NimitGuitar webboard

1991 Gretsch Rancher Cutaway 6022C

Gretsch นั้นมีชื่อเสียงในด้านกีต้าร์ไฟฟ้า ส่วนกีต้าร์โปร่งนั้นมีดังอยู่รุ่นเดียวคือรุ่นนี้ครับ Rancher ออกวางตลาดในปี 1954 สเป็คเดิมๆนั้นเป็น laminate ทั้งตัวแถมยังใช้ ladder bracing เสียงมันเลยไม่เหมือนเสียงกีต้าร์โปร่งที่เราคุ้นเคยกันแม้แต่น้อย (ผมเดาจากเสียงของ Gibson J-160E 1964 ที่ผมมีอยู่) ต่อมาในปี 1991 Gretsch เลยเปลี่ยนสเป็คเป็น solid spruce top และใช้ X-bracing เหมือนกับ Gibson เปลี่ยนสเป็ครุ่น J-160E ในยุคนั้น กีต้าร์รุ่นนี้ยังผลิตอยู่ครับ





มันเป็นกีต้าร์โปร่งที่ตัวใหญ่มาก (ใหญ่กว่า Gibson J-200 1/2") สีก็เป็นสียอดนิยมของ Gretsch ครับ





Solid spruce top, maple back and side





ลำตัวหนา 3 1/2 - 4 1/2"





Fishman preamp รุ่นแรกๆ เสียงดีครับ





Compensated saddle





อินเลย์สไตล์คาวบอยน่าเอาไปเล่นเพลงเพื่อชีวิต





ตัวนี้เป็นปีแรกของรุ่นนี้คือปี 1991





Pickguard เลื่อนมาด้านหลังเล็กน้อย ผมไม่ใด้ถอดมาติดใหม่ครับ



Character เสียงที่เป็นเอกลักษณ์ของ Rancher คือเสียงที่เขาเรียกว่า "chimey" หรือกังวาลใสเหมือนเสียงระฆัง ฟังเสียงใด้ในคลิปด้านล่างตรับและดูใด้ว่าตัวมันใหญ่แค่ไหนเมื่อผู้หญิงตัวเล็กๆคว้าไปเล่น



ขายแล้วครับ


2002 Breedlove Custom SC20 MH "A2"

Breedlove "S" series เป็นรุ่น custom order ที่ลูกค้าสามารถจะสั่งให้ทำเป็นไม้อะไรก็ใด้ เริ่มผลิตปี 1995 ราคานั้นก็แตกต่างกันไปตามสเป็คไม้อย่างเช่นตัวอย่างข้างล่างครับ





ตัวนี้ไม้หน้าเป็น adirondack spruce ไม้หลังและข้างเป็น homduras mahogany
ซึ่งเดี๋ยวนี้หายากเนื่องจากโดนขึ้นบัญชีห้ามซื้อขายโดย CITES ตอนนี้พวกกีต้าร์ที่เคยใช้ mahogany เลยหันมาใช้ sapele แทนรวมทั้ง Martin ด้วยแต่ผู้ผลิตส่วนใหญ่จะเรียกว่า "African Mahogany" ทั้งๆที่มันไม่ใช่ไม้ตระกูลเดียวกัน





รุ่นนี้เป็นทรง grand concert ที่ตัวค่อนข้างใหญ่ lower bout 15 3/4" ครับ










Deep body หนา 4 9/16" ตัวนี้ใช้ปรีแอมป์ Fishman Ellipse VT ติดตั้งโดยช่างมดครับ















ตัวนี้มีตำหนิอยู่รอยเดียวขนาดเท่าหัวไม้ขีดไฟตามรูปครับ



Breedlove USA นอกจากมีเสียงเป็นเอกลักษณ์แล้วยังเล่นง่ายสุดๆเพราะสายนุ่มมากซึ่งน่าจะเป็นผลจากระบบ JLD bridge system



