24-01-2011, 03:11
Pages: 1 2
24-01-2011, 06:59
เท่าที่เคยสัมผัสมา สำหรับรุ่นธรรมดา (เพราะไม่เคยได้ลองเล่นในรุ่นสูงๆ) takamine จะให้เสียงหวาน แต่เสียงจะบางหน่อย ส่วน taylor จะเสียงอ้วนหนาเบสเยอะกว่า "ในราคาใกล้เคียงกันควรจะเลือกแบบไหน" ถ้าเป็นผมจะมีไว้ทั้ง 2 ตัว เพราะเสียงมันไม่เหมือนกัน
24-01-2011, 09:39
(24-01-2011, 03:11)birdz Wrote: [ -> ]เหมาะกับการเล่น แบบไหน ! ถ้ารุ่นกีตาร์ราคา ใก้ลเคียงกัน ควรจะเลือกตัวไหนดีครับ ขอบคุณมากคับ
TAYLOR กะ Takamine เหมาะกับการเล่น แบบไหน !
ไม่อยากให้จำกัดความแบบนั้นครับ
โดยเฉพาะ 2 ยี่ห้อนี้
เนื่องจาก ทั้งคู่ มีรุ่น ที่หลากหลายมาก เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาด..
ถ้าพูดกันถึงแค่เฉพาะยี่ห้อ..
แล้วพิจารณารุ่นราคา ใกล้เคียงกัน
Takamine น่าจะมีโอกาสได้ Spec ที่ดูมีราคาค่างวดกว่า.
แต่ถ้าเวลาขายต่อล่ะ... ณ เวลานี้ Takamine น่าจะเจ็บตัวมากกว่า
โอ้ย เลือกยาก..
งั้น....ซื้อ ยี่ห้อและ รุ่น ที่มีกล่องแถมมาให้ด้วยแล้วกัน !!!
24-01-2011, 11:25
เลือกระหว่าง Takamine กับ Taylor นี่ง่ายมากครับ
กีต้าร์ Takamine เป็นกีต้าร์ที่มือกีต้าร์อาชีพที่ต้องตระเวณเล่นไปทั่วประเทศหรือทั่วโลกนิยมใช้มากที่สุด ถ้าจะให้ลงรายชื่อศิลปินที่ใช้แต่ Takamine ทั้งหมดคงจะลงไม่ไหวเพราะมีเยอะเหลือเกินแต่เท่าที่นึกออกตอนนี้ก็มี
Ry Cooder, Jackson Browne, Bruce Springteen, The Eagles ทั้งวง , Hall & Oates, Jon Bon Jovi, เป็นต้น
ถ้าดูรายชื่อข้างบนจะเห็นใด้เลยว่าศิลปินเหล่านี้ไม่ใด้มีชื่อเสียงมาจากการเล่นกีต้าร์โปร่งแม้แต่คนเดียวแต่โตมากับกีต้าร์ไฟฟ้าทั้งสิ้น เหตุผลที่เขาเลือกใช้แต่ Takamine ก็มีดังนี้ครับ
1. คอเล่นง่าย...สำหรับคนที่โตมากับ Strat, Tele หรือ Les Paul นี่พอมาเจอความหนาและความกว้างของคอกีต้าร์โปร่งอเมริกันมันเล่นไม่ถนัดหรอกครับ ส่วนทาคายุคแรกๆนั้นคอบางและแคบพอๆกับกีต้าร์ไฟฟ้าทำให้เล่นใด้เข้ามือกว่า
2. ความทนและความเสถียร...Takamine ที่ศิลปินใช้กันนี่ไม่มีรุ่นที่เป็น all solid เลยนะครับ เหตุผลที่ Takamine เขาไม่ทำ all solid นอกจากในรุ่น Natural Series ก็เพราะไม้ laminate มันยืดหดตัวน้อยกว่าและสามรถทนความชื้นและการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิใด้ดีกว่าพวกกีต้าร์ all solid ทั้งหลาย กีต้าร์ยี่ห้อนี้ทนทายาดและสายไม่ค่อยเพี้ยนเวลาต้องเอาไปเล่นในคอนเสริตครับ กล่อง hard case แทบไม่จำเป็นต้องใช้ด้วยซ้ำถ้าไม่ใด้เดินทางไกล
