NimitGuitar webboard

Full Version: หนีตามกาลิเลโอ : ดี-ไม่ดี อยู่ที่การตีค่า
You're currently viewing a stripped down version of our content. View the full version with proper formatting.
Pages: 1 2
Photobucket

ความเครียดและการงานที่บีบคั้นทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเล็กๆ ในเรื่องของรสนิยมการเลือกชมภาพยนตร์ ประมาณว่าขอดูอะไรง่ายๆ ฮาๆ ไม่กดดันมากและไม่ต้องคิดเยอะ พอเห็นโปสเตอร์ภาพยนตร์เรื่องนี้พูดถึง 3 เมืองสวยในยุโรป เลยคิดว่าไม่มีเวลาไปเองดูรูปเอาก็ยังดีวุ้ย ..ในที่สุดหนังเรื่องนี้ก็ขายตั๋วเพิ่มได้อีก 2 ใบ

เดินเข้าโรงหนังกวาดตาไปเห็นเด็กๆ ชายหญิงในชุดนักเรียน ทั้งเครื่องแบบ ม.ปลาย ทั้งที่ยังผูกคอซองอยู่ เล็กสุดน่าจะราวประถมซึ่งมากับผู้ปกครอง (กรณีนี้ไม่แนะนำเลยนะครับ..ไม่ได้กลัวเด็กจะร้องไห้กลับบ้านกลางเรื่องหรอก แต่การปลูกฝังให้ลูกรักการท่องเที่ยวแต่เยาว์วัยเป็นความเสี่ยงต่อเงินในกระเป๋าผู้ปกครองอย่างมาก 555) ดูแล้วทั้งโรงมีคนอายุรุ่นราวคราวเดียวกันหรือแก่กว่าไม่น่าเกิน 3 คน แอบตะหงิดๆ อยู่ว่าตัวเองมาผิดที่หรือเปล่าแต่ก็สายไปแล้ว ถึงขั้นนี้ต้องแอ๊บแบ๊วนั่งดูให้จบ

ในเรื่องวางบุคลิกสองสาวเพื่อนซี้ไว้แตกต่างกัน คนหนึ่งห่าม(เชอร์รี่) บางครั้งทำอะไรแหกกฎตามแบบฉบับเด็กอาร์ต มี convincing power สูง จนมักทำให้อีกคน(นุ่น)ที่ดูคุณหนูและอ่อนหวานกว่าคล้อยตามแม้บางเรื่องจะไม่ถูกต้อง ช่วงกลางเรื่องมีชายหนุ่มก้าวเข้ามาอีกคน(ตั้ม) นี่ก็ห่ามไม่แพ้เชอร์รี่ แต่สิ่งที่ต่างกันอย่างมากคือการไม่ทำผิดกฎหรือการยอมรับผลจากการกระทำผิดอย่างเต็มใจ จากความตั้งใจไปดูวิวขำๆ เลยได้อะไรติดมือกลับบ้านมานิดหน่อย

เมืองไทย...เชอร์รี่ เรียนดีแต่ถูกปรับตกเพราะปลอมลายเซ็นต์อาจารย์เพื่อเข้าไปใช้ห้องเขียนแบบ เธอถูกพักการเรียนและคิดว่าตัวเองไม่ผิด จึงชวนเพื่อนสาวที่เพิ่งอกหักหมาดๆ ไปทำงานหาเงินเที่ยวยุโรป

London...ร้านอาหารร้านแรกรับพนักงานเสิร์ฟแค่ 1 ตำแหน่ง เชอร์รี่จึงให้นุ่นทำก่อนแล้วตัวเองไปหาที่ใหม่

ข้อตกลงในการทำงานของเชอร์รี่คือ มาสาย-หักตังค์ น้ำหก-หักตังค์ แก้วแตก-หักตังค์ ไม่ยิ้มกับลูกค้า-หักตังค์ อะไรๆ ก็หักตังค์

คนไทยที่ทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาตต้องคอยหลบ ตม. อยู่เรื่อยๆ แต่ทั้งหมดก็ช่วยเหลือกันดี

สองสาวเกิดอยากหยุดงานไปเที่ยว(โดยไม่บอกนายจ้าง) 1 สัปดาห์ผ่านไป ทั้งสองคนโดนไล่ออก

Paris...การเงินของสองสาวเริ่มฝืดเคือง นำไปสู่ความเห็นที่แตกต่าง เพราะคนหนึ่งอยากกลับบ้าน แต่อีกคนไม่...

