14-06-2009, 14:49
เล่นพิเรนทร์
ปลายเดือนพฤษภาคม พ.ศ.2436 (ร.ศ.112) ทหารฝรั่งเศสที่ยึดครองเมืองวิญของญวน อ้างว่าเมืองคำเกิดคำมวน ซึ่งขณะนั้นอยู่ในอาณาเขตของไทย เป็นของญวน ขอให้ถอนกำลังทหารออกไป ข้าหลวงไทย ชื่อ พระยอดเมืองขวาง ไม่ยอม เกิดปะทะกันขึ้น เป็นชนวนบาดหมางระหว่างฝรั่งเศส กับไทยครั้งแรก
เจตนาฝรั่งเศส ต้องการหาเรื่องกับไทย เพื่อแย่งยึดดินแดนอยู่แล้ว จากกรณีพระยอดเมืองขวาง ฝรั่งเศสก็ส่งเรือรบสามลำ เข้าปากแม่น้ำเจ้าพระยา ฝ่าแนวป้องกันของทหารเรือที่ป้อมพระจุลเข้ามา ลอยลำจอดอยู่หน้าสถานทูตฝรั่งเศส
สำหรับคนไทย...นอกจากความแตกตื่นในอานุภาพของเรือรบฝรั่งเศส การที่เรือเหล็กลำใหญ่ลอยน้ำได้ ยังเป็นข้อที่น่าพิศวงรัฐบาล ออกแถลงการณ์ปลอบขวัญ มีความบางตอนว่า
"อย่าให้ชนทั้งหลายวิตกตื่นไปว่า จะมีการรบพุ่งอันตรายอันใดในกรุงเทพฯนี้เลย แลเรือรบที่เข้า
มาใหม่ ประสมกับลำเก่ารวมกันเป็นสามลำด้วยกันนี้ แม้ว่าจะเกิดอันตรายอันใด ก็ไม่อาจทำได้จริง ให้เป็นคุณแก่ฝรั่งเศสได้ กำลังในเรือรบทั้งสามนี้มีเพียงสามร้อยคนอย่างยิ่ง
ไหนเลยจะสามารถขึ้นมารุกรานต่อตีในหมู่ กลางประชุมทหารนี้"
แต่เบื้องหลังแถลงการณ์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ก็ได้เสด็จพระราชดำเนินตรวจตราพลทหารประจำซองในกรุงเทพฯทั่วไป และยังได้ตั้งหน่วยรบพิเศษรักษาพระนครขึ้น
หน่วยรบนี้เป็นทหารอาสาสมัครจากทหารรบฮ่อ จำนวน 1,800 คน ภายใต้การกำกับดูแลของ เจ้าพระยาสุรศักดิ์มนตรี ตั้งใจกันไว้ว่า ถ้าทหารฝรั่งเศสยกพลขึ้นบกเมื่อใด คงได้ยิงกันแหลก
ในขณะเดียวกัน ก็มีการเจรจากัน ฝรั่งเศสยื่นคำขาดฉบับที่ 1 กระทรวงต่างประเทศของไทยกำลังพิจารณา ก็ส่งคำขาดฉบับที่ 2 จนถึงคำขาดฉบับที่ 3 ทหารฝรั่งเศสยังไม่กล้าขึ้นบก เก็บตัวเงียบอยู่ในเรือ
บนฝั่งก็มีคนไทยผู้รักชาติมากมาย รวมตัวกันไปยืนตะโกนท้าทายทหารฝรั่ง บ้างก็ถกโสร่งเปิดของลับให้ บ้างชูกำหมัด บ้างก็กวัดแกว่งอาวุธเท่าที่หาได้ พร้อมทั้งด่าพ่อล่อแม่ และจำนวนไม่น้อยที่ถือว่าเก่งกล้าทางวิชาอาคม ก็ไปนั่งเสกเป่า ไม่มีใครหวั่นไหวกับเรือรบและปืนใหญ่ อาวุธแบบใหม่ในเรือฝรั่งเศสเลย
