ถือว่าน้าปี้เป็นตัวอย่างที่ดีมากๆ ทั้งเสียสละเวลา เพื่อหาความรู้ให้แก่ตนเองและเพื่อนๆสมาชิก
ก้าวต่อไปลองนึกซิครับว่า ใครจะอาสาสมัครไปสำรวจการทำเครื่องดนตรีไทยชนิดใดอีกบ้าง
แต่ไม่ต้องไปสำรวจการทำฉิ่งนะ เพราะผมจองแล้ว....
ผมจะไปศึกษาหาข้อมูลเรื่องการทำฉิ่งและการตีฉิ่ง อย่างไรให้ไพเราะ มาฝากเพื่อนๆเอง
ส่วนหากจะมี Clips มาฝากด้วยหรือไม่นั้น ต้องขอความยินยอมของเจ้าของฉิ่งก่อน
มีการสำรวจ พูดคุย ค้นคว้าเพิ่มเติม
เหมาะสมอย่างยิ่งครับกับ ตำแหน่ง ผู้อำนวยการศิลปะวัฒนธรรม สาขาดนตรีพื้นบ้านของไทย
(09-06-2010, 17:08)L_Barrios Wrote: [ -> ]น้าป๊อบปี้ ช่วยไปเยือนถิ่ิน พิณ แคน ซึง ด้วยสิครับ อยากได้ความรู้ดี ๆ แบบนี้อีก
คงไม่มีความสามารถลึกซึ้งถึงเครื่องดนตรีพวกนั้นครับ แต่ถ้ามีโอกาสก็จะนำมาแบ่งปันครับ
(09-06-2010, 21:40)Kitja Wrote: [ -> ]จะฝึกเป็นพระอภัยเหรอน้า....แล้วหานางเงือกเจอหรือยัง..... มีแนะนำตัวนึงเอาเปล่า พูดไทยไม่ค่อยชัด เอามั๊ย....
น้ากิจจัง
ทั้งชีวิตเจอแต่เงือกฟ๊ะหรั่ง ช่วยหาเงือกจีนหมวยๆ ให้หน่อย
ขอบคุณล่วงหน้าอย่างแรง
รูปขลุ่ยเทลายโบราณ ของคุณป้าองุ่น มาริศรี (ปัจุบันอายุ 78) ช่างคนสุดท้ายแห่งชุมชนคนบ้านลาว มาให้ดูเป็นกรณีศึกษาครับ
งานเทลายขลุ่ย ใช้ตะกั่วหลอมเท งามแท้ๆ
เลาบนเป็นลาย ดอกพิกุล หรือลายดอกจิก เลาล่าง เป็นลายหกคะเมน หรือลายกระจับ เป็นลายโบราณ เป็น ศิลปะมรดกทางวัฒนธรรมของตระกูลช่างแห่งบ้านลาว
ใช้ตะกั่วหลอมเทลาย แบบสดๆ ไม่มีการร่างแบบ งานฝีมือล้วนๆ ทุกวันนี้ทายาทป้าก็ยังไม่มีใครสืบทอดไว้ได้ ส่งสัยจะสิ้นแล้ว สำหรับศิลปะแขนงนี้
แต่...ผมได้ยินมาแผ่วๆว่า คุณป้าอาจจะกลับมาเทลายอีกครั้ง ไม่รู้จะมีบุญได้ครอบครองขลุ่ยลายดอกพิกุลซักเลามั้ยน๊อ
เนื้อเพลง ทานตะวัน (ตะวันส่องใส แดดฉายลงมา ทาบทาทิวทุ่ง)
ทานตะวัน
เนื้อร้อง เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์
ทํานอง ธนิสร์ ศรีกลิ่นดี
ตะวันส่องใสแดดฉายลงมาทาบทาทิวทุ่ง
แผ่วลมผ่านโรยเหมือนโปรยกลิ่นปรุงดอกฟางหอมลอย
ดอกหญ้าดาววับวาวทางเกลื่อนเหมือนดังหยาดพลอย
แตะนิดต้องน้อยราวมณีร่วงพรูพลัดพรายลงดิน
จะอยู่แดนไหนสุดฟ้าแสนไกลคะนึงถึงถิ่น
ด้าวแดนแผ่นดินที่เราจากมาเนิ่นนานแสนนาน
ดอกหญ้างามงดงามดังก่อนหรือรอนร่วงราน
แดดร้อนดินแล้งลมระงมแผ้วพานบ้านนาป่าเขา
*
ทุ่มกายทุ่มใจเข้าโหมแรงไฟหัวใจแรงเร่า
