11-05-2010, 18:18
กลับมาเล่าอีกครั้งครับ
เรื่องเล่าเเบบหัทยา ..... ดนตรีที่ว่างเปล่า
จากที่ผ่านๆมาเหมือนชอบไปพูดในที่ๆไม่น่าพูด พิมพ์พ่นในที่ๆน่าจะไม่เกิดประโยชน์อะไร
อ่ะเรากลับมาพิมพ์เล่าเรื่องเเถวๆนี้อีกละกัน ที่ๆนี่เป็นเหมือนที่เเรกๆที่หัดพิมพ์หัดเล่าเรื่องอะไรออกมาเป็นอักษร
เวลาไม่มากนัก อยากคุยยาวๆนะครับ คิดถึงพี่น้องที่นี่มากเเต่ไม่ค่อยมีโอกาสดีๆเลย
เข้าเรื่องละกัน มันคือประสพการณ์ที่ไม่รู้ว่าไปไงมาไง ผมเเค่ไม่สบาย รู้สึกอยากพักผ่อน ก็จึงเริ่มเดินทาง
จากนานๆที กลายเป็นทุกอาทิตย์อีกเเล้ว จริงๆเคยมีชีวิตเเบบนี้ช่วงหนึ่ง เเต่นั่นคือที่ๆเดียว ทะเลหัวหิน กลุ่มคนเดิมๆเรารู้จัก เราควบคุมได้
คราวนี้ต่างไป ทุกอาทิตย์เหมือนกัน เเต่ไม่ค่อยได้เล่นดนตรีนะ ต้องคอยไปเจอคนโน้นคนนี้ที่ไม่รู้จัก พูดคุยสื่อสารกับเเทบทุกๆคนที่ได้เจอใหม่ๆ
คราวนี้ก็เป็นการผจญภัยอีกครั้ง
ทำยังไงดีเมื่อต้องเเสดงดนตรีในที่ประชุมการเมือง....??
ผมเคยสงสัย เเล้ววันนึงก็ต้องเจอเองจนได้
9/ 05 /10 เเสดงดนตรีให้เวทีสนทนาปัญหาบ้านเมืองที่ธรรมศาสตร์
เสวนา "ล้อมวงผ่าวิกฤติระบบนิเวศประชาธิปไตย"
ผมไม่เคยย่างเข้าท่าพระจันทร์หรือธรรมศาสตร์มานานมากเเล้ว จำได้ล่าสุดไปมั่วๆเข้าห้องเรียนอบรมอะไรสักอย่างในศิลปกร
วันมีพี่ท่านนึงอัญเชิญไป ด้วยความที่เรากลัวเเต่งตัวไม่เหมาะสมเนื่องจากช่วงนี้จะใส่เเต่ชุดผ้าๆบางๆสั้นๆผ้าไทยพื้นเมืองผมจะนิยมมากๆ รองเท้ามิดชิด กางเกงขายาวนี้เเทบหาไม่เจอ ผมจึงคิดมากเรื่องจัดการเครื่องเเต่งตัวให้เหมาะกับงาน
เเต่เเล้วพอไปถึงที่ธรรมศาสตร์เเล้ว เจอพี่เค้าทัก...
"เอ้าหนึ่ง กีตาร์เอาไว้ไหนหล่ะ เห็นดูตัวปลิวๆ"
ผมรีบตอบเเบบเนียนๆไปว่า
" อ๋อ กระบี่อยุ่ที่ใจครับพี่ "
เเต่ในใจนั้นคิดว่า เวรละตรู ทำไงดีฟระเวลาก็ใกล้มาเเล้ว
เอาย่อๆนะครับเป็นอันว่า.....
ก็เอาตัวรอดไปได้อีกงานจนได้ครับ ก็พอทนได้ในเเบบที่เห็น^^
จบเลวมากหักดิบสุดๆ...5555 เวลาผมหายไปไหนหมดนะนี่
สิ่งที่รู้สึกคือ...หนักใจเเต่สุขใจอย่างประหลาด กับผู้ทรงความรู้มากมายนี่หล่ะนะ
เราจะได้พูดในเเบบของเราเเล้ว....เย้ๆๆๆๆๆๆๆ
เเต่จะพูดคุยยังไงดีฟระ นั่นคือคำถามในใจตอนเเรก
"เเต่ชั้นก็คือชั้นนี่เเหละ อย่าคิดอะไร ให้ใจมันทำงานของมันซะ................"
