06-05-2009, 21:57
ไหนๆ หน้าร้อนก็กำลังจะผ่านไปแล้ว ขอเขียนถึงทะเลซักนิดนึงนะคะ
collection นี้เป็นของฝากจาก diving trip ที่อันดามันใต้ แต่ต้องขออภัยที่ไม่มีภาพใต้น้ำเพราะตากล้องยังมือใหม่หัดดำ ขอเน้นประคองตัวให้ไม่ทำร้ายสรรพสิ่งนานาใต้น้ำได้อย่างสมบูรณ์ก่อนก็แล้วกัน
เราบินจากสุวรรณภูมิไปลงเรือที่ภูเก็ตตั้งแต่คืนวันที่ 18 มีนา พอเช้าวันที่ 19 เรือ Scubanet ของครูจุ๋มแห่งมนุษย์กบไทยก็พาเราถึงเกาะห้า ซึ่งอยู่ในเขตจังหวัดกระบี่ dive แรกจัดเป็น dive ซ้อมมือสำหรับคนที่ดำน้ำนานทีปีหน(อย่างฉัน) ก่อนไปต่อกันที่หินม่วง-หินแดง และปิดท้ายด้วย "โพล้เพล้ dive" ที่เกาะรอกนอก วันแรกจึงยังไม่มีภาพมาฝากเพราะยังเหนื่อยๆ และกว่าจะอาบน้ำสระผมเรียบร้อยพระอาทิตย์จึงบ๊ายบายกันไปเสียก่อน ยังไงก็ตาม รางวัลปลอบใจชิ้นใหญ่สำหรับการพลาดบรรยากาศยามเย็น คือปลากระเบนราหูตัวยักษ์ที่แสนสวยและช่างคุ้นเคยกับมนุษย์กบราวกับรู้จักกันมานาน วันนี้เราพบเขาที่หินแดงค่ะ ตัวนี้สวยมากเพราะลายบนหลังก็สวย ท้องก็ขาวปลอดไร้รอยแผลหรือตำหนิใดๆ แถมยังใจดีว่ายวนมาเล่นกับพวกเราอีกต่างหาก ถ้า dive ต่อๆ ไปได้เจอฉลามวาฬอีกละก็...กรี๊ดสลบแน่ๆ
วันที่ 20 เราลงใต้มาถึงเขตตะรุเตาแล้ว สรุปว่าได้กดภาพจากมือถือเป็นครั้งแรกในเย็นนี้เองเนื่องจากเรางดโพล้เพล้ dive เพื่อเตรียมตัวสำหรับ night dive ที่อ่าว apple เรือจึงไปลอยลำรอฤกษ์อยู่นานพอที่จะชื่นชมกับแสงและฟ้าสวยๆ ได้จุใจ
ทุกภาพถ่ายจากกล้องที่ติดมากับมือถือ Sony W595 และผ่านการ resize & sharpen ตามปกติของการลดขนาดภาพทั่วไปค่ะ
V คืนนี้เราจะดำน้ำกันที่นี่ ตอนเย็นเป็นแบบนี้ ตอนกลางคืนจะเป็นแนวไหนนึกภาพไม่ออกเลย แต่ไหนๆ มาแล้วก็ต้องลองดูหน่อย
V ด้านตรงข้ามกับพระอาทิตย์ฟ้าสวยเหมือนภาพวาดสีน้ำเลย
V มีเสียงแว่วมาจากข้างล่างว่า "อาหารพร้อมแล้ว..." นั่นแปลว่าหมดเวลาดื่มด่ำ เพราะถ้าทานข้าวช้าไป อาจมีการให้อาหารปลายามค่ำเมื่อลง night dive ได้ ..ลากันด้วยแสงสวยๆ อย่างนี้ค่ะ..
