ขอบคุณมากครับน้า katayott สำหรับแง่คิดๆ ดีๆ
หวังว่า lot หลังนี้จะ ok ขึ้นแล้วจริงๆนะครับ
ส่วนตัวแล้วชอบเสียง seagull จริงๆ ถ้าไม่มีปัญหาเรื่องกาว ผมคิดว่าเป็นกีตาร์ยี่ห้อนึงที่น่าเล่นเลย วงเล็บว่าสำหรับคนที่รับได้กับหัวปลาช่อน และคอกว้างนะคร้าบบบ
(02-03-2011, 23:28)pongmaiauan Wrote: [ -> ]ขอบคุณมากครับน้า katayott สำหรับแง่คิดๆ ดีๆ
หวังว่า lot หลังนี้จะ ok ขึ้นแล้วจริงๆนะครับ
ส่วนตัวแล้วชอบเสียง seagull จริงๆ ถ้าไม่มีปัญหาเรื่องกาว ผมคิดว่าเป็นกีตาร์ยี่ห้อนึงที่น่าเล่นเลย วงเล็บว่าสำหรับคนที่รับได้กับหัวปลาช่อน และคอกว้างนะคร้าบบบ
ถ้าชอบเสียงก็ซื้อเลยครับ เวลาเล่นก็ไม่เห็นหัวกีตาร์อยู่แล้วครับ
เลือกรุ่นที่คอ slim (1.72") ก็ถือว่ายังโอเคนะครับ ไม่ได้กว้างเกินไป
เรื่องไม่เหมาะกับอากาศบ้านเรา มันก็ไม่เชิงครับเพียงแต่บ้านเรานั้นโดยปกติความชื้นสัมพัทธ์จะสูงกว่าที่กีตาร์นั้นถูกผลิตมาซึ่งอยู่ที่ประมาณ 40-50%
ดังนั้นพอมาเมืองไทยกีตาร์มันก็อาจจะปรับตัวตามสภาพอากาศได้ครับ เช่น action มีโอกาสสูงขึ้นได้ ซึ่งก็ไม่เจาะจงเฉพาะ Seagull ครับ
ยี่ห้ออื่นๆก็มีโอกาสเป็นได้ครับ ดังนั้นการเซ็ตอัพหลังจากได้กีตาร์มาบางครั้งก็จำเป็นครับ
เรื่องกาวผมเห็นด้วยกับน้าหนุ่มครับว่าคงไม่ใช่ปัญหา เพราะเท่าที่ทราบกีตาร์โรงงานส่วนใหญ่ก็ใช้กาวประเภทเดียวกันครับ
คือเป็นกาวเคมีพวก Polyvinyl acetate (PVA หรือ White glue) หรือพวก Aliphatic resin (Yellow glue) ครับ
ซึ่งกาวเคมีเหล่านี้เท่าที่ทราบจะทนความชื้นได้ครับ ถ้าเป็นปัญหาจริงก็คงจะไม่ใช่ Seagull อย่างเดียวแล้วครับ ยี่ห้ออื่นๆก็น่าจะเป็นด้วยครับ
ขอบคุณมากครับน้า gman ตัวผมเองคิดแล้วประมาณ 5 ตลบ สงสัยคงไม่รอดต้องถอย seagull แน่ๆเลย ยิ่งฟังเสียงยิ่งหลอนนน