นี่คือเหตุผลที่นครหลวงเขาไม่ขาย Takamine พร้อมกล่องแข็งครับเพราะเขาบอกว่ามันสะพายไม่สะดวกเวลาต้องขี่มอเตอไซด์ไปเล่นดนตรีครับ เขาไม่ใด้ขี่เหนียวหรอกครับ
3. ระบบปิ้คอัพและปรีแอมป์...Takamine ออกแบบ piezo pickup โลหะแยกเป็นหกชิ้นเมื่อสามสิบกว่าปีที่แล้วและก็ยังใช้อยู่จนถึงทุกวันนี้โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงเลย ส่วนระบบปรีนั้นก็นานๆเปลี่ยนทีตามความก้าวหน้าของภาคอีเล็คโทรนิค กีต้าร์ Takamine นั้นจะเอาไปเสียบกับ PA อะไรก็เสียงดีและปรับง่ายครับ ในยุคปัจจุบันมีปรีหลายรุ่นหลายยี่ห้อที่เสียงเป็นธรรมชาติกว่า Takamine มากมายแต่ถ้าคุณมีกีต้าร์ตัวเดียวที่ต้องหิ้วไปเล่นสดๆก็ยังไม่มีปรียี่ห้อไหนไว้ใจใด้เหมือนของ Takamine ครับ
ดังนั้นจึงสรุปใด้ว่า Takamine ไม่ใช่กีต้าร์ high end เหมือนพวก Taylor หรือ Martin ครับเพราะเขาทำมาให้คุณใช้เป็นเครื่องมือทำมาหากินไม่ใด้ทำมาให้คุณชื่นชมกับความละเมียดละไมของเสียงเวลานั่งเล่นอยู่ที่บ้านคนเดียว ถ้าเอาไปเปรียบเทียบกันก็เหมือนเอารถปิ้คอัพไปเปรียบเทียบกับรถเก๋งนั่นแหละ
Takamine เพิ่งเริ่มมาจับตลาด high end เมื่อห้าหกปีที่แล้วนี่เองและก็ทำใด้ดีทีเดียวแต่ก็ยังไม่มีทางจะไปสู้กับชื่อเสียงของ Taylor และ Martin ใด้หรอกครับแต่ถ้าคุณมีงบจำกัดและต้องการกีต้าร์ที่จะอยู่กับคุณใด้นานๆ Takamine ก็เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดทางหนึ่ง ไม่เขื่อลองฟังเสียงจริงของ Takamine เก่าๆผุๆจากการแสดงสดใด้เลยครับ
สรุปว่าถ้าผมต้องใช้กีต้าร์ในการแสดงสดผ่าน PA ผมเลือก Takamine แน่นอนครับแต่ถ้าซื้อมานั่งเล่นคนเดียวและงบไม่จำกัดผมคงเลือก Taylor มากกว่า
กีต้าร์ Takamine เป็นกีต้าร์ที่มือกีต้าร์อาชีพที่ต้องตระเวณเล่นไปทั่วประเทศหรือทั่วโลกนิยมใช้มากที่สุด ถ้าจะให้ลงรายชื่อศิลปินที่ใช้แต่ Takamine ทั้งหมดคงจะลงไม่ไหวเพราะมีเยอะเหลือเกินแต่เท่าที่นึกออกตอนนี้ก็มี
Ry Cooder, Jackson Browne, Bruce Springteen, The Eagles ทั้งวง , Hall & Oates, Jon Bon Jovi, เป็นต้น
ถ้าดูรายชื่อข้างบนจะเห็นใด้เลยว่าศิลปินเหล่านี้ไม่ใด้มีชื่อเสียงมาจากการเล่นกีต้าร์โปร่งแม้แต่คนเดียวแต่โตมากับกีต้าร์ไฟฟ้าทั้งสิ้น เหตุผลที่เขาเลือกใช้แต่ Takamine ก็มีดังนี้ครับ
1. คอเล่นง่าย...สำหรับคนที่โตมากับ Strat, Tele หรือ Les Paul นี่พอมาเจอความหนาและความกว้างของคอกีต้าร์โปร่งอเมริกันมันเล่นไม่ถนัดหรอกครับ ส่วนทาคายุคแรกๆนั้นคอบางและแคบพอๆกับกีต้าร์ไฟฟ้าทำให้เล่นใด้เข้ามือกว่า