สองวันแรกที่หินม่วง-หินแดงและชายขอบตะรุเตา อุตส่าห์ดีใจว่าไม่เจอฝนทั้งๆ ที่ช่วงนี้มรสุมกำลังมาเยือน พอเที่ยงคืนวันที่ 20 มีนา ฝนก็ดันตกซะได้แล้วก็ลากยาวมาจนถึงเช้า (จริงๆ ไม่รู้หรอกว่าตกเพราะหมดแรงหลับไปนานแล้ว แต่ลูกเรือบอกมา :-P ) ดังนั้นภาพยามเช้าวันที่ 21 จึงมีเพียง dinky ในสายฝน ขอบอกว่าภาพนี้ dinky ดูสีสดใสขึ้นผิดหูผิดตาทั้งที่ของจริงก็มอมแมมใช่ย่อย ..สถานการณ์สร้างวีรบุรุษจริงๆ 555
V อากาศแบบนี้ เล่นเอานักดำน้ำทุกคนนั่งรอด้วยใจหวังเลยนะเนี่ย โชคดีที่ฝนหยุดจึงได้ดำครบทุก dive
คุณครูตัดสินใจเปลี่ยนไปดำน้ำที่ "ปะลัย" ก่อนเพราะฟ้าเปิดมากกว่า แล้วจึงย้อนกลับมาแก้มือที่ "Scubanet Terrace" และ "สาวัง" ปิดท้ายด้วย "หินซ้อน" ...แม่เจ้า !!! ปะการังอ่อนถิ่นใต้นี่งามสุดใจขาดดิ้น บางที่เป็นกำแพงปะการังขนาดยักษ์ บางที่ก็เป็นลานขนาดใหญ่ ทั้งสีสันและความสมบูรณ์ทำเอามือใหม่อย่างฉันแอบเครียดเล็กน้อย เพราะกลัวไปทำร้ายธรรมชาติด้วยความอ่อนหัดของตัวเอง เวลารู้สึกว่าเตะ fin ไปโดนอะไรสักทีหนึ่งจะเหมือนคนประสาทเสีย นึกว่าเตะโดนปะการังทั้งๆ ที่มักจะเป็นการเตะถูกเพื่อนที่ว่ายตามๆ กันมาซะมากกว่า เวลาดูสัตว์ทะเลตัวจ้อย ก็ต้องลอยตัวอยู่เหนือลานปะการังให้สูงๆ เข้าไว้ ยอมมองเห็นเจ้าจิ๋วทั้งหลายลำบากหน่อย ดีกว่าเผลอไปแตะต้องของสวยๆ เหล่านั้นให้เขาเสียหาย ..ไว้ให้เชี่ยวก่อนเถอะน้อง พี่จะลงไปดูใกล้ๆ แบบหายใจรดต้นคอเลย ^__^
แห้วแสงเช้าของวันที่ 21 ไป วันที่ 22 ก็หมายมั่นว่าจะต้องเอาให้ได้ (เวลาทำงานที่บริษัทไม่เห็นมุ่งมั่นอย่างนี้แฮะ -*- ) วันนี้เรากลับขึ้นเหนือมาอยู่แถวเขตจังหวัดกระบี่อีกครั้ง โชคดีที่ฟ้าเปิดเลยไม่ต้องลุ้นเหมือนเมื่อวาน คราวนี้ได้รูปส่งไปให้คุณพ่ออิจฉาเล่นซะด้วย ปีนี้ต้องได้รางวัลลูกกตัญญูแน่นอน
V พระจันทร์ยังอยู่
V เมฆสีชมพูหวานเจี๊ยบ
V เป็น morning exercise ที่วิวดีสุดๆ
22 มีนาคม หลังจบ dive แรกขอวันที่เกาะห้าเหนือ ก็ขึ้นเหนือมาปิดท้าย trip นี้ด้วย OTOP ของภูเก็ตอย่าง "Shark Point" และ "เกาะดอกไม้" ระหว่างทางฟ้าเปิดโล่งแม้จะมีเมฆมาก แต่ก็เป็นเมฆรูปร่างสวยๆ การถ่ายรูปจึงเป็นกิจกรรมที่ดีอีกอันหนึ่งระหว่างพัก dive
V เหมือนเรือโผล่ออกมาจากหมู่เมฆ
dive สุดท้ายผ่านไปโดยที่เราไม่ได้พบหน้าฉลามวาฬ ฝนตั้งเค้าอีกครั้งและทำให้พวกเราได้เฮกับรุ้งกินน้ำตัวหญ่ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย (ถ้าจะใหญ่จริงนะเนี่ย) เมื่อถึงภูเก็ต คุณครู dive leader และพวกเราบางคนต้องไปขึ้นรถทัวร์คืนนั้นเลย ส่วนฉันยังได้อิ่มอร่อยกับอาหารและขนมฝีมือครูจุ๋มต่ออีกคืนหนึ่งเพราะจะบินกลับเช้าวันรุ่งขึ้น ปั๊มเงินได้ครบเมื่อไรคงได้เจอกันอีก
V ภาพนี้ถ่ายสองครั้งแล้วต่อภาพด้วยโปรแกรมพาโนรามือ..อิอิ..
