอ สำนักงานใหญ่ ซึ่งบริษัทมีสวัสดิการให้
พนักงานตรวจสุขภาพประจำปีทุกปี ผลการตรวจล่าสุดเมื่อปลายปีที่แล้ว ปรากฎว่าพี่เค้าเป็นโรคลิ้น
หัวใจรั่ว ซึ่งคุณหมอก็งงเหมือนกัน เพราะเกือบทั้งหมดของคนที่เป็นโรคนี้ มักเป็นมาแต่กำเนิด
หลังทราบผล พี่เค้าก็ไปปรึกษาคุณหมอ สรุปว่า ทางเดียวที่จะรอดได้ก็ต้องผ่าตัด เพื่อดูว่าสามารถ
ซ่อมลิ้นหัวใจได้หรือไม่ ถ้าไม่ได้ก็ต้องเปลี่ยนใหม่ หลังจากปรึกษาที่รพ.เซ็นหลุยส์ ค่าใช้จ่ายในการ
ผ่าตัดประมาณ 3 ?4 แสนบาท จึงลองไปปรึกษาที่รพ.จุฬาฯ ค่าใช้จ่ายอยู่ที่ประมาณ 1 แสน
กว่า ๆ จึงตัดสินใจไปผ่าตัดที่รพ.จุฬา ฯ


แต่ก่อนหน้านี้ พี่เค้าบริจาคเลือดทุก ๆ 3 เดือนมาโดยตลอด รวมทั้งหมดที่บริจาคก็ 49 ครั้ง และ
พี่เค้าก็ได้รับคำแนะนำมาว่า ทางสภากาชาดจะช่วยเหลือในส่วนของค่าห้องในการพักรักษาตัวได้
จึงได้ไปขอจดหมายรับรองจากสภากาชาดไว้ ว่าได้บริจาคเลือดจำนวนครั้งเท่านี้จริง อย่างน้อย
ก็จะได้ช่วยลดค่าใช้จ่ายไปได้บ้าง


พี่เค้าเพิ่งได้รับการผ่าตัดเรียบร้อย เมื่อวันที่ 29 เม.ย. 48 นี้เอง วันที่ออกจากรพ. ก็ต้องไป
เคลียร์ค่าใช้จ่าย ซึ่งทั้งหมดเป็นเงิน 110,000 บาท แต่พี่เค้าต้องจ่ายจริง คือค่ายาเพียง
9,800 บาทเท่านั้น เพราะสรุปว่า สภากาชาดออกค่าใช้จ่ายทั้งหมดให้ เจ้าหน้าที่ของรพ.แจ้งว่า
ได้รับสิทธิ์เหมือนกับข้าราชการคนหนึ่ง ส่วนของค่ายาที่ต้องจ่ายเองนั้น เพราะเป็นยาบัญชีประเภทสอง
ซึ่งถึงจะเป็นข้าราชการก็ต้องจ่ายส่วนนี้เองเหมือนกัน เจ้าหน้าที่ยังแนะนำอีกว่า เพียงแค่คุณบริจาค
เลือดกับสภากาชาดอย่างน้อย 24 ครั้ง คุณก็จะได้รับสิทธิประโยชน์นี้เหมือนที่รุ่นพี่เราได้รับไปแล้ว
นี่ถือเป็นโชค 2 ชั้นเลยนะ ได้บุญจากการบริจาคเลือดแล้ว ยังเหมือนได้ประกันแถมมาอีก
ถ้าใครมีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงดี ก็พยายามไปบริจาคเลือดไว้นะ แต่ขอย้ำว่า นับเฉพาะที่บริจาค
ไว้กับสภากาชาดเท่านั้นนะ



