NimitGuitar webboard

ต้อม เบื่อ takamine แล้วหรือ.................อิอิ

ขอบคุณความรู้จากน้า pood ด้วยนะครับ

ราคานี่ก็เอาเรื่องอยู่เหมือนกันเลยนะครับ

แต่ดูจากสเป็กแล้ว ทั้ง 3 รุ่นนี้ไม่ใช่ All Solid หรือเปล่าครับ

(21-05-2010, 23:43)Olivia Wrote: [ -> ]ต้อม เบื่อ takamine แล้วหรือ.................อิอิ

หวัดดีพิท สบายดี

ยังไม่เบื่อหรอก แต่อยากลองเล่นแบบอื่นๆ ดูบ้างอ่ะ

(21-05-2010, 21:57)tohm refeel7 Wrote: [ -> ]ถ้าต้องแย่งกันกับพี่ต้อง ผมน้องกว่าขอสละสิทธิ์ให้ผู้พี่ซึ่งเป็นผู้ใหญ่กว่าละกันครับ 555+

ผมล้อเล่น ครับ .........555+ไม่มีที่เก็บ แล้ว

(22-05-2010, 04:47)tohm refeel7 Wrote: [ -> ]ขอบคุณความรู้จากน้า pood ด้วยนะครับ

ราคานี่ก็เอาเรื่องอยู่เหมือนกันเลยนะครับ

แต่ดูจากสเป็กแล้ว ทั้ง 3 รุ่นนี้ไม่ใช่ All Solid หรือเปล่าครับ

ทั้งสามตัวไม้ข้างและไม้หลังเป็น laminate ครับเพราะว่ามันไม่ใช่ "อาวุธหนัก" ของทั้งสองค่ายนี้ มันเป็นรุ่นกลางๆเท่านั้น

กีต้าร์ทั้งสองยี่ห้อตอนนี้ถ้าเป็น all solid ราคาก็ไม่ใด้ถุกกว่า Martin หรือ Gibson นะครับและขายดีเป็นเทน้ำเทท่าในญี่ปุ่นด้วยเพราะฝีมือเขาเหนือกว่า ลองมาดูตัวอย่างก็ใด้ครับ ตัวแรกเป็น Morris S series All Solid ที่ไม่ใด้ใด้เป็นรุ่นแพงสุดด้วยซ้ำ



ส่วน K. Yairi นั้นถ้าจะเอาเป็น all solid ก็ต้องขยับจาก YW-1000 ไปเล่น DY-45 ครับแต่ราคานี้ซื้อ Martin D-45 ยังพอมีทอนนะครับ

k.yairi นี่อ่านว่า เค. ยาอิริ หรือว่า เค. ไยริ หีออ่านว่า เค.ยาริ ครับผม

รบกวนด้วยครับ แบบว่าผมอ่านไม่ถูกครับต้องการอ่านชื่อเค้าให้ถูกน่ะครับ

ขอบคุณมากครับผม

*YW-1000 กับ DY-45 สวยมากเลยครับ

ยี่ห้อนี่เปรียบได้กับมาร์ตินเอเชียเลยหรือเปล่าครับอากฤษณ์

แล้วตอนนี้ถ้าDY-45กับD-45ราคาเงินไทยมันประมาณเท่าไรอ่ะครับ
แล้วDY-45เลิกผลิตไปหรือยังครับ

(22-05-2010, 10:21)pizuuh Wrote: [ -> ]k.yairi นี่อ่านว่า เค. ยาอิริ หรือว่า เค. ไยริ หีออ่านว่า เค.ยาริ ครับผม

รบกวนด้วยครับ แบบว่าผมอ่านไม่ถูกครับต้องการอ่านชื่อเค้าให้ถูกน่ะครับ

ขอบคุณมากครับผม

*YW-1000 กับ DY-45 สวยมากเลยครับ

ยี่ห้อนี่เปรียบได้กับมาร์ตินเอเชียเลยหรือเปล่าครับอากฤษณ์

อย่าเอา K. Yairi (เค ไยริ) ไปเทียบกับ Martin ยุคปัจจุบันดีกว่าครับเพราะลูกค้านั้นเป็นคนละตลาดกันเลยและโรงงานก็คนละขนาดกันด้วย