ผมขอแนะนำเพิ่มนะครับ อาจจะมาช้าไปซักนิด ผมใช้ Seagull Aniversary 20th เปลี่ยน pickup Fishman Prefix plus-t ใช้มาประมาณ 5 ปีแล้วครับ หากเปรียบกีตาร์ทุกตัวที่มี ตัวนี้เหมือนเป็นเพื่อนสนิทนะครับ เพราะว่าใช้งานกันบ่อย ไปไหนมาไหนกันบ่อย ออกงานกันบ่อย มีปัญหากันบ่อยเหลือเกิน ก็รู้ใจกันหมดแล้วนะครับถ้าพูดง่ายๆ ผมเคยนำไปเล่นที่เมืองหนาวอุณหภูมิติดลบอยู่เกือบสี่เดือน แล้วก็นำกลับมาเล่นที่เมืองไทยอยู่ปีกว่าไม่มีปัญหาอะไรใดๆเลยครับ เล่นได้ปกติทั่วๆไปเล่นกีทีก็เหมือนเดิมไม่รู้สึกว่าอยู่เมืองหนาวแล้วเสียงจะเปลี่ยน อยู่เมืองร้อนแล้วเสียงจะเป็นอย่างไร ผมว่าอยู่ที่นิ้วในการบรรเลงเพลงของเรามากกว่าครับว่าจะถ่ายทอดเสียงตัวโน๊ตนั้นๆออกมาอย่างไร ปัญหาที่พบก็มีแค่นำไปเล่นที่เมืองหนาวแล้วมือเรามันแข็งจนเล่นไม่ออก สายกีตาร์มันเย็นจัด และผมขอชม case Fort ที่มากับกีตาร์ครับ ผมเคยloadลงใต้เครื่อง(overload)แล้วทางเจ้าหน้าที่ของสายการบินไม่ได้ดูแลมันเป็นอย่างดี ทำให้กล่องช่วงลำคอเกิดอาการคดงอ พอผมเห็นกล่องตอนลงออกจากเครื่องน้ำตาคลอเบ้าเลยครับนึกว่ากีตาร์ของผมไปแล้วครับ จากนั้นผมก็เปิดมันออกมาทันทีในสภาพที่กล่องคดๆงอๆ ตรวจเช็คดูกีตาร์ว่าคองั้นงอตามไปหรือป่าว กลับกลายเป็นว่าไม่มีปัญหาอะไรใดๆกับตัวกีตาร์เลยซักนิดครับ ผมเลยเดินถือกีตาร์พร้อมกล่องออกจาก airport ทั้งๆที่สภาพมันเบี้ยวๆงอๆอย่างนั้นแหละครับ (การงอของกล่อง 10 องศาโดยประมาณ) ขอขมว่าของเค้าดีจริงๆครับ ปัญหาอีกอย่างที่เกิดกับผมโดยตรงก็คือลูกบิดครับ ใช้ไปซักพัก(สามปีกว่าๆ)มันจะแตกครับเพราะไม่แน่ใจว่ามันเป็นพลาสติกหรือเปล่า ทางร้านตัวแทนจำหน่ายไม่มีอะหลั่ยให้เปลี่ยน ผมจึงเปลี่ยนใช้แบบอื่นแทนครับ แข็งแรงและทนทานกว่า โดยมิได้คำนึงถึง Design เลยแม้แต่น้อย
สรุปคือผมชอบนะครับแม้ว่ารุ่นที่ผมใช้เสียงกลาง+หนา มันจะมากล้นอยู่ก็ตาม จนบางครั้งเวลาดีดคอร์ดจะให้เสียงที่แข็งๆ บ้าง แต่ก็เป็นเสียงที่มีความเป็นตัวตนสูงอยู่เหมือนกัน คงทิ้งกันไม่ลงแล้วแหละครับ กับเจ้า Seagull Aniversary 20th ตัวนี้ สวัสดีครับ
อ่านแล้วเห็นภาพครับ ขอบคุณครับ
ยืนยันอีกเสียงข้ามปีสำหรับ A&L และ Norman เครือเดียวกันที่มีอยู่ว่า ไม่มีปัญหาสำหรับเรื่องกาวหรืออากาศ คอใหญ่จับง่ายดีครับชอบ เลยพาลจับตัวอื่นๆเล็กไม่เข้ามือไปเลย ไม่รู้ว่าดีหรือไม่ดีที่ดันชินกับคอแคนาดาซะก่อน