ขออธิบายเรื่องการตั้งราคาขายหน่อยครับ

กีต้าร์ที่ผมซื้อจากอเมริกาผมไม่ซื้อในราคาที่สูงกว่าราคา Blue Book ครับ อย่างรุ่นนี้ราคามือสองใน Blue Book อยู่ที่ 1800 USD แต่ผมซื้อใด้ในราคา 1525 USD + 50 USD (ค่าส่ง) เมื่อรวมค่าส่งมาเมืองไทยและค่าปรีแอมป์แล้วก็ตกอยู่ประมาณ 66000 บาทครับเพราะตอนที่ซื้อ 1 USD = 34 บาท

ผมเคยลงขายตัวนี้เมื่อสองปีที่แล้วในราคา 64000 บาทเฉพาะในวันเปิดบ้านแต่ไม่มีใครซื้อ เมื่อเอามาลงขายตอนนี้ซึ่ง US dollars ตกลงมาเหลือแค่ 30 บาทผมเลยลดราคาขายลงมาตามค่าเงินเพื่อความยุติธรรม

ขายแล้วครับ

ขอบคุณครับน้า poodครับ งั้นผมขอเชียร์ fender custom shop re 54 ด้วยความยินดีครับ เพราะมันจัดว่าเป็นกีต้าร์ชั้นยอด ทั้งคุณภาพ ความงาม และ ความเป็นเอกลักษณ์ของเสียง ซึ่งถือว่าเป็นวาสนาที่ดีของผมที่มีโอกาสได้ลอง สัมผัสในวันนั้นครับ และ ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะหา กีต้าร์ชั้นดีแบบนี้ได้ตามท้องตลาดทั่วๆไปนะครับ เพราะเรื่องเสียงของตัวนี้จัดว่า มีความโดดเด่นเป็นแถวหน้าๆของ fender custom shop เลยก็ว่าได้

หวัดดีครับพี่กฤษ ไม่ทราบว่า L6 ตัวที่เพิ่มเติมในหน้า 8 เป็น All solid ใช่มั้ยครับ

(06-12-2010, 16:03)kong_kuiii Wrote: [ -> ]หวัดดีครับพี่กฤษ ไม่ทราบว่า L6 ตัวที่เพิ่มเติมในหน้า 8 เป็น All solid ใช่มั้ยครับ

L6 ที่ลงเป็น series 2 ที่เป็นเพียง solid top ครับ ความจริงแล้ว L6 รุ่นนี้เสียงคล้ายกับ L8 series เดียวกันมาก ผมคิดว่าไม่มีใครฟังออกหรอกครับถ้าหลับตาฟังว่าเป็น L6 หรือ L8 มันเหมือนกันจนผมขาย L8 ไปแล้วสามตัวในปีนี้ ส่วน L8 series แรกที่เป็น all solid นั้นยังเก็บไว้หนึ่งตัวเพราะทุกคนที่ลองบอกว่าเสียงเพราะกว่า L10 ครับ

L6 series แรกผมยังไม่เคยใด้สัมผัสเลยครับ หามาสามปีแล้วยังไม่เจอตัวที่สภาพงามๆเลย

1993 Fender Custom Shop 1954 ไปเร็วมากๆ สวยสุดๆครับ

ผมคงจะจอง ยามาฮา สองตัวนะครับน้าพูดถ้าใด้จริงจริง ไม่มีแน่ที่เอาไปขายต่อครับไม่มีอะไรที่ผมจะขายกีต้าร์ในฝันใด้ครับ (ไม่เอาส่วนลดแล้วครับ เพราะเท่านี้น้าพูด ก็ขายถูกมากจริงจริง)จริงจริงแล้วผมอยากใด้กี่ต้าร์ที่ไม่เหมือนใครครับ จึงเลือก L12-5 อะไรที่เก่านะครับ ( เคยมีคนไม่ดี คนดีก็เลยเสียไปด้วยครับผมเข้าใจ เอาใว้วันที่ผมไปรับกีต้าร์ดีกว่า ผมอาจจะขอเปลียนตัวใหม่ ) นี่เป็นเบอร์โทรใหม่ที่เกาหลีครับ 010-6870-6240 ครับ วันที่ผมจอง L12-5 ผมก็โทรไปจองน้าพูดแต่สายไม่ว่างครับ

fender สวยมากๆครับ

พี่กฤษณ์ถ่ายรูปสวยจังครับ ผมดูFenderมากๆแล้วเริ่มขนหน้าแข้งร่วงกราวอีกแล้วอะ T T

(07-12-2010, 14:50)piggyprince Wrote: [ -> ]พี่กฤษณ์ถ่ายรูปสวยจังครับ ผมดูFenderมากๆแล้วเริ่มขนหน้าแข้งร่วงกราวอีกแล้วอะ T T