2. ความทนและความเสถียร...Takamine ที่ศิลปินใช้กันนี่ไม่มีรุ่นที่เป็น all solid เลยนะครับ เหตุผลที่ Takamine เขาไม่ทำ all solid นอกจากในรุ่น Natural Series ก็เพราะไม้ laminate มันยืดหดตัวน้อยกว่าและสามรถทนความชื้นและการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิใด้ดีกว่าพวกกีต้าร์ all solid ทั้งหลาย กีต้าร์ยี่ห้อนี้ทนทายาดและสายไม่ค่อยเพี้ยนเวลาต้องเอาไปเล่นในคอนเสริตครับ กล่อง hard case แทบไม่จำเป็นต้องใช้ด้วยซ้ำถ้าไม่ใด้เดินทางไกล
นี่คือเหตุผลที่นครหลวงเขาไม่ขาย Takamine พร้อมกล่องแข็งครับเพราะเขาบอกว่ามันสะพายไม่สะดวกเวลาต้องขี่มอเตอไซด์ไปเล่นดนตรีครับ เขาไม่ใด้ขี่เหนียวหรอกครับ
3. ระบบปิ้คอัพและปรีแอมป์...Takamine ออกแบบ piezo pickup โลหะแยกเป็นหกชิ้นเมื่อสามสิบกว่าปีที่แล้วและก็ยังใช้อยู่จนถึงทุกวันนี้โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงเลย ส่วนระบบปรีนั้นก็นานๆเปลี่ยนทีตามความก้าวหน้าของภาคอีเล็คโทรนิค กีต้าร์ Takamine นั้นจะเอาไปเสียบกับ PA อะไรก็เสียงดีและปรับง่ายครับ ในยุคปัจจุบันมีปรีหลายรุ่นหลายยี่ห้อที่เสียงเป็นธรรมชาติกว่า Takamine มากมายแต่ถ้าคุณมีกีต้าร์ตัวเดียวที่ต้องหิ้วไปเล่นสดๆก็ยังไม่มีปรียี่ห้อไหนไว้ใจใด้เหมือนของ Takamine ครับ
ดังนั้นจึงสรุปใด้ว่า Takamine ไม่ใช่กีต้าร์ high end เหมือนพวก Taylor หรือ Martin ครับเพราะเขาทำมาให้คุณใช้เป็นเครื่องมือทำมาหากินไม่ใด้ทำมาให้คุณชื่นชมกับความละเมียดละไมของเสียงเวลานั่งเล่นอยู่ที่บ้านคนเดียว ถ้าเอาไปเปรียบเทียบกันก็เหมือนเอารถปิ้คอัพไปเปรียบเทียบกับรถเก๋งนั่นแหละ
Takamine เพิ่งเริ่มมาจับตลาด high end เมื่อห้าหกปีที่แล้วนี่เองและก็ทำใด้ดีทีเดียวแต่ก็ยังไม่มีทางจะไปสู้กับชื่อเสียงของ Taylor และ Martin ใด้หรอกครับแต่ถ้าคุณมีงบจำกัดและต้องการกีต้าร์ที่จะอยู่กับคุณใด้นานๆ Takamine ก็เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดทางหนึ่ง ไม่เขื่อลองฟังเสียงจริงของ Takamine เก่าๆผุๆจากการแสดงสดใด้เลยครับ
สรุปว่าถ้าผมต้องใช้กีต้าร์ในการแสดงสดผ่าน PA ผมเลือก Takamine แน่นอนครับแต่ถ้าซื้อมานั่งเล่นคนเดียวและงบไม่จำกัดผมคงเลือก Taylor มากกว่า
24-01-2011, 16:10
ยืนยันตามนั้นอีกเสียงครับ (แต่เรื่องไม่ให้ hardcase จากตัวแทน อันนี้มุขใช่ป่าวครับน้า pood )
24-01-2011, 16:13
ขอบคุณมากครับ
24-01-2011, 16:37
(24-01-2011, 09:39)SARUN Wrote: [ -> ]โอ้ย เลือกยาก..
งั้น....ซื้อ ยี่ห้อและ รุ่น ที่มีกล่องแถมมาให้ด้วยแล้วกัน !!!