หลวงเมือง อ้างหลักฐานจากหนังสือ ปกิณกะในรัชกาลที่ 5 พิมพ์ในการทำบุญฉลองอายุครบ 80 ปี ของมหาเสวกเอก พระยาบุรุษรัตนราชวัลลภ (นพ ไกร-ฤกษ์) นพ.นวรัต ไกรฤกษ์ บุตรชายเรียบเรียงจากคำบอกเล่าของบิดา จัดพิมพ์เมื่อวันที่ 29 ธ.ค.2497 เก็บความได้ดังต่อไปนี้
ขุนนางผู้รักชาติทานหนึ่ง เป็นพระตำรวจหลวง มีราชทินนามว่า พระพิเรนทรเทพ เจ็บแค้นฝรั่งเศส จึงจัดตั้งหน่วยปฏิบัติการพิเศษ ด้วยการฝึกหัดคนในบ้าน ให้ดำน้ำทน เพื่อนำเครื่องมือไปเจาะท้องเรือ (เหล็ก) ข้าศึกให้จม
แต่เนื่องจากขาดหลักวิชาและไม่มีความชำนาญ มีแต่ความรักชาติและความเจ็บใจ จึงมีกำลังพลจมน้ำตาย
เวลาใครทำอะไรอุตริ แผลงๆ เลยเรียกว่า เล่นแบบพระพิเรนทร์ เล่นพิเรนทร์ในที่สุด
ที่มา บาราย-ไทยรัฐ
นั่งดื่มนั่งคุยกันในวงข้าวเหนียว มีน้องๆถามว่าทำไมถึงพูดว่า เล่นพิเรนทร์ เคยจำได้คลับคล้ายคลับคลา
เผอิญวันนี้ไปเจอมาพอดี เลยขอเอามาโพสต์ลงที่ สนทนาทั่วไป นี้นะครับ
ใครมีเรื่องพิเรนทร์ๆ หรือชอบทำตัวพิเรนทร์ๆ เชิญต่อยอดได้เลยจ้า
ปลายเดือนพฤษภาคม พ.ศ.2436 (ร.ศ.112) ทหารฝรั่งเศสที่ยึดครองเมืองวิญของญวน อ้างว่าเมืองคำเกิดคำมวน ซึ่งขณะนั้นอยู่ในอาณาเขตของไทย เป็นของญวน ขอให้ถอนกำลังทหารออกไป ข้าหลวงไทย ชื่อ พระยอดเมืองขวาง ไม่ยอม เกิดปะทะกันขึ้น เป็นชนวนบาดหมางระหว่างฝรั่งเศส กับไทยครั้งแรก
เจตนาฝรั่งเศส ต้องการหาเรื่องกับไทย เพื่อแย่งยึดดินแดนอยู่แล้ว จากกรณีพระยอดเมืองขวาง ฝรั่งเศสก็ส่งเรือรบสามลำ เข้าปากแม่น้ำเจ้าพระยา ฝ่าแนวป้องกันของทหารเรือที่ป้อมพระจุลเข้ามา ลอยลำจอดอยู่หน้าสถานทูตฝรั่งเศส
สำหรับคนไทย...นอกจากความแตกตื่นในอานุภาพของเรือรบฝรั่งเศส การที่เรือเหล็กลำใหญ่ลอยน้ำได้ ยังเป็นข้อที่น่าพิศวงรัฐบาล ออกแถลงการณ์ปลอบขวัญ มีความบางตอนว่า
"อย่าให้ชนทั้งหลายวิตกตื่นไปว่า จะมีการรบพุ่งอันตรายอันใดในกรุงเทพฯนี้เลย แลเรือรบที่เข้า
มาใหม่ ประสมกับลำเก่ารวมกันเป็นสามลำด้วยกันนี้ แม้ว่าจะเกิดอันตรายอันใด ก็ไม่อาจทำได้จริง ให้เป็นคุณแก่ฝรั่งเศสได้ กำลังในเรือรบทั้งสามนี้มีเพียงสามร้อยคนอย่างยิ่ง
