NimitGuitar webboard

น้านิดเตรียมตัวไปเปิด concert ที่ใหนครับ เดี๋ยวผมช่วยจัดมาสมทบบ้างแล้วรอคำแนะนำจากคนอื่นด้วย
เพราะผมไม่ใด้จับเรื่อง PA มาตั้งแต่สมัยที่แอมป์ยังเป็นแอมป์หลอดอยู่เลย

1. แอมป์ Crown CE-1000 มันขับใด้ทั้งสองคู่นะครับเพราะกำลังมันขึ้นมาเป็น 560 watts@ 2 ohms
แต่งานนี้เอามาคู่เดียวก็เหลือแล้วครับ

2. งานเล็กแค่นี้ใช้ 1202 ตัวเดียวพอมั้งครับ ใหญ่ไปเดี๋ยวไม่มีที่วาง ภาคปรีของไมค์เราก็ไม่ใด้ใช้อยู่แล้วเพราะ
นอกจาก Presonus Blue Tube ของน้านิด ผมยังมี microphone processor อีกสองตัวคือ DBX 286
และ DBX Pro Vocal งานนี้คงใช้ไมค์ร้องไม่เกินสามตัวเพราะกลัวมันหอน และใช้ช่อง line in อีกสี่ช่องสำหรับ
แอมป์กีต้าร์สองตัว แอมป์เบสหนึ่งตัว กลองไฟฟ้าหนึ่งตัว และมีแอมป์กีต้าร์ไฟฟ้าอีกหนึ่งตัวที่ไม่มี line out แต่ใช้
ไมค์จ่อเอาใด้ตอนเล่น คอยนับสายแจ้คใว้ด้วยครับว่าใช้กี่เส้น ถ้าไม่พอจะใด้ยืมพวกน้าฯ

3. ลำโพง monitor นี่เราใช้สำหรับคนร้องอย่างเดียวเลย ผมว่าไม่จำเป็นเท่าไหร่สำหรับผมแต่กลัวโดนพวกร้องนุ่มฯ
อย่างน้า Call ด่าว่าไม่ใด้ยินเสียงตัวเอง ลองเซ็ทแบบไม่ใช้ดูก่อนก็ใด้เพราะเวที่ที่ร้านไม่มีขอบกั้น เดี๋ยวพวกซุ่มซ่ามจะ
เตะตกลงมากระแทกพื้น

4. เจ้า effect MX200 นี่มันยี่ห้อ Lexicon ใข่ใหมครับ ถ้าใช่ผมปรับไม่เป็นหรอก

5. เจ้า DBX 266XL นี่เอามา patch ระหว่าง Blue Tube กับ mixer ใด้เลยครับ ส่วนเจ้า
DBX สองตัวของผมนั้นมันมี compressor ในตัวอยู่แล้ว เราบีบมันแต่ไมค์ก็พอเพราะมันง่าย
ดี หมั่นใส้ใครก็บีบให้หน้าเขียวเลย

6. ไมค์ร้องผมมีของแท้สามตัวคือ Shure Beta 58 สองตัวและ Shure SM 86 ที่หลานเพิ่งหิ้วมาให้
จากอเมริกาหนึ่งตัว ใช้ phantom power ตัวเดียวครับ

ระบบเสียงของน้านิดนี่อย่าเอาไปเทียบกับร้านที่ซอยทองหล่อเลยครับ เทียบกับ Impact Arena ค่อยสูสีหน่อย
แต่เรื่อง set up นี่หามืออาชีพมาช่วยดีกว่า คุณ Yodchula ช่วยแนะนำด้วยครับ

ไม่มีครับ เจ้าพวกไร้สายนี่มันกินแบต จะมีสมาชิกขาพิการมาร่วมงานด้วยหรือครับ
(ถ้าเจอ wireless mic เข้าไปอีกสองช่อง mixer ตัวเล็กอาจไม่พอหรอกครับ
feedback resistance ของระบบลดลงไปอีก 6 dB. ผมกลัวมันหอนครับ)