นัยยะของ lennon จึงถูกขยายเล่าขานอีกครั้ง....โดยเจ้าบ้าคนนี้ในที่สุด
พอดีเปิดกล้องอัดไว้ก็เลยตัดตอนมาบางส่วนเล่าเรื่องที่เกิดขึ้น หวังว่าคงจะมีสาระประโยชน์บ้าง
เเล้วเจอกันอีกครับ มีตอนต่อนะดนตรีปิดประชุมนี้ ดูละจะฮา^^
อีกตอนนะครับตอนที่ 2
หนักใจเเต่สุขใจอย่างประหลาด?
กับผู้ทรงความรู้มากมายนี่หล่ะ... เราจะได้พูดในเเบบของเราเเล้ว....?
เเต่จะพูดคุยยังไงดีฟระ นั่นคือคำถามในใจตอนเเรก เเต่ชั้นก็คือชั้นนี่เเหละ อย่าคิดอะไร ให้ใจมันทำงานของมันซะ"
คราวนี้เหมือนต้องกล่าวปิดงานด้วยเสียงดนตรี
นักวิชาการ ดร. นักโน่นนี่สารพัดเเสดงความคิด ความเห็นกันไปเเล้ว
ชั้นจะเล่นอะไรออกไปได้ฟระเนี่ย?? ความกดดันน้อยๆทวีตัวมากขึ้นเมื่อใกล้ถึงเวลา
เเต่ชั้นรู้ ชั้นคือ ชั้นเองนี่เเหละ
เเล้วทุกสิ่งก็ผ่านไปอย่างน่าพอใจ^^
เเล้วเราก็ใช้ดนตรีของเราเเสดงความคิดเห็นได้^^ ดีใจที่ได้ทำอะไระดีๆเเบบนี้
อยากให้ได้ดูนะครับว่าเล่าเรื่องจบงานนั้นได้อย่างไร
ดีใจที่เป็นคนไทยที่มีพี่น้องรักชาติบ้านเมืองอย่างนี้
หลังจากเเสดงอะไรนั่นไปก็งานเข้าหล่ะครับ อะไรยังไง มีเวลาจะหนีมาเล่าสู่กันฟัง
เเล้วเจอกันอีกครับ ^^
ป.ล ปะติดปะต่อน่าดูครับ จริงๆเขียนไปลงที่อื่นไว้เเต่อยากเอามารวบรวมที่นี่ให้เป็นเรื่องราวต่อเนื่อง
ขอพลังจงอยู่คู่ท่านครับ พลังอำนาจอันยิ่งใหญ่ มาพร้อมความรับผิดชอบอันใหญ่ยิ่ง
หัทยา สงวนสิน
เรื่องเล่าเเบบหัทยา ..... ดนตรีที่ว่างเปล่า
จากที่ผ่านๆมาเหมือนชอบไปพูดในที่ๆไม่น่าพูด พิมพ์พ่นในที่ๆน่าจะไม่เกิดประโยชน์อะไร
อ่ะเรากลับมาพิมพ์เล่าเรื่องเเถวๆนี้อีกละกัน ที่ๆนี่เป็นเหมือนที่เเรกๆที่หัดพิมพ์หัดเล่าเรื่องอะไรออกมาเป็นอักษร
เวลาไม่มากนัก อยากคุยยาวๆนะครับ คิดถึงพี่น้องที่นี่มากเเต่ไม่ค่อยมีโอกาสดีๆเลย
เข้าเรื่องละกัน มันคือประสพการณ์ที่ไม่รู้ว่าไปไงมาไง ผมเเค่ไม่สบาย รู้สึกอยากพักผ่อน ก็จึงเริ่มเดินทาง
จากนานๆที กลายเป็นทุกอาทิตย์อีกเเล้ว จริงๆเคยมีชีวิตเเบบนี้ช่วงหนึ่ง เเต่นั่นคือที่ๆเดียว ทะเลหัวหิน กลุ่มคนเดิมๆเรารู้จัก เราควบคุมได้
คราวนี้ต่างไป ทุกอาทิตย์เหมือนกัน เเต่ไม่ค่อยได้เล่นดนตรีนะ ต้องคอยไปเจอคนโน้นคนนี้ที่ไม่รู้จัก พูดคุยสื่อสารกับเเทบทุกๆคนที่ได้เจอใหม่ๆ
คราวนี้ก็เป็นการผจญภัยอีกครั้ง
ทำยังไงดีเมื่อต้องเเสดงดนตรีในที่ประชุมการเมือง....??
