NimitGuitar webboard

Full Version: ขอความรู้เรื่องการเก็บรักษากีตารืให้อยู่ในสภาพที่ดีครับ
You're currently viewing a stripped down version of our content. View the full version with proper formatting.
สวัสดีปีใหม่ พี่ๆ ทุกคน นะครับ
เรื่องมีอยู่ว่าตอนนี้กีตารืที่บ้านเริ่มมีปริมาณมากพอสมควรครับ กีตาร์ทุกตัวเก็บอยู่ในhard case บ้านที่ผมพักอยู่เป็นบ้านปูน ปนไม้ มีร่มเงาของต้นไม่เยอะ ในฤดูฝนที่ผ่านมาปัญหาที่เกิดขึ้นคือเรื่องความชื้นเเละเชื้อรา ครับ ผมเปิดกล่องกีตารืออกมาเเต่ละตัวที่ผมคือเชื้อราเริ่มขึ้นตามfinger board ทั้งๆที่ในกล่องใส่ก็มีเซลิก้าเจล ผมรู้สึกเสียดายเเละสงสารลูกๆผมมากครับ ไม่รู้จะเเก้ปัญหาอย่างไรที่เป็นวิธีการที่ง่ายที่สุด เพื่อนบางคนบอกว่าทำให้กันชื้อให้พวกมัน สงสัยผมคงไม่มีปัญญาหรอกครับ..
เเละอีกคำถามหนึ่งนะครับ การเก็บกีตาร์ควรจะวางตั้งหรือวางเเนวขนานกับพื้นโลกดีครับ ในกรณีที่บ้านผมมีเนื้อที่ไม่มากเเละปริมาณกีตาร์ก็เริ่มมาก
ขอบคุณนะครับ รบกวนผู้รู้ช่วยชี้นำด้วยนะครับ
Selica gel ต้องเอาออกมาตากแดดทุกๆเดือน หรือใส่ไมโครเวฟครับ พอมันดูดความชื้นเต็มที่มันก็จะหมดสภาพ แต่สามารถใช้ใหม่ได้โดยตากแดดจัดๆซัก 15 นาที

ส่วนวางกีตาร์ถ้าพื้นที่น้อยหรือแม้จะมีพื้นที่มาก มักจะวางแนวตั้งครับ และจะแนวนอนหรือแนวตั้งก็ไม่น่ามีผลต่อกีตาร์หรอกครับ ^^
บ้านที่ชื้นและอับขนาดกีต้าร์ขึ้นราใด้นี่ผมยังไม่เคยเห็นเลยครับ คุณไม่ใด้บอกว่ากีต้าร์ของคุณมันเป็นกีต้าร์โปร่งหรือไฟฟ้า ถ้าเป็นกีต้าร์โปร่ง all solid นี่ถ้าชื้นขนาดนี้อันตรายมากนะครับ ถ้าท้องไม่ป่องจนเล่นไม่ใด้อย่างน้อยเสียงก็คงจะทึบเพราะดูดความชื้นเข้าไปเต็มๆ

กล่องกีต้าร์ส่วนใหญ่ไม่สามารถกันความชื้นใด้ครับ silics gel ถุงเล็กนิดเดียวมันไม่สามารถช่วยอะไรใด้หรอก วิธีที่ดีที่สุดคือเก็บกีต้าร์ไว้ในห้องที่คุณเปิดแอร์เป็นประจำ ถ้าไม่มีแอร์ทั้งบ้านก็ควรหา dehumidifier มาใช้แต่ก่อนอื่นควรหาเครื่องวัดความชื้นมาใช้ก่อนว่าปัญหาของคุณเกิดจากความชื้นจริงหรือเปล่า
มารู้จัก Relative humidity (ความชื้นสัมพัทธ์) กันหน่อย

Relative humidity (Rh) คืออัตราส่วนของความดันหรือปริมาณของไอน้ำในอากาศเมื่อเทียบกับความดันที่จุด dew point (จุดน้ำค้าง) ในการผลิตกีต้าร์นั้น
โรงงานเขาจะควบคุม RH ให้อยู่ที่ประมาณ 45% แต่พอคุณเอามันกลับบ้านคราวนี้ก็ตัวใครตัวมันละครับ