และแล้วกระทู้นี้ก็ได้แสดงออกถึงการตระเตรียมงานในส่วนที่สำคัญที่สุดส่วนหนึ่งก็ว่าได้
ผมเลยมีความรู้สึกว่าการปรับเครื่องเสียงนี่ต้องใช้ความรู้ และประสบการณ์ไม่ใช่เล่นทีเดียว
อุปกรณ์และศัพท์แต่ละตัวที่น้ากฤษณ์ หรือ น้า nit gt หรือ น้ายอดเอ่ยถึง ผมไม่เคยได้ยินเลย
นับว่าเป็นข้อมูลที่แม้เป็นการคุยเพื่อปรึกษาแต่นั่นมันเป็นข้อมูลและสิ่งที่ต้องคำนึงถึงอย่างมากเลยทีเดียว
ผมรู้สึกขอบคุณบ้านสีฟ้าที่ชักนำให้ผมได้รู้จักสมาชิกเหล่านี้

คุณ Yodchula มาแนะนำ จะเนียนมากเลยครับ....ระดับเจ้าพ่อห้องอัด!!!

การสัมภาษณ์สมาชิกถึงที่โต๊ะรับประทานอาหารเป็นการไม่เสียเวลาในการฟังเพลงของเพื่อนสมาชิก
แต่ไมค์ WIRELESS คงจะเป็นอย่างที่พี่กฤษณ์ว่ามาครับ
(อันที่จริงผมก็มีอยู่แต่คุณภาพไม่ถึงหมื่น ซื้อที่ร้าน Lucky Music)
ซึ่งถ้าเป็นเช่นนี้ก็ต้องยอมเสียเวลาแนะนำตัวกันบนเวทีซักเล็กน้อยนะครับ

ผมว่าดีน่ะครับเพื่อความคล่องตัว เรื่องfeedback ลองให้ท่านผู้ชำนาญช่วยน่าจะหาทางออกได้ เช่น การวางตำแหน่งของลำโพง หรือมี EQ ตัดความถี่บางความถี่ออกไปที่มีผลทำให้เกิดfeedback(ไม่รู้ผมเข้าใจถูกหรือเปล่า)
...เพราะคนคงเยอะมากๆเบียดเสียดกันเสื้ือแทบขาด..กว่าจะแหวกฝูงชนออกมา
(โดยมี Gaurd คุ้มกันมาทั้งสองข้าง)แล้วมาให้สัมภาษณ์บนเวทีพี่คิดดูใช้เวลามากน่ะ ผมว่า......

น้า ๆ เตรียมงานกันใหญ่เลยครับ งานนี้เป็นงานขึ้นบ้านใหม่ด้วยหรือเปล่าครับ

เรื่อง feedback นี่ผมหวังว่าถ้าเราไม่เล่นกันดังมากคงหลีกเลี่บงใด้ครับ
ผมเคยใช้วิธี ringing คือกวาดไมค์ไปมาแล้วเพิ่ม master gain ไปเรื่อยจน
จนมีเสียงใกล้หอน พอใด้เสียงนี้ที่เรียกว่า ringing ก็ไปลดความที่เจ้าปัญหา
ที่ graphic EQ แต่คราวนี้ใช้ไม่ใด้เพราะเราไม่มี graphic EQ ซักกะตัว

เรื่อง wireless นี่ผมกลัวตอนที่เดินเอาไมค์เดินไปใกล้ลำโพงครับ ถ้าเรามี sound man
นั่งคุม console ตลอดก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่เราคงไม่มีแน่นอน แต่ถ้าใช้ช่วง break แล้วปิด
ไมค์อื่นหมดก็น่าจะโอเคนะครับ

เรื่องแอมป์กีต้าร์ผมเอา AER Compact 60/2 ไปใด้ แอมป์เบสผมมี Fender Bassman 100
รุ่นล่าสุด แอมป์กีต้าร์ไฟฟ้าคุณหนึ่งจะยก Fender Bronco ไปช่วยแต่ต้องใช้ไมค์จ่อครับ คุณยอดเยี่ยม
น่าจะเอา Roland AC-60 ไปช่วยใด้อีกตัวแต่ไม่รู้ขายไปแล้วหรือยัง กีต้าร์ที่เหลือคงต้องต่อตรงเข้า Mixer
ครับ ลองนับช่องดูเองครับเพราะถ้ารวม wireless อีกสองตัวคงต้องใช้ 16 channels จะเหมาะกว่า

ผมอาจจะได้ลองฟัง Sound กีตาร์ จาก Roland AC-60 แล้วซินี่