ข้อมูลเพิ่มเติมค่ะ ( จากด้านล่าง อย่าลืมเลื่อนลงไปอ่านด้วยนะ )
สิทธิพิเศษสำหรับผู้บริจาคโลหิตค่ะ
1. ผู้บริจาคโลหิต ตั้งแต่ 7 ครั้งขึ้นไป สามารถขอใช้สิทธิ์ ช่วยเหลือค่าห้องพิเศษและค่าอาหารพิเศษได้ ไม่เกินร้อยละ 50
2. ผู้บริจาคโลหิต ตั้งแต่ 16 ครั้งขึ้นไป สามารถขอใช้สิทธิ์ ช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาล + ค่าห้องพิเศษและค่าอหาร ได้ร้อยละ 50
3. ผู้บริจาคโลหิต ตั้งแต่ 24 ครั้งขึ้นไป สามารถขอใช้สิทธิ์ ช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาล 100% + ค่าห้องพิเศษและค่าอาหาร ได้ร้อยละ 50
4. ผู้บริจาคโลหิต ตั้งแต่ 100 ครั้งขึ้นไป สามารถขอใช้สิทธิ์ " ขอพระราชทานเพลิงศพ " ได้เป็นกรณีพิเศษ ** เฉพาะผู้บริจาคโลหิตเท่านั้น ไม่สามารถโอนสิทธิ์ให้ผู้อื่นได้ **5 ผู้บริจาคโลหิต ตั้งแต่ 9 ครั้งขึ้นไป สามารถขอใช้สิทธิ์ ตรวจวิเคราะห์สารเคมีในโลหิตได้ เช่น ตรวตจหาน้ำตาล , ไขมัน , การทำงานของตับ , การทำงานของไต ฯลฯ
โดยผู้บริจาคโลหิตสามารถใช้สิทธิ์ได้ ปีละ 1 ครั้ง
เพื่อนๆ พี่ๆ คนใด ที่น้ำหนักตัวเกิน 45 ก.ก . ไม่มีโรคประจำตัว ไม่ต้องทานาเป็นประจำ ไม่มีพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศ
อยากจะชวนไปช่วยกันบริจาคเลือดทุกๆ 3 เดือนเป็นประจำนะคะ เพราะคนไทยส่วนใหญ่ มักจะไปบริจาคกันปีละ 2 ครั้งเท่านั้น ซึ่งก็คือ " วันเฉลิมฯ "
ทำให้ช่วงวันเฉลิมจะมีเหลือเข้าสภากาชาด เยอะจนล้น แต่ในขณะที่ไม่ใกล้กับวันเฉลิมฯ จะมีปัญหาเรื่องเลือดหมดคลัง
จึงอยากจะชวนเพื่อนๆ พี่ๆ ไปบริจาคเลือดกันนะคะ
เพราะนอกจาก เราจะได้ทำบุญ ช่วยชีวิตเพื่อนมนุษย์แล้ว เรายังเป็นการตรวจสุขภาพตัวเราเอง ไปในตัวด้วยนะคะ
เพราะถ้าหากสุขภาพเราไม่ดี ทางสภากาชาด เค้าก้อไม่รับบริจาคโลหิตจากเรานะคะ
ไว้สัปดาห์นี้ จะไปบริจาคเลือด แล้วจะส่งภาพถ่ายมาให้ดูใหม่นะคะ
อย่าลืม ** บริจาคเลือดทุก 3 เดือนนะค๊า **
อย่าลืม ** อ่าน FW เมล์ด้านล่างด้วยนะ ** * v *

//////////////////////////////////////////////

ตอนสมัยเรียนผมก็ไปบริจาคอยู่เนืองๆ เพราะบนพระพรหมไว้ว่าถ้าเอนต์ติดจะบริจาคเลือด 12 ครั้ง
จำไม่ได้ว่า บริจาคครบไปยัง แต่หลายปีมานี้ไม่ได้ไปบริจาคเลย
อ่านกระทู้นี้ของ mooja แล้วจุดประกายเลย

ผมชอบมองเวลาเข็มใหญ่ๆเจาะลงไปในเนื้อเรา รู้สึกว่ามันท้าทายความกลัวในจิตใจเราดี
กับเวลาบริจาคเสร็จเห็นเลือดเราเป็นถุงๆ มันสะใจ...

ขอบคุณมากๆค่ะพี่
สำหรับการแบ่งปันดีๆนะคะ
Sleepless Zone
I Love Mom & Dad
28-10-2009, 02:30
Find Like Post Reply


Forum Jump:


Users browsing this thread: 3 Guest(s)

Contact Us | NimitGuitar | Return to Top | | Lite (Archive) Mode | RSS Syndication