การอยู่ร่วมกับคนอื่นโดยไม่ปรับตัว ก็ทำให้ทั้งคู่เริ่มหงุดหงิดและมีปากเสียง แม้ว่าจะเป็นเพื่อนรักกัน

เชอร์รี่แทรกตัวผ่านเครื่องกั้นไปพร้อมนุ่นในขณะที่นุ่นกำลังสอดบัตรผ่านตามปรกติเพื่อไปขึ้นรถใต้ดิน นุ่นลองทำบ้างแต่เกือบถูกนายสถานีจับเพราะเห็นการกระทำจากกล้องวงจรปิด โชคดีที่หนีรอดมาได้

นุ่นเล่าเรื่องที่เกือบถูกจับให้ตั้มฟัง ตั้มบอกว่าถ้าตัวเองไม่อยากทำ ใครก็บังคับไม่ได้ นุ่นถามต่อว่าก็แล้วถ้าไม่มีเงินจะให้ทำยังไง คำตอบของตั้มคือ ..เดิน..ปารีสตอนกลางคืนสวยจะตาย

ตั้มอาศัยอยู่กับเพื่อนอีก 3-4 คนในที่ดินของรัฐบาลที่ไม่อนุญาตให้คนอยู่ เวลาเจ้าหน้าที่มาตรวจตั้มและพวกก็ไม่ได้หลบหนีแต่จ่ายเป็นค่าปรับครั้งละ 2,000 ยูโร เหตุผลที่ไม่หนีคืออยากอยู่ที่นี่ แต่ในเมื่อมันผิดระเบียบก็ต้องยอมจ่ายค่าปรับเอา

ตั้มบอกเชอร์รี่ว่าอาจารย์อาจจะทำเกินไปที่ปรับเกรดจาก A เป็น F แต่นั่นก็เพราะเชอร์รี่ทำผิดระเบียบ (ตามท้องเรื่อง การใช้ห้องเขียนแบบต้องได้รับอนุญาตอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรจากอาจารย์) ...เชอร์รี่ยังยืนยันว่าตัวเองไม่ผิด

เชอร์รี่โทร.หาพ่อ พ่อถามว่าหนาวมั้ย ใส่เสื้อหนาๆ ห่มผ้าอุ่นๆ ทะเลาะกับนุ่นหรือเปล่า... พ่อถามคำถามยอดนิยม ...เชอร์รี่น้ำตาไหล

Venice...สองสาวได้งานที่ร้านอาหารอิตาเลี่ยนด้วยความที่เจ้าของร้านชอบเมืองไทย แต่ทำงานวันแรกก็ถูกหักเงินเพราะเก็บเงินค่าอาหารได้ไม่ครบตามจำนวนกล่องที่ขายไป

อยากนั่งเรือกอนโดลาแต่ค่าบริการแพงจับใจ เชอร์รี่ออกอุบายโกงร้านอาหารในส่วนงานของนุ่น นุ่นขอสัญญาจากเชอร์รี่ว่าจะทำผิดเป็นครั้งสุดท้าย โชคร้ายเจ้าของร้านจับได้นุ่นจึงถูกส่งกลับเมืองไทย

เชอร์รี่ต้องฉลองคริสต์มาสอย่างเดียวดายและจมกับความรู้สึกผิดอยู่หลายเดือน

Pisa...ของขวัญวันเกิดของเชอร์รี่คือเธอแน่ใจว่านุ่นไม่ได้โกรธเธอแล้ว

เมืองไทย...อีกครั้ง...เชอร์รี่กลับมาสู้อ้อมกอดของครอบครัวรวมทั้งเพื่อนรัก ...ม่านปิดในขณะที่มิตรภาพเบ่งบาน...


v
v
v
คุยกับคนที่ไปดูด้วยกันก็พบว่าจุดสนใจขึ้นกับพื้นฐานของใครของมันจริงๆ จะหนัง หรือจะแฟน ถ้าคิดว่าไม่ดีแล้วมัวแต่มองข้อด้อยเราก็คงไม่รู้สึกว่ามีประโยชน์อะไร การตีค่าสิ่งต่างๆ ก็คงไม่หนีกฎธรรมชาตินี้ ...แต่ที่แน่ๆ หนังเรื่องนี้ดีตรงคนที่ไปดูด้วยกัน Tongue
อยากชวนผู้ปกครองไปดูจัง.....ท่าทางจะโรแมนติก(หรือเปล่า).. ^ ^
อยากไปดูครับ แต่ไม่ไมีใครไปดูด้วยอ่ะน้องมุก..ฮิ้วววววววววว! Big Grin
อยากไป...แต่ไม่มีคนไปด้วย....