![[Image: DSC00219220m.jpg]](http://i301.photobucket.com/albums/nn67/myakira/Tarutao_18-23%20Mar%2009/DSC00219220m.jpg)
เจ้านายฝรั่งไม่รักดีคนที่เคยพาไปดูปู่ Tommy อยากรู้ว่าหน้าตาเรือที่เราไปนั้นเป็นอย่างไร ได้มาตรฐานอย่างที่ควรจะเป็นไหม เลยเก็บภาพบางส่วนกลับมาฝากเจ้านายพร้อมหลักฐานที่ไปเจอ Manta Ray เพื่อเป็นการตอกย้ำว่าเจ้านายพลาดอะไรไป (merit ปีนี้กระฉูดแน่นอน 5555)
ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว เอามา post เผื่อคนอื่นด้วยเลยแล้วกัน จะได้เห็นภาพว่าเรือที่พาเราไปดื่มด่ำบรรยากาศใต้ทะเลนั้นหน้าตาประมาณไหน ไปลอยคออยู่หลายวันจะเบื่อมั้ย อาหารการกินจะอุดมสมบูรณ์หรือเปล่า วันๆ ทำอะไรกันบ้าง เห็นแล้วอาจภูมิใจลึกๆ ว่าประเทศไทยก็มีเรือมาตรฐานสากลกับเค้าเหมือนกัน
เริ่มด้วยคลังแสงท้ายเรือ ด้านหนึ่งเป็นที่แขวน wet suit หน้ากาก วางถังอากาศและเข็มขัดตะกั่ว อีกด้านหนึ่งวางถังอากาศ ตีนกบ และถังน้ำจืดสำหรับแช่กล้อง จากมุมนี้จะเห็นลูกเรือที่น่ารักกำลังล้างถ้วยชามเพื่อให้พวกเรามีภาชนะสะอาดๆ ใช้ตลอดเวลาที่อยู่บนเรือค่ะ เวลาเราจะลงน้ำพวกเขาก็จะช่วยอำนวยความสะดวกในการใส่อุปกรณ์ต่างๆ รวมทั้งอำนวยความสะดวกอื่นๆ ตั้งแต่เรื่องเล็กไปจนถึงเรื่องใหญ่เลย ยังไงก็อย่าลืมเตรียม tip เล็กๆ น้อยๆ ติดไม้ติดมือไปให้พวกเขาด้วยนะคะ
V ราวตากผ้าชั้นยอด ถ้าฝนไม่ตกรับรองว่าแห้งแน่นอน แต่ถ้าไม่เอาไม้หนีบผ้าหนีบไว้ให้แน่นๆ ก็รับรองว่าปลิวหายแน่นอนเช่นกันค่ะ 55555
V กิจกรรมยามพัก dive วันนั้นมีการเปิดชั้นเรียนสีน้ำสำหรับคนที่ยังมีแรงเหลือค่ะ นอกนั้นก็อ่านหนังสือ ชมวิว ดูหนัง ฟังเพลง ตามประสา และพวกที่หมดแรงก็หลับกันไป
เป็นที่รู้กันในวงดำน้ำว่าขนมฝีมือครูจุ๋มแห่งมนุษย์กบไทยนั้นอร่อยเกินห้ามใจ อาหารบนเรือก็สุดยอด ใครที่หวังจะไป diet ด้วยการดำน้ำกับครูจุ๋มขอให้คิดใหม่ได้เลยค่ะ (กระซิบอีกนิดว่าคุณครูมักจะทำ Blueberry Creamcheese Pie ให้ทานหลังจากดำ dive สุดท้ายจบเพราะในวันสุดท้ายตู้เย็นจะว่างพอให้แช่พายได้แล้ว แต่พวกเราก็ไม่มีโอกาสได้ย่อยเจ้าพายแสนอร่อยนี่อีกแล้วเช่นกัน ..เฮ้อ..คิดแล้วก็กินซะ 2 ชิ้น)
V ขนมฝีมือครูจุ๋ม ..นี่แค่ตัวอย่างนะ..
