NimitGuitar webboard

Full Version: ARCHTOP GUITAR
You're currently viewing a stripped down version of our content. View the full version with proper formatting.
Pages: 1 2 3
ประวัติ

กีต้าร์โปร่งในรูปแบบปัจจุบันมีถือกำเนิดในยุโรปในศตวรรษที่ 16 กีต้าร์โปร่งนั้น
สมัยก่อนเป็นเครื่องดนตรีที่ใช้เล่นตัวเดียวจึงมีขนาดเล็กและเสียงค่อนข้างเบา
เมื่อเทียบกับเครื่องดนตรีชนิดอื่น

[Image: 519pxjanvermeervandelftus4.jpg]


กีต้าร์ archtop นั้นถือกำเนิดในปี 1922 โดยมี Llyod Loar ของ Gibson เป็น
คนคิดค้น กีต้าร์แบบนี้เลียนแบบการก่อสร้างของไวโอลินโดยใช้ไม้หนาฯมาแกะสลัก
เป็นแผ่นหน้าและหลังและมี F-hole เหมือน violinแต่ขนาดใหญ่กว่ามาก ตัวแรก
ที่ผลิตคือ Gibson L-5 ครับ

[Image: gibsonl5np9.jpg]


กีต้าร์ archtop มีเสียงดังพอที่จะใช้เล่นในวงและมีเสียงหัวโน้ต(fundamental
tone) คมชัดมากและยังมี overtone น้อยทำให้เสียงไม่ฟุ้ง จึงทำให้ใด้รับความนิยมอย่างรวดเร็วกับพวกที่เล่นกับวงดนตรี ที่ต้องการความดังเพราะสมัยนั้นยังไม่มีกีต้าร์ไฟฟ้าให้เล่น

เหตุผลที่กีต้าร์ archtop เสียงดังกว่ากีต้าร์โปร่งธรรมดาก็เพราะการ carve ไม้แผ่นหน้าให้โค้งนั้นทำให้มันแข็งแรงพอโดยไม่ต้องมี bracing มากมายและรูปร่างของมันก็ใหญ่กว่าด้วย(lower bout 16"-19")

ช่างที่เก่งฯในการทำ archtop guitar นั้นเป็นช่างที่ฝึกฝนมาทางด้านการทำ
violin และ mandolin ไม่เหมือนกับช่างทำกีต้าร์โปร่งอย่าง C.F. Martin ที่มา
จากตระกูลช่างทำเฟอร์นิเจอร์ ดังนั้นเราจะไม่ใด้เห็นการเดินมุกรอบตัวใน archtop
เลย

ช่างที่เก่งที่สุดในวงการ archtop คือ John D' Angelico(1905-1964)
กีต้าร์ original ของเขาตอนนี้แพงมากฯครับ ในรูปคือรุ่น Newyorker

[Image: dangelnewyorkbd2.jpg]

ต่อมาในปลายยุค '30's จึงมีกีต้าร์ไฟฟ้าออกมาขายทำให้กีต้าร์ archtop ใด้รับความนิยมลดลงเนื่องจากราคาแพงมาก กีต้าร์ไฟฟ้าในยุคนั้นก็เอาปิ้คอัพมาใส่
archtop นั่นแหละแต่นิยมใช้ laminate ทั้งตัวเพราะ feedback น้อยกว่าและ
ทำง่ายกว่ากันเยอะด้วยเพราะไม้อัดสามสามารถเอาเข้า mold และขึ้นรูปโค้งใด้เลย
โดยไม่ต้องไปเสียเวลาแกะสลักให้เมื่อย

ในปัจจุบันเราแบ่งกีต้าร์ F-hole ออกเป็นสามประเภทครับ

1. Archtop พวกนี้จะเน้นเสียง acoustic โดยที่ top จะเป็นแบบ carved จากไม้แผ่นเดียวหรือเป็น laminate แบบบางฯก็ใด้ ถ้ามีปิ้คอัพส่วนใหญ่จะเป็นแบบแขวนลอยเพื่อไม่ให้รบกวนการสั่นของไม้แผ่นหน้า ความหนามักเกินสามนิ้วครึ่ง

2. Hollow body พวกนี้มีทั้งตัวหนาและตัวบาง เน้นเฉพาะเสียงออกแอมป์แต่เสียง
เปล่าฯไม่ใด้เรื่องเพราะไม้หนาเตอะและฝังปิคอัพลงไปในไม้หน้าเลย

3. Semihollow body พวกนี้ส่วนใหญ่จะตัวบาง เป็นกีต้าร์ไฟฟ้า 100%ครับ
เพราะส่วนกลางเป็นบล้อคไม้ ส่วน F-hole มีใว้เป็นเครื่องประดับเท่านั้น


