NimitGuitar webboard

ได้ความรู้เพิ่มอีกละครับ..

ผมเคยจะเอากีตาร์ไฟฟ้า มาใส่ท้ายรถ เอาเเต่ ตัวใส่อย่างเดียวนะครับ กะ จะให้ไม้มันเเห้ง

ปรากฏว่า โชคดี ได้ปรึกษาช่างก่อน เค้าบอกว่า นอกจากเเห้งเเล้ว ไม้จะบิด เเน่ๆ


ดีนะ เรายังไม่ได้ทำ 555 มะงั้น กลายเปน หนึ่งกีตาร์เบี้ยวเเน่เลย



ขอบคุณมาก สำหรับทุกคำเเนะนำ สาระดีๆ ครับ....

รับดูแลฟรี!ครับ...
ตามขั้นตอนของผู้ชำนาญการข้างบน เป๊ะเลย

ใครไม่ว่าง ไม่มีเวลา ดูแล เช็ดถู เบิร์น...ฝากได้ครับ
รับประกันกีต้าร์ไม่เปลี่ยนยี่ห้อแน่นอน

หน้าตาดี
ไม่ต้องมี
กีตาร์

pood Wrote:การดูแลรักษากีต้าร์นี่มีข้อมูลมากมายในเว้บฝรั่งครับแต่หลายคนอาจไม่สะดวกอ่าน อ่านไม่ออกยังไม่เท่าไหร่
แต่ถ้าอ่านออกแล้วแปลผิดนี่อาจถึงตายใด้ครับ ดังนั้นผมขอเล่าย่อฯก็แล้วกัน

อุณภูมิของอากาศไม่มีผลต่อกีต้าร์มากนัก แต่ที่มีผลแน่นอนคือความชื้นครับ อากาศที่แห้งไปมีผลเสียหายร้ายแรงกว่าอากาศที่ชื้นไป
มากมายหลายเท่าตัว

เรื่องอุณภูมินี่บ้านเราคงไมต้องห่วงเพราะมีแต่ร้อนกับร้อนมาก แต่ถ้าต้องจอดรถตากแดดทั้งวันก็ไม่ควรเอากีต้าร์ใส่ท้ายรถใว้นะครับ
ไม้น่ะไม่เป็นไรหรอกแต่อาจมีผลต่อแลกเก้อร์ใด้ไม่เชื่อก็ไปถามน้ากีต้าร์เก่าเรื่อง Martin D-41 ดูใด้

กีต้าร์ที่ชื้นไปนี่ไม้จะบวมครับ action จะสูงขึ้น top bracing อาจหลุด ถ้าเป็น Taylor นี่ตรง neck block จะบวมขึ้นจน fretboard
นูนขึ้นมาบริเวณ fret 12-14 intonation เละครับลองไปถามช่างดูได้เพราะเคยเจอมาทุกคนและซ่อมไม่ใด้ด้วยแต่เขาว่ารุ่นใหม่ฯแก้
ปัญหานี้แล้วนะครับ
เวลาอากาศชื้นอย่าทิ้งกีต้าร์ใว้ในรถทั้งคืนเพราะผมเคยมี Martin brace หลุดมาแล้วครั้งหนึ่ง โดนค่าซ่อมไปหลายสตางค์ครับ

เรื่องอากาศแห้งนี่อย่าคิดว่าอยู่เมืองไทยแล้วจะรอดนะครับ พวกกีต้าร์ที่นอนห้องแอร์นี่แหละอาจโดนปัญหานี้ เวลาอากาศแห้งเกินไปไม้มันจะหด
โดยมีอาการน้อยไปหามากดังนี้

1. ท้องยุบ....action จะต่ำลงจนเกิดอาการ buzz
2. Fretboard หด.....เอามือลูบดู fret จะโผล่ออกมาด้านข้างเพราะโลหะมันไม่หดตามไม้
3. Bridge เผยอ...... เพราะ bridge มันหดตัวในแนวตั้งฉากกับ top
4. Hairline crack...... อันนี้หนักสุดเพราะรอยแตกตามเกรนนี่แม้จะไม่มีผลต่อเสียงแต่มีผลต่อราคาแน่นอน

ปัญหาอากาศแห้งนี่จะเกิดขึ้นกับกีต้าร์ใหม่ฯมากกว่ากีต้าร์เก่าที่อายุเกินห้าปีครับ เวลาเราเปิดแอร์นี่มันจะดูดความชื้นออกไปด้วย
ใครไม่เชื่อก็ลองเอาถังไปรองตรงท่อน้ำทิ้งของแอร์ดูรับรองวันเดียวถังเต็ม กีต้าร์ที่อยู่ในห้องแอร์ไม่ควรวางโชว์นอกกล่องทั้งวัน
ถ้าจำเป็นเหมือนอย่างที่ร้านนครหลวงเขาจะเอาแก้วน้ำไปตั้งใว้ในตู้กระจกด้วย กีต้าร์ยิ่งแพงยิ่งแตกง่ายครับ

ถ้ากีต้าร์ของคุณเริ่มแสดงอาการเหล่านี้ก็รีบเก็บมันใส่กล่องแล้วเอา humidifier ยัดใว้ในกล่อง คอยเติมน้ำทุกสามวันประมาณไม่เกิน
หนึ่งหรือสองอาทิตย์อาการก็น่าจะหายไป ผมเคยมี Ovation ตัวหนึ่งเกิด hairline crack ด้านหลัง headstock เลยยัดใส่กล่องพร้อม
humidifier อาทิตย์เดียวรอยแตกก็หายไป

ผมไม่รู้เหมือนกันว่า humidifier มีขายที่ใหนแต่เวลาซื้อ Gibson ใหม่เขาแถมมาให้ครับ มันเป็นท่อยางกลมฯมีรูระบายด้านข้าง ข้างในท่อ
เป็นฟองน้ำมีจุกปิด ใครไม่มีจะลองทำเองดูก็ใด้

ถ้าน้าป้อปสองแสนอยากให้กีต้าร์สีเข้มขึ้นต้องเอามาตากแดดครับ อยู่นอกกล่องเฉยฯมันไม่เข้มขึ้นหรอก

จริงเหรอครับคือผมชักลังเลจะทำดีไหม ถ้าเป็นน้า pood นี่ผมเชื่อนะ อำผมหรือเปล่านี่ เดี๋ยว nng ผมเป็นไรไปผมจะมีชีวิตอยู่ต่อไปยังไงล่ะครับ เพราะมีอยู่ตัวเดียว อือๆ

ป๊อบต้องเอาข้อมูลของน้าปู๊ดไปพิจารณานะ
เรื่องประสพการณ์นี่สอนกันยาก

อย่าทำนะครับน้าป้อปสองแสน แดดบ้านเรามันแรงเดี๋ยวแลคเคอร์ละลายหมด
กีต้าร์ที่ไม้หน้าสีเข้มนี่เขาผสม vintage toner ใว้กับแลคเคอร์ตั้งแต่แรกแล้วครับ
จะเอามาทำเป็นกีต้าร์แดดเดียวที่หลังน่ะไม่มีใครเขาทำกันนอกจากพวกที่เขาอยู่เมือง
หนาว

1 ชม. 4 นาที น้าป๊อปคงยังเลใจอยู่...มิสายเกินไป

...ขอบคุณครับ.....ความรู้เต็มๆเลย

ผมว่าช่วงนี้กีตาร์เสียงดีเป็นพิเศษ อากาศเย็นหนาแน่นดีครับ อิอิ