ยิ่งสร้างยิ่งทําระกําหนักเบาดิ้นรนหนทาง
เจ้ามิ่งขวัญยิ่งวันยิ่งเดือนยิ่งเลือนยิ่งราง
ทอดทิ้งทุ่งร้างวันและวันผ่านเยือนเหมือนเดินทางไกล
**
ตะวันส่องแสงสาดแสงลงมาทาบทาทางใหม่
ร่วมจิตร่วมใจก้าวไปก้าวไปฝ่าภัยร้อยพัน
มิ่งขวัญเอ๋ยหัวใจเรามั่นเหมือนทานตะวัน
เฉิดแสงแรงฝันราวระวีตะวันสีทองส่องใส
( ซ้ำ * , ** )
เฉิดแสงแรงฝันราวระวีตะวันสีทองส่องใส
น้าปี้ครับ ขลุ่ยเลาที่น้าปี้ซื้อมาสนนราคาเท่าไหร่ครับ เสียงเป็นอย่างไรบ้าง
เหมือนกับคลิปเพลงทานตะวันหรือเปล่า
อยากฝากซื้อสักอันครับ
ผมได้มา 2 เลาเป็นคีย์ C ครับ น้าหม่าว
สนใจเดี๋ยวผมแบ่งๆกันไปครับ
วันที่ไปเอาขลุ่ยนั้นลุงแกจะไม่ให้นะครับ 2 เลา
เพราะทำจากไม้ไผ่ที่เก็บมาเกิน 8 ปี สีเข้ม ลักษณะไม้ไผ่ตรงทั้งเลา
แล้วก็ยังเป็นคีย์เดียวกัน เหตุผลคือน่าจะแบ่งปันให้คนอื่นเค้า
วันนี้รู้แล้วครับว่า มีปากเดียวเล่นได้เลาเดียว ฮ่า..
แต่ผมอยากได้ครับ เลยตื้อเอาจนได้
เสียงดีมากๆๆๆ ครับ กินลมน้อย เสียงดัง แต่ต้องเป็นลุงอุทิศเป่านะครับ เพราะผมเล่นไม่เก่ง
ส่วนที่ถามว่า เหมือนคลิปเพลงทานตะวันรึป่าวนี่ ถ้าเชิญอ.ธนิตมาเป่าก็คงเหมือนครับ 555
เวอร์ชั่นของ ฟอร์ด สบชัย ร้องก็เพราะมาก
ขอบคุณน้าปี้ครับ แค่เห็นสีขลุ่ยไม้ไผ่สีธรรมชาติก็รักแล้วครับ ไม่ชอบให้มันมีลายครับ
เคยฟังเสียงขลุ่ยไม้ไผ่ตอนที่มีวงดนตรีไทยทั่วประเทศมาเล่นที่ มช แล้วมันติดหูครับ
น้าปี้หัดระบายลมให้ได้แบบ อ.ธนิต ซิครับ รับรองงานเข้าไม่ขาดสาย เผลอๆ อ.ธนิต อาจมาขอตัวไปทำอัลบัมคู่
(05-07-2010, 15:04)Maow Wrote: [ -> ]ขอบคุณน้าปี้ครับ แค่เห็นสีขลุ่ยไม้ไผ่สีธรรมชาติก็รักแล้วครับ ไม่ชอบให้มันมีลายครับ
เคยฟังเสียงขลุ่ยไม้ไผ่ตอนที่มีวงดนตรีไทยทั่วประเทศมาเล่นที่ มช แล้วมันติดหูครับ
น้าปี้หัดระบายลมให้ได้แบบ อ.ธนิต ซิครับ รับรองงานเข้าไม่ขาดสาย เผลอๆ อ.ธนิต อาจมาขอตัวไปทำอัลบัมคู่
การระบายลมนี่ วันที่ผมไปที่บ้านลุงอุ ผมพบกับอาจารย์ขลุ่ยคนหนึ่ง
ซึ่งระหว่างที่เล่นแกจะสูดลมเข้าทางจมูกด้วยความรวดเร็ว ในขณะที่เสียงเมโลดี้
(ต่อเนื่อง)ซึ่งต้องใช้ลมออกทางปากก็ไม่ขาดช่วงเลย เห็นแล้วก็ทึ่งครับ
วันก่อนผมเอาติดรถไปที่ร้านลัคกี้ ระหว่างลองกีต้าร์ผมก็เอาขลุ่ยมาแจม
ไม่รู้ยังไงครับ อยู่ๆ น้า Karn แกนึกจะระบายลมทั้งๆที่เล่นกีต้าร์อยู่แท้ๆ
(แหม๋...ห้องโถงด้วยสิ) 55555
เฮีอ... สงสัยคงสับสนนึกว่าเป่าขลุ่ยอยู่
)