NimitGuitar webboard

Full Version: Martin D100 ตัวละแสนเอง
You're currently viewing a stripped down version of our content. View the full version with proper formatting.
น้า uncleboy ดูดีดี ถ้าตัวละแสน ผมสั่งสัก 2 ตัว
(30-10-2010, 21:56)นริศ วงษ์เวช Wrote: [ -> ]น้า uncleboy ดูดีดี ถ้าตัวละแสน ผมสั่งสัก 2 ตัว

ดูดีแล้วครับ แสนเดียวจริงๆ แต่หน่วยดันเป็น US$ แพงกว่าบ้านผมทั้งหลังอีก อิอิ
ตอนนี้ถ้าจะซื้อจริงแค่เจ็ดหมื่นห้าก็ซื้อใด้ครับเพราะทำมา 50 ตัวแต่ผ่านมาหกปีแล้วยังเหลืออยู่ในโกดังเกินครึ่งมั้ง

เรื่องกีต้าร์ราคาแพงนี่ผมไม่ซื้ออีกแล้วครับ ขนาดตัวละสองแสนผมยังไม่ค่อยหยิบมาเล่นเพราะกลัวเป็นรอย ถ้าราคาไม่ถึงแสนเวลาขายต่อยังใด้กำไรค่าเล่นบ้าง แถมเวลาเก็บก็ยังต้องเป็นห่วงสุขภาพของมันซะอีก คนที่ซื้อ Martin ตัวละสามล้านนี่ถ้าไม่รวยจัดจนไม่รู้จะเอาสตางค์ไปทำอะไรก็ต้องบ้าครับ

ถ้ามีใครยังคิดว่าถ้าซื้อกีต้าร์มาสะสมเพื่อขายเอากำไรในอนาคตนี่ผมว่าคิดใหม่ใด้แล้วครับ ไม่เชื่อก็ลองดูชาร์ตราคาทองคำด้านล่างใด้ครับ

[Image: gold10yearousd.png]

ถ้าผมเอาสตางค์ไปซื้อทองเมื่อเก้าปีที่แล้วตอนนี้ผมเดินเข้าร้านทองขายใด้กำไรเกิน 500% และขายใด้ทันทีที่ต้องการขายด้วย ผมอยากรู้เหมือนกันว่ามีใครที่ขายกีต้าร์แล้วใด้กำไรเกิน 100% บ้าง ส่วนใหญ่ก็ใด้กำไรแค่ไม่กี่ตัวแต่ที่เหลือขายไม่ออกทั้งนั้นนอกจากจะยอมขายแบบขาดทุนย่อยยับ

การมีกีต้าร์เยอะนี่มันเป็น liability นะครับไม่ใด้เป็น asset หรอก เรื่องนี้ผมรู้มานานแล้วแต่ก็ยังจะซื้อขายต่อไปเพราะสนุกดีและใด้เพื่อนใหม่มากมาย ไม่ทราบว่าน้าๆคิดอย่างไรกับเรื่องนี้กันบ้างครับ
การสะสมกีต้าร์นั้นเป็นงานอดิเรกที่สามารถให้ผลตอบแทนที่ดีใด้ถ้าคุณอยู่ในประเทศที่มีตลาดซื้อขายกีต้าร์สะสมรองรับอย่างอเมริกาหรือญี่ปุ่น ในกรณีย์นี้ถ้าคุณเลือกเก่งๆก็สามารถทำกำไรให้คุณใด้ไม่แพ้การสะสมทองคำเหมือนกัน

[Image: guitarprice.jpg]

Chart ข้างบนเป็นราคาซื้อขายของกีต้าร์ vintage Martin (1930s-1960s), Fender และ Gibson (1950s-1960s) 42 รุ่นในหนังสือ Vintage Guitars Price Guide ของอเมริกา จะเห็นใด้ว่าตอนนี้ Fender และ Gibson ราคารูดลงมาเยอะและดอลล่าร์กำลังตกดังนั้นจึงน่าซื้อเก็บถ้าคุณอยู่ที่โน่นครับ