บนเรือมีเครื่องดื่มร้อน-เย็นบริการเสร็จสรรพ ..อ้อ..trip นี้ได้ทานปลาดิบด้วยค่ะ เพราะมีอยู่คืนหนึ่งที่เรือเขาตกปลาซึ่งเหมาะกับการทำปลาดิบได้ ทั้งวาซาบิและโชยุก็มีพร้อมบนเรือเช่นกัน
V มุมของอร่อย
เพื่อเป็นการเตือนความจำและเพื่อประโยชน์ในการดำน้ำบางแห่งซึ่งต้องการประสบการณ์สูง การเขียน dive log จึงเป็นเรื่องจำเป็น เขียนเสร็จแล้วต้องประทับตราของเรือและให้ dive leader ลงนามกำกับด้วยนะคะ ถึงจะใช้เป็นพยานในศาลได้..ว่าเข้าไปนั่น 555
V เขียน dive log
V ไม่มีกล้องถ่ายภาพใต้น้ำก็วาดมันด้วยมือนี่หละค่ะ ดูดีๆ จะเห็น Manta Ray ลายสวยที่เจอแถวหินแดง ชมภาพจริงได้ที่ website ของมนุษย์กบไทยนะคะ
ดูภาพและหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่ค่ะ
http://www.thaiseafrog.com/final/view.ph...0%20แมนต้า
http://www.thaiseafrog.com/final/view.ph...อแจมด้วยคน
collection นี้เป็นของฝากจาก diving trip ที่อันดามันใต้ แต่ต้องขออภัยที่ไม่มีภาพใต้น้ำเพราะตากล้องยังมือใหม่หัดดำ ขอเน้นประคองตัวให้ไม่ทำร้ายสรรพสิ่งนานาใต้น้ำได้อย่างสมบูรณ์ก่อนก็แล้วกัน
เราบินจากสุวรรณภูมิไปลงเรือที่ภูเก็ตตั้งแต่คืนวันที่ 18 มีนา พอเช้าวันที่ 19 เรือ Scubanet ของครูจุ๋มแห่งมนุษย์กบไทยก็พาเราถึงเกาะห้า ซึ่งอยู่ในเขตจังหวัดกระบี่ dive แรกจัดเป็น dive ซ้อมมือสำหรับคนที่ดำน้ำนานทีปีหน(อย่างฉัน) ก่อนไปต่อกันที่หินม่วง-หินแดง และปิดท้ายด้วย "โพล้เพล้ dive" ที่เกาะรอกนอก วันแรกจึงยังไม่มีภาพมาฝากเพราะยังเหนื่อยๆ และกว่าจะอาบน้ำสระผมเรียบร้อยพระอาทิตย์จึงบ๊ายบายกันไปเสียก่อน ยังไงก็ตาม รางวัลปลอบใจชิ้นใหญ่สำหรับการพลาดบรรยากาศยามเย็น คือปลากระเบนราหูตัวยักษ์ที่แสนสวยและช่างคุ้นเคยกับมนุษย์กบราวกับรู้จักกันมานาน วันนี้เราพบเขาที่หินแดงค่ะ ตัวนี้สวยมากเพราะลายบนหลังก็สวย ท้องก็ขาวปลอดไร้รอยแผลหรือตำหนิใดๆ แถมยังใจดีว่ายวนมาเล่นกับพวกเราอีกต่างหาก ถ้า dive ต่อๆ ไปได้เจอฉลามวาฬอีกละก็...กรี๊ดสลบแน่ๆ