Rh ที่ต่ำเกินไปเป็นอันตรายกับกีต้าร์มากกว่า Rh ที่สูงเกินไปอย่างมากมายแต่ในเมืองไทยคงไม่ใช่ปัญหาดังนั้นผมจะไม่พูดถึง ถ้าความชื้นมีมากเกินไปนั้นไม้จะบวมขึ้นและขยายตัวในทิศทางตั้งฉากกับเกรน ถ้าเป็นกีต้าร์โปร่งปัญหาแรกก็คือไม้หน้ามันถูกไม้ข้างประกบอยู่ทำให้ขยายตัวในด้านข้างไม่ใด้ท้องเลยป่องขึ้นมา
ทำให้ action สูงปรี้ด ถ้าป่องมากก็อาจทำให้ bracing หลุดใด้

การดูดซับไอน้ำของไม้นี่เป็นไปอย่างช้ามากครับและกีต้าร์จะต้องอยู่ในที่ๆมีความชื้นสูงติดต่อกันอย่างน้อยสามสี่อาทิตย์จึงจะเริ่มบวม เมื่อบวมแล้วถ้าเอาไปเก็บไว้ในที่ๆมีความชื้นต่ำก็หายบวมครับและไม่เกิดผลเสียหายอะไรถ้า bracing ไม่หลุด
เคยมีน้าๆเอากีต้าร์ท้องป่องมาฝากไว้ที่บ้านผมที่มีการควบคุมความชื้นอย่างดีหลายตัวแล้ว พอเอากลับไปนอกจากท้องจะหายบวมแล้วเสียงยังดีขึ้นยังกับกีต้าร์คนละตัวเพราะไม้แห้งย่อมเสียงดีกว่าไม้เปียกเป็นเรี่องธรรมดา

ในกรณีย์ของคุณ tonnam_pai ผมคิดว่าคุณคงเก็บกีต้าร์ไว้ในห้องที่เย็นที่สุดในบ้านเลยเกิดปัญหาเชื้อราขึ้น ผมแนะนำให้ลองเปลี่ยนที่เก็บไปไว้ที่ชั้นบนหรือห้องที่ร้อนกว่าครับเพราะถ้าปริมาณไอน้ำในอากาศเท่ากัน Rh จะขึ้นอยู่กับอุณหภูมิของอากาศคืออุณหภูมิยิ่งสูง Rh ก็ยิ่งต่ำในขณะที่เชื้อรานั้นจะชอบขึ้นในที่ที่มีอุณหภูมิต่ำและความชื้นสูงครับ ไมต้องกลัวว่ากีต้าร์มันจะร้อนหรอกครับ ตอนมันยังเป็นต้นไม้มันร้อนกว่านี้อีก ผมเคยเห็นฝรั่งเอากีต้าร์ไปตากแดดเป็นอาทิตย์เพื่อให้ไม้หน้าสีเข้มขึ้นไม่เห็นมันจะเป็นอะไรเลย
ขอบคุณครับที่มาให้ความรู้เเก่ผม หวังว่าคงเป็นประโยชน์เเก่หลายๆคนนะครับ
ขอขุดขึ้นมาถามเพิ่มเติมครับ ถึงการ crack ที่เกิดจากความแห้งบ้านเราเกิดได้มั้ยครับ ส่วนมากจากความร้อน / ห้องแอร์แล้วใส่ซิลิก้าเยอะไป หรือจากสาเหตุใดบ้างครับจะได้ระวังไว้ครับ ขอบคุณคับ
เอามาฝากบ้านผมมะ มีเครื่องดูดความชื้นด้วยนะจ๊ะTongue

กล่องกีต้าร์เนี่ยตัวดีเลย อมความชื้นใช่ย่อย ว่างๆเอากล่องไปวางเปิดตากแดดบ้างนะครับ
ผมยังไม่เคยเจอด้วยตนเองครับแต่เป็นไปใด้ถ้ากีต้าร์อยู่ในห้องแอร์ซึ่งความชื้นต่ำ ถ้าไปนครหลวงจะเห็นเขาวางแก้วน้ำไว้ในตู้โชว์เพื่อกันไม้ crack

การไล่ความชื้นจากกล่องกีต้าร์ใช้เครื่องเป่าผมก็ใด้ครับ เร็วดี
(05-01-2009, 11:25)pood Wrote: [ -> ]บ้านที่ชื้นและอับขนาดกีต้าร์ขึ้นราใด้นี่ผมยังไม่เคยเห็นเลยครับ คุณไม่ใด้บอกว่ากีต้าร์ของคุณมันเป็นกีต้าร์โปร่งหรือไฟฟ้า ถ้าเป็นกีต้าร์โปร่ง all solid นี่ถ้าชื้นขนาดนี้อันตรายมากนะครับ ถ้าท้องไม่ป่องจนเล่นไม่ใด้อย่างน้อยเสียงก็คงจะทึบเพราะดูดความชื้นเข้าไปเต็มๆ