สำหรับคนที่อยู่เมืองไทยนั้นราคาซื้อขายกีต้าร์มือสองในอเมริกามันไม่เกี่ยวกับเราซักเท่าไหร่เพราะตลาดเราแคบมากสำหรับกีต้าร์ไฮเอ็นด์ เมื่อตอนต้นปีผมเคยเห็นมีคนขาย 1995 Martin 000-42EC ที่ราคากลาง Blue Book = 8,500 USD ในราคาแค่ 125,000 บาทก็ยังไม่มีคนซื้อ ส่วนบางตัวที่ขายใด้กำไรเยอะนั้นก็ขึ้นอยู่กับการปั่นกระแสนืยมกันซะมากกว่า ตัวอย่างเช่นถ้าเป็น Martin HD-28V นี่ขายกันที่ 85,000 บาทยังมีคนแย่งกันซื้อแต่ถ้าเป็น OM-28V ขายแค่ 70,000 บาทก็ยังไม่มีใครสนใจทั้งๆที่กีต้าร์สองรุ่นนี้ราคาเท่ากันเป๊ะทั้งมือหนึ่งและมือสอง

(31-10-2010, 00:04)pood Wrote: [ -> ]การมีกีต้าร์เยอะนี่มันเป็น liability นะครับไม่ใด้เป็น asset หรอก เรื่องนี้ผมรู้มานานแล้วแต่ก็ยังจะซื้อขายต่อไปเพราะสนุกดีและใด้เพื่อนใหม่มากมาย ไม่ทราบว่าน้าๆคิดอย่างไรกับเรื่องนี้กันบ้างครับ

Let me chime in a little bit here;

It's so true just like you said. Whoever wants to buy guitars and thinks that he'll make some financial gain in the future is simply fooling himself in every respect.

I myself never had a lot of guitars, I consider them as burdens and I never want to be " A beast of burden" to any material stuffs Sad

The only guitar that I've ever made a PROFIT with is the used "Gibson Dove" that I bought around mid 70s in a pawn shop in Hollywood area for $250 and sold it to my American friend who loves Gibson for $500 which was much lower than the market price at that time. I just didn't have a heart to make any profit out of my friends and I just sold to him based on his offer.Shy

The other guitars that I got rid off (and still try to unload most of them) were gone pretty fast because I sold them so low. I figured if I don't have enough time to play then there's no reason to keep them in their own cases, and I'd rather let someone else who doesn't have a lot of money to buy the brand new ones to have fun with them in stead.

Almost of my guitars are bought used (most of them are in really nice condition), so I didn't really pay a lot of money for them in the first place. In other words I didn't really loose a lot of money selling them.Rolleyes

But again, I can't speak for anybody else but myself. If you're happily transacting your guitars in anyway you like and enjoy doing that then power to you. Just don't feel bad for what you thought it should make you gain some financial profit but it came out the other way aroundSad Big Grin Wink





Very good points for both krub, I strongly agree with both ideas Wink
Be happy of what guitars u have, that's the most important.
ราคาทองนี้น่ากลัวมากครับเพราะมันไม่เป็นไปตามธรรมชาติ เพราะถ้าหากดูย้อนหลังลงไปอีกหลังจากปี 2001 จะเห็นได้ชัดเจนว่าราคาทองคำค่อนข้างทรงตัวไม่ค่อยแกว่งมากนัก แต่หลังจากปี 2001 เป็นตัวไปราคาทองเพิ่มอย่างกับกราฟแบบ exponential เลย ไม่รู้เหมือนกันว่าการที่ราคาขึ้นขนาดนี้มันเกิดจากการที่ประเทศไหนที่ทุ่มซื้อทองไว้อย่างมากมายมหาศาล เท่าที่ทราบก็มี จีน กับ อินเดีย ที่ซื้อแบบชนิดไม่ลืมหูลืมตาเหมือนกัน อดคิดไม่ได้ว่าตอนนี้เศรษฐกิจโลกอยู่ในสภาวะฟองสบู่ที่โป่งเต็มที่ แล้วถ้าหากเกิดแตกขึ้นมาราคาทองจะเป็นอย่างไร แล้วเศรษฐกิจโลกโดยรวมจะเป็นอย่างไร เพราะกราฟการเพิ่มขึ้นของราคาทองนี้ไม่ปกติแน่นอน ประเทศเล็กๆ อย่างเช่นประเทศไทย หรือประเทศอื่นๆ ที่เศรษฐกิจยังไม่ถึงขั้น solid แบบ ญี่ปุ่น หรือ อเมริกา จะเป็นอย่างไร