วันที่ 20 เราลงใต้มาถึงเขตตะรุเตาแล้ว สรุปว่าได้กดภาพจากมือถือเป็นครั้งแรกในเย็นนี้เองเนื่องจากเรางดโพล้เพล้ dive เพื่อเตรียมตัวสำหรับ night dive ที่อ่าว apple เรือจึงไปลอยลำรอฤกษ์อยู่นานพอที่จะชื่นชมกับแสงและฟ้าสวยๆ ได้จุใจ
ทุกภาพถ่ายจากกล้องที่ติดมากับมือถือ Sony W595 และผ่านการ resize & sharpen ตามปกติของการลดขนาดภาพทั่วไปค่ะ
V คืนนี้เราจะดำน้ำกันที่นี่ ตอนเย็นเป็นแบบนี้ ตอนกลางคืนจะเป็นแนวไหนนึกภาพไม่ออกเลย แต่ไหนๆ มาแล้วก็ต้องลองดูหน่อย
V ด้านตรงข้ามกับพระอาทิตย์ฟ้าสวยเหมือนภาพวาดสีน้ำเลย
V มีเสียงแว่วมาจากข้างล่างว่า "อาหารพร้อมแล้ว..." นั่นแปลว่าหมดเวลาดื่มด่ำ เพราะถ้าทานข้าวช้าไป อาจมีการให้อาหารปลายามค่ำเมื่อลง night dive ได้ ..ลากันด้วยแสงสวยๆ อย่างนี้ค่ะ..
สองวันแรกที่หินม่วง-หินแดงและชายขอบตะรุเตา อุตส่าห์ดีใจว่าไม่เจอฝนทั้งๆ ที่ช่วงนี้มรสุมกำลังมาเยือน พอเที่ยงคืนวันที่ 20 มีนา ฝนก็ดันตกซะได้แล้วก็ลากยาวมาจนถึงเช้า (จริงๆ ไม่รู้หรอกว่าตกเพราะหมดแรงหลับไปนานแล้ว แต่ลูกเรือบอกมา :-P ) ดังนั้นภาพยามเช้าวันที่ 21 จึงมีเพียง dinky ในสายฝน ขอบอกว่าภาพนี้ dinky ดูสีสดใสขึ้นผิดหูผิดตาทั้งที่ของจริงก็มอมแมมใช่ย่อย ..สถานการณ์สร้างวีรบุรุษจริงๆ 555
V อากาศแบบนี้ เล่นเอานักดำน้ำทุกคนนั่งรอด้วยใจหวังเลยนะเนี่ย โชคดีที่ฝนหยุดจึงได้ดำครบทุก dive
คุณครูตัดสินใจเปลี่ยนไปดำน้ำที่ "ปะลัย" ก่อนเพราะฟ้าเปิดมากกว่า แล้วจึงย้อนกลับมาแก้มือที่ "Scubanet Terrace" และ "สาวัง" ปิดท้ายด้วย "หินซ้อน" ...