กล่องกีต้าร์ส่วนใหญ่ไม่สามารถกันความชื้นใด้ครับ silics gel ถุงเล็กนิดเดียวมันไม่สามารถช่วยอะไรใด้หรอก วิธีที่ดีที่สุดคือเก็บกีต้าร์ไว้ในห้องที่คุณเปิดแอร์เป็นประจำ ถ้าไม่มีแอร์ทั้งบ้านก็ควรหา dehumidifier มาใช้แต่ก่อนอื่นควรหาเครื่องวัดความชื้นมาใช้ก่อนว่าปัญหาของคุณเกิดจากความชื้นจริงหรือเปล่า
มารู้จัก Relative humidity (ความชื้นสัมพัทธ์) กันหน่อย

Relative humidity (Rh) คืออัตราส่วนของความดันหรือปริมาณของไอน้ำในอากาศเมื่อเทียบกับความดันที่จุด dew point (จุดน้ำค้าง) ในการผลิตกีต้าร์นั้น
โรงงานเขาจะควบคุม RH ให้อยู่ที่ประมาณ 45% แต่พอคุณเอามันกลับบ้านคราวนี้ก็ตัวใครตัวมันละครับ

Rh ที่ต่ำเกินไปเป็นอันตรายกับกีต้าร์มากกว่า Rh ที่สูงเกินไปอย่างมากมายแต่ในเมืองไทยคงไม่ใช่ปัญหาดังนั้นผมจะไม่พูดถึง ถ้าความชื้นมีมากเกินไปนั้นไม้จะบวมขึ้นและขยายตัวในทิศทางตั้งฉากกับเกรน ถ้าเป็นกีต้าร์โปร่งปัญหาแรกก็คือไม้หน้ามันถูกไม้ข้างประกบอยู่ทำให้ขยายตัวในด้านข้างไม่ใด้ท้องเลยป่องขึ้นมา
ทำให้ action สูงปรี้ด ถ้าป่องมากก็อาจทำให้ bracing หลุดใด้

การดูดซับไอน้ำของไม้นี่เป็นไปอย่างช้ามากครับและกีต้าร์จะต้องอยู่ในที่ๆมีความชื้นสูงติดต่อกันอย่างน้อยสามสี่อาทิตย์จึงจะเริ่มบวม เมื่อบวมแล้วถ้าเอาไปเก็บไว้ในที่ๆมีความชื้นต่ำก็หายบวมครับและไม่เกิดผลเสียหายอะไรถ้า bracing ไม่หลุด
เคยมีน้าๆเอากีต้าร์ท้องป่องมาฝากไว้ที่บ้านผมที่มีการควบคุมความชื้นอย่างดีหลายตัวแล้ว พอเอากลับไปนอกจากท้องจะหายบวมแล้วเสียงยังดีขึ้นยังกับกีต้าร์คนละตัวเพราะไม้แห้งย่อมเสียงดีกว่าไม้เปียกเป็นเรี่องธรรมดา

ในกรณีย์ของคุณ tonnam_pai ผมคิดว่าคุณคงเก็บกีต้าร์ไว้ในห้องที่เย็นที่สุดในบ้านเลยเกิดปัญหาเชื้อราขึ้น ผมแนะนำให้ลองเปลี่ยนที่เก็บไปไว้ที่ชั้นบนหรือห้องที่ร้อนกว่าครับเพราะถ้าปริมาณไอน้ำในอากาศเท่ากัน Rh จะขึ้นอยู่กับอุณหภูมิของอากาศคืออุณหภูมิยิ่งสูง Rh ก็ยิ่งต่ำในขณะที่เชื้อรานั้นจะชอบขึ้นในที่ที่มีอุณหภูมิต่ำและความชื้นสูงครับ ไมต้องกลัวว่ากีต้าร์มันจะร้อนหรอกครับ ตอนมันยังเป็นต้นไม้มันร้อนกว่านี้อีก ผมเคยเห็นฝรั่งเอากีต้าร์ไปตากแดดเป็นอาทิตย์เพื่อให้ไม้หน้าสีเข้มขึ้นไม่เห็นมันจะเป็นอะไรเลย

ขอบคุณน้า pood สำหรับความรู้ดีๆ และเป็นประโยชน์มากครับ Smile