NimitGuitar webboard

Full Version: นามบัตรเป็นพิษ
You're currently viewing a stripped down version of our content. View the full version with proper formatting.
Pages: 1 2 3
>> หญิงคนหนึ่ง ไปเติมแก๊ซที่ปั้มแก๊ซ มีชายมาเสนอบริการทาสี โดยยื่นนามบัตรให้ หญิงคนนั้นก็รับมาอ่าน แล้วถือเข้ามาในรถด้วย สักครู่เมื่อขับรถออกมาจากปั้มแก๊ซ ก็สังเกตว่าชายคนนั้นขับรถตามมา และเธอก็รู้สึกว่า หายใจไม่ค่อยออก เธอรีบเปิดกระจกรถ และตระหนักว่ากลิ่นนั้นมาจากมือของเธอเอง ซึ่งเป็นมือข้างที่เธอรับนามบัตรมาจากชายคนนั้น เธอตัดสินใจขับรถและกดแตรดังไปตลอดทางเพื่อขอความช่วยเหลือ ชายคนนั้นจึงขับรถหนีไป
>> ยาที่ป้ายบนนามบัตร คือ ยา BURUNDANGA เพิ่อให้เราหมดสติ ควบคุมตนเองไม่ได้ แล้วเจ้าตัวร้ายก็จะขโมยของและหรือข่มขืนเรา โดยยานี้มีประสิทธิภาพแรงกว่ายาที่ใช้ข่มขืนสาวๆ ถึง 4 เท่า
>> ดังนั้นอย่ารับ กระดาษ นามบัตร แผ่นพับ จากคนแปลกหน้า!


เขาเล่ามา....ข้าเล่าต่อ....
โอ้ว...อันตราย !!!!!!
เป็นประโยชน์มากเลยครับน้าป๋อ

สังคมสมัยนี้อันตรายจริงๆ
เป็นอีเมล์ลูกโซ่นะครับ เรื่องนี้ไม่เป็นความจริง ผมลองเอาชื่อยา BURUNDANGA ไปเสิร์ชในกูเกิ้ล สรุปว่ายังสามารถรับหรือจับสิ่งของของบุคคลแปลกหน้าได้อยู่ โดยเฉพาะกีตาร์ Hi-End อาบยาพิษ

http://sites.google.com/site/thaihoax/Home/burundanga

http://www.pantip.com/cafe/lumpini/topic...84700.html
ผมเคยได้ยินมาเรื่อง * ยาป้าย * ที่ใครถูกเข้าไปแล้ว ถึงกับออกอาการ
เชื่อฟังหรือเดินตามไปกับเค้าแบบขาดสติ...ในช่วงเวลาหนึ่ง
ไม่ทราบว่าคุณหมอๆแห่งบ้านสีฟ้าจะไขข้อข้องใจให้หน่อยได้ไหมครับว่า
เค้าใช้ยาอะไร..จริงหรือไม่

แต่กระทู้ข้างบนนี้ หากไม่มีมูลความจริง แล้วจะลูกโซ่บอกต่อๆกันเพื่อหวังผลสิ่งใดกันนะครับ
ยังขี้ไม่เอาะเลอ....???
....อะ....อะ......อะ.....ขำ น้า call .....กีตาร์ Hi-End อาบยาพิษ......โค ตะ ระ ทรมานหัวใจเลยครับ.......ไม่ว่าจะกินจะนอน........จนกว่าจะได้ครอบครอง.......
อ่านแล้วเป็นห่วงพวกผู้หญิงที่ต้องขับรถไปไหนมาไหนโดยลำพังเลยครับ


ขอบคุณพี่ป๋อครับ..
กฎกติกาการเล่นเมล์ลูกโซ่ คือ พยายามหาวิธีการใดก็ได้ ที่จะทำให้ผู้รับเมล์จากเรา ส่งเมล์เผยแพร่ต่อให้แก่บุคคลอื่นจำนวนมาก ๆ จาก 1 เป็น 10 จาก 10 เป็น 100 จาก 100 เป็น 1000 ....จนกระทั่งเป็นหมื่นเป็นแสนเป็นล้าน

ทีนี้ เขาทำแบบนี้เพื่ออะไร คำตอบคือ เพื่อความสนุกที่ได้กลั่นแกล้งคนอื่น ทำให้คนอื่นเชื่อและทำตามในสิ่งที่เขาอยากให้ทำ โดยมีเป้าหมายคือ ให้มีการเผยแพร่เมล์ลูกโซ่ออกเป็นวงกว้างไปเรื่อย ๆ จนกว่าเมล์ฉบับนั้นจะย้อนกลับมาที่ตัวเอง (ต้นตอเดิม) โดยใช้ระยะเวลาเป็นเครื่องตัดสิน ยิ่งใช้เวลานานเท่าไรยิ่งดี เพราะหมายถึงการแพร่กระจายออกเป็นวงกว้างมากยิ่งขึ้น

รูปแบบที่นิยมนำมาใช้ในการเล่นเมล์ลูกโซ่คือ

1. การส่งข้อความมาถึงผู้รับ และให้ผู้รับส่งต่ออีก 7 คน 10 คน ภายในเวลาที่กำหนด โดยการแช่งชักหักกระดูกถ้าไม่ทำตามจะประสบกับภัยวิบัติ ล้มเหลวในชีวิตแบบไม่มีโอกาสได้ผุดได้เกิด แต่ถ้าทำตามจะโชคดีใน 3 วัน 5 วัน หรือถูกล้อตเตอรี่รางวัลใหญ่ เป็นต้น

