อ่อครับ
การจูนมีสองแบบนะครับ
1. แบบ preset
ปรับได้ 8 แบบ ครับ
2. แบบ Custom
- ปรับจูนแยกสายได้เลย ระยะ +- 1 Octave ครับ
- ปรับแบบ Capo ก็คือทุกสาย +- 1 Octave ครับ
ผมเคยเอามันไปเล่นเป็น Bass ในวงด้วยนะครับ
โอ้ว เหมาะที่จะเล่นกับกลองมาก จูนสายบนเป็นเบสได้เลย มีตัวเดียวทำงานห้องอัดสบายเลยนะนี่
สำหรับพวกชอบซน ของแปลก เล่นคนเดียว ตัวนี้มันหลากหลายมากๆครับ
เรื่องสายเปิดนี่ พื้นๆ จะ open อะไร ตั้งได้ ทุกแบบ แล้ว Save ใว้
เวลาเล่น walking bass สามาถ tune สาย 5-6 ลง 1 octave เสียงจะประมาณ Bass จริงๆเลย มี latency แบบน้อยมากๆ รับได้
ผมเล่นอยู่หลายเดือนครับ
หลากหลาย เป็นกีตาร์ได้ หลายตัวมากๆ จน ใช้ไม่หมด
เอาไปเล่นสด คนถามกันใหญ่
เอาวางใว้ข้าง Computer จะเหมาะสมมาก เพราะ พี่แกเป็นกีตาร์หลายตัวมากๆ และ บาง model เหมือนว่ะ!!!
เป็น Gutiar 12 สายได้ด้วยยยยยย
ข้อเสียของมันคือ
1. ถ้าจะให้ program สะดวก ต้องต่อกับ interphase box ที่ชื่อ ตัวละ 3 พันกว่าๆ หรือ POD XT ขึ้นไป
2. กินไฟเยอะ ใช้ Battary ไม่ work เพราะเปลืองและเสียเวลา
3. ควรใช้ไฟฟ้า ผ่าน power supply ซึ่ง ต้องพกหลายอย่าง ไม่เหมือนโปร่งธรรมดา เสียบ และ ดัง จบ
4. มี Latency เล็กน้อย เล่นแรกๆ ไม่รู้สึกเท่าไหร่ เล่นๆไป ชักเบื่อ เล่นต่อไป ชิน
5. สัมผัส เวลาเล่น เหมือนเล่นกีตาร์ ตัวละ หมื่นกว่าบาท(ไม่ได้ดูถูก กีตารืตัวละหมื่นกว่าบาทน๊ะครับ อันนั้นมันซื้อมาถูก เลยรับได้) แต่ซื้อกีตารืตัวละ 5 หมื่น ผมคาดหวังว่า จะได้จับอะไรที่แบบ เหมือน takamine Japan แตนี่ มันไม่ใช่(ข้อนี้เป้นเหตุผลที่ขายครับ)
6. ดีด เปล่าๆ เหมือนกีตาร์ไฟฟ้า Solid Body คือ ไม่ดังครับ
7. ต้องเข้าใจว่ามัน Simmulate ดังนั้น เจอของจริง มันจะเหมือน ดอกไม้ พลาสติก ถึงสวยก็ทำด้วย พลาสติก
คำตอบจาก คนเคยมีทั้ง Variax 500 และ Variax Acoustic 700 ครับ
ขออภัยที่แกะกะหน้าร้านน๊ะครับ แต่ราคานี้ ผมว่า รับได้น๊ะ ไม่แพง