ผมเคยสงสัย เเล้ววันนึงก็ต้องเจอเองจนได้
9/ 05 /10 เเสดงดนตรีให้เวทีสนทนาปัญหาบ้านเมืองที่ธรรมศาสตร์
เสวนา "ล้อมวงผ่าวิกฤติระบบนิเวศประชาธิปไตย"
ผมไม่เคยย่างเข้าท่าพระจันทร์หรือธรรมศาสตร์มานานมากเเล้ว จำได้ล่าสุดไปมั่วๆเข้าห้องเรียนอบรมอะไรสักอย่างในศิลปกร
วันมีพี่ท่านนึงอัญเชิญไป ด้วยความที่เรากลัวเเต่งตัวไม่เหมาะสมเนื่องจากช่วงนี้จะใส่เเต่ชุดผ้าๆบางๆสั้นๆผ้าไทยพื้นเมืองผมจะนิยมมากๆ รองเท้ามิดชิด กางเกงขายาวนี้เเทบหาไม่เจอ ผมจึงคิดมากเรื่องจัดการเครื่องเเต่งตัวให้เหมาะกับงาน
เเต่เเล้วพอไปถึงที่ธรรมศาสตร์เเล้ว เจอพี่เค้าทัก...
"เอ้าหนึ่ง กีตาร์เอาไว้ไหนหล่ะ เห็นดูตัวปลิวๆ"
ผมรีบตอบเเบบเนียนๆไปว่า
" อ๋อ กระบี่อยุ่ที่ใจครับพี่ "
เเต่ในใจนั้นคิดว่า เวรละตรู ทำไงดีฟระเวลาก็ใกล้มาเเล้ว
เอาย่อๆนะครับเป็นอันว่า.....
ก็เอาตัวรอดไปได้อีกงานจนได้ครับ ก็พอทนได้ในเเบบที่เห็น^^
จบเลวมากหักดิบสุดๆ...5555 เวลาผมหายไปไหนหมดนะนี่
สิ่งที่รู้สึกคือ...หนักใจเเต่สุขใจอย่างประหลาด กับผู้ทรงความรู้มากมายนี่หล่ะนะ
เราจะได้พูดในเเบบของเราเเล้ว....เย้ๆๆๆๆๆๆๆ
เเต่จะพูดคุยยังไงดีฟระ นั่นคือคำถามในใจตอนเเรก
"เเต่ชั้นก็คือชั้นนี่เเหละ อย่าคิดอะไร ให้ใจมันทำงานของมันซะ................"
นัยยะของ lennon จึงถูกขยายเล่าขานอีกครั้ง....โดยเจ้าบ้าคนนี้ในที่สุด
พอดีเปิดกล้องอัดไว้ก็เลยตัดตอนมาบางส่วนเล่าเรื่องที่เกิดขึ้น หวังว่าคงจะมีสาระประโยชน์บ้าง
เเล้วเจอกันอีกครับ มีตอนต่อนะดนตรีปิดประชุมนี้ ดูละจะฮา^^
อีกตอนนะครับตอนที่ 2
หนักใจเเต่สุขใจอย่างประหลาด?
กับผู้ทรงความรู้มากมายนี่หล่ะ... เราจะได้พูดในเเบบของเราเเล้ว....?
เเต่จะพูดคุยยังไงดีฟระ นั่นคือคำถามในใจตอนเเรก เเต่ชั้นก็คือชั้นนี่เเหละ อย่าคิดอะไร ให้ใจมันทำงานของมันซะ"
คราวนี้เหมือนต้องกล่าวปิดงานด้วยเสียงดนตรี
นักวิชาการ ดร. นักโน่นนี่สารพัดเเสดงความคิด ความเห็นกันไปเเล้ว
ชั้นจะเล่นอะไรออกไปได้ฟระเนี่ย?? ความกดดันน้อยๆทวีตัวมากขึ้นเมื่อใกล้ถึงเวลา
เเต่ชั้นรู้ ชั้นคือ ชั้นเองนี่เเหละ
เเล้วทุกสิ่งก็ผ่านไปอย่างน่าพอใจ^^
เเล้วเราก็ใช้ดนตรีของเราเเสดงความคิดเห็นได้^^ ดีใจที่ได้ทำอะไระดีๆเเบบนี้
อยากให้ได้ดูนะครับว่าเล่าเรื่องจบงานนั้นได้อย่างไร
ดีใจที่เป็นคนไทยที่มีพี่น้องรักชาติบ้านเมืองอย่างนี้
หลังจากเเสดงอะไรนั่นไปก็งานเข้าหล่ะครับ อะไรยังไง มีเวลาจะหนีมาเล่าสู่กันฟัง
เเล้วเจอกันอีกครับ ^^
ป.ล ปะติดปะต่อน่าดูครับ จริงๆเขียนไปลงที่อื่นไว้เเต่อยากเอามารวบรวมที่นี่ให้เป็นเรื่องราวต่อเนื่อง
ขอพลังจงอยู่คู่ท่านครับ พลังอำนาจอันยิ่งใหญ่ มาพร้อมความรับผิดชอบอันใหญ่ยิ่ง
หัทยา สงวนสิน