หนีตามกาลิเลโอคนเดียวก็ได้(ฟะ)Sad
ตอนแรกก็อยากดูแต่พอหนูมุกมาเล่าพล้อตให้ฟังหมดเลยไม่ต้องไปดูแล้ว
(03-08-2009, 01:23)pop_250823 Wrote: [ -> ]อยากชวนผู้ปกครองไปดูจัง.....ท่าทางจะโรแมนติก(หรือเปล่า).. ^ ^

ก็มีบ้างครับ แต่สำหรับคนทำมาหาเที่ยวอย่างผมรู้สึกเหมือนเอาน้ำมันมาราดบนกองไฟให้นั่งไม่ติด office ซะแล้ว
(03-08-2009, 12:55)ยอดเยี่ยม69 Wrote: [ -> ]อยากไปดูครับ แต่ไม่ไมีใครไปดูด้วยอ่ะน้องมุก..ฮิ้วววววววววว! Big Grin
ผมยังว่างนะน้ายอดเยี่ยม ..แต่ผมคงไม่ไปกะน้าหรอก..ฮิ้วววววววว Tongue
(03-08-2009, 14:00)karn Wrote: [ -> ]อยากไป...แต่ไม่มีคนไปด้วย....

หนีตามกาลิเลโอคนเดียวก็ได้(ฟะ)Sad
บางทีไปคนเดียวก็สบายดีนะน้า อยากทำไรก็ทำ มะต้องเกรงจายครายยยย Wink
(03-08-2009, 14:39)pood Wrote: [ -> ]ตอนแรกก็อยากดูแต่พอหนูมุกมาเล่าพล้อตให้ฟังหมดเลยไม่ต้องไปดูแล้ว
ขอโทษด้วยค่ะ ..ตอนนั้นคิดอยู่นานเหมือนกันว่าควรจะเขียนประมาณไหนถึงจะเหมาะ เพราะบางคนก็ไม่ชอบรู้เรื่องก่อนไปดูด้วยตัวเอง แต่บางคนก็ชอบที่จะรู้เรื่องก่อน

คราวหน้าจะระวังไม่เฉลยเยอะจนหมดสนุกนะคะ Rolleyes
เริ่มแรกอยากไปดูเพราะตัวเอกทั้งคู่น่ารักมาก ใสๆ หน้าตาบ้องแบ๊ว
แต่ไปดูกลับมาแล้วก็รู้สึกดีนะคับ ตอนอายุเท่าตัวเอกของเรื่องก็อยากไปใช้ชีวิตแบบนั้นมั่ง แต่ไม่มีโอกาส
หนังบางเรื่องเราดูจบยังไม่รู้เลยว่ามันดีตรงไหน ดียังไง แต่ถ้าเดินยิ้มออกมาจากโรงหนังเพราะรู้สึกดี ผมจะสรุปว่าเป็นหนังที่ดี เพราะทำให้เรามีความสุขได้ หนังบางเรื่องผ่านไปหลายๆปี เรายังจดจำได้ ยิ่งแสดงว่า หนังเรื่องนั้นดีมากๆสำหรับเรา
พี่ stopดูแล้วหรอ?? เป็นไงมั่งพี่
ไปดูที่โรงหนังหรอค่ะ^^
น่าดูค่ะ เดี๋ยวไปหามาดูค่ะ^^
ใช่ครับ ไปดูที่โรงหนังครับ
สำหรับผม เป็นหนังที่น่ารักดีครับ (ถึงแม้ทางออกของตัวละครบางตอนจะไม่ค่อยถูกใจผมก็ตาม)
ตัวเอกของเรื่องทั้งสองคน แตกต่างกันที่บุคลิก แต่น่าีรักทั้งคู่ครับ
Wowwow^^
Pages: 1 2