แม่เจ้า !!! ปะการังอ่อนถิ่นใต้นี่งามสุดใจขาดดิ้น บางที่เป็นกำแพงปะการังขนาดยักษ์ บางที่ก็เป็นลานขนาดใหญ่ ทั้งสีสันและความสมบูรณ์ทำเอามือใหม่อย่างฉันแอบเครียดเล็กน้อย เพราะกลัวไปทำร้ายธรรมชาติด้วยความอ่อนหัดของตัวเอง เวลารู้สึกว่าเตะ fin ไปโดนอะไรสักทีหนึ่งจะเหมือนคนประสาทเสีย นึกว่าเตะโดนปะการังทั้งๆ ที่มักจะเป็นการเตะถูกเพื่อนที่ว่ายตามๆ กันมาซะมากกว่า เวลาดูสัตว์ทะเลตัวจ้อย ก็ต้องลอยตัวอยู่เหนือลานปะการังให้สูงๆ เข้าไว้ ยอมมองเห็นเจ้าจิ๋วทั้งหลายลำบากหน่อย ดีกว่าเผลอไปแตะต้องของสวยๆ เหล่านั้นให้เขาเสียหาย ..ไว้ให้เชี่ยวก่อนเถอะน้อง พี่จะลงไปดูใกล้ๆ แบบหายใจรดต้นคอเลย ^__^
แห้วแสงเช้าของวันที่ 21 ไป วันที่ 22 ก็หมายมั่นว่าจะต้องเอาให้ได้ (เวลาทำงานที่บริษัทไม่เห็นมุ่งมั่นอย่างนี้แฮะ -*- ) วันนี้เรากลับขึ้นเหนือมาอยู่แถวเขตจังหวัดกระบี่อีกครั้ง โชคดีที่ฟ้าเปิดเลยไม่ต้องลุ้นเหมือนเมื่อวาน คราวนี้ได้รูปส่งไปให้คุณพ่ออิจฉาเล่นซะด้วย ปีนี้ต้องได้รางวัลลูกกตัญญูแน่นอน
V พระจันทร์ยังอยู่
V เมฆสีชมพูหวานเจี๊ยบ
V เป็น morning exercise ที่วิวดีสุดๆ
22 มีนาคม หลังจบ dive แรกขอวันที่เกาะห้าเหนือ ก็ขึ้นเหนือมาปิดท้าย trip นี้ด้วย OTOP ของภูเก็ตอย่าง "Shark Point" และ "เกาะดอกไม้" ระหว่างทางฟ้าเปิดโล่งแม้จะมีเมฆมาก แต่ก็เป็นเมฆรูปร่างสวยๆ การถ่ายรูปจึงเป็นกิจกรรมที่ดีอีกอันหนึ่งระหว่างพัก dive
V เหมือนเรือโผล่ออกมาจากหมู่เมฆ
dive สุดท้ายผ่านไปโดยที่เราไม่ได้พบหน้าฉลามวาฬ ฝนตั้งเค้าอีกครั้งและทำให้พวกเราได้เฮกับรุ้งกินน้ำตัวหญ่ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย (ถ้าจะใหญ่จริงนะเนี่ย) เมื่อถึงภูเก็ต คุณครู dive leader และพวกเราบางคนต้องไปขึ้นรถทัวร์คืนนั้นเลย ส่วนฉันยังได้อิ่มอร่อยกับอาหารและขนมฝีมือครูจุ๋มต่ออีกคืนหนึ่งเพราะจะบินกลับเช้าวันรุ่งขึ้น ปั๊มเงินได้ครบเมื่อไรคงได้เจอกันอีก
V ภาพนี้ถ่ายสองครั้งแล้วต่อภาพด้วยโปรแกรมพาโนรามือ..อิอิ..