ถ้าเป็นผมจะเลือก Taylor เพราะถ้า่เล่นเบื่อ..ก็ขายกีตาร์
แล้วแยกขาย Hardcase ได้เงินเพิ่มอีก
30-01-2011, 12:23
ขอบพระคุณพี่ pood ครับ กระจ่างเลยครับ
01-02-2011, 09:49
ถ้าไม่ติดว่าคอเล็กเกินจะปรับตัวเข้าหา คงเป็นกีตาร์Takamineคู่ชีพหากินผมแน่ๆครับ หรือว่ามีคอใหญ่กว่าในบางรุ่นแล้วผมไม่รู้กันเนี่ย
01-02-2011, 14:23
Takamine รุ่นที่ผลิตขายนอกญี่ปุ่นส่วนใหญ่จะปรับความกว้างของคอให้เท่ากับคอ Martin (1 11/16") มาตั้งแต่ปี 2004 แล้วครับ ถ้าเป็นรุ่น LTD นี่ไม่มีคอเล็กเลยซักปีเดียว ดูข้อมูลจาก Takamine forum ใด้ด้านล่างครับ
Takamine Nut Widths ...
Special Editions
EF75S OM 1 - 3/4 inch
45TH Anniversary Dreadnaught 1 - 3/4
Grand Ole Opry 80TH Dreadnaught 1 - 3/4
EF417S New Yorker 1 - 11/16
Classical Guitars
All Hirade models 2 inch
All Takamine models except TC135SC 2 inch
TC135SC 1 - 7/8
Annual LTD Guitars LTD 1987 thru 2003 1 - 11/16 inch
LTD 2004 thru 2006 1 - 3/4
LTD 2007 1 - 7/8
Keystone Series
EF340SC, 341SC, 350SC, 360SC Dreadnaughts 1 - 11/16 inch EF38iC, 400SC 12-strings 1 - 7/8
Santa Fe Series
ESF48C 1 - 11/16 inch
EF450, 444, 508KC NEX 1 - 11/16
EF261 FXC 1 - 11/16
EF241, 250 Jumbo 1 - 11/16
EF250, 281 Jumbo 12-strings 1 - 7/8
Nashville Series
EF430SS NEX 1 - 11/16 inch
EF340/360 SBG Bluegrass Dreadnaughts 1 - 3/4
TNV340SC, 360S Dreadnaught 1 - 3/4
TNV460SC NEX 1 - 3/4
TNV760SC OM 1 - 3/4
Natural Series
EAN10C, 20C, 40C, 70C 1 - 11/16 inch
EAN30C, 60C 1 - 7/8
EAN40C 12-string 1 - 7/8
Super Natural Series
TAN15, 16, 45, 55, 76 1 - 11/16 inch
TAN16 12-string 1 - 7/8
TAN77 OM 1 - 3/4
Takamine Nut Widths ...
Special Editions
EF75S OM 1 - 3/4 inch
45TH Anniversary Dreadnaught 1 - 3/4
Grand Ole Opry 80TH Dreadnaught 1 - 3/4
EF417S New Yorker 1 - 11/16
Classical Guitars
All Hirade models 2 inch
All Takamine models except TC135SC 2 inch
TC135SC 1 - 7/8
Annual LTD Guitars LTD 1987 thru 2003 1 - 11/16 inch
LTD 2004 thru 2006 1 - 3/4
LTD 2007 1 - 7/8
Keystone Series
EF340SC, 341SC, 350SC, 360SC Dreadnaughts 1 - 11/16 inch EF38iC, 400SC 12-strings 1 - 7/8
Santa Fe Series
ESF48C 1 - 11/16 inch
EF450, 444, 508KC NEX 1 - 11/16
EF261 FXC 1 - 11/16
EF241, 250 Jumbo 1 - 11/16
EF250, 281 Jumbo 12-strings 1 - 7/8
Nashville Series
EF430SS NEX 1 - 11/16 inch
EF340/360 SBG Bluegrass Dreadnaughts 1 - 3/4
TNV340SC, 360S Dreadnaught 1 - 3/4
TNV460SC NEX 1 - 3/4
TNV760SC OM 1 - 3/4
Natural Series
EAN10C, 20C, 40C, 70C 1 - 11/16 inch
EAN30C, 60C 1 - 7/8
EAN40C 12-string 1 - 7/8
Super Natural Series
TAN15, 16, 45, 55, 76 1 - 11/16 inch
TAN16 12-string 1 - 7/8
TAN77 OM 1 - 3/4
Pages: 1 2