มี video โชว์การทำ archtop guitar ให้ดูเป็นตัวอย่างครับ

http://www.youtube.com/watch?v=HuPXeJYjGX0
ขอบคุณสำหรับความรู้ดีๆครับพี่ Smile
ขอบพระคุณครับ
ในยุคปัจจุบัน archtop guitar ก็ยังมีผู้ผลิตอยู่หลายเจ้า ถ้าเป็น Gibson จะมีแต่ custom shop เท่านั้น
ส่วนช่างชั้นปรมาจารย์อย่าง D' Angelico หรือศิษย์เอกคือ D' Aqiusto นั้นก็เสียชิวิตไปหมดแล้ว กีต้าร์
archtop ชื่อดังในอดีตอย่าง Epiphone, Stromberg, D' Angelico ก็ย้ายไปผลิตในเกาหลีกลายเป็นกีต้าร์ราคาถูกไป

ตอนนี้ที่ยังผลิตอยู่ในอเมริกาก็มี Heritage รุ่น Eagle และ Benedetto ครับ

[Image: heritageeaglerd5.jpg]


[Image: fratello2gk7.jpg]

ส่วนในยุโรปก็มี Hofner

[Image: hofnergg1.jpg]

ที่เขาว่าคุณภาพยังดีอยู่แต่ย้ายไปผลิตในญี่ปุ่นคือ D' Aquisto

[Image: daquissoloic3.jpg]


ตอนนี้ตลาด archtop ผู้นำเลยกลายเป็นกีต้าร์ Eastman ของจีนไปแล้ว ราคา
ในอเมริกาก็เกือบแสนหรือเกินแสนครับ
เรื่องเสียงของมันนี่หลายคนคงไม่เคยฟัง มาลองฟังเสียงของ 1942 Gibson L-50 รุ่นพี่ของ "คุณพอใจ" ใด้เลยครับ

http://www.youtube.com/watch?v=VB4W095zVfc

ส่วนตัวนี้รุ่นใหญ่คือ 1950 Gibson Super 300

http://www.dreamguitars.com/audio/Gibson..._A4886.mp3

ส่วนใหญ่สมัยนี้ไม่ค่อยมีใครเล่นไม่ผ่านแอมป์กันแล้ว เสียงผ่านแอมป์ของ archtop จะหนานุ่มมาก
ใครหาเพลงเพราะเจอช่วยเอามาลงด้วยครับ
ผมชอบเสียงsuper300จังครับ
เสียงมันถูกจริตผมอีกแล้ว
ขอบคุณพี่poodครับ..
เยี่ยมเลยครับ...ไม่ต้องขอก็ได้ความรู้ที่อยากรู้
ขอบคุณพี่กฤษณ์มากๆเลยครับ.. ความรู้ใหม่สำหรับผมจริงๆครับ
ความรู้จากคุณpood เรื่องนี้ ทำให้ผมอยากร้องไห้อีกแล้ว!

เคยมีทรงนี้ของ Hofner อยู่ตัวหนึ่ง... ตอนนั้นซื้อต่อฝรั่งจีไอ. มาหนึ่งพัน เอามาเล่นกับวงก็ต้องจ่อไมค์ เงอะ ๆ งะ ๆ อยู่หลายปี พอมีคนมาขอซื้อต่อ สองพันบาท เลยรับขาย ตอนนั้นหลงดีใจว่าได้กำไรตั้งร้อยเปอร์เซ็น...แต่ตอนนี้...555...รู้สึกเซ็งตัวเอง ว่าโง่ฉิบ!!!
Hofner ไม่ใช่กีต้าร์หายากครับตอนนั้นขายใด้สองพันก็น่าจะดีใจแล้ว ถ้าเก็บใว้แล้ว
เอามาขายตอนนี้ก็คงใด้ไม่เกินสามพัน(เหรียญ)หรอก

การซื้อกีต้าร์มาแล้วขายใด้กำไรสมัยเด็กฯตอนที่เราไม่ค่อยจะมีสตางค์ผมเห็นเป็นเรื่องสนุกครับ
ตอนผมไปอเมริกาในปี 1971 ผมก็ชอบตระเวณไปตาม garage sale แล้วซื้อกีต้าร์และแอมป์ที่
พ่อแม่เอามาขายเพราะลูกชายไปรบที่เวียตนามแล้วไม่กลับบ้าน พอซื้อมาผมก็เอาไปขายโรงรับจำนำใด้กำไร
เหนาะฯ ตอนนั้นใด้ทุนแค่เดือนละสี่ร้อยเหรียญเวลาใด้กำไรร้อยสองร้อยเหรียญก็ดีใจสุดฯแล้วครับ

ต่อมาเมื่อสงครามเวียตนามสิ้นสุดลงผมก็เลยเลิกทำ มาคิดดูตอนหลังก็คิดใด้ว่าเราคงบาปชะมัดที่ไปหลอกซื้อของ
ราคาถูกจากคนแก่ เดี๋ยวนี้ผมเลยไม่หวงของใครอยากใด้ก็ปล่อยให้เพื่อชดใช้บาปไง
ขอบคุณน้า pood ครับ ผมไม่ได้ศึกษาเรื่อง archtop เลย อ่านที่น้าเขียนได้ความรู้ดีครับSmile
Pages: 1 2 3