ถ้าคุยกันเรื่องการผลิต K. Yairi เป็นโรงงานเล็กๆที่ทำทุกอย่างด้วยมือ ตั้งแต่การเหลา bracing ไปถึงการเหลาคอ แลกเก้อร์ก็พ่นด้วยมือ กาวก็ใช้ hide glue ที่ Martin เลิกใช้มาตั้งแต่หลังสงครามโลกแล้วเพราะมันแห้งช้ากว่า white glue ไม้ที่เอามาทำก็เอามาสต้อคไว้เป็นสิบๆปีและ air dry ขณะที่โรงงานใหญ่ๆอย่าง martin เขาเอาเข้าเตาอบแค่ 24 ชั่วโมงก้แห้งแล้ว

K. Yairi เติบโตขึ้นมาใด้โดยการออกแบบกีต้าร์เองนะครับ ไม่เหมือนกับ Takamine ที่เริ่มต้นด้วยการลอกแบบกีต้าร์อเมริกันยี่ห้อดังๆทุกยี่ห้อแต่ขายในราคาแค่ครึ่งเดียว กีต้าร์ของ K. Yairi ที่หน้าตาเหมือน Martin หรือ Gibson นี่มีไม่ถึง 10% ของกีต้าร์ที่เขาผลิต ส่วนเรื่องเสียงนั้นแม่แต่รุ่นที่หน้าตาเหมือน Martin เสียงก็แตกต่างกับ Martin โดยสิ้นเชิงครับ

ผู้ครองตำแหน่งกีต้าร์ Martin of Asia นี่คือ Tokai Cat's Eyes ครับเพราะเป็นโรงงานที่ผลิต Martin Sigma มาก่อน ยิ่งถ้าเป็นรุ่น all solid (CE-800 ขึ้นไป) นี่ยิ่งเหมือนมากจนเขาเคยห้ามส่งออกเลยละ

ในเรื่องการตลาดนั้น K. Yairi เขาเน้นสรีระของคนเอเชียเป็นหลักครับ กีต้าร์ยี่ห้อนี้สำหรับคนตัวเล็กมือเล็กเล่นง่ายกว่ากีต้าร์อเมริกันเยอะ พอใด้บริษัทอเมริกันคือ Alvarez มาเป็นผู้จัดจำหน่ายก็เลยแพร่หลายไปในหมู่มือกีต้าร์ที่เล่นกีต้าร์ไฟฟ้ามาก่อนเพราะคอมันคล้ายกีต้าร์ไฟฟ้ากว่า Martin เยอะ Martin นั้นเขาถูกจำกัดโดย tradition ที่สะสมมาเป็นร้อยปีเลยไม่กล้าลองอะไรใหม่ๆจนกระทั่งถูก Taylor แย่งแชมป์ไปครองถึงใด้เริ่มเปลี่ยนแปลงเมือสิบกว่าปีมานี้เอง

เชิญชมโรงงาน K. Yairi ใด้ข้างล่างครับ

ตอนที่ 1


ตอนจข


สรุปว่าผมชอบ K. Yairi มากกว่า Martin ในระดับราคาเดียวกันครับเพราะเล่นง่ายกว่าและลุกเล่นหลากหลายกว่าเยอะ

DY-45 ยังผลิตอยู่ครับ ราคาประมาณ 190,000 บาทครับ

ผมมี morris รุ่น TF 801 ครับ หน้าตาเหมือน w80เลยครับ ฝากน้าpood ช่วยให้ความรู้หน่อยครับว่ามันต่างกันอย่างไร ด้านหลังเป็นไม้สามชิ้นโดยชิ้นตรงกลางคาดว่าเป็นเมเปิ้ลครับ เสียงก็ดีใช้ได้ทีเดียวครับ

(22-05-2010, 23:04)vor55 Wrote: [ -> ]ผมมี morris รุ่น TF 801 ครับ หน้าตาเหมือน w80เลยครับ ฝากน้าpood ช่วยให้ความรู้หน่อยครับว่ามันต่างกันอย่างไร ด้านหลังเป็นไม้สามชิ้นโดยชิ้นตรงกลางคาดว่าเป็นเมเปิ้ลครับ เสียงก็ดีใช้ได้ทีเดียวครับ

TF series ออกมาแทนที่ W-series ในปี 1981 หรือ 1982 ครับ (ผมไม่มีคาตาล้อคปี '81) รุ่น TF-801 ออกมาแทนรุ่น W-50 ราคา 50,000 yen ครับ