เจ้านายฝรั่งไม่รักดีคนที่เคยพาไปดูปู่ Tommy อยากรู้ว่าหน้าตาเรือที่เราไปนั้นเป็นอย่างไร ได้มาตรฐานอย่างที่ควรจะเป็นไหม เลยเก็บภาพบางส่วนกลับมาฝากเจ้านายพร้อมหลักฐานที่ไปเจอ Manta Ray เพื่อเป็นการตอกย้ำว่าเจ้านายพลาดอะไรไป (merit ปีนี้กระฉูดแน่นอน 5555)
ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว เอามา post เผื่อคนอื่นด้วยเลยแล้วกัน จะได้เห็นภาพว่าเรือที่พาเราไปดื่มด่ำบรรยากาศใต้ทะเลนั้นหน้าตาประมาณไหน ไปลอยคออยู่หลายวันจะเบื่อมั้ย อาหารการกินจะอุดมสมบูรณ์หรือเปล่า วันๆ ทำอะไรกันบ้าง เห็นแล้วอาจภูมิใจลึกๆ ว่าประเทศไทยก็มีเรือมาตรฐานสากลกับเค้าเหมือนกัน
เริ่มด้วยคลังแสงท้ายเรือ ด้านหนึ่งเป็นที่แขวน wet suit หน้ากาก วางถังอากาศและเข็มขัดตะกั่ว อีกด้านหนึ่งวางถังอากาศ ตีนกบ และถังน้ำจืดสำหรับแช่กล้อง จากมุมนี้จะเห็นลูกเรือที่น่ารักกำลังล้างถ้วยชามเพื่อให้พวกเรามีภาชนะสะอาดๆ ใช้ตลอดเวลาที่อยู่บนเรือค่ะ เวลาเราจะลงน้ำพวกเขาก็จะช่วยอำนวยความสะดวกในการใส่อุปกรณ์ต่างๆ รวมทั้งอำนวยความสะดวกอื่นๆ ตั้งแต่เรื่องเล็กไปจนถึงเรื่องใหญ่เลย ยังไงก็อย่าลืมเตรียม tip เล็กๆ น้อยๆ ติดไม้ติดมือไปให้พวกเขาด้วยนะคะ
V ราวตากผ้าชั้นยอด ถ้าฝนไม่ตกรับรองว่าแห้งแน่นอน แต่ถ้าไม่เอาไม้หนีบผ้าหนีบไว้ให้แน่นๆ ก็รับรองว่าปลิวหายแน่นอนเช่นกันค่ะ 55555
V กิจกรรมยามพัก dive วันนั้นมีการเปิดชั้นเรียนสีน้ำสำหรับคนที่ยังมีแรงเหลือค่ะ นอกนั้นก็อ่านหนังสือ ชมวิว ดูหนัง ฟังเพลง ตามประสา และพวกที่หมดแรงก็หลับกันไป
เป็นที่รู้กันในวงดำน้ำว่าขนมฝีมือครูจุ๋มแห่งมนุษย์กบไทยนั้นอร่อยเกินห้ามใจ อาหารบนเรือก็สุดยอด ใครที่หวังจะไป diet ด้วยการดำน้ำกับครูจุ๋มขอให้คิดใหม่ได้เลยค่ะ (กระซิบอีกนิดว่าคุณครูมักจะทำ Blueberry Creamcheese Pie ให้ทานหลังจากดำ dive สุดท้ายจบเพราะในวันสุดท้ายตู้เย็นจะว่างพอให้แช่พายได้แล้ว แต่พวกเราก็ไม่มีโอกาสได้ย่อยเจ้าพายแสนอร่อยนี่อีกแล้วเช่นกัน ..เฮ้อ..คิดแล้วก็กินซะ 2 ชิ้น)
V ขนมฝีมือครูจุ๋ม ..นี่แค่ตัวอย่างนะ..
บนเรือมีเครื่องดื่มร้อน-เย็นบริการเสร็จสรรพ ..อ้อ..trip นี้ได้ทานปลาดิบด้วยค่ะ เพราะมีอยู่คืนหนึ่งที่เรือเขาตกปลาซึ่งเหมาะกับการทำปลาดิบได้ ทั้งวาซาบิและโชยุก็มีพร้อมบนเรือเช่นกัน
V มุมของอร่อย
เพื่อเป็นการเตือนความจำและเพื่อประโยชน์ในการดำน้ำบางแห่งซึ่งต้องการประสบการณ์สูง การเขียน dive log จึงเป็นเรื่องจำเป็น เขียนเสร็จแล้วต้องประทับตราของเรือและให้ dive leader ลงนามกำกับด้วยนะคะ ถึงจะใช้เป็นพยานในศาลได้..ว่าเข้าไปนั่น 555
V เขียน dive log
V ไม่มีกล้องถ่ายภาพใต้น้ำก็วาดมันด้วยมือนี่หละค่ะ ดูดีๆ จะเห็น Manta Ray ลายสวยที่เจอแถวหินแดง ชมภาพจริงได้ที่ website ของมนุษย์กบไทยนะคะ
ดูภาพและหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่ค่ะ
http://www.thaiseafrog.com/final/view.ph...0%20แมนต้า
http://www.thaiseafrog.com/final/view.ph...อแจมด้วยคน