ไหนเลยจะสามารถขึ้นมารุกรานต่อตีในหมู่ กลางประชุมทหารนี้"
แต่เบื้องหลังแถลงการณ์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ก็ได้เสด็จพระราชดำเนินตรวจตราพลทหารประจำซองในกรุงเทพฯทั่วไป และยังได้ตั้งหน่วยรบพิเศษรักษาพระนครขึ้น
หน่วยรบนี้เป็นทหารอาสาสมัครจากทหารรบฮ่อ จำนวน 1,800 คน ภายใต้การกำกับดูแลของ เจ้าพระยาสุรศักดิ์มนตรี ตั้งใจกันไว้ว่า ถ้าทหารฝรั่งเศสยกพลขึ้นบกเมื่อใด คงได้ยิงกันแหลก
ในขณะเดียวกัน ก็มีการเจรจากัน ฝรั่งเศสยื่นคำขาดฉบับที่ 1 กระทรวงต่างประเทศของไทยกำลังพิจารณา ก็ส่งคำขาดฉบับที่ 2 จนถึงคำขาดฉบับที่ 3 ทหารฝรั่งเศสยังไม่กล้าขึ้นบก เก็บตัวเงียบอยู่ในเรือ
บนฝั่งก็มีคนไทยผู้รักชาติมากมาย รวมตัวกันไปยืนตะโกนท้าทายทหารฝรั่ง บ้างก็ถกโสร่งเปิดของลับให้ บ้างชูกำหมัด บ้างก็กวัดแกว่งอาวุธเท่าที่หาได้ พร้อมทั้งด่าพ่อล่อแม่ และจำนวนไม่น้อยที่ถือว่าเก่งกล้าทางวิชาอาคม ก็ไปนั่งเสกเป่า ไม่มีใครหวั่นไหวกับเรือรบและปืนใหญ่ อาวุธแบบใหม่ในเรือฝรั่งเศสเลย
หลวงเมือง อ้างหลักฐานจากหนังสือ ปกิณกะในรัชกาลที่ 5 พิมพ์ในการทำบุญฉลองอายุครบ 80 ปี ของมหาเสวกเอก พระยาบุรุษรัตนราชวัลลภ (นพ ไกร-ฤกษ์) นพ.นวรัต ไกรฤกษ์ บุตรชายเรียบเรียงจากคำบอกเล่าของบิดา จัดพิมพ์เมื่อวันที่ 29 ธ.ค.2497 เก็บความได้ดังต่อไปนี้
ขุนนางผู้รักชาติทานหนึ่ง เป็นพระตำรวจหลวง มีราชทินนามว่า พระพิเรนทรเทพ เจ็บแค้นฝรั่งเศส จึงจัดตั้งหน่วยปฏิบัติการพิเศษ ด้วยการฝึกหัดคนในบ้าน ให้ดำน้ำทน เพื่อนำเครื่องมือไปเจาะท้องเรือ (เหล็ก) ข้าศึกให้จม
แต่เนื่องจากขาดหลักวิชาและไม่มีความชำนาญ มีแต่ความรักชาติและความเจ็บใจ จึงมีกำลังพลจมน้ำตาย
เวลาใครทำอะไรอุตริ แผลงๆ เลยเรียกว่า เล่นแบบพระพิเรนทร์ เล่นพิเรนทร์ในที่สุด
ที่มา บาราย-ไทยรัฐ
นั่งดื่มนั่งคุยกันในวงข้าวเหนียว มีน้องๆถามว่าทำไมถึงพูดว่า เล่นพิเรนทร์ เคยจำได้คลับคล้ายคลับคลา
เผอิญวันนี้ไปเจอมาพอดี เลยขอเอามาโพสต์ลงที่ สนทนาทั่วไป นี้นะครับ
ใครมีเรื่องพิเรนทร์ๆ หรือชอบทำตัวพิเรนทร์ๆ เชิญต่อยอดได้เลยจ้า