2. การแต่งเรื่องว่ามีบุคคลในรูปกำลังเจ็บป่วยเดือดร้อนต้องการขอความช่วยเหลือด่วน โดยอาจมีภาพประกอบที่ทำให้ดูแล้วชวนน่าสงสาร เห็นใจ และบอกว่าทุกครั้งที่มีการ forward เมล์ต่อ ผู้เจ็บป่วยจะได้รับเงินจากองค์การการกุศล 3 - 5 เซนต์ต่อหัว (บางครั้งก็เป็นบริษัทไมโครซอฟท์ ของนายบิลเกตต์ เลยก็มี) ทำให้ผู้รับเมล์ที่มีใจเมตตาอดสงสารไม่ได้ที่จะรีบช่วย forward เมล์เผยแพร่ต่อออกไปให้ผู้อื่นในทันที

3. การแต่งเรื่องในเชิงอาชญากรรมในรูปแบบใหม่ ๆ ที่คนมักคาดไม่ถึง เพื่อกระตุ้นจิตสำนึกให้ผู้รับเมล์อ่านแล้วรู้สึกเป็นห่วงคนใกล้ตัวขึ้นของตัวเองขึ้นมาทันที และแน่นอนว่าเมื่อผู้รับเป็นห่วง เขาก็จะต้องรีบส่งเมล์บอกต่อให้กับคนใกล้ตัวเพื่อนฝูงมิตรสหายของตัวเองทราบให้เร็วที่สุด เพื่อจะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อเหมือนในเมล์ ซึ่งถ้าอ่านดี ๆ จะพบพิรุธหลายจุดในเนื้อเรื่องที่แต่งขึ้น คือ เริ่มต้นไม่ค่อยมีที่มาที่ไป สถานที่และเวลาในเรื่องไม่ระบุชัดเจน เหตุการณ์บางอย่างขัดต่อข้อเท็จจริง และที่สำคัญคือ ทำไมไม่เคยปรากฏเป็นข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์ ทำไมผู้เคราะห์ร้ายถึงไม่ไปแจ้งความตำรวจ เนื้อเรื่องมักแต่งว่า เกือบเสียที (แต่ยังไม่เสียที) เพราะถ้าแต่งเรื่องว่าเสียทีหรือพลาดท่าไปแล้ว ก็จะมีข้อสังเกตทันทีว่าทำไม่ไม่ไปแจ้งความกับตำรวจ เอาสำเนาใบแจ้งความมาเป็นหลักฐานยืนยันประกอบเรื่องที่เล่าว่าเป็นเรื่องจริง ตัวอย่างเรื่องที่เคยได้รับเมล์ทำนองนี้ เช่น ขึ้นแท็กซี่เจอเปิดแอร์แรง ๆ มาที่เบาะนั่งด้านหลัง ต่อมาได้กลิ่นยาฉุน ๆ แล้วรู้สึกจะเป็นลม หายใจไม่ออก อีกเรื่องคือ มีคนขึ้นรถเมล์นั่งเบาะหลังสุด แล้วโดนคนนั่งข้าง ๆ เอาเข็มตำที่แขน ต่อมารู้สึกเวียนศีรษะ อะไรทำนองนี้ เป็นต้น

ถ้าเอาชื่อเรื่องหรือข้อความบางข้อความไปเสิร์ชในกูเกิ้ลก็จะได้คำตอบทันทีว่า เมล์พวกนี้ระบาดมานานแล้ว กว่าจะมาถึงเราก็อาจจะผ่านมาเป็นปีแล้วก็มี ว่าง ๆ พี่ป๋อลองเป็นต้นตอเมล์ลูกโซ่บ้างสิครับ ผมจะช่วยส่งไม้ต่อให้ แล้วจับเวลาดูว่า นานแค่ไหนที่เมล์นั่นจะย้อนกลับมาที่พี่ป๋อเอง อาจจะติดปลายนวมกับป้าแดงก็ได้ เช่น ถ้านานเกินกว่า 3 เดือนต้องยอมให้ซื้อกีตาร์ใหม่อีก 3 ตัว เป็นต้น แต่ถ้าแพ้พี่ป๋อก็ต้องขายกีตาร์ออก 3 ตัวในทางกลับกัน เป็นไงครับวิธีนี้เข้าท่าดีไหม
ผมอาจจะลองส่ง * Mail ลูกเต่า * แทนดีกว่าครับ เดือดร้อนรำคาญผู้อื่นเปล่าๆ
ขอบคุณน้าcall ผู้เชี่ยวชาญเรื่อง...แชร์ลูกโซ่

* ผมจึงต่อท้าย postที่ 1 ว่า เขาเล่าว่า..ข้าเล่าต่อ

ถ้าเป็นภาษากฎหมาย ก็มีคำว่า Hear Say หมายถึง พยานบอกเล่า
ซึ่งศาลจะรับฟังพยานนี้น้อยมาก ไม่เหมือนกับ ประจักษ์พยานที่เห็นเหตุการณ์โดยตรงเองทั้งสิ้น
555
ขำน้า Call ...เอาเลยครับ น้าป๋อ
เพิ่มเงื่อนไขอีกนิดนึงก็ดีนะครับ เช่น "ถ้าแพ้พี่ป๋อต้องขายกีต้าร์ ในราคาถูกๆให้น้องๆบ้านฟ้า 3 ตัว"
Tongue
Pages: 1 2 3