ไม่เป็นไรน่า ล่วงแป๊ปเดียว
เดี๋ยวก็ขึ้นใหม่แล้ว

(06-12-2010, 23:21)day Wrote: [ -> ]ผมคงจะจอง ยามาฮา สองตัวนะครับน้าพูดถ้าใด้จริงจริง ไม่มีแน่ที่เอาไปขายต่อครับไม่มีอะไรที่ผมจะขายกีต้าร์ในฝันใด้ครับ (ไม่เอาส่วนลดแล้วครับ เพราะเท่านี้น้าพูด ก็ขายถูกมากจริงจริง)จริงจริงแล้วผมอยากใด้กี่ต้าร์ที่ไม่เหมือนใครครับ จึงเลือก L12-5 อะไรที่เก่านะครับ ( เคยมีคนไม่ดี คนดีก็เลยเสียไปด้วยครับผมเข้าใจ เอาใว้วันที่ผมไปรับกีต้าร์ดีกว่า ผมอาจจะขอเปลียนตัวใหม่ ) นี่เป็นเบอร์โทรใหม่ที่เกาหลีครับ 010-6870-6240 ครับ วันที่ผมจอง L12-5 ผมก็โทรไปจองน้าพูดแต่สายไม่ว่างครับ

ความจริงแล้วผมก็ตั้งใจจะเก็บเจ้า L12-5 ไว้ให้คุณ day นะครับแต่มีน้าๆที่อ่านโพสต์นี้แล้วโทรฯมาตำหนิผมว่าไม่ยึดถือกฏที่ตัวเองเป็นคนตั้งผมเลยต้องขอความกรุณาคุณ day ช่วยอธิบายเพิ่มเติมตรงข้อความนี้หน่อยครับหน่อยครับ

"เอาไว้ตอนผมไปรับกีต้าร์ดีกว่า ผมอาจขอเปลี่ยนตัวไหม่" ประโยคนี่อ่านแล้วบางคนอาจจะเข้าใจว่าคุณ day จองกั๊กไว้ก่อน ซึ่งกว่าคุณ day จะกลับเมืองไทยในเดือนมีนาคนอื่นที่อยากใด้ก็คงหายอยากไปแล้ว ผมตั้งกฏไว้ว่าใครที่จองต้องวางมัดจำสองพันบาทและชำระเงินส่วนที่เหลือภายใน 60 วันหลังวันเปิดบ้าน ผมยกเว้นให้เรื่องเงินมัดจำเพราะการโอนเงินจากเกาหลีมาเมืองไทยนั้นน่าจะมีค่าธรรมเนียมเยอะพอสมควรที่ต้องเสียไปฟรีๆ เสร็จแล้วผมยังมายกเว้นเรื่องระยะเวลา 60 วันอีกให้กับคุณ day คนเดียวอีก

ถ้าคุณ day ไม่แน่ใจว่าจะชอบกีต้าร์ตัวนี้หรือเปล่าเพราะไม่เคยเล่นกีต้าร์ 12 สายผมว่าน่าจะยกเลิกการจองไว้ก่อนดีไหมครับ เรื่องการหากีต้าร์ดีๆราคาไม่แพงให้คุณตอนกลับเมืองไทยนั้นผมรับรองว่ามีให้คุณเลือกตามใจชอบหลายตัวครับในเดือนมีนาแต่ถ้ายังยืนยันจะจอง 12 สายอยู่ก็ใด้นะครับและผมจะไม่ถอนชื่อคุณออกจากรายการจองจนกว่าจะใด้คำตอบจากคุณ